31.5.09

WINTER SONATA-15- JOURNEY TO THE PAST

Winter Sonata

Episode 15- Journey to the past

ธุวดารา

ลี มินฮุง พยายามตามหาความหลังที่เลือนหาย ด้วยการย้อนเหตุการณ์ในอดีตที่จารึกแนบแน่นในห้วงความทรงจำของ ยูจิน ตลอด สิบ ปี ที่ผ่านมา
เส้นทางที่ผ่านเหมันต์อัน จุนซาง ได้ ร่ายมนตรามหาเสน่ห์ เอาไว้

มนตรา ที่....

แทรกไว้กับละอองหิมะทุกละออง ที่โปรยปรายกระจายว่อน ก่อนปลิวลงมากองบนพื้นพสุธา
ซ่อนไว้ใน ทุกอณูของไอเย็น และความหนาวเหน็บ ของอากาศ โดยรอบ
ฝากไว้กับสายลมที่หวีดหวิว ราวจะกรีดผิวเนื้อ
ซึมซับไว้กับ แสงตะวันที่สาดส่องสว่างไสว เจิดจ้า .....
แล้วรวมตัวเป็นหนึ่งเดียว กับดาว Polaris ที่สถิตนิรันดร์ ในฟากฟ้าเวหาหาว ท่ามกลางหมู่ดาว

แม้นว่า ยูจิน จะปิด สองนัยนา เมื่อยามสบตาชายใด
แม้นว่า ประตูหัวใจ ปิดตาย สำหรับ ผู้ชายทั้งโลก
เฝ้ารอคอย จุนซาง ที่จะกลับออกมาจากดินแดนแห่งเงา
แม้เหมันต์จะผันผ่าน กาลเวลาจะล่วงเลย ไปสักเท่าใด...............

แต่แล้ว หัวใจ ของ ยูจิน ก็เปิดรับ ลี มินฮุง ให้เข้ามาอยู่ร่วมกับ คัง จุนซาง
ยูจิน รัก ผู้ชาย สองคน ที่ราวจะใช่ แต่ก็ไม่ใช่ ไม่คล้ายแต่ดูจะคล้าย คนเดียวกัน
แต่ในความ ใช่ ไม่ใช่ ไม่คล้าย คล้าย นี้
ที่เหมือนกัน ก็คือ ทั้ง จุนซาง และ มินฮุง เป็นดาว Polaris ให้ ยูจิน
ยูจิน ไม่ได้ มี Polaris สองดวง เพราะ ในห้วงจักวาล กลางนภาฟ้ากว้าง มี Polaris เพียง ดวงเดียว
เมื่อ ลี มินฮุง ก็คือ คัง จุนซาง
ดังนั้น เมื่อ ลี มินฮุง ได้ความทรงจำ อันเป็นความหลังที่โหยหา กลับคืนมา
ยูจิน ก็ได้ของขวัญที่เลอล้ำค่า คืนกลับมา เช่นกัน นั่นคือ ธุวดารา
ธุวดารา คือ ดาวเหนือ หรือ Polaris นั่นเอง

อารัมภบท เสียยาวเชียว…….

Episode 15





ยูจิน กุมสองมือของ จุนซางไว้ สายตาจ้องมอง จุนซาง
จุนซาง : ผมจำวันแรกที่เราพบกันได้ เราเจอกันบนรถเมล์ ตอนนั้นคุณนั่งหลับและเอาหัวมาซบไหล่ผม
ยูจิน พยักหน้า : ใช่ .. ใช่แล้วละ เราเจอกันครั้งแรกบนรถเมล์จริงๆ เธอจำได้แล้วเหรอ
จุนซาง : ตอนนั้น คุณไว้ผมยาว และคุณก็เอาแต่จ้องมองผม ตลอดเวลาเลย
จุนซาง พูดช้าๆ
ยูจิน ดีใจ จนน้ำตาซึม : แล้วอะไรอีก แล้วเธอจำอย่างอื่นอีกได้มั๊ย
จุนซาง ทำท่านึก ; ผมจำ ซังฮวก ได้นิดหน่อย แต่ว่า..ผมจำเรื่องอื่นไม่ได้เลย ผมนึกไม่ออก
ยูจิน : ไม่เป็นไรหรอก เรารู้แล้วว่า เธอ คือ จุนซาง แค่นั้นมันก็พอแล้วละนะ ไม่ต้องคิดมากหรอกนะ จุนซาง
น้ำตาที่ซึมอยู่ของ ยูจิน ไหลกลิ้งลงมา
จุนซาง : ผม...ผม คือ จุนซาง จริงๆใช่มั๊ย ผม มีความทรงจำกับคุณ มันเรื่องจริงใช่มั๊ย
ยูจิน พยักหน้ารับคำ
จุนซาง ขยับตัวยกตัวขึ้นมาโอบกอด ยูจิน น้ำตาไหล
จุนซาง : ผมโล่งใจจริงๆที่ผมจำคุณได้แล้ว
ยูจิน เสียงสั่นด้วยความรู้สึกภายใน : ขอบคุณ ขอบคุณมากนะ จุนซาง
ทั้งคู่กอดกันแน่น ถ่ายทอดความรู้สึก ของกันและกัน



ที่อพาร์ทเม้นท์ของ ยูจิน
จินซุก เปิดประตูห้อง ยูจิน เข้ามา ยูจิน กำลังจัดเสื้อผ้าลงกระเป๋า
จินซุก : ยูจิน กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ยูจิน นั่นทำอะไรน่ะ
จินซุก ลงนั่งบนเตียงข้างๆ ยูจิน ยูจิน ทำท่าทางเงอะงะ จน จินซุก แปลกใจ : ยูจิน มีเรื่องอะไรเหรอ
จินซุก เริ่มร้อนใจจับแขน ยูจิน ไว้อย่างเป็นห่วง
ยูจิน : หือ
จินซุก : เธอเป็นอะไรไป
ยูจิน น้ำตาคลอ : จินซุก จุนซาง เขา..
จินซุก ตกใจ : เอ้อ...จุน..จุน จุนซางเป็นอะไรเหรอ
ยูจิน : จุนซาง เขาจำทุกอย่างได้แล้ว
จินซุก : จริงเหรอ เธอพูดจริงๆเหรอ ยูจิน
ยูจิน พยักหน้าร้องไห้ เพราะตื้นตันใจ
จินซุก ลุกขึ้นไปกอด ยูจิน ไว้ ยูจิน ก็กอด จินซุก
จินซุก : งั้นก็ยอดไปเลยล่ะ

ยงกุ๊ก รับโทรศัพท์ : หา... จุนซาง จำทุกอย่างได้แล้วเหรอ
ซังฮวก ที่มาหา ยงกุ๊ก ที่คลินิก สัตว์แพทย์ ผุดลุกขึ้นยืน แล้ว วิ่งออกไปจาก คลินิก

แชรีน ก็ได้รับข่าวนี้ ท่าทางไม่ได้ ดีใจด้วยเลย ค่อยๆทรุดตัวลงนั่งในร้าน บูติค

ซังฮวก ไปที่โรงพยาบาล
วิ่งไปที่ห้องที่ มินฮุง นอนป่วยอยู่ เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไป ก็พบ เตียงคนไข้ที่ว่างเปล่า
ไม่มี มินฮุง นอนอยู่ ซังฮวก รีบไปที่ห้องพยาบาล
และถาม พยาบาลว่า : คุณ ลี มินฮุง ที่อยู่ในห้องฉุกเฉินล่ะครับ
พยาบาล : อ๋อ คุณ ลี มินฮุง สงสัยไปตรวจร่างกายละมังคะ อีกเดี๋ยวก็คงจะเสร็จค่ะ
ซังฮวก : ลี มินฮุง ได้ความทรงจำ คืนมาแล้วเหรอครับ
พยาบาลหัวเราะ : อ๋อ ทราบเรื่องแล้วเหรอคะ ดีใจด้วยนะคะ
ซังฮวก ยืนนิ่งอึ้ง แล้ว ก็ ถอนใจเบาๆ
จุนซาง ยืนอยู่หน้าห้อง เกิดภาพเลือนๆขึ้นมาในความทรงจำ
เป็นภาพที่จุนซาง ขว้างปาหิมะเล่นกับ ยูจิน
ภาพในห้องเรียนที่ออกไปยืนหน้าชั้นเรียนกับ ยูจิน
จุนซาง หลับตาลง มีภาพของซังฮวก ในชุดนักเรียนชั้นมัธยมปลายเดินที่ทางเดินของห้องเรียน
มีภาพรูปเก่าๆ ของคนที่ยืนกันอยู่ สามคน เป็น หนึ่งหญิง สองชาย
แล้วก็ มีภาพของ จุนซาง วิ่งออกมาจากที่แห่งหนึ่ง
จุนซาง ลืมตาขึ้น กระพริบตา นึกถึงภาพที่เห็นในอนุสติเมื่อครู่
ยูจิน ..เดินเข้ามาพอดี
ยูจิน ส่งเสียงเรียก : จุนซาง
จุนซาง ที่ยืนหันหลังให้ ยูจิน อยู่ หันไปตามเสียงเรียก

ยูจิน : เอ้อ.. ฉันกลัวว่า เธออาจจะไม่หันมา ถ้าเรียกว่า จุนซาง
จุนซาง ยิ้มน้อยๆให้ ยูจิน หน้าตามีกังวล
ยูจิน : คิดเรื่องอะไรอยู่เหรอ
จุนซาง : ก็คิดไปเรื่อยๆ
ยูจิน ; ฉันรู้นะ คิดเรื่องในอดีต น่ะสิ
จุนซาง : ผมจำบางอย่างได้ชัด แต่บางอย่างก็จำไม่ได้เลย มันเลือนๆ เหมือนมีหมอกบัง
ผมไม่แน่ใจว่ามันเกิดจริงหรือเปล่า หรือเป็นความฝัน
ยูจิน : แต่ว่า เธอ ก็ จำได้แล้ว ว่าเธอคือ จุนซาง เดี๋ยวก็ดีขึ้นเองไม่ต้องคิดมาก
จุนซาง มอง ยูจิน อย่างลึกซึ้ง ความรู้สึกที่แสดงออกไม่ได้ แจ่มใส นัก
จุนซาง นึกได้อย่างเลือนราง จุนซางรู้สึกหนักใจ
ยูจิน เอิ้ออาทร จุนซาง และคิดว่าหากตัวเองไม่สบายใจ จุนซางก็จะยิ่งไม่สบายใจ จึงพยายามไม่แสดงความรู้สึกออกมา


ยูจิน เดินเข้าไปหา จุนซาง โอบกอดรอบบ่า ของ จุนซาง อย่าง ปลอบใจ ให้กำลังใจ เต็มที่
ยูจิน ใช้ หัวใจของตัวเอง อิงแอบ กับ หัวใจ ของ จุนซาง
จุนซาง ซบหน้าลงกับไหล่ของ ยูจิน แล้ว โอบ ยูจิน ตอบ อย่างเต็มตื้นในหัวใจ

ซังฮวก ยืนมองภาพของ จุนซาง และ ยูจิน ในระยะไกล
ยูจิน จัดเสื้อ ให้ จุนซาง ให้เข้าที่เข้าทาง แล้ว จุนซาง ก็ โอบไหล่ ยูจิน พาเดินออกจากบริเวณนั้น
ซังฮวก ยืน มอง อย่างหักใจ เอาเถิดนะ มาจนถึงบัดนี้แล้ว
( ผมต้องยอมแล้วละว่า เป็นได้แค่พระรองของเรื่อง)

ส่วน แชรีน ก็ไปนั่ง ดื่มเหล้าใน ผับประจำ
จินซุก และ ยงกุ๊ก ตามไปด้วยความเป็นห่วง แชรีน
แชรีน ไล่ เพื่อน ทั้งสอง ให้ ไปซะ แต่ จินซุก เป็นห่วง แชรีนมาก
แชรีน : พวกเธอไปโรงพยาบาลมาแล้วใช่มั๊ย
ยูจินเป็นยังไงมั่ง คงจะหน้าบาน ที่ จุนซาง จำทุกอย่างได้แล้วละซี
จินซุก : เรายังไม่ได้ไปหรอก และ ยูจิน ก็ไม่กล้าบอกเธอ เพราะเขารู้สึกผิดรู้ไหม เธออย่าเข้าใจ ยูจิน ผิดอีกเลยนะ
แชรีน ; ก็แน่อยู่แล้ว ก็ ยูจิน เขาเป็นนางฟ้า นี่นะ
ยงกุ๊ก : แชรีน เราอุตส่าห์ รีบมาที่นี่ ก็เพราะเราเป็นห่วงเธอหรอกนะ
แชรีน ร้องไห้ : ที่พวกเธอมานี่ ไม่ใช่เพราะเป็นห่วงฉันหรอก
ทำไม กลัวฉันจะเป็นบ้าไปรึไง ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ
จุง ยุจิน กับ คัง จุนซาง พวกเขาต้องมีความสุขกัน ฉันจะคอยเอาใจช่วย
ยงกุ๊ก และ จินซุก หันมามองหน้ากัน แชรีน ยกแก้วขึ้นดื่มเหล้าจนหมดแก้ว แล้วรินเหล้า ลงไปใหม่
แชรีน ; ทำไมไม่มีใครจำ มินฮุง ได้สักคน ทำไม ทุกคนต้องพากันเรียกเขาว่า จุนซาง
แชรีน พูดไป ร้องไห้ สะอึกสะอื้นไป
แชรีน : คืน มินฮุง ให้ฉันสิ ฉันอยากได้ มินฮุง กลับมา ฉันอยากได้ มินฮุง กลับคืนมา
แล้วแชรีน ก็ฟุบหน้า ลงกับพื้นโต๊ะ ร่ำไห้ ปิ้มว่าจะขาดใจอยู่ตรงนั้น
ยงกุ๊ก มอง แชรีน แล้ว ได้แต่ ถอนใจเฮือกใหญ่ สงสาร แชรีน

