บนภูเขาที่สกีรีสอร์ต
เกิดพายุหิมะ พัดกระหน่ำ รุนแรง เสียงลมหวีดหวิว เกร็ดหิมะ ปลิวว่อนไปทั่วบริเวณ มองดูน่าหวาดหวั่น
นับแต่วันนี้ไป สายลมหนาว ของ ยูจิน เปลี่ยนแปลงไปเสียแล้ว เกร็ดหิมะ ได้นำพา บางสิ่งมาให้ ยูจิน
ในท่ามกลางสายลมหนาวคราวนี้ ยูจิน มี ลี มินฮุง เป็นเสมือนดั่ง สายลมที่อบอุ่น อ่อนหวาน ละมุนละไม โบกพัดพลิ้วในหัวใจ เป็น สายลมรัก
ความจริงแล้วสายลมรัก นี้ ก็คือ ลมหวน ที่ทวนย้อนมา จากอดีตที่ฝังอยู่ใต้จิตสำนึก ที่ หาต้นไม่ได้ หาปลายไม่พบ ของ ลี มินฮุง
สายลมรัก ของ ยูจิน
สายลมหวน ของ มินฮุง
Episode– 7 ลมรัก--ลมหวน
ยูจิน ถูกนำส่งโรงพยาบาล มินฮุง และจุงอา ตามไปที่โรงพยาบาล มินฮุง อยากตาม ยูจิน ที่นอนสลบอยู่บนเตียง เข้าไป ห้องฉุกเฉิน แต่ พยาบาล บอกว่า ต้องเป็น ญาติคนเจ็บ มินฮุง ได้แต่ ยืนคอยข้างนอก ด้วยความกระวนกระวายใจ ร้อนใจเป็นที่สุด
ซังฮวก มารอ ยูจิน อยู่ที่ห้องนานแล้ว และอยากกินอาหารกลางวันกับ ยูจิน ก่อนที่จะกลับกรุงโซล
แต่จนแล้วจนรอด ยูจิน ก็ยังไม่กลับมา เมื่อเสียงกริ่งดังขึ้น ซังฮวก ไปเปิดประตูด้วยความดีใจ
( โถ.. รอกินข้าว กับสาวเจ้า ยูจิน ) แต่คนที่ยืนอยู่หน้าห้องกลายเป็น แชรีน ที่มีท่าทางร้อนใจ เพราะหา มินฮุง ไม่เจอ พอดีกับที่ มินฮุง โทรศัพท์มาบอกข่าว ยูจิน กับซังฮวก
เมื่อไปถึงโรงพยาบาล
มินฮุง : ผมขอโทษ ยูจิน ยังไม่ฟื้นเลย มันเป็นความผิดของผมเอง
ซังฮวก รู้สึกโกรธจัด และ เหมือน คนขาดสติ ปราดเข้าไปคว้าคอเสื้อ มินฮุง เขย่า: ยูจิน ต้องบาดเจ็บก็เพราะนาย
จุงอา และ แชรีน ช่วยกันดึง ซังฮวก ออกมา และช่วยกัน ห้ามปราม ซังฮวก ให้ปล่อยมินฮุง และอย่าโมโห มินฮุง
มินฮุง หลับตาลง ปล่อยให้ ซังฮวก เขย่า ตนเองไปมา พอดี พยาบาล ออกมาถามหาญาติของคนป่วย ซังฮวก ปล่อย คอเสื้อของ มินฮุง และก้าวออกไป พูดเสียงดังเหมือนจะประกาศ เตือน มินฮุง ว่า ตนเองเป็นคู่หมั้น แล้วเดินตามพยาบาล เข้าไปข้างใน
มินฮุง จ้องมองตามหลัง ซังฮวก สีหน้ากังวลปนอยาก จนยากจะเข้าใจ
( ทำหน้าแบบนั้น จะสื่ออะไรกับพวกเราหนอ อยากเป็นคนเข้าไปดูเองใช่ไหม อยากเป็นคนแรก ที่ ยูจิน ลืมตา แล้วมองเห็น มินฮุง ก่อนคนอื่นหรือเปล่า ? )
แชรีน และจุงอา พยามปลอบใจ มินฮุง ว่า : เป็นไรไหม อย่าโกรธ ซังฮวก เลย
มินฮุง ฝืนยิ้มแบบฝืดๆ : ผมไม่เป็นไร
แชรีน ยังบ่นว่า วันนี้ ซังฮวก เป็นอะไรไป
มินฮุง : ผมจะออกไปรอข้างนอก แชรีน ตามมินฮุงออกไป
จุงอา ตาม เข้าไปอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ ซังฮวก เข้าใจ ว่า : มินฮุง ก็รู้สึกแย่ เพราะ ยูจิน ต้องมาบาดเจ็บแทนเขา เธอ ยิ่งทำให้เขาแย่เข้าไปใหญ่
ซังฮวก : เธอหมายความว่ายังไง
จุงอา : ยูจิน เข้าไปผลักเขา เลยโดนไม้ล้มทับ โชคดีนะ ที่กระดูกไม่หัก ฉันว่าโชคดีแล้วหละ
ซังฮวก ยิ่งอารมณ์ ปะทุขึ้นอีก หันไปมอง ยูจิน ใบหน้าแดงจัด
ยูจิน ฟื้นขึ้นมา ใจก็ห่วงหา มินฮุง ทันที : แล้วเขาล่ะ เขาเป็นอะไรหรือเปล่า
ซังฮวก ดวงตาไหววูบ
จุงอา : เขาไม่เป็นไร ซังฮวก ก็มานะ ซังฮวก เป็นห่วงเธอมากเลย
ซังฮวก พยายามระงับอารมณ์ ยูจิน เอ่ย เรียก : ซังฮวก
ซังฮวก ทำหน้าจะบึ้งก็ไม่ไม่ใช่ จะยิ้ม ก็ไม่เชิง
มินฮุง ยืนที่ระเบียงข้างนอก ท้าวแขนเกาะระเบียง ก้มหน้า มองพื้น กังวลใจกับอาการของ ยูจิน ที่ตั้งแต่เข้าโรงพยาบาลมา มินฮุง ยังไม่ได้เห็น ยูจิน เลย
แชรีน เรียก : มินฮุง
มินฮุง ยืดตัวขึ้น แชรีน พูดต่อ : ตอนนี้ ยูจิน ก็ฟื้นแล้ว เรากลับกันเถอะ
มินฮุง ที่ยังคงกังวลเพิ่มความเฉยชาเมื่อมองหน้า แชรีน จน แชรีน ต้องหลบสายตา
และโดยไม่พูดอะไร มินฮุง เดินกลับเข้าในในตัวอาคาร
แชรีน : มินฮุง
แต่ มินฮุง ไม่สนใจ
แชรีน ได้แต่ก้าวตาม มินฮุง ไป ( คุณไปไหน ฉันขอไปด้วย)
จุงอา : ฉันไปละนะ เย็น ๆ ค่อยมาใหม่
มินฮุง และ แชรีน เข้ามาในห้องผู้ป่วย สายตา มินฮุง พุ่งไปที่ ยูจิน อย่างห่วงหาอาทร
แชรีน มอง ยูจิน ด้วยสายตาเย็นชา แต่พอเดินถึงตัว ยูจิน ก็เปลี่ยนเป็นทำท่ากระตือรือล้น ทำท่าห่วงใย : เธอ ดีขึ้นไหม เธอไม่เป็นไรใช่ไหม กดตัว ยูจิน ที่ทำท่าจะลุกขึ้น : เพิ่งจะฟื้น อย่าลุกขึ้นเลย กินอะไรหรือยัง อาหารโรงพยาบาลคงไม่อร่อย ฉันไปซื้ออะไรให้เอาไหม
ยูจิน : ฉันไม่เป็นอะไรมาก ไม่ต้องหรอก ไม่ต้องลำบาก
แชรีน : ฉันอยากทำให้เธอ ไม่ต้องมาห้ามหรอก เวลาป่วย ต้องกินอาหารดีๆ แล้วหันไปทางซังฮวก
ถามว่าคุณหมอว่าอย่างไร
ซังฮวก : อีก 2-3 วัน ก็คงจะหายดี
แชรีน หันไปทาง ยูจิน งั้นก็ค่อยยังชั่ว ดีใจจริงๆ ที่เธอไม่เป็นอะไร ฉันอยากขอบคุณที่ช่วย มินฮุงไว้ ฉัน ขอร้อง มินฮุง ให้ช่วยดูแลเธอ ซังฮวก หันไปทางมินฮุง แชรีนพูดต่อ: แต่ก็ไม่นึกเลยว่าเธอต้องมาบาดเจ็บ แทนเขา พูดกับยูจิน แต่ ตามอง มินฮุง
ซังฮวก : ในสถานการณ์ แบบนั้น ไม่ว่าเป็นใคร ยูจิน ก็ต้องช่วย
แชรีน : นั่นสิ ฉันก็ว่างั้น มินฮุง คะ ซังฮวก คงจะช๊อค เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ น่ะ ว่ามั๊ย
มินฮุง หันไปทาง ซังฮวก :ไม่รู้จะพูดอะไรดี ผมผิดเอง แล้วหันไปทางยูจิน : ขอโทษนะครับและก็ขอบคุณด้วย
ยูจิน : ไม่เป็นไรค่ะ
มินฮุง หันไปทาง ซังฮวก : ถ้าคุณอยู่เฝ้าที่นี่ไม่ได้ ผมจะจ้างพยาบาลพิเศษให้
ซังฮวก : ไม่ต้องลำบากหรอกครับ ขอบคุณที่มีน้ำใจ แต่ผมดูแลเขาได้
มินฮุง ทอดถอนใจเบา ๆ
แชรีน : เขาพูดถูกนะคะมินฮุง ซังฮวก ดูแล ยูจิน ได้ดี อยู่แล้ว เราให้ ยูจิน พักผ่อนดีกว่า
มินฮุง หันไปทาง ยูจิน : หายเร็วๆ นะครับ ก้มศีรษะ ลา ซังฮวก ซังฮวก หันไปมอง มินฮุง จนลับสายตา
ยูจิน เหลือบตามอง ซังฮวก แล้วก็ต้องหลบสายตา ซังฮวก ลง ซังฮวก ละสายตาจาก ยูจิน ตาม มินฮุงออกไป และบอก มินฮุง ในขณะปลีกตัวออกห่างจาก แชรีน ออกมา ว่า : ผมอยากขอโทษคุณ ที่ผมพูดเมื้อกี้นี้ และคุณก็ไม่ต้องรู้สึกผิดหรอกครับ ที่ ยูจิน ต้องเจ็บแทนคุณ
