24.10.10

Hongdae Area / 홍대앞



หลังจากการถ่ายทำ “Mary Stayed Out All Night” เริ่มต้นขึ้น จางกึนซ็อกก็ต้อง (ย้ายหุ่นแห้งๆ ) ไปวนเวียนอยู่แถวย่านฮงแด ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำหลักของละครเรื่องนี้ หลายคนคงสงสัยว่า “ฮงแด” มันเป็นสถานที่แบบไหน และทำไมกองถ่ายถึงต้องเลือกที่นี่เป็นโลเคชั่น งั้นมาทำความรู้จัก “ฮงแด” กันสักนิดค่ะ...




Hongdae is an abbreviation of Hongik Daehakgyo, Hongik University (홍익대학교). The area is home to hundreds of bars, restaurants, boutiques and nightclubs and draws revelers from a wide range of backgrounds, especially university students, English teachers, and tourists. Most bars are open long into the night to allow patrons to return home by subway at 6am.

The last Friday of each month in Hongdae is "Club Day", a wristband-powered event which allows entry to more than a dozen clubs for the price of one. Revellers can expect long lines at popular clubs. "Sound Day" is the independent music version of "Club Day" that happens on the 2nd Friday. Every Saturday (except in winter) flea markets are held on the playground, close to the university. The flea markets care called the "Hope" and "Free" market. It's a fledgling craft market of things made by students and recent graduates. Saturday and Sunday offer different wares made by the students. Hongik University mainly being an art school. It's a great place to get some cheap art from up and coming artists in Korea.

Hongik University, usually known as "Hongdae" for short, is a private university in central Seoul, South Korea with a second campus in Jochiwon, Chungcheongnam-do. Hongik University offers a comprehensive range of undergraduate and graduate programs. The school is best known for its faculty of Fine Arts, arguably the most famed school of Fine Arts and Design in the country. As of 2007, 14,500 undergraduate students and 2,600 graduate students were enrolled at the university. The university serves as a metonym for the Hongdae area.




ฮงแด เป็นชื่อเรียกสั้นๆ ของ “ฮงอิก แดฮักเกียว” หรือมหาวิทยาลัยฮงอิก ในย่านนี้เป็นที่ตั้งของบาร์ ร้านอาหาร บูติค และไนต์คลับ มีผู้คนมากมายหลั่งไหลมายังสถานที่แห่งนี้ ทั้งนักศึกษา ครูต่างชาติ และนักท่องเที่ยว บาร์ส่วนใหญ่จะเปิดกันตลอดคืนยันเช้าเพื่อให้ลูกค้าสามารถขึ้นรถไฟใต้ดินกลับบ้านได้ในเวลา 6 โมงเช้า (มิน่าล่อกันยันเช้าตลอดๆๆๆ)

ในวันศุกร์สุดท้ายของแต่ละเดือน ที่ฮงแดจะมี “คลับเดย์” ลูกค้าที่สวมสายรัดข้อมือจะสามารถเข้าคลับโน้นออกคลับนี้กันได้ตลอดทั้งคืนโดยจ่ายค่าบริการครั้งเดียว (อันนี้เป็นวัฒนธรรมของเกาหลีเขานะคะ ไม่มีการใช้บัตร ให้สายรัดข้อมือกันเลย เส้นเดียวจบ ใครที่เคยไป Lounge-H มาแล้วคงคุ้นเคยกันดีกับวิธีการแบบนี้) ตั๋วมูลค่า 15,000 วอน สำหรับผ่านประตูคลับ 11 แห่ง และรับเครื่องดื่มฟรี 1 ที่ นั้นเป็นที่ปรารถนา ของผู้ที่รักการเต้นรำและเสียงเพลงเป็นชีวิตจิตใจ หนุ่มสาวจากทั่วทุกมุมโลกต่างก็รอคอยงานนี้ คลับที่ร่วมงานนี้ทั้ง 11 แห่ง ได้แก่ M.I SK@, DD, MWG, NB, MATMATA, Hooper, SAAB, Hodge Podge, Joker Red และ Old Rock

“ซาวด์เดย์” เป็นดนตรีแนวอินดี้ตามแบบฉบับ “คลับเดย์” ที่จะมีให้ชมกันทุกวันศุกร์ที่ 2 ของเดือน และทุกวันเสาร์ (ยกเว้นหน้าหนาว) จะมีตลาดนัด ตลาดนัดที่ว่าจะมีพวกงานฝีมือที่ทำโดยนักศึกษามาวางขาย มหาวิทยาลัยฮงอิกเป็นสถาบันที่เน้นด้านศิลปะที่มีชื่อเสียง และบริเวณนี้ก็เป็นบริเวณซึ่งหนุ่มสาวสมัยใหม่ของเกาหลีมักจะมาเที่ยวกัน บรรดาชาวร็อค เทคโน ฮิปฮอป พวกคลั่งแจ๊ส จะมารวมตัวกันที่ภัตตาคาร คาเฟ่ หรือบาร์หรูหรา และเสริมให้บรรยากาศคึกคักไปทั่วบริเวณ