ที่อพาร์ทเม้นท์ของ ยูจิน

ซังฮวกนั่งอยู่ในรถ คอย ยูจิน
ยูจิน กำลัง เดินมา และพูดโทรศัพท์อยู่ : ใช่ ฉันกำลังจะออกจากบ้านอีกเดี๋ยว ก็คงถึง
ฉันทำอะไรไปให้กินด้วยนะ เธอต้องชอบแน่ๆ แล้ว เจอกันนะ
ยูจิน ถือห่อผ้าที่หุ้มกล่องใส่อาหารสีชมพูสดใส ไปให้ จุนซางด้วย
ซังฮวก ลงจากรถ เดินไปหา ยูจิน ยูจิน ชะงัก

ซังฮวก และ ยูจิน ไปนั่งที่ คอฟฟี่ชอป
ก่อนมาหา ยูจิน

ซังฮวก เกิดความขัดแย้งในใจมานาน
เขาควรจะยอมรับ ให้ได้เร็วกว่านี้หน่อย ว่า ตนเอง ไม่ใช่ “ใครคนนั้น” ของ ยูจิน
ไม่ใช่ “ผู้ชายคนนั้น” ที่ผู้หญิงแปลกหน้าที่ริมถนน พูด กับ ยูจิน ก่อนวันหมั้น
ไม่ใช่คนที่เป็นเนื้อคู่ ของ ยูจิน
หากเขา ยอมรับได้ตั้งแต่แรกๆ เขาอาจจะเตรียมใจไว้รับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันนี้
แต่ เขากลับทำใจไม่ได้ เขาไม่อาจปล่อยมือของ ยูจิน และไม่อาจส่ง ยูจิน ให้เดินออกไปจากชีวิตของเขา
ดังนั้น ซังฮวก จึง ไม่อยากบอกความจริง กับ ยูจิน ว่า มินฮุง ก็คือ จุนซาง
หวังจะให้ ยูจินไม่รู้ความจริงอย่างนี้เรื่อยไป
เขาจะได้ ไม่ต้องปล่อย ยูจิน ไป และเขา ก็ปล่อย ยูจิน ไปไม่ได้

พอรู้ว่า จุนซาง ฟื้นความทรงจำได้แล้ว ซังฮวก รีบไปโรงพยาบาล
แม้ว่า ไม่อยากไปพบภาพ ที่ ยูจิน และ จุนซาง แสดงความรักต่อกันอย่างหวานซึ้ง
ซังฮวก ต้องทนฝืนใจมาดูให้เห็นกับตา
เมื่อซังฮวก เห็นทั้ง จุนซาง และ ยูจิน อยู่ด้วยกันอย่างหวานชื่น มีความรักต่อกันอย่างลึกซึ้ง
ในนาทีนั้นเอง ซังฮวก ก็ตัดใจจะหลีกทาง ให้คนทั้งสอง
เป็นเวลา สิบปี
นับแต่ จุนซาง ได้จากไป ซังฮวก ไม่เคยเห็น ยูจิน มีความสุข เช่นนี้มาก่อน
แต่ความรู้สึกของซังฮวก ที่มีต่อ ยูจิน ยังมั่นคงเสมอ ซังฮวกไม่อยากให้ ยูจิน เป็นฝ่ายบอกลา

แม้จะจากกันด้วยรอยยิ้มไม่ได้ แต่อย่างน้อยเพื่อแสดงความรู้สึกที่เคยเข้าใจว่า เป็นรักที่มั่นคง
เขาควร ทำใจปล่อย ยูจินจากไปด้วยดี
แม้ว่า ยูจิน จะเป็น รักแรก ของ ซังฮวก
นี่เป็นความจริงที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง และจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป

ซังฮวก นั่งมองหน้า ยูจิน แล้ว ต่างคน ต่างต้องหลบตากัน
ซังฮวก : จุนซาง ฟื้นความทรงจำแล้วใช่ไหม
ยูจิน : ใช่ แต่ยังไม่หมดหรอก แต่เขาก็จำเธอได้ด้วยนะ
ซังฮวก ยิ้มนิดๆ : เหรอ แต่เราแต่เรามีความหลังที่ไม่ดีต่อกันนักหรอก
ยูจิน : เธออยากเจอเขาไหม
ซังฮวก พูด ช้าๆ : เอาไว้วันหลังแล้วกัน
ยูจิน : ก็ได้
ซังฮวก : ยูจิน ฉันไม่เสียใจ ที่ไม่ได้บอกเธอว่า ลี มินฮุง เขา ก็คือ คัง จุนซาง
ฉันจะไม่มีวันบอกเธอเด็ดขาด ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร
ยูจิน มองหน้า ซังฮวก ฟังอย่างตั้งใจ
ซังฮวก : ฉันไม่อยากบอกเธอ เพราะฉันไม่อยากให้เธอรู้เลย
ยูจิน หลบสายตาลง
ซังฮวก : ฉันไม่อยากเสียเธอไปจริงๆ เพราะว่าสำหรับฉันแล้ว เธอคือรักแรกของฉัน
ยูจิน ฟังแล้ว สะท้อนใจ : ซังฮวก
ซังฮวก : แต่ว่าฉันจะตัดใจ ฉันไม่อยากให้เธอต้องเสีย จุนซาง เป็นครั้งที่สอง
ยูจิน ก้มหน้าลง กล้ำกลืนความรู้สึกผิด
น้ำตา พากันมาขังอยู่ในดวงตา : ฉันต้องโดนลงโทษ แน่ๆ ฉันต้องโดนลงโทษ แน่ๆ ที่ฉันทำร้ายเธอ
ซังฮวก : อย่าพูดแบบนั้นเลย ฉันไม่ได้เจ็บปวดอะไร ฉันไม่เป็นไรหรอก
แต่ฉันจะเจ็บปวดที่เห็นเธอร้องไห้ นะ ยูจิน
ยูจิน เงยหน้ามอง ซังฮวก หยาดน้ำตาไหลริน

ซังฮวก ก็ พยายามกล้ำกลืนความรู้สึกของตัวเอง : ตลก ดีนะ จุนซาง พยายามที่จะฟื้นความทรงจำที่มีกับเธอ
แต่ว่า ฉันจะต้องพยายามที่จะลืมเธอ ลืมมันไปให้หมด
ซังฮวก เงยมองหน้า ยูจิน เบือนสายตาไปครั้งหนึ่ง
แล้ว พูดต่อ : ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ฉันจะอยู่ต่อไปไหวมั๊ย
แต่ฉันจะพยายาม แม้ต้องโทรหาเธอกลางดึก หรือไปหาเธอ
ยูจิน ก้มหน้าลง
ซังฮวก : หรือเรียกร้องความสนใจจากเธอ เธอก็อย่าสนใจฉันเลย
อย่ายิ้มหรือว่าร้องไห้ให้ฉัน ทำได้มั๊ย เธอจะช่วยฉันได้มั๊ย
ยูจิน เงย ใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาขึ้นมองซังฮวก
ซังฮวก ก็คลอคลองไปด้วยน้ำตาในดวงตา : ฉัน ขอโทษเธอ ฉันขอโทษเธอจริงๆ
ยูจินสะอื้น
ซังฮวก : นี่เป็นครั้งสุดท้าย ที่ฉันจะทำเธอร้องไห้ ขอโทษด้วยนะที่ผิดสัญญา
ซังฮวก กลั้น น้ำตาไม่อยู่แล้ว น้ำตา หลั่งรินลงมา
ซังฮวก : ฉันจะอยู่ข้างเธอเสมอ
แล้ว ซังฮวก ก็ลุกออกไป ปล่อยให้ ยูจิน นั่งสะอื้นไห้ อยู่คนเดียว
เพิ่มเติม ค่ะ
"ยูจินฉันไม่ได้เสียใจที่ฉันไม่ได้บอกเธอว่าลีมินฮุงก็คือคังจุงซาง ฉันจะไม่มีวันบอกเธอเด็ดขาดไม่ว่าสถานะการณ์จะเป็นอย่างไร ฉันไม่อยากบอกเธอ เพราะฉันไม่อยากให้เธอรู้เลย ฉันไม่อยากเสียเธอไปจริงๆ เพราะสำหรับฉันแล้วเธอคือรักแรกของฉัน เพลง Perhaps love อยู่ในช่วงนี้
โถ...ซังฮวก ..... ยูจินต้องน้ำตานองหน้าเชียวละ ส่วนซังฮวก น้ำตาคลอตา .ใกล้จะหยดมิหยด อยู่แล้ว มีคำพูด ซึ้ง ๆ ของซังฮวก ต่ออีก.................... เพลงจบไปแล้ว ....
ฉันไม่เป็นไรหรอก... ฉันไม่เป็นไร ......ฉันจะเจ็บปวดที่เห็นเธอร้องไห้…. คนดูก็จะร้องไห้ กับเขาทั้งคู่
เนื้อเพลง: Perhaps Love

ขับร้อง : John Denver

Perhaps love is like a resting place
A shelter from the storm
It exists to give you comfort
It is there to keep you warm
And in those times of trouble
When you are most alone
The memory of love will bring you home

Perhaps love is like a window
Perhaps an open door
It invites you to come closer
It wants to show you more
And even if you lose yourself
And don't know what to do
The memory of love will see you through

Oh, love to some is like a cloud
To some as strong as steel
For some a way of living
For some a way to feel
And some say love is holding on
And some say letting go
And some say love is everything
And some say they don't know

Perhaps love is like the ocean
Full of conflict, full of change
Like a fire when it's cold outside
Or thunder when it rains
If I should live forever
And all my dreams come true
My memories of love will be of you.
---------------
...บางทีความรัก...อาจจะ.
.(รักคือ..อะไร...?)

ความรักบางเปรียบเสมือนสถานที่สำหรับพักผ่อน
เพื่อกำบังกายให้พ้นจากกระแสแห่งพายุที่โหมกระหน่ำ
ในช่วงเวลาที่คุณมีปัญหาและอุปสรรคนั้น
ความรักคือเครื่องปลอบประโลมใจ
และนำพาความอบอุ่นมาให้คุณเสมอ
เมื่อคุณรู้สึกเงียบเหงาและว้าเหว่อย่างถึงที่สุด
รักในความทรงจำนั้นจะนำพาคุณกลับสู่บ้านหลังน้อย
ที่แสนอบอุ่นของคุณได้เสมอ…
บางทีความรักก็เปรียบเสมือนกับหน้าต่าง
และประตูที่เปิดทิ้งไว้
เพื่อรอคอยและเชื้อเชิญให้ก้าวเข้ามาพร้อมทั้งปิดประตูบานนั้นลง
เพื่อให้คุณได้มีเวลาเป็นส่วนตัวท่ามกลางความเงียบสงบ
ยามที่คุณสูญเสียความมั่นใจในตัวเอง
และในยามที่คุณไม่รู้ว่าคุณควรทำอย่างไร..?
รักในความทรงจำนั้น…
จะเป็นเครื่องนำทางให้คุณมองผ่านอุปสรรคปัญหาทั้งปวงได้

โอ้..ความรักบางทีก็เปรียบเสมือนท้องฟ้าที่กว้างใหญ่
บางก็ว่าเปรียบเสมือน...ความแข็งแกร่งของเหล็กกล้า...
บ้างก็ว่า...เป็นหนทางสำหรับการดำเนินชีวิต
บ้างก็ว่า...เป็นวิถางเพื่อการเสาะแสวงหา
และบ้างก็บอกว่า ความรักคือสิ่งที่ควรทนุถนอมไว้
และบ้างก็พูดว่าความรักคือสิ่งที่ต้องปลดปล่อยออกไป...
บ้างก็บอกว่าความรักคือ...ทุสิ่งทุกอย่าง...
บ้างก็บอกว่า...ไม่รู้ว่าความรัก...คืออะไร..?

ความรัก...บางที..ก็เปรียบเสมือน...มหาสมุทรที่กว้างใหญ่
ที่เปี่ยมไปด้วยคลื่นทะเลที่ถั่งโถมและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ…
เสมือนเปลวไฟที่ท้าทายอยู่ท่ามกลางลมหนาว…
หรือสายฟ้าที่แลบแปลบปลาบท่ามกลางสายฝนพร่ำ...
หากชีวิต...ยังคงอยู่ชั่วนิจนิรันดร์
และความฝันทั้งหลายของฉันกลายเป็นจริงได้...
ความทรงจำแห่งรักนั้น...ก็คงเป็นเธอ...ตราบนานแสนนาน...