มินฮุง : หมายความว่าอย่างไร
ซังฮวก : เขาไม่ได้ตั้งใจช่วยคุณ แต่ช่วยคนอื่นต่างหาก
มินฮุง มอง ซังฮวก นิ่ง
ซังฮวก : ผมไม่อยากให้คุณ ต้องรู้สึกไม่สบายใจ เท่านี้แหละครับ
มินฮุง มอง ซังฮวก จนเข้าประตูไป
ที่ห้องพัก แชรีน ตาม มินฮุง เ ข้าไปในห้อง พยายามเอาอกเอาใจ : ฉันแขวนเสื้อ โค๊ทให้นะ
มินฮุง เดินต่อไปไม่สนใจแชรีน ที่ยังเดินตามไปพูดไป : ฉันอยากทำอะไรอร่อยๆให้คุณทาน แต่ไม่มีเวลาเลย มินฮุงเ ราไปกินข้าวข้างนอกกันเถอะ มื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง
มินฮุง เรียกเสียงเรียบ : แชรีน
แชรีน ขานรับแบบหวั่นๆ
มินฮุง หันมามองอย่างที่ไม่เคยใช้สายตาเช่นนี้กับ แชรีน มาก่อนเลย
( ทุกครั้ง มินฮุง หูตา แพราวพราว ล้อเล่น ไม่ก็ งอนง้อ หรือปลอบใจ ตามเหตุการณ์) น้ำสียงราบเรียบแต่สีหน้าบ่งบอกอารมณ์ภายใน และคำพูดที่มีความหมายคาดคั้น : ทำไมต้องโกหกผมด้วย
แชรีน เหมือนจะพูดไม่ออก : คุณพูดเรื่องอะไรคะ
มินฮุง เน้นเสียง : คัง จุนซาง ทีนี้คุณ Get หรือยังล่ะ
แชรีน : ปากสั่น พูดไม่ออก จริงๆเสียแล้ว
ส่วน ซังฮวก ที่ยืนข้างยูจิน ที่กำลังกินข้าว ถาม ยูจิน ว่า : เพราะจุนซางใช่ไหม
ยูจินชะงักช้อนที่กำลัง จะตักอาหารเข้าปาก
ซังฮวก : ฉันรู้ ... ไม่ว่าเป็นใครเธอก็คงช่วย แต่ฉันว่าเธอทำเพราะช่วย จุนซาง
ยูจิน เหลียวมาบอกว่า : ผู้ชายคนนั้น เขาไม่เกี่ยวอะไรกับ จุนซาง หรอกนะ ฉันแค่ไม่อยากให้เขาเจ็บดัว
ซังฮวก พยักหน้าน้อยๆ กับตัวเอง : งั้นฉันก็พูดถูกเกี่ยวกับเธอ ฉันก็แค่หวังว่า ..ฉันจะคิดผิดสักครั้ง ทำไมไม่บอกฉันว่า มันเป็นอุบัติเหตุ และเธอไม่ได้ทำเพื่อ จุนซาง บางทีฉันก็ไม่ชอบที่เธอพูดตรงๆ เธอจะบอกว่า เธอยังลืม จุนซาง ไม่ได้ ใช่มั๊ย
ยูจิน เงยใบหน้า ที่เศร้าสร้อย ทุกข์โศก
ซังฮวก : ฉันไม่อยากให้เธอนึกถึง จุนซาง เวลามอง มินฮุง และก็ ไม่อยากคิดว่าเธอยังนึกถึงเขา
ยูจิน : ถ้างั้น....จะให้ฉันทำยังไง ฉันเองก็อยากลืมมันให้หมด ถ้าฉันทำได้ อะไรที่มันเกี่ยวกับ จุนซาง ฉันอยากจะลืมมันไปซะให้หมด แต่ว่า....ถึงจะพยายามลืมแค่ไหน ตาของฉัน....ก็ยังจำ จุนซางได้ชัดเจน หัวใจฉัน.... ยังจำทุกอย่างที่ จุนซาง เคยพูด แล้วจะให้ฉันทำยังไง จะให้ฉันทำยังไง.... ซังฮวก ฉันควรจะทำยังไงดีล่ะ ยูจิน น้ำตาคลอ มอง ซังฮวก
(แบบขอความเห็นใจ และช่วยฉันหน่อยเถอะนะ ซังฮวก)
ซังฮวก รู้สึกเจ็บปวดใจเหลือเกิน ในขณะที่ ยูจิน พูด ได้แต่ตัดบท ว่า : แล้วค่อยคุยกันวันหลัง แล้วฉันจะกลับมาใหม่ เมื่อฉันเข้าใจแน่ชัดว่าเธอหมายถึงอะไร ( ความรู้สึกช้าอีกคนแล้วไง)
ยูจิน น้ำตาไหล มอง ซังฮวก อย่างท้อแท้ หมดหวัง เสียใจกับสิ่งที่ตัวเองทำให้ ซังฮวก เจ็บปวดขนาดนี้
แชรีน นั่งที่โชฟาคนละตัวกับ มินฮุง : ฉันยอมรับผิดว่าฉันโกหกคุณ แต่ว่า ยูจิน ไม่ได้รัก จุนซาง จริงจัง ยูจิน แกล้งทำเป็นรักเขา เพราะเขาเคยคบกับฉันมาก่อน
มินฮุง : ผมว่าไม่จริงหรอกนะ ยูจิน เขาร้องไห้ ตอนเจอผมครั้งแรก เขาพยายามจะหลบหน้าผมตลอดเวลา แต่ก็คอยแอบมองผม เมื่อวานก็บาดเจ็บเพราะช่วยผม ไม่มีใครที่จะทำแบบนั้นได้ ถ้าไม่ได้รักใครจริงๆ
แชรีน น้ำคลอ : แล้วไงคะ แล้วเป็นยังไงเหรอคะ จุนซาง ก็เป็น คนรักคนแรกของฉัน ฉันจะบอกได้ยังไง ว่าคุณเหมือนคนรักคนแรก คุณอาจคิดว่า ฉันชอบคุณ เพราะคุณหน้าเหมือนคนรักคนแรก
มินฮุง : แต่ยังงั้นก็เถอะ คุณก็ไม่ควรใส่ไฟเพื่อนคุณแบบนั้น และผมก็เชื่อที่คุณโกหก
แชรีน : ก็ฉันกลุ้มใจ ฉันกลัว ยูจิน จะแย่งคุณไปจากฉันอีก ( แล้วก็น้ำตาไหล)
มินอุง : แชรีน
แชรีน : ฉันทำก็เพราะฉันรักคุณ มินฮุง ฉันไม่อยากให้ใครแย่งคุณไปจากฉัน คุณไม่รู้เหรอ
มินฮุง ผิดหวังขึ้นไปอีก ส่ายหน้า แบบไม่อยากเชื่อว่า แชรีน จะทำเรื่องแบบนี้ได้
แชรีน เขยิบ เข้ามานั่งใกล้ มินฮุง เอื้อมมือไปจับมือ ของ มินฮุง ละล่ำละลัก พูดไปร้องไห้ไป
มินฮุง ฉันขอโทษจริงๆนะ ฉันขอโทษที่โกหกคุณ คุณอย่าโกรธฉันเลยนะ คุณ ก็รู้ว่า ฉันรู้สึกยังไงกับคุณ
มินฮุง ดึงมือ ออกจากมือแชรีน แบบไม่เหลือเยื่อใย
มินฮุง ฉันขอโทษจริงๆนะ ฉันขอโทษที่โกหกคุณ คุณอย่าโกรธฉันเลยนะ คุณ ก็รู้ว่า ฉันรู้สึกยังไงกับคุณ
มินฮุง ดึงมือ ออกจากมือแชรีน แบบไม่เหลือเยื่อใย
( คุณ มินฮุงคะ โหดร้าย จริงๆ แม้กับนางรอง ที่เคย ชอบพอกัน ถึงขั้นเป็นแฟนกันนะนี่)
และคำพูด ที่ยิ่งตัดรอนกว่าการกระทำ : เราห่างกันสักพักเถอะ
แชรีน คราง ปากคอสั่น : มินฮุง
มินฮุง : ขอผมอยู่คนเดียวได้มั๊ย
และคำพูด ที่ยิ่งตัดรอนกว่าการกระทำ : เราห่างกันสักพักเถอะ
แชรีน คราง ปากคอสั่น : มินฮุง
มินฮุง : ขอผมอยู่คนเดียวได้มั๊ย
มินฮุง ลงไปส่ง แชรีน ที่ลานจอดรถ แชรีน ยังอิดเอื้อน ปิดประตูรถ แล้วย้อนเดินมาหา มินฮุง เรียก : มินฮุง
แต่ มินฮุง กลับตอกย้ำว่า : ขอผมอยู่คนเดียวสักพักเถอะ ขอร้องล่ะ
แชรีน หมดปัญญาจะดื้อแพ่ง : เอางั้นก็ได้ แต่อย่าให้ฉันรอนานนักนะ
มินฮุง มอง แชรีน แล้วเบือนสายตาลงต่ำ ไม่ตอบคำ
แชรีน : ฉันขอโทษ
มินฮุง ได้แต่ยืนมอง แชรีน ไปขึ้นรถ
เมื่อกลับมาห้องพัก มินฮุงนั่งลงอย่างว้าวุ่นใจ เอื้อมหยิบบุหรี่ ล้วงกระป๋าเสื้อหาไฟแช๊ก.จากกระเป๋าเสื้อซ้าย .... ไม่มี... ย้ายไป ล้วงกระเป๋าขวา แต่สิ่งที่หยิบขึ้นมา คือไพ่ TAROT วงล้อแห่งโชคชะตาของ ยูจิน มินฮุง แว่วเสียง จุงอา ขึ้นมาอีกว่า นี่คือไพ่แห่งโชคชะตาของคุณ โชคชะตากำลังจะเข้ามาใกล้ตัวคุณ
มินฮุง นั่งในท่า หัวคิ้วผูกโบว์ และเป็นโบว์อันใหญ่ ในที่พัก
ยูจิน นั่งกอดเข่า เศร้ารันทด อยู่เดียวดาย บนเตียงคนไข้
วันกลับจากโรงพยาบาล ยูจินโทรศัพท์ถึง จุงอา ว่าไม่ต้องเป็นห่วง แล้วไปเจอกัน ที่ site งานก่อสร้าง
พอเปิดสมุดไดอารี่ หน้าแรกก็มีรูปภาพของ ยูจิน ถ่ายคู่กับ ซัง ฮวก ยูจิน หยิบขึ้นมาดูแล้ววางในสมุด ไดอารี่ หน้าเดิม