ร้านนี้ชอบมากเป็นพิเศษค่ะ...Hello Kitty Cafe...ชมพู๊ ชมพู ได้ใจจริงๆๆๆ


มหาวิทยาลัยฮงอิก เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนในกรุงโซล รู้จักกันดีในฐานะมหาวิทยาลัยศิลปะ (เหมือนศิลปากรบ้านเราเลยล่ะค่ะ ที่จริงชื่อเดิมของ ม.ศิลปากรของเราก็คือ University of Fine Arts เดิมทีมีเพียงคณะจิตรกรรม ภาพพิมพ์ และภาพไทย เพียงคณะเดียว และถือเป็นคณะแรกของม.ศิลปากรค่ะ เป็นมหาวิทยาลัยที่มีเพลงประจำมหาวิทยาลัยเป็นเพลงอิตาเลี่ยน...เท่ห์ซะ...Santa Lucia…เพราะผู้ก่อตั้งคือ อ.ศิลป์ พีระศรี ท่านเป็นชาวอิตาเลี่ยนค่ะ)

ดูบรรยากาศแล้วทำให้นึกถึง “หน้าพระลาน” หรือมหาวิทยาลัยศิลปากรของเราค่ะ ถึงแม้จะไม่ใหญ่โตเท่ากับของเขา แต่ก็มีบรรยากาศคล้ายๆ กัน พอได้มารู้จักที่มาที่ไปของ “ฮงแด” แล้ว คุณคงเข้าใจแล้วว่าทำไมทีมงานถึงเลือกที่นี่เป็นสถานที่ถ่ายทำหลัก เพราะมันช่างเข้ากั๊น เข้ากัน กับแคแรคเตอร์ของคังมูกยุล พระเอก (ตัวแสบ) ของละครเรื่องนี้ค่ะ แต่ว่า...ถ้าให้ซ็อกอยู่แถวนั้นนานๆ เกรงว่าอาการ “ติสท์แตก” ของมันจะยิ่งกำเริบเสิบสาน (โดยปกติก็มีเยอะอยู่แล้ว) คราวนี้ไม่รู้ว่าจะใช้ยาอะไรมารักษากันเลยล่ะค่ะ...

สำหรับทริปปีใหม่นี้ หากเวลาและสภาพอากาศเอื้ออำนวย (คือหิมะไม่ตกหนักจนเกินไป) เราจะไปตะลุยย่านฮงแดกันค่ะ...




และสำหรับทริปที่กำลังจะไปตอนสิ้นเดือนนี้ เราจะไปแถว “ซินชน” กันค่ะ...

ซินชน คือบริเวณที่ตั้งของมหาวิทยาลัยใหญ่ทั้งสาม อันได้แก่ มหาวิทยาลัยยอนเซ มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา และมหาวิทยาลัยโซกัง ที่นี่มีร้านค้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านขนม ร้านเสริมสวย ร้านเสื้อผ้า เครื่องประดับและสินค้าแฟชั่นอื่น ๆ โรงละครสำหรับการแสดงสด แจ๊สคาเฟ่ ร็อคคาเฟ่ และไนท์คลับ รวมทั้งห้างสรรพสินค้า และศูนย์การค้าต่าง ๆ เป็นแหล่งของนักศึกษามหาวิทยาลัย หรือใคร ๆ ก็ตามที่รู้สึกว่าตัวเองยังเป็นหนุ่มสาว

ถนนสายแฟชั่น" จะเริ่มจากประตูใหญ่ของมหาวิทยาสตรีอีฮวา และไปจนสถานีมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา และต่อเนื่องไปถึงสถานีรถไฟซินชน บนถนนตลอดทั้งสายจะเต็มไปด้วยร้านเสื้อผ้าจำนวนมากมาย อันเป็นที่มาของชื่อ "ถนนสายแฟชั่น" มีทั้งร้านขายเสื้อผ้าแบรนด์เนม ร้านขายเสื้อผ้ามือสอง ร้านเครื่องประดับ และร้านรองเท้า ข้าวของราคาไม่แพงมาก และมีรูปแบบเข้ากับสมัยนิยมของชาวเกาหลี ที่นี่เป็นที่นิยมมากในหมู่วัยรุ่นกรุงโซล (ช้อปกระจาย)...



[Special Thanks to http://www.kto.or.th / Wikipedia.org ]

No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.