Translator …by…Roytavan (Kanmunnee Srivisarnprob)


ซังฮวก เดินออกมาที่ริมถนน เดินช้าๆ
ข้ามถนนที่ทางม้าลายแล้ว ซังฮวก ก็หยุดเดิน

รำลึก ภาพความหลัง ของตนเองกับ ยูจิน (พร้อมกับเสียง เพลง อิทจิมา)

เริ่มจาก สาวน้อย 18 ปี ยูจิน ในชุดนักเรียน วิ่ง เข้ามาหาท่าทางกระหืดกระหอบ
แล้ว สองคน พากันวิ่งไปขึ้นรถเมล์ เพื่อจะไปโรงเรียน
การเล่นรอบกองไฟบนภูเขา กัปตันคิว ยูจิน นั่งข้าง หางหมู ซังฮวก หน้าตาต่างยิ้มแย้มแจ่มใส
ซังฮวก วิ่ง ถือไฟฉาย ออกไปตามหา ยูจิน ที่หลงทางกลางดึก
ภาพที่ จุนซาง และ ยูจิน จับมือกัน เดินกลับมาบ้านพัก
จุนซาง และ ยูจิน ปล่อยมือจากกัน เมื่อ เข้ามาใกล้ กลุ่มเพื่อน

เช้าวันรุ่งขึ้น
ซังฮวก เดินตาม ยูจิน เพื่อ เอาเสื้อกันหนาว ของ ยูจิน ไปให้ ยูจิน
จุนซาง สวมเสื้อกันหนาว ของ จุนซาง ให้ ยูจิน ตัดหน้า ซังฮวก ซังฮวกเมินหน้าไม่สบอารมณ์
ยูจิน วิ่งตาม ซังฮวก ที่ริมกำแพงทางเดิน เพราะ ซังฮวก งอน ยูจิน เมื่อมาถึงสถานี ขากลับ
เมื่อกลับถึงบ้าน ซังฮวก ก็คว่ำรูปถ่าย คู่ ของตนกับ ยูจิน ลงพื้นโต๊ะ เพราะโกรธ ยูจินมาก

ซังฮวก ที่ทางม้าลาย และเพลง อิทจิมา …โปรดอย่าลืม...
ซังฮวก ก้าวเดินต่ออีก ก้าวสองก้าว ก็หยุด ยืนกลางถนน

รำลึกภาพ ที่ตัวเอง สวมแหวนหมั้นให้ ยูจิน
ภาพที่ตัวเอง พยายามจะจูบ ยูจิน ในรถ แต่ไม่สำเร็จ
เพราะ ยูจิน เก๊กหน้าหลับตาปี๋ รอซังฮวก ซังฮวก เลยหมดอารมณ์ โรแมนติก
ภาพงานวันหมั้น แต่ไม่ได้หมั้น
ซังฮวก ร่ำร้อง จะตาม ยูจิน ขึ้นไปบนเขา ที่สกีรีสอรต์ วันที่มีพายุหิมะ
ซังฮวก ปล้ำ ยูจิน ที่โรงแรม ยูจิน วิ่งหนีออกจากโรงแรม
ภาพ ที่ ซังฮวก ขึ้นไปเดิน บนรั้วไม้ สวนสาธารณะ ริมถนน เลียน แบบ ยูจิน
เพราะอยากรู้ว่า ทำแบบนั้น จะรู้สึกอย่างไร ทำไม ยูจิน ชอบทำ
ภาพวันที่ ยูจิน ไปเยี่ยม ซังฮวก ที่โรงพยาบาล
ยูจิน ซบลงกับอกของ ซังฮวก เมื่อ ซังฮวก ถอดสายน้ำเกลือออก หมอและพยาบาลปั่นป่วน
ซังฮวก คุกเข่า ลงขอร้อง ลี มินฮุง ให้ ปล่อย ยูจินไปซะ
ภาพสุดท้าย ที่ ยูจิน กอด กับจุนซาง ที่โรงพยาบาล หลัง ลี มินฮุง ถูกรถชน และฟื้นขึ้นมา เป็น คัง จุนซาง

ซังฮวก กับหยาดน้ำตาอาลัยอาวรณ์กับภาพความหลังเหล่านี้
ยืนเคว้งคว้างกลางถนน ที่มีรถรา วิ่งไป สวนมาอย่างขวักไขว่
แต่ จิตใจ ของซังฮวก แสนอ้างว้างว้าเหว่ โศกรันทด
เหมือนซังฮวก ยืนอยู่เดียวดายในโลกกว้างใบนี้ในท่ามกลางความจอแจของท้องถนน เสียงแตรรถยนต์
( ในละคร ไม่มีเสียงแตรรถหรอกค่ะ มีแต่เสียงเพลง แต่ ถ้า ซังฮวก เดิน ๆ หยุด บนทางม้าลาย แบบนี้ รถวิ่งไปสวนมา แบบนี้ คนขับรถคันใกล้ตัว ซังฮวก ต้อง บีบแตรรถแน่นอน ชัวร์ค่ะ)

แล้วซังฮวก ก็ได้ ความเข้มแข็ง ในจิตใจว่า ไม่ว่าอย่างไร ซังฮวก ต้องมีชีวิต อยู่ต่อไป
เพราะหากเขาตายไปในตอนนี้ จะทำให้ ยูจิน มีมลทิน
ไม่ว่าจะเจ็บปวดทรมานอย่างไร เขาต้องอยู่ต่อไป เพื่อ ยูจิน

เพลง อิจจิมา Don’t forget
ขับร้องโดย Ryu

ฮา-นา-โด โจ-กึม-โด อิท-จี่-มา-รา-โย
นา-กา กัด-เต อัพ-ซา-โด อิท-จี่-มา-รา-โย
ชัน-โด เช-กึน-โด หน่า-อะ-ซ้า-ราง-งึม
กา-กัท-อิ อิท-นึ้ม-กา-โด โมล-รี อิท-นี-โย
* แหน่-ก่า ชี-เค้-ชู-เก่-โย
ขื่อ-โด-ซี้ อะ-ดี-รา-โด อัม-เจ-อะ-โด นา-กา
คี๊-ด้า-รา-โย้ เน-กา กั่น-เต่-ก้า-จี่โช-อึม
มัน-น้าน-กาน กา-โร ดา-ชี้
เหน่-กา ก๊า-นึ้ม-กี๊-รี๊ จู-กึ่ม หนึ่น-ดา-ร้า-โด๊
อิท-จิ-มา อิท-จิ๊-มา น้า-ก๊า ช้า-โช้น-เต-ก่า-จี
(ซ้ำ )
ความหมายภาษาไทย
โปรดอย่าลืมอย่าลืมแม้แต่เพียงครั้งเดียว
สำหรับทุกสิ่งที่เราเคยมีร่วมกัน
แม้ยามที่ไม่มีฉันอยู่เคียงใกล้ ก็จงอย่าลืม
ไม่ว่าครั้งแรก ครั้งนี้ หรือครั้งไหนๆ
ความรักของฉันจะโผผินไปอยู่ใกล้เธอ
* ฉันจะคอยปกป้องเธอ
ไม่ว่าเธอจะอยู่หนไหน หรือเวลาใด
โปรดคอยจนกว่าวันที่ฉันจะกลับมา
เสือนครั้งแรกที่เราได้พบกัน อีกครั้งเธอเถอะนะ
แม้ว่าจะอีกนานแสนนาน อีกไกลแสนไกล
อย่าลืมนะ ว่าเธอจะรอจนกว่าจะถึงวันนั้น
(ซ้ำ *)
Credits to The Connect=======
Konglish
ha-na-do jo-geum-do it-ji-mal-a-yo
ne-ga-gyeot-e eop-seo-do it-ji-mal-a-yo
cheo-eum-do ddo ji-geum-do na-eui sa-rang-eun
ga-gga-i it-neun-de-do meol-li it-ne-yo
ne-ga ji-kyeo-jul-gge-yo
geu-got-si eo-di-ra-do eon-je-ra-do ne-ga
gi-da-ryeo-yo ne-gagal-dde-gga-ji
cheo-eum man-nat-deon dde-ro da-shi
ne-ga ga-neun-gil-i jo-geum neut-deo-ra-do
it-ji-ma it-ji-ma ne-ga chat-eul-dde-gga-ji
ne-ga ji-kyeo-jul-gge-yo
geu-got-si eo-di-ra-do eon-je-ra-do ne-ga
gi-da-ryeo-yo ne-ga gal-dde-gga-ji
cheo-eum man-nat-deon dde-ro da-shi
ne-ga ga-neun-gil-i jo-geum neut-deo-ra-do
it-ji-ma it-ji-ma ne-ga chat-eul-dde-gga-ji
Credit to Won - byjquilt@hotmail.com
( เพลงนี้ จะมีประกอบ อีก Scene นะคะ
ใน scene นี้ เพลง จะประกอบภาพละคร เพื่อสื่อความในใจ ความรู้สึกของพระรอง ซังฮวก ในท่ามกลางบรรยากาศ ตอนกลางวัน บนถนนที่ขวักไขว่ จอแจ และเสียงจากรถยนต์ รอบๆตัว ซังฮวก คลุกเคล้า กับหยาดน้ำตาของ ซังฮวก

และ อีกครั้ง ที่จะสื่อ ความในใจ ความรู้สึก ของพระเอก จุนซาง ในท่ามกลางบรรยากาศโดดเดี่ยวเดียวดายเวิ้งว้างกับราตรี ที่ขมุกขมัวสลัวลางริมชายหาด ท้องทะเลที่มีแต่เสียงลม เสียงคลื่น คละเคล้า กับ น้ำตาที่ไหลรินของ จุนซางน่าจะเป็น scene ที่ 18

ไว้ เปรียบเทียบ ความตั้งใจ ของผู้กำกับ ยุน ซุกโฮ นะคะ ขอชื่นชม ยกย่อง ผู้กำกับ จริงๆ

เพลงนี้ ดิฉันรู้สึกเองว่า ไม่ได้ สื่อ แค่ความโศกเศร้า แต่สื่อรวมความอ้างว้าง ว้าเหว่ และรันทดใจ เวลาฟังเพลงและ ดูภาพละคร ใจคอคนดู พลอยโหวงเหวง วาบหวิว ใจหายไปกับ ซังฮวก และ จุนซาง เสีย จริง ๆ )
ที่บ้านของซังฮวก
ซังฮวก บอก ยกเลิกการแต่งงาน และขอโทษ พ่อ กับ แม่ พ่อกับแม่ตกใจ
แม่ของซังฮวก : ลูก กับ ยูจิน มีเรื่องอะไรกันเหรอ เขาเปลี่ยนใจไม่อยากจะแต่งใช่มั๊ย
ซังฮวก : เปล่าครับ ผมเองที่แต่งงานกับเขาไม่ได้ ผมเคยคิดว่าผมรัก ยูจิน
แต่มันไม่ใช่ ผมน่ะหลง ยูจิน มากกว่า ไม่อยากให้ใครได้เขา
ผมถึงเอาแต่ระแวงและทำร้ายเขา ผมถึงอยากจะหยุดเรื่องนี้ ซะ
มันไม่ดีต่อ ยูจิน และผมเองด้วย เลิกไปซะก็ดี ผมขอโทษ ครับ
ผมจะไปบอกแม่ของ ยูจิน เอง แม่ ไม่ต้องไปพูดอะไร นะครับ ผม ขอตัวขึ้นห้องก่อนนะครับ

ซังฮวกทิ้ง พ่อกับ แม่ ไว้ ตัวเองขึ้นห้อง นั่งลงบนเตียงนอนอยู่กับความมืดมิดภายในห้องของคืนนั้น

ที่โรงพยาบาล
จุนซาง นั่งอยู่บนเตียงคนไข้ มี ยูจิน นั่งเก้าอี้หน้าเตียงกางหนังสือออกอ่านให้ฟัง
จุนซาง : ยูจิน
ยูจิน เงยหน้ามอง จุนซาง
จุนซาง : คุณน่ะอยู่ที่นี่แบบนี้ไม่เบื่อเหรอ
ยูจิน : ฉันเจอ ซังฮวก มาแล้ว ทุกอย่าง โอ เค
จุนซาง : ขอโทษนะ ยูจิน

ยูจิน ช้อนสายตาขึ้นมอง จุนซาง
ทั้งคู่ มองตากัน

คัง มุยฮี เปิดประตูห้องเข้ามา
แม่ มองดูลูกชายอยู่ครู่หนึ่ง อย่างไตร่ตรอง แล้วเรียกอย่างไม่ค่อยมั่นใจนักว่า : จุนซาง
จุนซาง เงยหน้ามองแม่ แล้วขานรับ : ครับ แม่ครับ
คัง มุยฮี ค่อยๆ เดินเข้ามากอด ลูกชาย
ยูจิน มองภาพ ที่แม่และลูกชาย กอดกัน แล้วค่อยๆเลี่ยงออกมาจากห้อง

ที่บ้านแม่ของ ยูจิน ที่ชุนชง
แม่ของ ยูจิน พูด กับภาพ พ่อของ ยูจิน บนโต๊ะว่า : คุณคะ ซังฮวก เขาทิ้ง ยูจิน แล้ว ละค่ะ เขาปล่อยให้ลูก ไปหาคนที่ลูกรัก มันก็อาจจะดีกับ ยูจิน แต่พอฉันนึกถึง ซังฮวก ฉันก็เจ็บปวด จริงๆ ค่ะ แม่ของ ยูจิน พูดไป ร้องไห้ไป