พอเปิดประตูห้องคนไข้ ยูจิน ก็พบช่อดอกไม้สดสวยรออยู่ พร้อมกับรอยยิ้มสว่างสดใส ของ มินฮุง และคำพูด จากใจจริงของ มินฮุง : ดีใจที่หายป่วยครับ
ในระหว่างขับรถ มินฮุง บอกว่า : นี่เป็นครั้งแรกที่ผมยืนรอใครพร้อมช่อดอกไม้
( เฮ้อเฮอ.. คุณมินอูง รู้จัก มีครั้งแรก เหมือน จุนซาง ยูจิน เลยนะ ยูจิน จะเชื่อไหมนี่ น่าจะจริง คนอย่าง มินฮุง ที่มีสาว ๆรุมล้อมมาตลอด รอแค่ให้ มินฮุง กวักมือเรียก เท่านั้น คุณ รำพรรณ เป็นคนบอกไว้ จึงไม่ต้องใช้ช่อดอกไม้เลยสักครั้ง)
ยูจิน เหลือบตามอง มินฮุง
มินฮุง : คุณคิมชอบเรียกผมว่า playboy อยู่เรื่อย แต่ผมเอาใจผู้หญิงไม่เก่งหรอก
( ขอค้าน... ครับผม ไม่จริ้ง..ไม่จริง แน่นอน)
ยูจิน ยิ้มนิด ๆ แต่ไม่พูดอะไร หันไปมอง มินฮุง แล้วก็ยังนั่งเงียบ
มินฮุง หักพวงมาลัยเลี้ยวรถ ไปจอด ที่พักริมทางจุดชมวิว
พอเปิดสมุดไดอารี่ หน้าแรกก็มีรูปภาพของ ยูจิน ถ่ายคู่กับ ซัง ฮวก ยูจิน หยิบขึ้นมาดูแล้ววางในสมุด ไดอารี่ หน้าเดิม
พอเปิดประตูห้องคนไข้ ยูจิน ก็พบช่อดอกไม้สดสวยรออยู่ พร้อมกับรอยยิ้มสว่างสดใส ของ มินฮุง และคำพูด จากใจจริงของ มินฮุง : ดีใจที่หายป่วยครับ
ในระหว่างขับรถ มินฮุง บอกว่า : นี่เป็นครั้งแรกที่ผมยืนรอใครพร้อมช่อดอกไม้
( เฮ้อเฮอ.. คุณมินอูง รู้จัก มีครั้งแรก เหมือน จุนซาง ยูจิน เลยนะ ยูจิน จะเชื่อไหมนี่ น่าจะจริง คนอย่าง มินฮุง ที่มีสาว ๆรุมล้อมมาตลอด รอแค่ให้ มินฮุง กวักมือเรียก เท่านั้น คุณ รำพรรณ เป็นคนบอกไว้ จึงไม่ต้องใช้ช่อดอกไม้เลยสักครั้ง)
ยูจิน เหลือบตามอง มินฮุง
มินฮุง : คุณคิมชอบเรียกผมว่า playboy อยู่เรื่อย แต่ผมเอาใจผู้หญิงไม่เก่งหรอก
( ขอค้าน... ครับผม ไม่จริ้ง..ไม่จริง แน่นอน)
ยูจิน ยิ้มนิด ๆ แต่ไม่พูดอะไร หันไปมอง มินฮุง แล้วก็ยังนั่งเงียบ
มินฮุง หักพวงมาลัยเลี้ยวรถ ไปจอด ที่พักริมทางจุดชมวิว
มินฮุง พา ยูจินไปนั่งที่ม้ายาว ทั้งคู่นั่งฟังเสียงนกร้อง( คือไม่มีใครพูดขึ้นก่อน นั่งกันเงียบๆ) สักพัก
มินฮุง ก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน
มินฮุง : ขอโทษนะ
ยูจิน หันมาทำหน้าตาสงสัย เป็นเชิงถามแต่ไม่พูดอะไร
มินฮุง : ขอโทษ ที่ผมพูดหยาบคายกับคุณมาตลอด ผมน่าจะพูดเร็วกว่านี้ ผมตั้งใจจะขอโทษคุณให้เร็วที่สุด และวันที่เกิดอุบัติเหตุ ผมไม่มีโอกาส
ยูจิน : ฉันไม่รู้ว่าคุณพูดถึงเรื่องอะไร แปลว่าคุณจงใจทำท่าทางแบบนั้นเหรอคะ
มินฮุง : มันอาจเหมือนคำแก้ตัว แต่ผมเข้าใจคุณผิด
ยูจิน : ตอนนี้มองฉันใหม่แล้วหรือคะ
มินฮุง พยักหน้า
ยูจิน ยิ้มให้ : ดีใจจังเลย
มินฮุง แปลกใจกับคำตอบของ ยูจิน : คุณไม่อยากรู้หรือว่าผมเข้าใจผิดอะไร
ยูจิน มอง มินฮุงโดยไม่ตอบคำถาม
มินฮุง (ถึงไม่ถามแต่ผมก็อยากบอกคุณนะครับ) : ผมไม่คิดว่าจะมีคนที่มีหน้าตาเหมือนผมจริงๆ ผมคิดว่าคุณแกล้งแต่งเรื่อง เพื่อจะเข้ามาใกล้ชิดผม
ยูจิน : ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วย
มินฮุง : ผมคิดผิด ผมก็คิดว่าจะต้องมีอะไรสักอย่าง ตอนแรกผมสับสนมาก เพราะมันไม่เหมือนกับตอนที่เจอคุณครั้งแรก ตอนคุณเห็นหน้าผมครั้งแรก ผมจำได้ว่าคุณร้องไห้ ผมทำให้คุณคิดถึงเขาใช่ไหม
ยูจิน ประสานสายตากับ มินฮุง
มินฮุง ก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน
มินฮุง : ขอโทษนะ
ยูจิน หันมาทำหน้าตาสงสัย เป็นเชิงถามแต่ไม่พูดอะไร
มินฮุง : ขอโทษ ที่ผมพูดหยาบคายกับคุณมาตลอด ผมน่าจะพูดเร็วกว่านี้ ผมตั้งใจจะขอโทษคุณให้เร็วที่สุด และวันที่เกิดอุบัติเหตุ ผมไม่มีโอกาส
ยูจิน : ฉันไม่รู้ว่าคุณพูดถึงเรื่องอะไร แปลว่าคุณจงใจทำท่าทางแบบนั้นเหรอคะ
มินฮุง : มันอาจเหมือนคำแก้ตัว แต่ผมเข้าใจคุณผิด
ยูจิน : ตอนนี้มองฉันใหม่แล้วหรือคะ
มินฮุง พยักหน้า
ยูจิน ยิ้มให้ : ดีใจจังเลย
มินฮุง แปลกใจกับคำตอบของ ยูจิน : คุณไม่อยากรู้หรือว่าผมเข้าใจผิดอะไร
ยูจิน มอง มินฮุงโดยไม่ตอบคำถาม
มินฮุง (ถึงไม่ถามแต่ผมก็อยากบอกคุณนะครับ) : ผมไม่คิดว่าจะมีคนที่มีหน้าตาเหมือนผมจริงๆ ผมคิดว่าคุณแกล้งแต่งเรื่อง เพื่อจะเข้ามาใกล้ชิดผม
ยูจิน : ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วย
มินฮุง : ผมคิดผิด ผมก็คิดว่าจะต้องมีอะไรสักอย่าง ตอนแรกผมสับสนมาก เพราะมันไม่เหมือนกับตอนที่เจอคุณครั้งแรก ตอนคุณเห็นหน้าผมครั้งแรก ผมจำได้ว่าคุณร้องไห้ ผมทำให้คุณคิดถึงเขาใช่ไหม
ยูจิน ประสานสายตากับ มินฮุง
มินฮุง : และเป็นเพราะเขาใช่ไหม คุณถึงไม่อยากทำงานนี้ มินฮุง พยักหน้า เหมือนตอบคำถามแทน ยูจิน เสียเอง และคุณก็ช่วยผมไว้เพราะเหตุนั้น
(มีเพลง my memory ในฉากนี้ แต่ หมายถึง memory ของใครกันล่ะนี่ ของ ลี มินฮุง หรือ จุง ยูจิน ลี มินฮุง ก็จดจำรายละเอียด ของ ยูจิน ตั้งแต่วันแรกพบ จนมาถึงวันนี้เช่นกัน )
ยูจิน ถอนสายตาไป และก้มหน้าลงน้อยๆ
มินฮุง : ผมหน้าเหมือนคนที่ชื่อ คัง จุนซาง จริงๆหรือครับ
ยูจิน : ค่ะ บางครั้งฉันก็อยากจะเชื่ออย่างนั้น มีหลายครั้งที่ฉันอยากจะเชื่อว่าคุณคือ จุนซาง จริง ฉันเองยังแปลกใจ คุณเคยบอกว่า ” สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคนตาย ก็คือลืมเรื่องของเขาไปซะ “ ฉันว่าคุณพูดถูกนะคะ แต่ฉันก็ยังลืมไม่ได้
มินฮุง อึ้งไปชั่วครู่ : นี่คุณจะยกโทษให้ผมได้มั๊ย
ยูจิน : ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณแค่เข้าใจผิด ( ง่ายจริงๆนะ จุง ยูจิน แต่คนละความหมาย กับ วันที่ มินฮุง พูดกับ ยูจิน คราวที่ ยูจิน เมาเหล้า)
ต่างฝ่ายต่างยิ้มให้กัน
มินฮุง พา ยูจิน ออกเดินชวนคุยว่า : ผมอยากรู้เรื่อง คนรักคนแรกของคุณที่หน้าตาเหมือนผม หน้าตาเขาเป็นยังไง เขาต้องต่างจากผมแน่ ถึงเราจะหน้าเหมือนกัน
ยูจิน พยักหน้ายอมรับ : ต่างกันลิบลับ