ที่โรงพยาบาล
จุนซาง : แม่ครับ แล้วใครคือพ่อผม แม่บอกว่า แม่อยากมีพ่อให้ผม
ตอนที่ผมเป็น จุนซาง ผมก็ไม่รู้เหมือนกันใช่ไหมครับ
( ในสมัยที่ผมเป็น จุนซาง เมื่อ สิบปี ก่อน )
แม่ ส่ายหน้า
คัง มุยฮี : แม่ไม่เคยบอกลูกหรอก
จุนซาง : แล้วพ่อผมหน้าตาเป็นไงครับ
คัง มุยฮี : ทำไมลูกถึงอยากรู้นัก เห็นลูกเอาแต่ถามถึงพ่อ ลูกคือ จุนซาง จริงๆ
แล้วแม่ก็ถอนใจ : ลูกไม่ใช่ มินฮุง อีกแล้ว
จุนซาง : ผมไม่รู้ว่าถามถึงพ่อจะทำให้แม่ต้องเจ็บปวด
ขอโทษนะครับแม่ แม่ไม่ต้องตอบผมก็ได้
( ประโยคสุดท้าย ไม่ใช่ แบบฉบับ คัง จุนซาง แต่เป็น แบบฉบับ ของ ลี มินฮุง ไม่ต้องตอบก็ได้ แล้ว ถามทำไมคะ คุณ มินฮุง )

จุนซาง นึกขึ้นได้ว่า คำถามของตัวเอง ไปสะกิดบาดแผลในใจของแม่เข้า

แม่ อึกอักเล็กน้อย ไม่รู้จะตอบอย่างไร เหมือนเมื่อก่อนเวลาที่ จุนซาง ถามคำถามนี้
คัง มุยฮี รู้สึกลำบากใจ
แล้วก็ตอบ ลูกชายว่า : เขา คือผู้ชายที่แม่เคยรักมาก ตอนนั้นที่แม่ยังเป็นเด็กอยู่
ลูกจะเชื่อมั๊ย ถ้าแม่จะบอกลูกว่า แม่ยังไม่ลืมแม้กระทั่งตอนนี้
แต่ว่า ผู้ชายคนนั้น ทิ้งแม่ไป และก็ลืมแม่ไปแล้ว
และเขาก็ตาย ความจริงที่ว่า เขาลืมแม่ได้ง่ายดาย และยังมีครอบครัวที่มีความสุขได้ ยิ่งทำให้แม่แค้น

จุนซาง มองหน้าแม่อย่างแสนสงสาร เห็นใจแม่ หน้าตาพลอยเศร้าหมองไปด้วย

คัง มุยฮี : แม่ยังเจ็บทุกครั้งที่คิดถึงเขา แม้ว่ามันจะนมนานมาแล้วก็ตาม
แต่ที่แม่ยังสู้ได้ ก็เพราะแม่มีลูก เพียงแต่นึกถึงลูก
ไม่ว่า พ่อของลูกจะเป็นใคร ก็ไม่สำคัญสำหรับแม่ ลูกคือลูกของแม่ ขอเพียงมีลูกอยู่เคียงข้างก็พอ

จุนซาง มองแม่อย่างเศร้าใจ สุดๆ ความรักของแม่ช่างน่าเศร้า สุดแสนระทมเหลือเกิน

จุนซาง รู้สึกผิดมาก เขาควรจะรู้ว่า ในดวงใจของแม่ มี จุนซาง อยู่ก็พอแล้ว
ไม่ควรเอาเรื่องพ่อมาทำให้แม่เสียใจ อีก
ความคิดถึงพ่อ ที่คืบคลานเข้ามาในใจของ จุนซางแต่กลับแสดงออกมาไม่ได้
เงาของพ่อปรากฏในความทรงจำอันเลือนรางของ จุนซาง เสมอ

( คุณแม่ คะพูดเสีย ยืดยาว แต่ไม่ได้ ตอบคำถามลูก แถม เพิ่มความเศร้า สับสน กับ ลูกชาย ของ คุณแม่ มากๆ เลยนะคะ อ้อ ก็คุณแม่ ป่วยและ สับสนทางจิต ขนาด ต้องรับการบำบัด กับคุณหมอ อัน มาหลายปี น่ะค่ะ คุณ แม่ สร้างปัญหา ให้ จุนซาง อีกแล้วนะคะ)

แชรีน พ้นจากความเศร้าโศก
กลายเป็น มุมานะ เรื่องงาน แต่ กลายเป็นคนหงุดหงิดง่าย กับพนักงาน รวมทั้งจินซุก ก็ไม่เว้น

ซังฮวก กลายเป็น คนสูบบุหรี่จัด แม้ แต่ในห้องออกอากาศจน ดีเจ ต้องคอยปราม

ยงกุ๊ก ใช้ชีวิต สัตว์แพทย์ ได้อย่างปกติ คนเดียว
ในที่สุด ลี มินฮุง ก็ หายเป็นปกติ
จูง มือ ยูจิน มาเดินทักทาย ขอบคุณ พยาบาล ก่อนออกจากโรงพยาบาล
และไปทำงานที่บริษัท มาร์เชียน ตามเดิม
และย้ายที่พักจากโรงแรม มาอยู่บ้านใหม่ ที่แม่จัดการซื้อให้


จุนซาง โทรศัพท์ ไปขอบคุณ แม่ และบอกว่า บ้านสวยมาก
ขาดเหลืออะไร จุนซางจะจัดการเอง แม่ว่างเมื่อไรแวะมาเยี่ยมบ้าง
ยูจิน เป็นแขกคนแรกของบ้านใหม่ พร้อมของขวัญ
จุนซาง : ขอบคุณ คุณเป็นแขกคนแรกนะนี่ มินฮุง ไม่เคยอยากจะมีบ้าน แต่ จุนซาง นึกอยากจะมี ดีจะตายมีบ้านของตัวเอง

ยูจิน เห็นบ้านโล่ง ๆ เลย อาสา ว่า มืออาชีพจะจัดการให้
จุนซาง ยิ้ม ถูกอก ถูกใจ : อยู่แบบนี้ก็ดีแล้ว “ หัวใจของทั้งคู่ คือบ้านที่ดีที่สุดของคนที่มีรัก “ แต่งไม่สวยก็ช่าง แค่มีเราก็พอ
แต่ ยูจิน คิดคนละอย่างกับ จุนซาง เพราะ ยูจิน เป็น มัณฑนากร


ยูจิน และจุนซาง ช่วยกัน จัดบ้าน ตกแต่งบ้าน อย่างมีความสุข
จุนซาง แอบแกล้ง ยูจิน เล็กน้อย ตอนวางหมอนอิงที่โซฟา
(น่า เอ็นดูจริง ๆ ยงจุน ขี้เล่นตามเคย)
ยูจิน นั่งทวน ความหลัง ให้ จุนซาง ด้วยการตั้งคำถาม
เรื่อง ครูประจำชั้นชื่อการ์กาเมล
การ์กาเมล เคยทำโทษ ทั้งคู่ ทำอะไร ขนาด บอกใบ้ ว่า เป็นการทำความสะอาด
แล้ว ยูจิน ก็ ก้มหน้า ขึ้นๆ ลงๆ ส่งเสียงว่า อึ้ม อึม อึม บอกใบ้ให้
จุนซาง ทำท่าเลียนแบบ พยักหน้าขึ้นๆลง ส่งเสียง อึ้ม อึ้ม อึ้ม ตามอย่าง ยูจิน
ยูจิน ลุ้นฟังคำตอบ แต่ จุนซาง กลับเดาว่า ไปล้างส้วมเหรอ
พอ ยูจิน เฉลยว่า ไปเผาขยะน่ะ
จุนซาง หัวเราะ : งั้นเราคงเกเรมากน่ะสิ

ยูจิน : ฮึ เปล่า ฉันน่ะเป็นเด็กดี (ลากเสียงยาวตรงคำว่าเด็กดี)
แต่ทั้งหมดน่ะก็เพราะเธอนั่นแหละ รู้มั๊ย เธอน่ะทำฉันเสีย
จุนซาง เถียงทันที : แต่ผมว่าไม่หรอก คุณโกหก เพราะผมจำไม่ได้ ผมไม่เชื่อคุณหรอก
ยูจิน : ถ้าไม่เชื่อฉัน ก็นึกให้ออกสิ
อีกเรื่องนะ ฉันให้อะไรเธอยืมอย่างหนึ่ง ตอนวันที่หิมะตกครั้งแรก
จุนซาง : ถุงมือ
ยูจิน ดีใจ ยิ้มอย่างสดใส : เธอจำได้แล้วเหรอ
จุนซาง รู้สึกผิดขึ้นมา ที่เห็น ยูจิน ดีใจ ขนาดนั้นสารภาพว่า: เปล่าหรอก เพราะคุณเคยบอกผมไว้น่ะ คุณให้ผมยืม แต่ผมไม่เคยเอามาคืน ผมไม่ได้มาตอนที่นัดว่าจะเอามาคืน

ยูจิน รู้สึกผิดหวัง: งั้นเหรอ ฉันเป็นคนบอกคุณเองเหรอ
ยูจิน พยักหน้าน้อยๆ : นั่นสินะ ตอนนั้น เธอจะเอาถุงมือมาคืน และเธอก็มีอะไรจะบอกฉัน
มีภาพความทรงจำที่ สองคน เดินคุยกันวันที่หิมะตกวันแรก
จุนซาง ถามว่า : เธอชอบสัตว์อะไรที่สุด
ยูจิน : ชอบลูกหมา แล้วเธอล่ะ
จุนซาง : ฉันชอบคน
ยูจิน : คนเหรอ ใครล่ะ
จุนซาง: ไว้ 31 ธันวา มาเจอกัน แล้วฉันจะบอกเธอ

จุนซาง ในปัจจุบัน : สงสัยจังว่าผมอยากจะบอกคุณว่าอะไร น๊า
ยูจิน หันมามอง จุนซาง
จุนซาง ใบหน้าหม่นหมองและกังวลอีกแล้ว
ยูจิน รู้ดีว่า จุนซาง นึกไม่ออก ยูจินพยายามสะกดใจตัวเอง ไม่ให้คาดหวังอย่างที่เคยเป็น
จุนซาง : ขอโทษนะที่ผมจำไม่ได้
ยูจิน ยิ้ม และปลอบใจ จุนซาง : ไม่เป็นไรหรอก แค่ฉันจำได้ก็พอแล้ว ซักวันหนึ่ง เธอต้องจำได้แน่


การ์กาเมลได้รับรางวัล คุณครูดีเด่น และเดินทางมารับรางวัลที่ โซล ได้นัดพบศิษย์เก่า รุ่น ยูจิน ซังฮวก
แชรีน และ จินซุก ไปถึงที่นัดหมาย ตรงเวลา ทุ่มตรงพอดี
การ์กาเมล : ไหนดูซิ ทุ่มตรงพอดี พวกเธอมาถึงตรงเวลาดี ใครมาถึงหลังจากนี้ถือว่ามาสาย เดี๋ยวจะต้องมีการลงโทษ
อาจารย์ จำ จินซุก เป็น ยูจิน เมื่อ จินซุก ทักท้วง ก็นึกขึ้นได้ เมื่อ เป็นนักเรียน จินซุก ใส่แว่นตา อาจารย์ ชมว่า จินซุก ดูดีขึ้นมาก และถาม แชรีน ถึง ธุรกิจ ของแชรีน
ซังฮวกและ ยงกุ๊ก ตามมาถึง
การ์กาเมล : ครูโทรฯนัดยังกล้ามาสายอีกหรือ
ยงกุ๊ก โอดครวญ เหมือนเมื่อ สิบ ปีที่แล้ว ว่า
ผมสายแค่นาทีเดียวเองนะครับอาจารย์ นาทีเดียว เองน่ะ
การ์กาเมล : แน่ใจนะว่านาฬิกาเดินตรง
ทุกคนหัวเราะ แชรีน หันไปทัก ซังฮวกว่า ไม่ได้เจอตั้งนาน
พอ ซังฮวก ตอบว่า : อะ ใช่ ไม่ได้เจอตั้งนาน
การ์กาเมล: นี่อะไรกัน ไม่ได้เจอกันนานเหรอ เป็นเพื่อนกันประสาอะไร
พวกเธอ อยู่โซล กันทุกคน น่าจะเจอกันให้บ่อยกว่านี้สิ
วันนี้ได้มาร่วมรุ่นงั้นต้องขอบคุณฉันนะจะบอกให้
ซังฮวกถามว่า: อาจารย์มาทำอะไรที่โซล
ทุกคนตื่นเต้นที่ การ์กาเมล ได้รับรางวัล ครูดีเด่น
การ์กาเมล : เถอะน่า ไม่ใช่รางวัลสำคัญอะไร เล็กๆน้อยๆ
อย่าคิดอะไรมากเลยพวกเธอทุกคน ก็ได้รางวัล นักเรียนดีเด่นไม่ใช่รึ
ถึงจะชอบมาสายก็เถอะ โดยเฉพาะเธอหันมาทาง จินซุก แล้ว ก็หันไปทาง ยงกุ๊ก : เธออีกคนนึง