มินฮุง ยิ้ม มองหน้า ยูจิน นิ่งนาน : อย่าทำหน้าอย่างนั้นต่อหน้าคู่หมั้นล่ะ เห็นหน้าแบบนี้ ผมก็รู้ทันทีว่าคุณกำลังคิดถึง จุนซาง ขนาดผมยังดูออกเลย
ยูจิน : จริงเหรอคะ ฉันนี่เห็นแก่ตัวชะมัด
หนุ่มสาว เดินเคียงคู่กัน คุยกัน ด้วยลีลา สองมือล้วงกระเป๋า สองเท้าก้าวเดินไปข้างหน้า ท่าเดียวกัน ช่างคิดจริง คุณ ยุน ซุกโฮ
( ขอยืมภาพนี้มาใช้ เพราะ หาภาพที่ตรงกับบทละครไม่ได้ )
แล้ว มินฮุง ก็หยุดเดิน ยกมือขวาในท่าขอเช็คแฮนด์หน่อย ยื่นให้ยูจิน
ยูจิน ยังรับมุขของมินฮุงไม่ทัน ทำท่า งง
มินฮุง : เรา เริ่มต้นกันใหม่เถอะนะ อย่าเข้าใจผมผิดอีก ผมชื่อ ลี มินฮุง
ยูจิน วางมือขวาลงลงมือมินฮุง ฉันชื่อ จุง ยูจิน ค่ะ
ยูจิน ยิ้มให้หน้าตาสดใส
แล้ว มินฮุง ก็หยุดเดิน ยกมือขวาในท่าขอเช็คแฮนด์หน่อย ยื่นให้ยูจิน
ยูจิน ยังรับมุขของมินฮุงไม่ทัน ทำท่า งง
มินฮุง : เรา เริ่มต้นกันใหม่เถอะนะ อย่าเข้าใจผมผิดอีก ผมชื่อ ลี มินฮุง
ยูจิน วางมือขวาลงลงมือมินฮุง ฉันชื่อ จุง ยูจิน ค่ะ
ยูจิน ยิ้มให้หน้าตาสดใส
ที่สกีรีสอร์ต ที่ขาวโพลนไปด้วยหิมะ
คุณคิม ลงจากกระเช้าไฟฟ้า ตามด้วย จุงอา มินฮุง มินฮุง ส่งมือให้ ยูจิน จับ จุงอา เหลียวมาเห็น ทำหน้าตาแปลกใจ ปากมุ่ย (ให้คนรูปหล่อๆของตนเอง ที่กับฉัน ทำไมไม่ส่งมือมาให้บ้างล่ะ)
ทั้งสี่คน ไปที่ร้านอาหาร จุงอา แยกไปกับ ยูจิน คุณคิมไปกับ มินฮุง
มินฮุง เสนอว่า จะเปลี่ยนห้องอาหารเป็นที่พัก ตรงนี้วิวสวยมาก ต้องให้ Polaris เป็นคนจัดการให้
คุณ คิม ( พลอยพยักพเยิดอีก) ใช่ ต้อง Polaris ผมไปถาม ยูจิน ให้
แชรีน โทรศัพท์มาหามินฮุง แต่ มินฮุง ไม่รับสาย คุณคิม ที่อยากรู้อยากเห็น ว่าเป็นเบอร์ของใคร โทรมา : ทำไมไม่รับล่ะ แชรีน ไม่ใช่เหรอ ทะเลาะกันละซี แถมคุณคิม ยังรู้ดีไปหมด พูดต่อว่า ทะเลาะกันตอน ยูจิน อยู่ โรงพยาบาลใช่ไหม ใช่แล้ว เพราะ ยูจิน ยังไงล่ะ
มินฮุง : คุณพูดอะไรของคุณ
คุณคิมยกมือเกาท้ายทอย: เปล่า แค่พูดว่า ต้อง ยูจิน ทุกที แล้วหรี่ตามอง มินฮุง : เออนี่ ยูจิน เขามีคู่หมั้นแล้ว
มินฮุง : พอทีเถอะ
คุณคิม : แค่อยากเช็คดูว่า คุณรู้รึเปล่า รู้ก็ดีแล้ว แล้วเดินจากไป มินฮุงยิ้มน้อยๆ เดินตามคุณคิม
มินฮุง : คุณคิม ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดหรอก
คุณคิม : แล้ว อะไรล่ะ
มินอุง : ผมก็แค่สงสารเขา ( คุณมินฮุง เก็บไว้สงสารตัวเองวันข้างหน้า เถอะ เจ็บครั้งนี้เจียนตายเชียวนะ จะบอกให้)
จุงอา ถาม ยูจินว่า : ทำไมเขาต้องสงสารเธอด้วย คงเพราะเขาสงสารที่เธอต้องเจ็บตัวแทนเขา
แล้วนี่เธอ อธิบายให้ ซังฮวก ฟังรึยัง แล้วเขาเข้าใจทุกอย่างรึเปล่าล่ะ แหมมันก็ยากที่จะเข้าใจ ผู้หญิงที่ต้องเจ็บตัวเพราะผู้ชายอื่น ซังฮวก น่ะไร้เดียงสา
จุงอา สังเกตว่า ซังฮวก ไม่โทรหา ยูจิน เลย
ยูจินเล่น เปีย โน เก่า ๆ ที่ ตั้งอยู่ ในห้องนั้น มินฮุง เข้ามาพอดี และบอก ยูจิน ว่า : ผมรู้จักเพลงนั้น
ยูจิน แปลกใจ ที่มินฮุง รุ้จักเพลง The First Time ของเธอ และ จุนซาง แต่เมื่อถามว่า มินฮุง เล่นเพลงนี้ได้ไหม กลับได้คำตอบว่า : ขอโทษนะที่ผมเล่นเปียโนไม่เป็น
ที่สตูดิโอ ที่ ซังฮวก ช่วยจัดรายการอยู่ ก็ เปิดเพลง ครั้งแรก เช่นกัน เพื่อน ดีเจ ถามซังฮวก ว่า วันหยุดนี้ มีโปรแกรมไปไหน ซังฮวก ยังไม่ทันตอบ แชรีน ก็มาหา มาหงุดหงิดใส่ ซังฮวก ที่ยังไม่จัดงานแต่งงาน กับ ยูจิน เสียที ซังฮวกถามว่า ทะเลาะกัน กับ มินฮุง หรือ ทีแรก แชรีน ก็วางฟอร์ม ซังฮวก ขอตัว ว่าวันนี้งานยุ่ง แชรีน จึง ยอมบอกว่า : ซังฮวก ช่วยฉันด้วย ลี มินฮุง เสือกไสไล่ส่งฉัน เขาจะเลิกกับฉัน เพราะ ยูจิน ฉันควรทำยังไงดี
สตูดิโอ จะจัดงานคอนเสริต์ ซังฮวก เสนอ ให้ไปจัดที่ สกีรีสอร์ต โดยให้เหตุผลว่า ที่ต้อง ไปจัดที่นั่น เพราะแฟนของผมอยู่ที่สกีรีสอร์ต หัวหน้าก็ยินยอม
ซังอวกไปขอพ่อแม่ว่าอยากแต่งงานกับ ยูจินให้เร็วที่สุด : ผมไม่อยากให้ยูจินอยู่คนเดียว ผมอยากได้ ยูจิน มาเป็นภรรยา ซังฮวก ต้องคุกเข่าขอแม่ เพราะ: แม่ไม่ชอบเขา ไม่มีวันให้อภัยเขา แม่ไม่อยากได้ ยูจิน มาเป็นลูกสะใภ้
แม่ลุกเดินออกไปจากห้อง เมื่อพ่อถามว่าทำไมต้องรีบร้อนขนาดนี้
สตูดิโอ จะจัดงานคอนเสริต์ ซังฮวก เสนอ ให้ไปจัดที่ สกีรีสอร์ต โดยให้เหตุผลว่า ที่ต้อง ไปจัดที่นั่น เพราะแฟนของผมอยู่ที่สกีรีสอร์ต หัวหน้าก็ยินยอม
ซังอวกไปขอพ่อแม่ว่าอยากแต่งงานกับ ยูจินให้เร็วที่สุด : ผมไม่อยากให้ยูจินอยู่คนเดียว ผมอยากได้ ยูจิน มาเป็นภรรยา ซังฮวก ต้องคุกเข่าขอแม่ เพราะ: แม่ไม่ชอบเขา ไม่มีวันให้อภัยเขา แม่ไม่อยากได้ ยูจิน มาเป็นลูกสะใภ้
แม่ลุกเดินออกไปจากห้อง เมื่อพ่อถามว่าทำไมต้องรีบร้อนขนาดนี้
ซังฮวก ตอบพ่อว่า “ ผมไม่อยากเสีย ยูจินไปน่ะครับ”
ยูจิน เดินตรวจงาน กับ มินฮุง ในมือถือสมุด ไดอารี่ แล้วภาพถ่ายคู่กันของ ยูจิน กับ ซังฮวก หล่นลงมา มินฮุง ก้มลงเก็บให้ตามเคย
เมื่อส่งคืนให้ยูจิน มินฮุง ถามว่า : ทำไมคุณถึงรัก ซังฮวก ขนาดนี้
เมื่อส่งคืนให้ยูจิน มินฮุง ถามว่า : ทำไมคุณถึงรัก ซังฮวก ขนาดนี้
( ขนาดต้องพกรูปติดตัว เวลาทำงานน่ะ)
ยูจิน : ไม่รู้สิ
มินฮุง : คุณรักเขา จริงเหรอ
ยูจิน : ถามอะไรอย่างนั้นคะ เราหมั้นกันแล้ว คุณก็รู้นี่
มินฮุง : ใช่นั่นสินะ งั้นลองบอกมาสิทำไมถึงรักเขา
ยูจิน : ก็ ซังฮวก รู้จักฉันดีกว่าผู้ชายคนอื่นๆ เขาเป็นคนดีไม่เอาเปรียบใคร เราสองคนโตขึ้นมาพร้อมๆกัน เหมือนเป็นครอบครัว เขาเป็นคนเข้าใจคนและมีความรับผิดชอบ
มินฮุง ฟังแล้วหัวเราะ
ยูจิน : คุณหัวเราะอะไร
มินฮุง : เปล่าหรอกครับ คุณมีเหตุผลเยอะจังในการรักใคร
ยูจิน : เปล่าหรอกค่ะ แต่เขาเป็นคนดีจริงๆ
มินฮุง : คุณคิดยังงั้นเหรอ ฮืม...แค่ยกตัวอย่างนะ งั้น...บอกซิทำไมชอบผม
( ขี้ตู่ หรือเปล่า คุณ มินฮุง)
ยูจิน : เอ๊ะ !!