ที่ท้องถนน จุนซาง ขับรถ สีชมพูหวานแหว๋ว มี ยูจิน นั่งอยู่ข้างๆ
ยูจิน : ไม่น่าเชื่อว่าอาจารย์ จะโทรมา ฉันน่าจะเป็นคนโทร
ที่จริงแล้ว น่าจะเป็นฉันต่างหากที่เป็นฝ่ายนัดอาจารย์ ฉันรู้สึกแย่จริง ๆ
จุนซาง : รู้มั๊ยทำไมท่านถึงอยากพบ
ยูจิน : ไม่รู้สิ คงจะมาทำธุระที่โซล เลยอยากเจอนักเรียนจอมเฮี้ยว
จุนซาง : นักเรียนจอมเฮี้ยว คนที่ชอบมาสายตลอดน่ะเหรอ
จุนซาง แซว ยูจิน แล้วหัวเราะชอบใจ
ยูจิน : นี่
จุนซาง : แล้วท่านรู้มั๊ย ว่าผม ก็มาด้วย
ยูจิน สั่นหน้า : ไม่หรอก ฉันอยากให้อาจารย์ตกใจเลยไม่ได้บอก
พอเจอเธอ อาจารย์อาจเป็นลมไปเลยก็ได้นะ
จุนซาง : แล้วอาจารย์จะจำผมได้มั๊ย
ยูจิน : ทำไมถึงจะจำไม่ได้ล่ะ
จุนซาง : นั่นสินะ คนตายไปแล้ว คงไม่มีใครลืมง่ายๆหรอกน่า
ยูจิน : อาจารย์ต้องดีใจแน่ๆที่รู้ว่าเธอยังอยู่

ที่โต๊ะ อาจารย์ การ์กาเมล
การ์กาเมล ยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่ม แล้วบ่นว่า : ทำไม จุง ยูจิน ถึงยังไม่มาสักทีละนี่หือ
ซังฮวก รู้สึก หมดสนุกทันที
ยงกุ๊ก : อาจารย์ครับ อาจารย์ โทรหา ยูจิน ด้วยเหรอครับ
การ์กาเมล : อืม ...
แล้วหันไปทาง ซังฮวก : ไง เธอกับ ยูจิน ยกเลิกการแต่งงานแล้วยังงั้นเหรอ ฉันถึงได้โทรเรียกเขามา เฮ้อ..
.การ์กาเมล ถอนใจ : แต่ว่าเธอมีเรื่องอะไรกันฉันไม่รู้หรอก แต่ยังไงก็เคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน และทั้งคู่ก็เป็นลูกศิษย์ฉันเหมือนกัน ยังไงก็น่าจะคบกันต่อ เป็นเพื่อนรักกันเหมือนเดิมนะ มันดีนะ จริงมั๊ย
จินซุก หันไปมองหน้าส่งกำลังใจให้ ซังฮวก
ยูจิน และ จุนซาง เดินเข้ามา และ การ์กาเมล เงยหน้า เห็นพอดี : อ้าว จุง ยูจิน ทางนี้
ทุกคนในโต๊ะหันไปมอง และทำท่าตกใจ ที่เห็น ยูจิน มากับ จุนซาง
การ์กาเมล ยกมือ ทักทาย ยูจิน ที่เดินใกล้เข้ามา แล้ว อุทาน : หา... นี่ คัง จุนซาง
แล้วหันมอง ลูกศิษย์ ที่นั่งด้านซ้ายขวา ของตัวเอง
จุนซาง ค้อมตัว แสดงความเคารพและทักทายอาจารย์
จุนซาง นั่งติด ด้านขวาของอาจารย์ แทนที่แชรีน ที่ขยับถอยให้ จุนซาง และ ยูจิน นั่งข้างอาจารย์
การ์กาเมล ดีใจ : แหม เธอคือ คัง จุนซาง จริงใช่ไหม ดีใจจริงๆ ที่ได้เจอเธอ
มันช่าง ปาฏิหารย์ จริงๆ ที่ได้เจอเธอ ไง จำเรื่องอดีตได้บางส่วนเรอะ
จุนซาง : ครับ
การ์กาเมล : มันไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอกนะ
ไม่มีใครที่สามารถจำอดีตได้ทุกอย่างหรอก ไม่เป็นไร ไม่ต้องคิดมากรู้มั๊ย
การ์กาเมล หัน ไปทาง ยงกุ๊ก และซังฮวกที่นั่งติดกัน : นี่ฉันละผิดหวังในตัวพวกนาย
พวกนายรู้ว่า จุนซาง ยังไม่ตาย ทำไมถึงไม่มีใครบอกฉันเลยซักคน หา..
ทุกคน ก้มหน้าลง
การ์กาเมล : ถ้า ยูจิน ไม่พามาด้วย ฉันคงไม่รู้ เหมือนเมื่อก่อนนี้ จุนซาง จะทำอะไรได้ ถ้าไม่มี ยูจิน สักคนหนึ่งน่ะ


แชรีน ทนนั่งต่อไปไม่ไหวแล้ว : อาจารย์คะ ขอโทษนะคะ หนูขอตัวก่อนนะคะ
แล้ว แชรีน ก็ลุกออกไป จินซุก เรียก : แชรีน
ซังฮวก : จินซุก ฉันไปตามเขาเอง หันไปบอก การ์กาเมล : ไปนะครับ
ซังฮวก ตามแชรีนออกมา แชรีน กำลังไขกุญแจรถ
ซังฮวก เข้ามาจับ มือ แชรีนไว้ : แชรีน ไม่เป็นไรนะ
แชรีน : ทำไมจะไม่เป็น ฉันนึกว่าจะลืมเขาได้ ถ้าฉันไม่ต้องเจอเขาอีกน่ะ
แต่เห็นเขาอยู่ด้วยกัน ฉันก็ยิ่งโมโห โมโหจนฉันอยากจะบ้าอยู่แล้ว
ซังฮวก ทำเสียงปลอบใจ : แชรีน
แชรีน : เธอไม่เจ็บใจเลยเหรอ ที่เห็นพวกเขาอยู่ด้วยกัน ไม่เจ็บใจเลยเหรอ
ฉันเป็นคนเดียวเหรอ มีแต่ฉันคนเดียว ยังงั้นเหรอ
ซังฮวก ก้มหน้าลง : ไปเถอะ ฉันจะไปส่ง ทำท่าจะหยิบกุญแจรถไปจาก แชรีน
แชรีน: ไม่ต้อง ฉันกลับเองได้
แชรีน สลัดมือ ซังฮวก ขึ้นรถ สตาร์ทรถ แล้วขับออกไป
ซังฮวก ได้ แต่ปล่อยลมหายใจออกทางปาก ยืนมอง แชรีน ที่ขับรถห่างออกไป

การ์กาเมล นั่งหน้าขรึม: อืม..สงสัยวันนี้ ครูคงก่อเรื่องให้พวกเธอแล้วล่ะ ไม่น่าเลย
แล้วขยับตัวลุกขึ้น จินซุก และ ยงกุ๊ก เรียก อาจารย์ ค่ะ/ครับ
การ์กาเมล ดูนาฬิกาข้อมือ : พอดีได้เวลาต้องกลับแล้วล่ะ
ยงกุ๊ก : ผมไปส่งอาจารย์นะครับ
การ์กาเมล : ไม่เป็นไร ไม่ต้อง ไม่ต้องไปส่งฉันหรอก
พวกเธอทุกคนควรจะนั่งปรับความเข้าใจกันซะเถอะนะ
มีอะไรก็พูดออกมาทุกอย่างที่อยู่ในใจเลย ครูไปก่อนนะ ไปนะ แล้วเจอกัน
การ์กาเมล ตบหลังมือ จุนซาง อย่างให้กำลังใจ : ไม่เป็นไร ๆ นั่งคุยกันต่อนะ
ทุกคนยืนขึ้น ส่ง การ์กาเมล

ยงกุ๊ก ดื่มเบียร์จน จินซุก ห้ามว่าพอเถอะ
ยูจิน ขอโทษเพื่อนๆ : ขอโทษนะ ฉันไม่รู้ว่า พวกเธอจะมากันพร้อมหน้า
จินซุก : เธอไม่รู้นี่ เธอไม่ผิดหรอกนะ
จุนซาง: ยงกุ๊ก จินซุก ฉันต้องขอโทษจริงๆ
จินซุก : เธอยังจำได้ไม่หมดใช่มั๊ย
จุนซาง : ตอนแรกก็นึกออกนิดหน่อย แต่ตอนหลังก็นึกไม่ออกแล้ว
รู้แต่ว่า ฉัน คือ จุนซาง และก็เรื่องเกี่ยวกับ ยูจิน ขอโทษนะ
ยงกุ๊ก หัวเราะขื่นๆ : นายคิดว่านายคือ คัง จุนซาง แต่นายก็ยังเป็น ลี มินฮุง
จินซุก : ยงกุ๊กเป็นอะไรของเธอน่ะ
ยงกุ๊ก : นายจำอะไรได้บ้าง จำได้ว่าคือ คัง จุนซาง และจำหน้า ยูจิน ได้ แค่นั้นละเหรอ
นายจำฉันกับ จินซุก ไม่ได้ ก็ไม่เป็นไรหรอกนะ
แต่นายจำได้มั๊ยตอนอยู่ที่โรงเรียน นายทำ ซังฮวก เขาเจ็บปวดแค่ไหนน่ะเฮอะ นายจำได้หรือเปล่า

จุนซาง หน้าเศร้า นั่งฟังอย่างตั้งใจ
ยงกุ๊ก ทำเสียงเครียด : ตอนที่นายยังอยู่เขาต้องมีเรื่องกับนาย เพราะนายคอยหาเรื่องเขาตลอด
และพอนายตาย เขาก็ต้องต่อสู้กับความทรงจำของ ยูจิน มาตั้ง สิบปี รู้มั๊ย
ทั้ง ยูจิน และ จุนซาง นั่งเศร้าและเสียใจ
ยงกุ๊ก : ช่างเถอะ แต่ฉันก็ดีใจ ที่นายยังไม่ตาย และได้ความทรงจำกลับมา
แต่สำหรับฉัน ซังฮวก และ แชรีน น่ะ สำคัญสำหรับฉันมากกว่านาย เพราะพวกเขาคือเพื่อนฉัน
จินซุก : ยงกุ๊ก พอทีเถอะ พอเถอะน่า
ยงกุ๊ก: นายรู้หรือเปล่าว่า ทำพวกเขา เจ็บปวดแค่ไหนตอนนายตาย ยูจิน เป็นคนที่เสียใจที่สุด ซังฮวก แชรีน และพวกเราก็เสียใจเหมือนกัน เราอยู่ กันตั้ง สิบปี โดยไม่เคยลืมชื่อ คัง จุนซาง ได้เลย นายไม่ควรจำได้ แต่ ยูจิน แต่จำให้ได้ว่านายเกลียด ซังฮวก แค่ไหน และพวกเราชอบนายแค่ไหน นายต้องจำให้ได้ นายต้องนึกให้ออก ว่าพวกเราเคยไปเที่ยวบนเขาด้วยกัน ทำให้เรากลับมาเป็นเพื่อนกัน เหมือนที่เราเคยเป็น จำทุกอย่างให้ได้ แล้วกลับมาเหมือนเดิมสิ ได้ไหม
ยงกุ๊ก เสียงเครือ ลงทุกที จินซุก ลูบไหล่ ยงกุ๊ก อย่างปลอบใจ
ยงกุ๊ก ผลุนผลัน ลุกขึ้น และเดินออกไปจากโต๊ะ จินซุก รีบลุกตาม ยงกุ๊กออกไป เพราะความห่วงใย
ยูจิน เหลือบตามอง จุนซาง อย่างเห็นใจ และเข้าใจดีว่า จุนซาง กำลัง รู้สึกเช่นไร : ฉันไม่น่าชวนเธอมาเลย ต้องขอโทษด้วยนะ
จุนซาง : ยูจิน คัง จุนซาง เขานิสัยอย่างไรเหรอ ทำไมถึงได้ทำร้ายให้เพื่อนต้องเจ็บปวดมากมาย
จุนซาง รู้สึกเสียใจที่สุด เสียใจที่ตัวเองจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เป็นเหตุให้เพื่อนทุกคนเสียใจ
ยูจิน ได้แต่ ทำเสียงปลอบประโลม : จุนซาง
วันรุ่งขึ้น

จุนซาง นั่งคอย ยูจิน อยู่ที่นั่งรอของผู้โดยสารที่ป้ายรถเมล์
ยูจิน วิ่งเข้ามาหา หอบนิดๆ : มีอะไรเหรอ
จุนซาง ลุกขึ้นยืน : ผมอยากให้คุณช่วยน่ะ
ยูจิน : ช่วย ...ช่วยอะไรเหรอ
จุนซาง : ให้ผมยืมความทรงจำคุณได้มั๊ย
ยูจิน : จุนซาง
จุนซาง : ไป ชุนชงกัน แล้วช่วยบอกผมว่า เราเคยทำอะไร
และคุยกันเรื่องอะไรบ้าง ได้ มั๊ยล่ะ มันอาจช่วยให้ผมนึกออกได้
ยูจิน : ทำไมจู่ ๆ ถึงนึกอยากไป เพราะเรื่องเมื่อวานเหรอ
จุนซาง : ไม่ใช่หรอก แค่อยากจะจำทุกอย่างให้ได้น่ะ ไปเถอะ
จุนซาง และ ยูจิน ขึ้นรถเมล์ และไปนั่งที่เบาะท้ายรถ

ยูจิน หลับซบไหล่ จุนซาง

จุนซาง เอามือ ผลักศีรษะของ ยูจิน ออกจากไหล่ตัวเอง แต่คราวนี้ผลักแรง กว่า เมื่อ สิบปีที่แล้ว
ยูจิน หัวกระแทก ผนังรถเมล์ ยูจิน ลืมตา ขึ้นมอง จุนซาง


แต่ คราวนี้ จุนซาง ไม่ได้ ทำหน้า เฉยชา ชาเย็น เหมือนเมื่อก่อน
จุนซาง ยิ้มและหัวเราะให้ ยูจิน ยูจิน ยิ้มและหัวเราะตอบจุนซาง


ในละคร จะมีภาพ ยูจิน และ จุนซาง เมื่อ สิบปีที่แล้ว สาวน้อย ยูจิน ผมยาว จุนซาง ผมสีดำ

ยูจิน เปิดหน้าต่างรถเมล์ ลมพัดกรู กันเข้ามา
แต่ ตอนนี้ ยูจิน ผมสั้น เส้นผมเลยไม่ไประราน แก้ม จุนซาง แบบเมื่อก่อน
จุนซาง ต้องยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ หน้า ยูจิน
มีภาพ ที่เส้นผมยาวสยาย ของ ยูจิน ถูกแรงลม พัด ไปเคลีย แก้ม จุนซาง คนผมสีดำ
ยูจิน ผมสั้น ปิด กระจกรถ และบอก จุนซาง ผมสีทองว่า : เราสองคนนั่งตรงนี้ด้วยกันตลอด
จุนซาง : ตรงนี้เหรอ
ยูจิน ทำมือประกอบ : ฉันนั่งนี่ และเธอนั่ง นั่น

รถเมล์จอดส่ง จุนซาง และ ยูจิน ที่เดิม ตรงจุด ที่สองคนเคยลงรถมาด้วยกันวันนั้น
ทั้งคู่ลงจากรถ จุนซางทำท่า หันรีหันขวาง


ยูจิน จูงมือ ของ จุนซาง ไปที่รั้วของโรงเรียน
ยูจิน ทำท่าชะโงกหน้าเข้าไปมองภายในรั้วของโรงเรียน
( แต่ไม่เห็นอะไรหรอกค่ะ เพราะรั้วสูงมากกว่า ความสูงของ ยูจิน )
จุนซาง ชะเง้อมองตาม ยูจิน
ยูจิน : ฉันเคยเหยียบหลังเธอ และปีนข้ามรั้วตรงนี้แหละ จำได้มั๊ย
จุนซาง ทำท่าคิด แล้วตอบแบบถนอม น้ำใจ ยูจิน ว่า : ไม่แน่ใจ
ยูจิน : ก้มตัวสิ ลองดูเถอะ ก็ลองทำดู เธออาจจะจำได้
จุนซาง : ยูจิน
ยูจิน : เถอะน่า ก้มลงสิ
จุนวาง ก้มตัวลง และถามว่า : แบบนี้เหรอ
ยูจิน : ไม่ใช่ ต่ำกว่านี้หน่อย
จุนซาง ก้มตัวลง เอามือแตะพื้น : แบบนี้เหรอ
ยูจิน : ใช่
ยูจิน วางกระเป๋าถือลงที่พื้นข้างตัว จุนซาง และปีนขึ้นเหยียบหลัง จุนซาง
จุนซาง หัวเราะถามว่า : ตอนนั้นคุณหนักขนาดนี้หรือเปล่า
ยูจิน บอกให้ จุนซาง ยืดตัวขึ้น : ขึ้นมาอีก ขึ้นมาอีกสิ
จุนซาง ยืดตัวขึ้น จน ยูจิน ปีนขึ้นไปนั่ง บนรั้วได้ แต่ หันตัว อยู่ด้านนอกกำแพง
จุนซาง สวมรองเท้าให้ ยูจิน เงยหน้า มอง ยูจิน

แล้ว ยูจิน ก็พา จุนซาง ไปลง เรือ
จุนซาง และ ยูจิน ยืน คู่กัน มองท้องน้ำ ที่เรือ แล่นอยู่
ยูจิน พา จุนซาง ไปปั่น จักรยาน โดย ยูจิน นั่งซ้อนท้าย เหมือนเมื่อก่อนโน้น
และ ยูจิน ก็พา จุนซางที่ไปที่ สนาม วอลเลย์บอล

จุนซาง : เราเคยเล่นวอลเลย์บอลด้วยกันเหรอ
ยูจิน : ใช่
จุนซาง : ไหนลูกล่ะ
ยูจิน ยกสองมือ ทำท่า ถือ ลูก วอลเลย์บอลอยู่ : อยู่นี่ไง
ยูจิน พาตัวเองลอดตาข่ายข้ามไปอีกฝั่ง : เอาหละนะ
แล้ว ยูจิน ก็ทำท่าเสริฟ์บอล ส่งมา
จุนซาง ยัง ทำท่า งง งง กับท่าทางของ ยูจิน
จน ยูจิน บอกว่า ลูกเลยไปแล้วนะ อยู่ข้างหลังเธอน่ะ ยูจิน ชี้มือ ไปข้างหลัง จุนซาง
จุนซาง หันไปมอง ตาม มือของ ยูจิน แล้ว หันกลับมามอง ยูจิน
ยูจิน : ตกลงจะเล่นมั๊ย
จุนซาง ยิ้ม ขำ ยูจิน และเข้าใจแล้ว ตอบว่า : ก็ได้ เล่นจนกว่าผมจะจำได้ พร้อมใช่ไหม
ยูจิน พยักหน้า : พร้อม จ้ะ
จุนซาง ทำท่า ตบลูกเลี้ยงบอล แล้ว ส่งบอลไปให้ ยูจิน
จุนซางและ ยูจิน ส่งลูกบอล ตาม จินตนาการ กันไปมา
มีภาพทั้งคู่ เมื่อสิบปีที่แล้ว
แล้ว จุนซาง ผมสีทอง ก็ สไลด์ตัวเอง เข้ามารับ บอล ของ ยูจิน
ยูจิน : เมื่อก่อน เธอ เคยไสลด์ เก่งกว่านี้อีก
จุนซาง นึกเห็นภาพตัวเองในอดีต

ยูจิน พาจุนซาง ไปที่ริมทะเลสาบ นั่งที่ม้านั่งยาว
จุนซาง ถาม ยูจินว่า : เราเคยมาทำอะไรที่นี่ เราทำอะไรตรงนี้เหรอ
ยูจิน : ก็ลองเดาดูสิ เราเคยทำอะไรกัน
จุนซาง : อืม…นั่งกินข้าวเหรอ
ยูจิน: ไม่ใช่เหรอ
จุนซาง : งั้นผมไม่รู้จริงๆ ทำอะไรเหรอ
ยูจิน : เรานั่งทำตุ๊กตาหิมะ เราทำกันคนละตัวน่ะ
จุนซาง : จุนซางทำผู้ชาย และ ยูจิน ทำผู้หญิง ใช่มั๊ย
ยูจิน : แล้วเราก็เอาตุ๊กตาหิมะสองตัวมาจูบกัน
จุนซาง : จูบกันเหรอ
ยูจิน พยักหน้า : อื่อ
จุนซาง ถามอย่างกระตือรือร้น แววตาเป็นประกาย : แล้วเราจูบกันหรือเปล่า
ยูจิน : เราเหรอ ... ยูจิน ก้มหน้า..เขิน และเอียงอาย จุนซาง
จุนซางตื่นเต้น : เราจูบกันด้วยเหรอ เราจูบกันยังไง หันมาสิ เราจูบกันยังไง
ยูจิน หันหน้ามาทาง จุนซาง
จุนซาง ยื่นหน้าตัวเองเข้าไปใกล้ ยูจิน
( เสียงเพลง my memory)
จุนซาง : แบบนี้ใช่มั๊ย แบบนี้
ภาพอดีต ที่ จุนซาง จูบปาก ยูจิน ยูจิน ทำตาโต

แต่ จุนซาง จำภาพอดีตนี้ไม่ได้
ทำให้ในขณะนี้ จุนซาง ยื่นปากไปเกือบชิด ปากของ ยูจิน ทั้งคู่ได้แต่ มองตากัน
จุนซาง : คงไม่ใช่แบบนี้ใช่มั๊ย

ยูจิน เศร้าและรู้สึกเสียดาย ที่ จุนซาง ช่างจำอะไรไม่ได้เสียเลย
วันนั้นหิมะแรกฤดู ช่างงดงาม จุนซาง จูบ ยูจิน เป็นครั้งแรก จุนซางก็ยังนึกไม่ออก
จุนซาง ยังคงยืนอยู่อีกปลายหนึ่งของความทรงจำ

จุนซาง เข้าใจความรู้สึกของ ยูจิน และรู้สึกหมดหวังกับตัวเอง
จุนซาง : ผมจำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ ขอโทษนะ
ยูจิน น้ำตาคลอ ได้แต่ยิ้มให้กำลังใจ และปลอบใจ จุนซาง
ยูจิน พาจุนซาง ไปที่สะพาน ที่ยื่นลงไปในทะเลสาบ ที่เคยขว้างก้อนหินกัน
แต่วันนี้ น้ำในทะเลสาบ ไม่แข็งเป็นน้ำแข็ง เช่น ครั้งก่อน ที่จุนซาง เคยขว้างก้อนหิน ลงไปที่ผิวน้ำที่เป็นน้ำแข็ง
จุนซาง : เราเคยขว้างก้อนหิน ตรงนี้เหรอ
ยูจิน : จำได้ไหม
จุนซาง : เปล่าหรอก ผมก็แค่เดาเอาน่ะ
ยูจิน : ตอนนั้นทะเลสาบมันเป็นน้ำแข็ง เสียงก้อนหินกลิ้งบนน้ำแข็ง มันเพราะมากๆ เลยล่ะ
แล้ว ก็ยังมีอย่างอื่นอีกด้วยนะ
จุนซาง ทำท่าคิด หันมามอง ยูจิน
ยูจิน : แต่ว่า เธอไม่มีวันรู้หรอก ถึงจะได้ความทรงจำคืนกลับมาก็ตาม เพราะว่า มีแต่ฉันและเพื่อนๆเราที่รู้
จุนซาง : อะไรเหรอ
ยูจิน : พวกเรามาบอกลา เธอที่นี่ จิน ซุก ยงกุ๊ก แชรีน และก็ ซังฮวก
พวกเราทั้ง ห้าคน มาจัดงานศพให้เธอ เราไม่รู้ว่า เธอยังไม่ตาย
จุนซาง : คุณร้องไห้มากมั๊ย
ยูจิน : ไม่หรอก มันก็แปลกนะ ฉันร้องไห้ไม่ออก ฉันคงรู้ว่า สักวัน เธอจะต้องกลับมา
จุนซาง : ผมจำเรื่องพวกนั้นไม่ได้เลย แต่คุณไม่เคยลืม ไม่เคยลืมผมเลยตลอด สิบปี ผมสิ ไม่เคยทำอะไรให้คุณเลย

จุนซาง เสียใจ ที่ ยูจิน ต้องผ่านความทุกข์ทรมาน มาตั้ง สิบ ปี แล้วตอนนี้ เขาเองยังโหดร้ายกับ ยูจิน อีก ที่จำความหลังในอดีตไม่ได้

ยูจิน : จุนซาง เธออยากจำให้ได้ ก็เพื่อฉันใช่ไหม เพราะอย่างนั้นเธอถึงได้มาที่นี่ นั่นคือเหตุผลใช่ไหม
จุนซาง : เปล่าหรอก ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ผมก็อยากจำได้ ผมอยากเป็น คัง จุนซาง ตัวจริง
ยูจิน : แล้ว เธอจำที่เคยพูดได้มั๊ย ตอนที่เธอเป็น ลี มินฮุง
เธอเคยถามฉันว่า ทำไม ต้องนึกถึงแต่อดีตที่เลวร้าย ทั้งที่มีความทรงจำดีๆ ฉันว่า ที่เธอพูดก็ถูกนะ
ที่นี่มันออกจะสวยงาม ทำไมเราต้องพยายามจะนึกถึงอดีต
ความทรงจำเป็นสิ่งสำคัญ แต่เราก็สร้างความทรงจำร่วมกันได้ในวันข้างหน้าไง
จุนซาง หันมามอง ยูจิน
ยูจิน : อย่าพยายามนึกถึงอดีตอีกเลยนะ
จุนซาง : ยูจิน
ยูจิน : ถ้าเธอจะจำอะไรไม่ได้ ฉันก็ไม่ว่าหรอก
ฉันไม่ได้รัก จุนซาง ที่อยู่ในความทรงจำของฉัน
แต่ฉันรัก คนที่ยืนอยู่ตรงนี้
จุนซาง เดินเข้าไปดึง ยูจิน เข้ามากอด