มินฮุง : เห็นมั๊ยล่ะ ถ้าชอบอะไรจริงๆ เราอธิบายไม่ได้หรอก ไม่ต้องคิดมาก ผมล้อเล่นน่ะ
( แล้วไป นึกว่า มินฮุง เห็น ยงจุน ชอบตีกอล์ฟ คุณมินฮุง ก็เลย ตีขลุม ซะแล้ว)
การจะรักใครสักคนไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลอะไรเลย
คราวนี้ผมซีเรียสแล้วนะ อืม...
ทำไมคุณถึงชอบ จุนซาง ล่ะ คุณมีเหตุผลรึเปล่า
ยูจิน มองมินฮุง
เมื่อ มินฮุง พูดว่าการจะรักใครสักคน ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลอะไรเลย ในสมองของ ยูจิน ก็ผุดภาพของ จุนซางขึ้นมาทันที มินฮุง รู้ตัวว่า เป็นคนทำให้ ยูจิน ต้องเศร้าใจ
มินฮุงหลับตาลง หันหน้าไปทางอื่น เมื่อเห็นหน้าตา ของยูจิน : ผมขอโทษ
ยูจิน ได้แต่ยิ้ม เจื่อนๆ: ไม่เป็นไหรอก ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ
มินฮุง ชี้นิ้ว : ทำหน้าแบบนั้นอีกแล้ว
ทั้งคู่ หัวเราะ เบาๆ ออกมา
มินฮุง : แค่ทำตัวตามสบายกับผม คุณจะคิดถึงเขาก็ได้ ถ้าผมทำให้คุณต้องนึกถึงความหลัง ก็นึกถึงมันสิ
ยูจิน : ไม่รู้สิ
มินฮุง : คุณรักเขา จริงเหรอ
ยูจิน : ถามอะไรอย่างนั้นคะ เราหมั้นกันแล้ว คุณก็รู้นี่
มินฮุง : ใช่นั่นสินะ งั้นลองบอกมาสิทำไมถึงรักเขา
ยูจิน : ก็ ซังฮวก รู้จักฉันดีกว่าผู้ชายคนอื่นๆ เขาเป็นคนดีไม่เอาเปรียบใคร เราสองคนโตขึ้นมาพร้อมๆกัน เหมือนเป็นครอบครัว เขาเป็นคนเข้าใจคนและมีความรับผิดชอบ
มินฮุง ฟังแล้วหัวเราะ
ยูจิน : คุณหัวเราะอะไร
มินฮุง : เปล่าหรอกครับ คุณมีเหตุผลเยอะจังในการรักใคร
ยูจิน : เปล่าหรอกค่ะ แต่เขาเป็นคนดีจริงๆ
มินฮุง : คุณคิดยังงั้นเหรอ ฮืม...แค่ยกตัวอย่างนะ งั้น...บอกซิทำไมชอบผม
( ขี้ตู่ หรือเปล่า คุณ มินฮุง)
ยูจิน : เอ๊ะ !!
มินฮุง : เห็นมั๊ยล่ะ ถ้าชอบอะไรจริงๆ เราอธิบายไม่ได้หรอก ไม่ต้องคิดมาก ผมล้อเล่นน่ะ
( แล้วไป นึกว่า มินฮุง เห็น ยงจุน ชอบตีกอล์ฟ คุณมินฮุง ก็เลย ตีขลุม ซะแล้ว)
การจะรักใครสักคนไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลอะไรเลย
คราวนี้ผมซีเรียสแล้วนะ อืม...
ทำไมคุณถึงชอบ จุนซาง ล่ะ คุณมีเหตุผลรึเปล่า
ยูจิน มองมินฮุง
เมื่อ มินฮุง พูดว่าการจะรักใครสักคน ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลอะไรเลย ในสมองของ ยูจิน ก็ผุดภาพของ จุนซางขึ้นมาทันที มินฮุง รู้ตัวว่า เป็นคนทำให้ ยูจิน ต้องเศร้าใจ
มินฮุงหลับตาลง หันหน้าไปทางอื่น เมื่อเห็นหน้าตา ของยูจิน : ผมขอโทษ
ยูจิน ได้แต่ยิ้ม เจื่อนๆ: ไม่เป็นไหรอก ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ
มินฮุง ชี้นิ้ว : ทำหน้าแบบนั้นอีกแล้ว
ทั้งคู่ หัวเราะ เบาๆ ออกมา
มินฮุง : แค่ทำตัวตามสบายกับผม คุณจะคิดถึงเขาก็ได้ ถ้าผมทำให้คุณต้องนึกถึงความหลัง ก็นึกถึงมันสิ
ยูจิน กระโดด ขึ้นไปเดิน บนขอนไม้ กางมือออกเดิน
: ฉันก็ไม่ได้อยู่กับเขามากนัก เลยไม่มีความทรงจำอะไรมากมายหรอกค่ะ เราเคยทะเลาะกัน ตอนอยู่ที่โรงเรียน เราเคย โดดเรียนไปเที่ยวทะเลสาบ ซูชุน กัน เราทำตุ๊กตาหิมะ ในวันที่หิมะตกวันแรก
ยูจิน เดิน โอนไป เอนมา มินฮุง เดินคลอที่พื้นดินไปข้างๆ ยูจิน เล่าต่อ:เขาใจร้ายมากที่ทิ้งฉันไป
ยูจิน หล่นลงมาจากขอนไม้ เซลงในอ้อมอกของ มินฮุง ที่เข้าไปประคองรับ ยูจินไว้ หัวใจของ ยูจิน เต้นโครมคราม ขณะเดียวกันก็รับรู้ถึงความอบอุ่น หัวใจของ ยูจิน ราวกับถูกดึงดูดให้กระโดดเข้าไปหาร่างของ มินฮุง หลังจากที่ปลอบใจให้สงบลงไปได้แล้ว ยูจิน ก็จ้องหน้า มินฮุง ยามนี้ ยูจิน มองเห็น ความรู้สึกบางอย่างที่เร้นลับทางสีหน้าของ มินฮุง มินฮุง ปล่อยมือ ยูจิน
: ฉันก็ไม่ได้อยู่กับเขามากนัก เลยไม่มีความทรงจำอะไรมากมายหรอกค่ะ เราเคยทะเลาะกัน ตอนอยู่ที่โรงเรียน เราเคย โดดเรียนไปเที่ยวทะเลสาบ ซูชุน กัน เราทำตุ๊กตาหิมะ ในวันที่หิมะตกวันแรก
ยูจิน เดิน โอนไป เอนมา มินฮุง เดินคลอที่พื้นดินไปข้างๆ ยูจิน เล่าต่อ:เขาใจร้ายมากที่ทิ้งฉันไป
ยูจิน หล่นลงมาจากขอนไม้ เซลงในอ้อมอกของ มินฮุง ที่เข้าไปประคองรับ ยูจินไว้ หัวใจของ ยูจิน เต้นโครมคราม ขณะเดียวกันก็รับรู้ถึงความอบอุ่น หัวใจของ ยูจิน ราวกับถูกดึงดูดให้กระโดดเข้าไปหาร่างของ มินฮุง หลังจากที่ปลอบใจให้สงบลงไปได้แล้ว ยูจิน ก็จ้องหน้า มินฮุง ยามนี้ ยูจิน มองเห็น ความรู้สึกบางอย่างที่เร้นลับทางสีหน้าของ มินฮุง มินฮุง ปล่อยมือ ยูจิน
จุงอา มาบอกว่าแม่ ยูจิน ป่วย ยูจิน คิดจะขับรถของ จุงอา ไป แต่ มินฮุง เป็นห่วง เพราะสภาพถนน และหิมะเลยขับรถของตัวเองไปให้ยูจิน
เมื่อไปถึง มินฮุง ได้พบ ฮีจีน น้องสาวของ ยูจิน ฮีจีน ทักว่า :จุนซาง เหรอคะ
ยูจิน บอกว่า : เขาไม่ใช่ จุนซาง หรอก
มิน ฮุง ยิ้มให้ ฮีจิน
ยูจิน คุยกับแม่อยู่ในห้อง แม่ของ ยูจิน ก็รู้สึก คุ้นหน้า มินฮุง ยูจิน บอกว่าเป็น เพื่อนร่วมงานที่มาทำโปรเจคเดียวกันที่สกีรีสอร์ต ช่วยขับรถมาให้ ท่าทางแม่ยูจิน ไม่สบายใจ ที่ ยูจิน มีเพื่อนชาย คนอื่น เริ่มเป็นห่วง ซังฮวก และ กังวลเรื่องแม่ของ ซังฮวก จากคราวงานหมั้น
ฮีจิน ยกน้ำชามาให้ มินฮุง และนั่งข้างๆ มินฮุง คอยจ้องมอง มินฮุง อย่าง ละเอียดลออ ตลอดเวลา
เมื่อไปถึง มินฮุง ได้พบ ฮีจีน น้องสาวของ ยูจิน ฮีจีน ทักว่า :จุนซาง เหรอคะ
ยูจิน บอกว่า : เขาไม่ใช่ จุนซาง หรอก
มิน ฮุง ยิ้มให้ ฮีจิน
ยูจิน คุยกับแม่อยู่ในห้อง แม่ของ ยูจิน ก็รู้สึก คุ้นหน้า มินฮุง ยูจิน บอกว่าเป็น เพื่อนร่วมงานที่มาทำโปรเจคเดียวกันที่สกีรีสอร์ต ช่วยขับรถมาให้ ท่าทางแม่ยูจิน ไม่สบายใจ ที่ ยูจิน มีเพื่อนชาย คนอื่น เริ่มเป็นห่วง ซังฮวก และ กังวลเรื่องแม่ของ ซังฮวก จากคราวงานหมั้น
ฮีจิน ยกน้ำชามาให้ มินฮุง และนั่งข้างๆ มินฮุง คอยจ้องมอง มินฮุง อย่าง ละเอียดลออ ตลอดเวลา
มินฮุง ยิ้มให้ถามว่า เขาเหมือน จุนซาง มากใช่ไหม
ฮีจิน อมยิ้ม พยักหน้าแทนคำตอบ
ฮีจิน อมยิ้ม พยักหน้าแทนคำตอบ
มินฮุง ถามว่า : ยูจิน ชอบเขามากใช่ไหม
ฮีจิน ตอบว่า : ตอนจุนซาง ตาย ฉัน นึกว่า ยูจิน จะตายตามเขาไปเสียแล้ว
มินฮุง รู้สึกเหมือน มีคลื่น อย่างหนึ่ง อยู่ภายในใจ จึงถาม ฮีจิน ถึง บริเวณของทะเลสาบ ที่ยูจิน ชอบไปบ่อยๆ
ฮีจิน ตอบว่า : ตอนจุนซาง ตาย ฉัน นึกว่า ยูจิน จะตายตามเขาไปเสียแล้ว
มินฮุง รู้สึกเหมือน มีคลื่น อย่างหนึ่ง อยู่ภายในใจ จึงถาม ฮีจิน ถึง บริเวณของทะเลสาบ ที่ยูจิน ชอบไปบ่อยๆ
มินฮุง ขับรถพายูจิน ออกมาจากบ้าน
มินฮุง : ยูจิน คุณเคย หนีชั่วโมงเรียนหรือเปล่า ผมหมายถึงโดดเรียน น่ะ งั้นวันนี้ เรามาโดดงานกันดีมั๊ย ถึงกลับไปทุกอย่างก็คง เรียบร้อยหมดแล้ว
ยูจิน เงียบ ไม่มีคำตอบ
มินฮุง จอดรถ ที่ริมทะเลสาบ สถานที่ที่ ยูจิน ชอบมา ปลด เข็มขัด นิรภัย พูดว่า : เฮ้อ... สวยจัง ผมไม่ได้เห็นแบบนี้มาตั้งนาน
ยูจิน : เราไปที่อื่นกันดีไหมคะ
มินฮุง ทำท่าแปลกใจ : ทำไมล่ะ ผมชอบที่นี่ อยู่แป็บ นึง เถอะ
ยูจิน อึ้ง
มินฮุง พายูจิน เดินข้างทะเลสาบ ตามแนวไม้ ( พร้อมกับเพลง my memory ตามเคย )
มินฮุง : ยูจิน คุณเคย หนีชั่วโมงเรียนหรือเปล่า ผมหมายถึงโดดเรียน น่ะ งั้นวันนี้ เรามาโดดงานกันดีมั๊ย ถึงกลับไปทุกอย่างก็คง เรียบร้อยหมดแล้ว
ยูจิน เงียบ ไม่มีคำตอบ
มินฮุง จอดรถ ที่ริมทะเลสาบ สถานที่ที่ ยูจิน ชอบมา ปลด เข็มขัด นิรภัย พูดว่า : เฮ้อ... สวยจัง ผมไม่ได้เห็นแบบนี้มาตั้งนาน
ยูจิน : เราไปที่อื่นกันดีไหมคะ
มินฮุง ทำท่าแปลกใจ : ทำไมล่ะ ผมชอบที่นี่ อยู่แป็บ นึง เถอะ
ยูจิน อึ้ง
มินฮุง พายูจิน เดินข้างทะเลสาบ ตามแนวไม้ ( พร้อมกับเพลง my memory ตามเคย )
มินฮุง แหงนมองธรรมชาติ รอบตัว แล้วเหลือบมอง ยูจิน ที่เดินด้วยท่าทางเศร้าสร้อยโศกศัลย์ ทั้งคู่ไม่พูดอะไรกัน
ความทรงจำในอดีต กลับมาสู่ ยูจิน ความทรงจำที่ชัดเจนจน ยูจินไม่อาจจะทนได้ ภาพของเธอและ จุนซาง ยูจิน เหม่อมองไปเบื้องหน้า ราวกับเห็น จุนซาง ก้าว เข้ามาหาเธอ
ความทรงจำในอดีต กลับมาสู่ ยูจิน ความทรงจำที่ชัดเจนจน ยูจินไม่อาจจะทนได้ ภาพของเธอและ จุนซาง ยูจิน เหม่อมองไปเบื้องหน้า ราวกับเห็น จุนซาง ก้าว เข้ามาหาเธอ
ยูจิน ยืนอยู่เดียวดาย รำลึกถึงความหลัง
มินฮุง ย้อนกลับไปเอาเสื้อโค้ทมาจากรถ กางเสื้อออกแล้วสวมให้ ยูจิน จากด้านหลัง
มินฮุง ย้อนกลับไปเอาเสื้อโค้ทมาจากรถ กางเสื้อออกแล้วสวมให้ ยูจิน จากด้านหลัง
ถามว่า : ไม่หนาวหรือ และอ้อมมาด้านหน้า ขยับเสื้อ ให้เข้าที่เข้าทาง
มีคู่รัก คู่หนึ่ง ขี่และซ้อน รถจักรยานผ่านมา ความทรงจำเมื่อครั้ง ขี่จักรยานกับ จุนซาง ก็กลับมาอีก ภาพที่ จุนซาง ร่าเริง ยูจิน น้ำตาคลอตา หันหน้ากลับมาหามินฮุง ที่จ้องมอง ยูจิน อยู่ ยูจิน วุ่นวายใจดึงหมวก ดึงแว่น ลงมาปิดหน้าปิดตา ยูจิน ไม่อยากให้ ใคร มาเห็น น้ำตาของเธอ แต่ทว่าตัวเองกลับมองไม่เห็นอะไรเลย
ทั้งที่ปาก พูดว่า: ฉันชอบหมวกคุณจังเลย นึกว่าถ้าใส่แล้วจะมองไม่เห็นอะไรซะอีก แต่ว่าฉันเห็นชัดเลย แต่ความจริงแล้วหมวกนั้นเอียง
มินฮุง เมินจากภาพข้างหน้า ภาพที่ ยูจิน น้ำตาไหลลงมาข้างแก้ม ยูจิน ผละเดินออกมา
มินฮุง รู้สึกผิดหวัง เขาพา ยูจิน มาที่นี่ โดยคาดคิดไว้แล้ว ว่า คงต้องเป็นอย่างนี้ เพียงแต่อยากให้อะไรบางอย่างปรากฏอย่างชัดแจ้ง ดังนั้นแม้จะรู้ว่า ยูจิน กำลังเจ็บปวด แต่ มินฮุง ก็ทำท่า เหมือนไม่รู้
มินฮุง อยากเปลี่ยนฤดูกาล เป็น ฤดูใบไม้ผลิ เพื่อ ยูจิน อยากจะบอก ยูจิน ว่า หลังจาก ฤดูหนาวอันหนาวเหน็บผ่านไปแล้ว ฤดูใบไม้ผลิ ก็จะมาถึง
มินฮุง และยูจิน เดินคู่กัน มินฮุง ชวนคุยว่า: เพิ่งมา ชูชุน เป็นครั้งแรกแต่ชอบจัง ผมชอบท้องฟ้า ชอบต้นไม้แล้วก็ ทะเลสาบ ตรงนี้ร่ม หิมะยังไม่ละลายเลย คงละลายตอนฤดูใบไม้ผลิ
ยูจิน : คุณเคยได้ยินเรื่อง ชายที่ไปดินแดนแห่งเงามั๊ย
มินฮุง : ไม่เคย เล่าให้ฟังหน่อยซิ
ยูจิน: มีผู้ชายยู่คนหนึ่ง เขาเดินทางไปดินแดนแห่งเงา แต่ว่าที่นั่น ไม่มีใครพูดกับเขาเลย
มินฮุง : แล้วไงล่ะ
ยูจิน :เขาก็เลยว้าเหว่มาก หยุดคำพูด มองหน้า มินฮุง จบแล้วค่ะ น่าเบื่อ เน๊อะ
มินฮุง : ใครเล่าให้คุณฟังล่ะ
ยูจิน : เพื่อนคนหนึ่งค่ะ
มินฮุง ยิ้ม : อ๋อ ..รู้แล้วละ คุณคิดว่าเพื่อนคุณ ก็คงว้าเหว่ ถึงได้เล่าให้คุณฟังละซี
ยูจิน : ใช่แล้วค่ะ ตอนนั้นฉันไม่ทันรู้ แต่พอมานึกย้อนไป ฉันว่าเขาว้าเหว่มากจริงๆ
มินฮุง : แล้วตอนนี้เขาเป็นยังไง
ทั้งคู่ต่างหยุดเดินโดยไม่ได้นัดกัน
มินฮุง รู้สึกผิดหวัง เขาพา ยูจิน มาที่นี่ โดยคาดคิดไว้แล้ว ว่า คงต้องเป็นอย่างนี้ เพียงแต่อยากให้อะไรบางอย่างปรากฏอย่างชัดแจ้ง ดังนั้นแม้จะรู้ว่า ยูจิน กำลังเจ็บปวด แต่ มินฮุง ก็ทำท่า เหมือนไม่รู้