ที่บริษัท มาร์เซียน
จุนซาง เดินเข้ามาให้ห้อง มีคุณ คิม เดินส่งเสียงและตามหลังเข้ามาเช่นกัน
คุณคิม : โอเค เดี๋ยวผมตามไปนะ
แล้วก็ถาม จุนซางว่า : ทีนี้ผมต้องเรียกคุณว่า ยังไง ดีละเนี่ยะ ช่างเถอะนะ ยังไงผมก็ดีใจนะที่คุณกลับมาทำงาน
จุนซาง หัวเราะ : คุณคงลำบากน่าดูละสิ
คุณ คิม สวนว่า : คุณต่างหากที่ลำบาก ทำไมถึงกลับมาทำงานเร็วนักล่ะ
จุนซาง : ผมไม่เป็นไรแล้ว
คุณคิม : เอ้อ ผมรู้ว่าคุณสบายดี แต่ยังสับสนไม่ใช่เหรอ
แล้ว คุณคิม ก็ เอานิ้วจิ้มที่สมองของตัวเอง ประกอบคำพูด แล้วถามต่อ : คุณได้ความทรงจำคืนมาหมดรึยัง
จุนซาง : ยังหรอก
คุณคิม : ยังเหรอ งั้น ก็ต้องไปให้จิตแพทย์ช่วยละซีเนี่ยะ
จุนซาง : ไม่หรอกแบบนี้ก็ดีแล้ว
คุณคิม : ทำไมล่ะ
จุนซาง: มันต้องเป็นความทรงจำที่ดี ผมอยากเก็บไว้คิดทีหลัง
จุนซางและคุณคิม เดินลงบันไดบริษัทมา คุณ คิม เดินหน้า จุนซาง เดินข้างหลัง
จุนซาง : คุณจะไปไหน
คุณ คิม : ผมจะไปดูที่ไซท์ก่อสร้างซะหน่อยนะ ผมจอดรถไว้ด้านนั้น ผมไปก่อนนะ
จุนซาง : แล้ว เจอกัน
ต่างคนแยกย้ายกันไปคนละทาง

จุนซาง ขับรถไป คิดไป และรถไปติดไฟแดงที่ทางม้าลาย จุนซางเหลือบสายตา ไปมองข้างทาง มีเด็กหญิง ยืนแกว่งประเป๋า ใบเล็กๆ ที่หน้าร้านขายผลไม้ จุนซาง ยิ้ม สักครู่ แม่ของเด็กหญิงก็ออกมาจากร้านขายผลไม้นั้น พอ จุนซาง หันไปมองอีกที คุณแม่ของหนูน้อย กำลัง ก้มตัว สวมถุงมือ สีชมพู ให้

ทันใดนั้น จุนซาง ก็นึกภาพที่ตัวเอง สวมถุงมือสีชมพู 2 มือ
ต่อด้วยภาพ ที่ ตัวจุนซาง และ ยูจิน สวมถุงมือ สีชมพูคนละข้าง ยกมือขึ้นมาเกี่ยวกันกับ ยูจิน
ไฟเขียวพอดี จุนซาง จึง ออกรถ


คัง มุยฮี เดินอยู่กับเลขา
เลขา : วันนี้คุณมีนัดทานข้าว กับศาสตราจารย์คิม และต้องไปสัมภาษณ์ที่สถานีวิทยุ ครับ
จุนซาง โทรศัพท์ เข้ามาหา ถามแม่ว่า : แม่ครับ แม่เก็บของ ของผม ไว้ที่ ชุนชง ใช่มั๊ยครับ
คัง มุยฮี :ใช่ มีอะไรเหรอลูก
จุนซาง : แล้วแม่เก็บเสื้อผ้าผม ตอนเกิดอุบัติเหตุไว้ที่ไหนครับ
คัง มุยฮี : เอ้อ..แม่ไม่ได้ทิ้งหรอก คงอยู่ในบ้านนั่นแหละ มีอะไรเหรอจ๊ะ
จุนซาง : ไม่มีอะไรหรอกครับ แล้วผมจะโทรมาใหม่นะครับ

ที่บริษัท โพราริส
จุงอา หา แปลน ที่ร่างไว้ ยูจิน เป็นคนเก็บไว้ให้
จุงอา พูดชม ยูจินที่รอบคอบ ทั้งที่ลาพักงานไปตั้งเดือนหนึ่ง
จุนซาง เดินเข้ามาหา ยูจิน อย่างรีบร้อน
ยูจิน ลุกขึ้นยืน ทักทาย : จุนซาง
ใบหน้าของ จุนซาง ดูดีใจกับอะไรสักอย่าง
จุนซาง : ยูจิน ผมจำได้แล้ว ผมจำได้แล้ว
ยูจิน : อะไรเหรอ จำอะไรได้
จุนซางหันไปที่ จุงอา : จุงอา ผมขอตัว ยูจิน ไปได้ไหมครับ
จุงอา : เอ๊ะ
จุนซาง : เรามีธุระต้องรีบไป
ยูจิน : จุนซาง
จุนซาง : เราไปชุนชงกันเถอะ ผมมีอะไรจะให้
จุนซาง หันไปที่ จุงอา : ไปเลยนะครับ
จุงอา :ไปเถอะ
จุนซาง หันมาฉุด ยูจิน ออกไปอย่างรีบร้อน จุงอา ยืนอ้าปากค้าง ไม่เคยเห็น มินฮุง ใจร้อน แบบนี้มาก่อน
ที่ ชุนชง

จุนซาง นั่งลงที่หน้าตู้ ค้นหาของ แล้วทำท่าเหลียวไปมา ยูจิน ยืนอยู่ใกล้ ๆ
ยูจิน : หาอะไร อยู่น่ะ เธอจำอะไรได้เหรอ
จุนซาง : เอ้อ.. เดี๋ยวก็รู้
จุนซาง ออก จากห้องไป ยูจิน ยัง งง อยู่ แต่ก็ตาม จุนซาง ออกมา
ยูจิน เข้าไปห้อง ของ จุนซาง ในสมัยก่อน
ส่วน จุนซาง เข้าไปที่ห้องเก็บของ เอื้อมมือ เปิดไฟที่แขวนห้อยอยู่ เหลียวหา ไปมา แล้ว ดึง ลิ้นชัก ตู้เก็บของออกมา รื้อได้ เสื้อโค๊ท ลีครีม จุนซาง ดึงเสื้อออกมา แล้วกางออกดู แต่ไม่ใช่สิ่งที่ต้องการ
จุนซาง หยิบกระเป๋าเดินทาง ลงมาเปิดดูข้างๆ เสื้อ ตัวแรก ที่วางกองอยู่ เลิกเสื้อผ้าในกระเป๋า แล้ว ก็พบเสื้อโค๊ท อีกตัวหนึ่ง

ส่วน ยูจิน เดินไปที่โต๊ะ ซึ่งมีลังกระดาษเก็บของ ของ จุนซาง วางอยู่
ยูจิน เปิดผากล่อง ก้มลงมอง แล้ว ก็หยิบ ป้ายนักเรียน ชื่อ คัง จุนซาง ขึ้นมาดู แล้ว ก็ยิ้ม
ยูจินได้สัมผัส กลิ่นอาย ของ จุนซาง จุนซาง ยังคงหายใจอยู่ ยังมีชีวิตอยู่
ป้ายชื่อนี้ทำให้ ยูจิน รู้สึกว่า เป็น จุนซาง จริง ๆด้วย ยูจินไม่เคยสงสัยในตัว จุนซาง
แต่ชั่วขณะที่เห็นป้ายชื่อของ จุนซาง ยูจินกลับรู้สึกว่า ใช่ จุนซางจริงๆ ด้วย

ส่วน จุนซาง ในห้องเก็บของ หลับตาลง ดีใจ และ ลุ้น กับ ตัวเองเต็มที่
เมื่อลืมตาขึ้น จุนซาง ก็ค่อยๆ เอามือ สอดเข้าไปในกระเป๋าเสื้อโค๊ท
มือของ จุนซาง สัมผัส สิ่งของบางอย่างในนั้น
จุนซาง ยิ้มเปิดโลกของตัวเองเลยเชียวละ จุนซาง ค่อย ๆ ดึง สิ่งของนั้น ออกจากกระเป๋าเสื้อ

ยูจิน พบจดหมาย ที่เคยเขียนถึง จุนซาง ยูจิน อ่านจดหมายนั้น นี่คือลายมือของ ยูจิน เอง จริงๆด้วย
แล้วก็ได้ยินเสียงที่หน้าประตู เมื่อหันไปมอง ก็พบ จุนซาง เดินเข้ามา
สองมือไขว้ไว้ข้างหลัง หน้าตา เหมือนดอกไม้ได้น้ำค้าง


ยูจิน : เจอแล้วเหรอ
จุนซาง พยักหน้าตอบ
ยูจิน : ไหนล่ะ
จุนซาง ค่อย ๆ ยื่นมือซ้ายออกมา มี ถุงมือ สีชมพู ของ ยูจิน ในมือของ จุนซาง
ยูจิน ทั้งดีใจ ทั้งตื้นตันใจ น้ำตาคลอ : จุนซาง
จุนซาง ใส่ถุงมือทั้งสองข้าง แล้ว ยกมือขึ้น ด้วยท่าทาง ที่เคยทำเมื่อ สิบปีก่อน

วันนั้น วันสุดท้ายของเดือนธันวาคม จุนซาง จะเอาถุงมือมาคืนให้ ยูจิน
เรื่องที่ควรจะได้เกิดในวันนั้นเมื่อ สิบปีก่อน ได้มาเกิดในวันนี้
ช่างเป็นเรื่องน่าซาบซึ้งใจ
ในใจ จุนซาง มีคำพูดอยู่มากมาย แต่กลับไม่รู้จะพูดอะไร
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่เพียงความฝันอันล่องลอยอยู่ในอากาศปลายฤดูหนาว อีกต่อไป

ยูจิน และ จุนซาง ไปที่ตลาดในเมือง และไปยืนที่ใต้ต้นคริสตมาส
ยูจิน แหงนหน้าขึ้น แล้ว ถาม จุนซาง ว่า : รู้มั๊ยว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหนกัน
จุนซาง : ขอโทษนะ
ยูจิน : ไม่เป็นไรหรอก มันจะกลับมาทีละอย่าง ฉัน รู้สึกเหมือนได้ของขวัญ ทุกๆ ครั้ง ที่เธอนึกออก
วันนี้เราไปกันมาหลายที่ เธอเหนื่อยรึยัง เอากาแฟซักถ้วยมั๊ย
จุนซาง : ก็ดี
ยูจิน : งั้นเดี๋ยว ฉันมานะ
จุนซาง มอง ยูจิน ที่เดินออกไป

สักครู่ ก็ มีหิมะ ค่อยๆ โปรย ปรายลงมา
จุนซาง แหงนใบหน้า มอง ละอองหิมะ ที่ลอยละล่องปลิวลงมาจากท้องฟ้า
จุนซาง ยิ้มรับกับหิมะ ยกมือรอรับเกล็ดหิมะ แล้วเหมือนมีบางอย่างวาบขึ้นในความทรงจำ

จุนซาง เห็นภาพ จุนซาง และ ยูจิน เมื่อ สิบปีที่แล้ว เคย เดินคุยหยอกล้อกัน อยู่ ใกล้ๆ บริเวณนี้
จุนซาง ถาม ยูจิน ว่า : เธอชอบสัตว์อะไรเหรอ
ยูจิน : ลูกหมา แล้ว เธอล่ะ
จุนซาง : ฉันชอบคน
ยูจิน : คนเหรอ ใครล่ะ
จุนซาง : ไว้ 31 ธันวา เจอกันนะ แล้วฉันจะบอก


ยูจิน เดินออกมาจากร้าน ในมือ ถือกาแฟกระป๋อง แหงนเงย มองดู หิมะ ที่โปรยลงมา เช่นกัน
แล้ว ยูจิน ก็เดิน เขย่า กระป๋อง กาแฟ เข้ามาหา จุนซาง
หยุดยืน ข้างหลังของ จุนซาง แล้วขยับเดินเข้าไปใกล้ เอ่ยเรียก : จุนซาง
จุนซาง ค่อยๆ หันมาตามเสียงเรียก

ยูจิน เรียก ซ้ำ : จุนซาง
ยูจิน เข้าใจความรู้สึกของ จุนซาง ทันที ว่า มีบางอย่างเกิดขึ้น
จุนซาง ก้าวเดินไปหา ยูจิน น้ำตาคลอในดวงตา : เราเคยนัดกันไว้ที่นี่ใช่มั๊ย
ยูจิน มอง จุนซาง นิ่ง รอคำพูดต่อไปของจุนซาง
จุนซาง : วันที่ 31 ธันวาคม ใช่มั๊ย
จุนซาง : อา …ผม จำได้แล้ว... เรื่องที่ผมอยากจะบอกคุณ
จุนซาง จ้องมอง ยูจิน ยูจิน ก็จ้องมอง จุนซาง
จุนซาง ค่อยๆ พูด อย่างช้าๆ : ยูจิน ผมรักคุณ...

Scene-15: Journey to the past

Recover memory:

Jun-sang : I need your help. ... Will you lend me your memory? Let's go to Choonchun. You can tell me what we used to do and talk about. I might be able to remember better that way. ... I just suddenly have an urge to remember everything. Let's go.
Yoo-jin : We used to sit here together all the time. I sat here, and you sat there.
Yoo-jin : I stepped on your back and climbed over the wall here once. Do you remember that?
Jun-sang : I'm not sure.
Yoo-jin : Bend over. Let's try it. You might remember if we try it. Come on. Bend over.
Jun-sang : Like this?
Yoo-jin : No, a bit more.
Jun-sang : Were you this heavy then, too?