มินฮุง อยากเปลี่ยนฤดูกาล เป็น ฤดูใบไม้ผลิ เพื่อ ยูจิน อยากจะบอก ยูจิน ว่า หลังจาก ฤดูหนาวอันหนาวเหน็บผ่านไปแล้ว ฤดูใบไม้ผลิ ก็จะมาถึง
มินฮุง และยูจิน เดินคู่กัน มินฮุง ชวนคุยว่า: เพิ่งมา ชูชุน เป็นครั้งแรกแต่ชอบจัง ผมชอบท้องฟ้า ชอบต้นไม้แล้วก็ ทะเลสาบ ตรงนี้ร่ม หิมะยังไม่ละลายเลย คงละลายตอนฤดูใบไม้ผลิ
ยูจิน : คุณเคยได้ยินเรื่อง ชายที่ไปดินแดนแห่งเงามั๊ย
มินฮุง : ไม่เคย เล่าให้ฟังหน่อยซิ
ยูจิน: มีผู้ชายยู่คนหนึ่ง เขาเดินทางไปดินแดนแห่งเงา แต่ว่าที่นั่น ไม่มีใครพูดกับเขาเลย
มินฮุง : แล้วไงล่ะ
ยูจิน :เขาก็เลยว้าเหว่มาก หยุดคำพูด มองหน้า มินฮุง จบแล้วค่ะ น่าเบื่อ เน๊อะ
มินฮุง : ใครเล่าให้คุณฟังล่ะ
ยูจิน : เพื่อนคนหนึ่งค่ะ
มินฮุง ยิ้ม : อ๋อ ..รู้แล้วละ คุณคิดว่าเพื่อนคุณ ก็คงว้าเหว่ ถึงได้เล่าให้คุณฟังละซี
ยูจิน : ใช่แล้วค่ะ ตอนนั้นฉันไม่ทันรู้ แต่พอมานึกย้อนไป ฉันว่าเขาว้าเหว่มากจริงๆ
มินฮุง : แล้วตอนนี้เขาเป็นยังไง
ทั้งคู่ต่างหยุดเดินโดยไม่ได้นัดกัน
มินฮุง หันมามองหน้า ยูจิน
ยูจิน: ทำไมคุณถึงพาฉันมาที่นี่
มินฮุง : คุณรู้ด้วยหรือ
ยูจิน : แล้วคุณหาที่นี่เจอได้ยังไง
มินฮุง : ก็คุณเป็นคนบอกผมเอง ไหนคุณบอกว่าไม่มีความทรงจำ
ยูจิน : เรากลับกันดีกว่า แล้ว ยูจิน ก็ออกเดิน
มินฮุง คว้าแขนของ ยูจิน ไว้ มินฮุงก้าวเดินมาข้างหน้า ยูจิน : รู้มั๊ย ทำไมผมพาคุณมาที่นี่
แล้วมินฮุง ก็จูงมือ ยูจิน มายืนหันหน้าไปที่ทะเลสาบ : ดูนี่ ดูตรงนี้สิ มันสวยมากใช่มั๊ยล่ะ
ภาพตรงหน้า แสงตะวันสาดส่องลงพื้นผิวน้ำ สะท้อนเป็นประกาย สายน้ำที่ไหลเอื่อย
มินฮุง : ที่นี่สวยมากเลย แต่คุณจำอะไรได้บ้าง
ต้นไม้ใบหญ้าโอนเอนไปมา มี กิ่งสนยื่นออกมารับแสงตะวันที่สะท้อนประกายให้ใบของกิ่งสน มองดู วูบวาบ
ยูจิน มองภาพนั้น
มินฮุง : คุณคิดถึงแต่ความหลัง เหมือนคุณมีแต่อดีตที่เลวร้าย
ยูจิน : พอเถอะค่ะ
มินฮุง เข้ามายืนชิด ยูจิน : คุณจะรักใครอีกได้อย่างไร ถ้าคุณปิดกั้นตัวเอง คุณก็เหมือน คนที่อยู่ในดินแดนแห่งเงา คุณจะมีรักด้วยความว้าเหว่หรือ
มินฮุง หันหน้าไปจาก ยูจิน : ทำไมต้องอยู่ในที่ ที่แสนว้าเหว่และหนาวเหน็บ ในเมื่อมีที่ ที่แสนอบอุ่น และสวยงาม
มินฮุง หันกลับมาที่ ยูจิน : ดูสิ ดูให้ดี ดี สิ
ภาพเบื้องหน้า คือผืนท้องน้ำทะเลสาบ งดงามด้วยแสงอาทิตย์ที่สาดส่องท้องน้ำ สะท้อนเป็นประกายระยิบระยับเหมือนประดับด้วย อัญมณี มีรัศมีแวววาว ต้นไม้ใบไม้ เป็นสีทอง ( เพราะใกล้จะปลิดขั้วทิ้งต้น) ต้นเมเปิ้ลเป็นสีแดงจัดจ้า มีใบที่ร่วงหล่นลงมาเรี่ยรายที่พื้น กิ่งสนที่ยื่นมารับแสงแดดที่อบอุ่น สั่นไหวเพราะแรงลมที่พลิ้วผ่าน
มีเจ้านกน้อยเกาะบนกิ่งไม้ ใช้ปากจิก สิ่งที่มันเกาะอยู่ ส่งเสียง จิ๊บ จิ๊บ อย่างเบิกบานสำราญใจ
ทุกสิ่งทุกอย่างมีชีวิตชีวา โลกงดงามถึงเพียงนี้ แต่ ยูจิน มองอะไรอยู่หรือ ยูจิน มีแต่น้ำตาและความเศร้า ไม่ได้รับรู้ถึงความงามของภาพเบื้องหน้านั้นเลย
ยูจิน ยืนนิ่งไม่ถอยออกมาจากความโดดเดี่ยวเศร้าหมอง เอาแต่รำลึกถึง ดินแดนแห่งเงา อดีต ของคนที่ตายไปแล้ว อย่างทุกข์ทรมาน
มินฮุง ร้อนใจ จนแทบไหม้เป็นจุณ หมดหวังที่จะทำให้ ยูจิน เห็นภาพอันงดงาม นั้นได้จริงๆ ได้แต่ยืนเคียงข้าง ยูจิน เฉยๆ แบบนี้เองเท่านั้น
ยูจิน ไม่ได้ใส่ใจว่า มินฮุงใช้ความพยายามเพียงใด ยูจิน ยังไม่อาจก้าวพ้นออกมาจากดินแดนแห่งเงา อันเย็นเยียบปกคลุมด้วยหิมะ ยูจินไม่อาจก้าวห่างจาก จุนซาง ผู้อยู่อย่างโดดเดี่ยวในดินแดนแห่งเงาได้เลย
ทั้งคู่ กลับไปที่ที่พัก
ค่ำแล้วในฤดูหนาวของวันนี้ วันที่เปล่าดายสำหรับ มินฮุง
และ ยูจิน ที่ยังคงอยู่ในวังวนของดินแดนแห่งเงาของ จุนซาง
ทั้งคู่ หยุด ตรงทางเดินระหว่างห้อง
ทั้งคู่ หยุด ตรงทางเดินระหว่างห้อง
ยูจิน คำนับศีรษะ เป็นพิธีการ แทนคำขอบคุณ และคำอำลาให้ มินฮุง
มินฮุง ก้มศีรษะรับ คำนับนั้น มินฮุง มองด้านหลังของ ยูจิน ที่เดินไปด้านตรงข้าม
ต่างคนเดินไปเข้าห้องของตัวเอง
เปิดประตู เข้าข้างใน แล้วยืนนิ่ง ไฟดับลงเมื่อประตูปิด มินฮุง ยืนอยู่ท่ามกลางความมืดในห้องของตนเอง ถอยหลังพิงฝาผนังห้อง อย่างสิ้นหวังและกำลังใจ
เหมือนกับ ยูจิน ที่ยืน หน้าประตูห้องด้านใน ด้วยความอ้างว้างว้าเหว่ ระทมทุกข์
ภาพซ้อน เหมือน ทั้งสองคน หันหน้า เข้าหากัน
วันรุ่งขึ้น
ในห้องอาหาร ที่กำลังจะทำการปรับปรุง
มินฮุงนั่งเอาคางเกย ท่อนแขนซ้ายของตัวเองที่ทอดวางบนโต๊ะ นิ้วมือขวา กด เครื่องเหลาดินสอขึ้น ๆ ลงๆ
คุณคิม : ไม่ต้องห่วงตรงนั้นนะครับ เราจะใช้เป็นที่เก็บไวน์ วันนี้คุณดู ซึมซึม มีอะไรกลุ้มใจเหรอครับ
มินฮุง : คุณคิม ผมอยากจะพูดอะไรที่สำคัญกับเขา แต่รู้สึกว่าผมจะพูดอะไรผิดไป
คุณ คิม คาบบุหรี่ที่ปากนิ้วมือกดที่คีย์เปียโนถามว่า : แล้วเขาเป็นใครล่ะครับ
มินฮุง : คนรู้จัก
คุณคิม เงยหน้าขั้นมา : งั้นเหตุผลแรกคือคุณลืมเรื่องที่จะพูด อย่างที่สอง เพราะคุณรู้สึกสงสารเขา เหตุผลที่สาม เพราะคุณชอบเขา เหตุผลไหนล่ะ
มินฮุง เงยหน้ามองคุณคิม ทำท่าคิด
คุณคิม : ไม่อยากตอบทีหลังก็อย่าถาม เล่นเปียโนเบาๆ
: ผู้หญิงที่คุณพูดถึง ยูจิน ใช่ม๊ยล่ะ
มินฮุง หงุดหงิด : เล่นดีดีได้มั๊ย เล่นเพลงง่ายๆ ไม่ได้หรือไง