At the bench:

Jun-sang : I wonder what we did here. What did we do here?
Yoo-jin : Guess. What do you think we did here?
Jun-sang : Did we eat here?
Yoo-jin : Nope.
Jun-sang : Then ... I don't know. What did we do?
Yoo-jin : We made snowmen. We made one each.
Jun-sang : Jun-sang snowman and Yoo-jin snowman?
Yoo-jin : You made our snowmen kiss each other.
Jun-sang : I made them kiss each other? Didn't we kiss?
Yoo-jin : Us?
Jun-sang : We kissed, too, huh? How did we kiss? Come here. How did we kiss? Like this? Like ... It wasn't like this, huh? I really can't remember anything. I'm sorry.

Jun-sang in the past:

Jun-sang : I couldn't remember a thing but you never forget me for 10 whole years. There's nothing that I've done for you.
Yoo-jin : Jun-sang, You want to remember because of me, right? That's why you asked to come here, right? I thought that would be the reason.
Jun-sang : No, that's not it. I want to remember, too. I want to become the real Kang Jun-sang for you.
Yoo-jin : Do you remember what you told me when you were Lee Min-hyung? You asked me why I just remembered the sad memories despite there being so many beautiful memories. You asked me that. I think you were right. It's so beautiful here. But why are we just trying to go back to the past? Past memories are important but we'll be making so many memories together in the future. Let's not try to remember the past. You are you. It's OK for me even if you don't remember. I don't love the Jun-sang in my memory. I love the person standing in front of me now.

December 31 after a decade:

Yoo-jin : Do you remember where we are?
Jun-sang : I'm sorry.
Yoo-jin : It's OK. It'll come back to you one by one. It'll feel like a present every time you remember. We went to too many places today. You're tired, huh? Shall we have a cup of coffee? I'll get It. ...
Yoo-jin : Jun-sang ... Jun-sang?
Jun-sang : We were supposed to meet here, right? On the 31st of December. I remember. What I wanted to say to you. Yoo-jin ... I love you.


30.5.09

If Mr.Bae yong joon look like Pharaoh...!




If Mr.Bae yong joon look like Pharaoh...!

When I see him I think of Pharaoh

in "Daughter of the Nile" or "王家の紋章" Comic.

เวลาผมมองหน้าพี่เบยองจุนทีไร ผมก็จะคิดถึงฟาโรห์เมมฟิสเกือบทุกครั้งเลยครับ

เพราะว่าเขามีเสน่ห์เหมือนกัน คิดดูสิครับตอนนี้ฟาโรห์เมมฟิส

น่าจะมีอายุเท่ากับพี่เบยองจุนเขานะครับ

เพราะพอผมอ่านหนังสือออก ผมก็รู้จักฟาโรห์แล้ว ฮาๆๆๆๆๆ







Alternative title: Daughter of the Nile
The Crest of the Royal Family
王家の紋章 (Japanese)
Genres: romance
Themes: Historical

Plot Summary:
Carol is a rich American girl that love old Egyptian history. While in Egypt studying she find out an old mummy and get caught in a curse that brings tragedy to her family and makes her come back in time. In old Egypt she gets involved with the young, cruel and handsome faraoh Menphis and a great deal of intrigues and adventures in the royal palace and the internacional conflicts of the time.
The manga's lead character Carol is an eager archeology student taking a study trip in Egypt. Isis, the high priestess of ancient Egypt invokes a curse on Carol that flings her back in time every time she falls into the Nile, back to when Memphis ruled the land. In the past, Carol meets the often cruel but handsome and charismatic Pharaoh Memphis, she becomes intertwined with the history of that time, shaping the way conflicts are played out, becoming a national treasure of Egypt and Memphis' as she is hailed by the ancients as the daughter of the Nile Goddess.



왕가의 문장

《왕가의 문장》(王家の紋章 오케노 몬쇼[*])은 호소카와 치에코와 후민이 창작한 만화이다. 아키타 쇼텐의 소녀 만화 잡지 《프린세스》에 1976년부터 현재까지 연재되고 있다. 단행본은 52권까지 나왔다. 제36회 쇼가쿠칸 만화상을 수상하였다.

대한민국에서는 1981년에 내용을 도용한 《나일강의 소녀》라는 소설로 소개되었고, 《나일강이여 영원히》란 제목으로 해적판 만화가 출판되었다. 《신의 아들 람세스》 또는 《태양의 아들 람세스》라는 제목으로도 해적판 만화가 나온 적이 있다



คำสาปฟาโรห์

คำสาปฟาโรห์ (「王家の紋章」, Ouke no Monshou, 王家の紋章?) (อังกฤษ: Daughter of the Nile) แปลมาจาก การ์ตูนญี่ปุ่น ของ จิเอโกะ โฮโซคาวะ เป็นการ์ตูนอิงประวัติศาสตร์ของอียิปต์โบราณ โดยใช้ แครอล เป็นตัวถ่ายทอด เธอได้ตกลงไปในห้วงอดีต 3000 ปีก่อนคริสต์ศักราช โดยไอซิส จนพบกับ เมมฟิส ฟาโรห์แห่งอียิปต์ในยุคนั้น

แครอล นักศึกษาชาวอเมริกัน ผมทอง ผิวขาว นัยน์ตาสีฟ้า ชื่นชอบอียิปต์โบราณและอารยธรรมแห่งลุ่มแม่น้ำไนล์ พ่อของเธอออกทุนในการค้นคว้าเกี่ยวกับสุสานฟาโรห์แห่งอียิปต์ โดยมีพี่ชายรอย และไรอัน(เมมฟิสกลับชาติมาเกิด ซึ่งจะรู้ในภาคที่5) ศาสตราจารย์ รวมทั้งเพื่อนชายคนรักของเธอ จิมมี่ รวมอยู่ในทีมสำรวจด้วย ทีมสำรวจค้นพบสุสานฟาโรห์เมมฟิส ภายหลัง ศพและของใช้ถูกขโมยไป แครอลทำป้ายดินเหนียวสะกดวิญญาณแตก เจ้าหญิงไอซิส พี่สาวเมมฟิส จึงฟื้นคืนชีพ ด้วยความแค้น เนื่องจากมีคนมายุ่งกับสุสานน้องชาย เธอจึงฆ่าพ่อของแครอลด้วยงูเห่า และพาเอาแครอล ผู้ซึ่งเป็นที่รักทุก ๆ คนกลับไปสู่โลกของอดีต

ย้อนอดีตกลับไปเมื่อ 3,000 ปีที่แล้ว ภายใต้การปกครองของฟาโรห์เมมฟิส ฟาโรห์เมมฟิส เป็นชายหนุ่มผมดำยาว ใบหน้าคมสันงดงาม รูปหล่อ แต่ดุร้าย และน่ากลัว มีทหารเอกคนสำคัญ ชื่อมินูเอล ไอซิสหลงรักน้องชายตนเอง หวังจะอภิเษกสมรสด้วย รวมทั้งเจ้าหญิงมิดามอน แห่งเมืองฮิปไทท์ (เพื่อนบ้านอียิปต์) เธอหลงรักเมมฟิสและอยากแต่งงานด้วยเช่นกัน ส่วนแครอล หลังจากเธอถูกนำตัวมาสู่อดีต ก็สลบอยู่ที่กอต้นปาปิรุสริมฝั่งแม่น้ำไนล์ ทาสชื่อโซชีช่วยเหลือและพามาอยู่กับแม่ ทุกๆวันจะต้องไปทำงานสร้างสุสาน แครอลต้องเอาโคลนทาตัวเพื่อปิดบังผิวพรรณที่ขาวผุดผ่อง และคลุมผ้าเพื่อซ่อนผมสีทองเสีย มีอยู่วันนึง แครอลออกมากลางดึก พบเมมฟิสเข้า เมมฟิสนำตัวแครอลมา โดยเห็นว่าเป็นของเล่นที่แปลกตา เขารักและหวงแหนเธอยิ่งนัก ไอซิสตกใจ ทำไมแครอลถึงยังไม่ตาย

ไอซิสขังเจ้าหญิงมิดามอน และฆ่าทิ้งในภายหลังโดยการเผาทั้งเป็น สร้างความโกรธแค้นให้แก่กษัตริย์ฮิปไทท์ และเจ้าชายอิสมิล พี่ชายเป็นอย่างมาก เจ้าชายอิสมิลวางแผนฆ่าฟาโรห์เมมฟิสด้วยการปล่อยงูเห่าให้กัดฟาโรห์จนเกือบตาย แครอลช่วยชีวิตเอาไว้และคอยดูแล เมมฟิสจึงรู้สึกดีกับแครอลมาก ประกาศจะอภิเษกสมรสกับเธอ แต่แครอลดื้อดึง และขัดใจเมมฟิสอยู่เรื่อย เขาจึงส่งแครอลไปทำงานกลางทะเลทราย โดยให้อุนัส ทหารรับใช้ คอยติดตามดูแลเธอ ที่นั่นแครอลทำประโยชน์ไว้มากมาย เธอสามารถทำให้น้ำที่มีแต่โคลนตมสะอาด ด้วยวิธีการกรองน้ำ (ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาในศ.ต.ที่ 21) เธอรักษาคนที่ไม่สบายให้หาย และรู้วิธีตีดาบ รู้ประวัติและเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น จนอุปราชอิมูโฮเทป ประหลาดใจยิ่ง ราษฎรรักและเคารพแครอลเป็นอย่างมาก พวกเขายกย่องเธอให้เป็นธิดาแห่งไนล์ เธอเป็นที่รักใคร่และต้องการของชาวอียิปต์ สร้างความพอใจแก่เมมฟิสเป็นอย่างมาก

ชื่อเสียงเรียงนามของ ธิดาแห่งไนล์ ดังไปทั่วราชอาณาจักร เจ้าชายอิสมิล ซึ่งโกรธแค้นเมมฟิสเรื่องเจ้าหญิงมิดามอน ลักพาตัวแครอลไป โดยมีลูคา คนของอิสมิล คอยรับใช้ และดูแลแครอลด้วย เจ้าชายอิสมิลตกหลุมรักแครอล จึงเกิดสงครามครั้งใหญ่ขึ้น ระหว่างเมืองอียิปต์ กับ เมืองฮิปไทท์ อีกทั้งยังมีเจ้าชายอารูกอน แห่งเมืองอัสซีเรีย ผู้รักสนุก เจ้าชู้ และบ้าผู้หญิง หมายจะชิงแครอลด้วยเช่นกัน ภายหลังต่อสู้กับเมมฟิสจนพ่ายแพ้และโดนตัดแขน และยังมีจามรี หญิงสาวที่สวยที่สุดในอัสซีเรีย หลังจากอารูกอนเมินเธอ เพราะแครอล เธอจึงวางแผนจะได้ครอบครองเมมฟิส แต่ก็ไม่สำเร็จ เจ้าชายราคัช แห่งเมืองบาบิโลน วางแผนชิงตัวแครอลเช่นกัน จึงเข้ามาตีสนิทเจ้าหญิงไอซิส เจ้าหญิงแห่งเมืองลิเบีย รักและเข้าใกล้เมมฟิส เธอสะกดเมมฟิสไว้ เพื่อหวังให้แครอลตัดใจจากเมมฟิส แต่ไม่สำเร็จเพราะเธอถูกเมมฟิสเมินใส่ และแครอลก็แท้งลูกของเธอและเมมฟิสเพราะไอซิสที่ผลักแครอลตกลงในทะเลแห่งความตาย เมื่อแครอลสามารถกลับไปหาเมมฟิสได้แล้ว แต่ไม่นานเธอก็ต้องไปเมืองมิโนอา เพื่อไปช่วยเจ้าชายที่กำลังป่วยหนักด้วยสัญญาบางประการที่ทหารองครักษ์ได้ให้สัญญาไว้เพื่อช่วยแครอล

เมื่อแครอลไปถึงมิโนอาแล้วได้ช่วยเจ้าชายแห่งเมืองมิโนอา เจ้าชายมิโนอาได้หลงรักเธอเข้าแล้วจึงได้พยายามรั้งเธอให้อยู่ที่มิโนอานานๆ



王家の紋章[Ouke no Monshou]

秋田書店発行・月刊『プリンセス』1976年10月号より連載開始、2008年2月現在、第29部進行中、単行本は53巻まで刊行。文庫本は14巻まで刊行。

第36回(平成2年度)小学館漫画賞受賞。

現代と古代、エジプトを舞台とする 3000年の時を経た恋と歴史ロマンの物語。

本作品を長年にわたり掲載してきた月刊プリンセスは2005年新年特大号にて創刊30周年を迎え、また2006年9月6日発売の10月号で本作品は連載30周年を迎えた。それらを記念して、プリンセス誌では付録を付けるなどの様々な催しが行われた。

アメリカ人で16歳の娘、キャロルはエジプトに留学中で熱心に考古学を学んでいる。彼女は下エジプトの女王であり神殿の祭祀でもあるアイシスの呪術により、古代エジプトにタイムスリップしてしまう。

古代エジプトでのキャロルは、金髪碧眼に白い肌の容姿と21世紀[1]の人間としての知識や考古学の知識が古代エジプトの人々の耳目を集め、尊い予言を語る「ナイルの娘」「黄金の姫」と謳われあがめられるようになる。古代エジプトの若き王メンフィスに見初められ、やがて2人は愛し合うようになるが、キャロルの存在を憎むアイシス一派や、現代人の英知と可憐な容姿を兼ね備えたキャロルの奪取を狙う諸国の王族が2人の間に立ちふさがり、数々の危機に直面する……。