คุณคิม : ก็ลองดูสิ ใช้มือขวากับมือซ้าย พร้อมๆกัน น่ะ มันไม่ง่ายหรอกนะ
มินฮุง : ก็ผมเล่นเปียโนไม่เป็น
คุณคิม : ผมเคยเล่นเพราะมากเลยนะ ถ้าเล่นให้ผู้หญิงฟัง รู้มั๊ย มันจะเป็นพลังแห่งความรัก
ต่างคนเดินไปเข้าห้องของตัวเอง
เปิดประตู เข้าข้างใน แล้วยืนนิ่ง ไฟดับลงเมื่อประตูปิด มินฮุง ยืนอยู่ท่ามกลางความมืดในห้องของตนเอง ถอยหลังพิงฝาผนังห้อง อย่างสิ้นหวังและกำลังใจ
เหมือนกับ ยูจิน ที่ยืน หน้าประตูห้องด้านใน ด้วยความอ้างว้างว้าเหว่ ระทมทุกข์
ภาพซ้อน เหมือน ทั้งสองคน หันหน้า เข้าหากัน
วันรุ่งขึ้น
ในห้องอาหาร ที่กำลังจะทำการปรับปรุง
มินฮุงนั่งเอาคางเกย ท่อนแขนซ้ายของตัวเองที่ทอดวางบนโต๊ะ นิ้วมือขวา กด เครื่องเหลาดินสอขึ้น ๆ ลงๆ
คุณคิม : ไม่ต้องห่วงตรงนั้นนะครับ เราจะใช้เป็นที่เก็บไวน์ วันนี้คุณดู ซึมซึม มีอะไรกลุ้มใจเหรอครับ
มินฮุง : คุณคิม ผมอยากจะพูดอะไรที่สำคัญกับเขา แต่รู้สึกว่าผมจะพูดอะไรผิดไป
คุณ คิม คาบบุหรี่ที่ปากนิ้วมือกดที่คีย์เปียโนถามว่า : แล้วเขาเป็นใครล่ะครับ
มินฮุง : คนรู้จัก
คุณคิม เงยหน้าขั้นมา : งั้นเหตุผลแรกคือคุณลืมเรื่องที่จะพูด อย่างที่สอง เพราะคุณรู้สึกสงสารเขา เหตุผลที่สาม เพราะคุณชอบเขา เหตุผลไหนล่ะ
มินฮุง เงยหน้ามองคุณคิม ทำท่าคิด
คุณคิม : ไม่อยากตอบทีหลังก็อย่าถาม เล่นเปียโนเบาๆ
: ผู้หญิงที่คุณพูดถึง ยูจิน ใช่ม๊ยล่ะ
มินฮุง หงุดหงิด : เล่นดีดีได้มั๊ย เล่นเพลงง่ายๆ ไม่ได้หรือไง
คุณคิม : ก็ลองดูสิ ใช้มือขวากับมือซ้าย พร้อมๆกัน น่ะ มันไม่ง่ายหรอกนะ
มินฮุง : ก็ผมเล่นเปียโนไม่เป็น
คุณคิม : ผมเคยเล่นเพราะมากเลยนะ ถ้าเล่นให้ผู้หญิงฟัง รู้มั๊ย มันจะเป็นพลังแห่งความรัก
มินฮุง : ถ้าเรารักใครสักคนหมดหัวใจ มันจะเป็นยังไง
คุณคิม : รักใครหมดหัวใจเหรอ.... งั้น...ก็ต้องว้าเหว่
มินฮุง พยักหน้า เป็นทำนองว่า เข้าใจละ หรือไม่ก็ ผมเห็นด้วย
คุณคิม : งั้นคำตอบก็คือเหตุผลที่สาม ใช่มั๊ย
มินฮุง ยกเครื่องเหลาดินสอขึ้น เอียงไป เอียงมา อย่างไม่รู้จะทำอะไรดีกว่านี้ เมื่อได้ยินคำตอบของคุณคิม ได้แต่เหลียวมามอง
คุณคิมละ จากเปียโน: ไม่เอาแล้ว ไปข้างนอกกันดีกว่า ไม่เอาน่า ไปดื่มกันดีกว่า ตบแขนมินฮุง เบาๆ หยิบกระดาษงาน
แต่ มินฮุง กลับเดินไปที่เปียโน แล้วเล่นเพลง ครั้งแรก อย่างคล่องแคล่ว
คุณคิม ดึงบุหรี่ออกจากปาก : ไหนคุณว่าไม่เคยเล่นเปียโน
มินฮุง ยังคง เล่นต่อ แล้ว ก็เงยหน้าขึ้น ทำท่าแปลกใจกับตัวเอง : นั่นสิ สงสัยผมจะเป็นอัจฉริยะ แล้วมินฮุงก็ยิ้มแบบ กวน ๆ
ซังฮวก แชรีน ยงกุ๊ก และจินซุก นัดพบกัน เพื่อเดินทางมา สกีรีสอร์ต ซังฮวก มาเพื่อ Surway สำหรับการมาจัดคอนเสิร์ต ก่อนมา พ่อย้ำว่า ชวนยูจิน มางานฉลองวันเกิด แม่เขาด้วยนะ ทั้ง ๆ ที่แม่ ไม่อยากให้ ยูจิน มา
มินฮุง ถือม้วนเอกสาร เดินฝ่าหิมะ ยูจิน สะพายกล้องรออยู่ข้างรถกระเช้า ทั้งสองเดินเข้าหากัน
มินฮุง : คุณรอนานหรือเปล่า
ยูจิน : เปล่าค่ะ
มินฮุง :ไปข้างบนกันเถอะ
หลังจากกลับมาจากทะเลสาบ ทั้ง มินฮุง และ ยูจิน ต่างตะขิดตะขวงใจ เพราะต่างรู้สึกว่า หัวใจของตนเอง กำลังเอนเอียงเข้าหาอีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งคู่รู้สึกขัดเขินซึ่งกันและกัน นั่งตรงข้ามกันในรถกระเช้า ที่มีเพียง สองเรา
โลกเบื้องล่างที่กระเช้าเคลื่อนผ่าน ราวกับประดับด้วยอาภรณ์ขาวโพลน สกีรีสอร์ต และป่าเขา เต็มไปด้วยหิมะ ส่องประกายสีขาวเยือกเย็น ออกมา ฤดูหนาวสีขาวที่ จุนซาง ชื่นชอบก็มีภาพลักษณ์แบบนี้
เมื่อกระเช้า หยุดลง มินฮุง ส่งมือมารับ ยูจิน เหมือนอย่างเคย
มินฮุง ดูแปลนในมือ ออกความคิดเห็นกับส่วนต่างๆ ที่จะปรับปรุง ยูจิน ให้คำปรึกษาหารือ ท่าทางของทั้งคู่แจ่มใสเป็นนักหนา ถ้อยทีถ้อยอาศัย ลงเรือลำเดียวกันช่วยกันจ้ำช่วยกันพาย
ที่ห้องอาหารชั้นบน
มินฮุง : เราจะใช้ที่นี่เฉพาะเวลามาสังเกตการณ์ ผมอยากให้ดูอบอุ่นกว่านี้ และอยากให้มีสีสันกว่านี้หน่อย
ยูจิน : ของเดิมเขาใช่สีงา กับสีน้ำตาล ก็เข้ากันดีอยู่แล้ว งั้นเอาสีขาวมาแต่งเติมแล้วกัน
มินฮุง จำได้ว่า ตอนยูจิน เมาเหล้า เขายังไม่ได้ยินว่า ยูจิน บอกว่าชอบกินอะไร
มินฮุง : รู้แล้ว สีโปรดของคุณ คือสีขาว และฤดูโปรดของคุณ คือ ฤดูหนาว แล้วอาหารที่คุณชอบล่ะ
ยูจิน : คุณถามทำไม
มินฮุง : ผมก็แค่อยากจำเอาไว้
ยูจิน งง มาก มาก มาก แล้วก็รู้สึกเหมือนมีหินก้อนใหญ่หนักอึ้งมาทับที่ทรวงอก นี่เป็นคำพูด ของเธอ และ จุนซาง นี่นา ทำไม..ถึง...
คำพูดที่ติดปาก และ กิริยา ท่าทางของ มินฮุง ทำให้ ยูจินสำคัญผิดไม่ได้ว่า เขา คือ จุนซาง แต่ก็น่าแปลก ที่เขาไม่ใช่ จุนซาง
ยูจิน กลับลงมาชั้นล่างเห็น มินฮุง นั่งหลับอยู่หน้าเตาผิงขณะที่ยังสวมแว่นอยู่
ยูจิน เดินเข้าไปหา มินฮุง นั่งลงใกล้ๆ ยูจิน เอียงตัวมอง มินฮุง สักพัก ก็ตัดสินใจ เอื้อมมือไปบรรจงถอดแว่นตาให้ มินฮุง อย่างแผ่วเบา เห็น มินฮุง ยามหลับแล้ว ยูจิน ก็อดคิดถึง จุนซาง ไม่ได้ ยูจิน จ้องมองใบหน้าของมินฮุง สักพัก ทันใดนั้น มินฮุง ก็ลืมตาขึ้นมอง ยูจิน เมื่อประสานสายตากัน ยูจิน รู้สึกวุ่นวายใจอย่างบอกไม่ถูก
( คุณมินฮุง ไม่สวมแว่นตา แล้ว มองหน้า ยูจิน เห็นหน้า ยูจิน ชัดไหมมันมืดด้วยนี่นา)
ยูจิน : เลิกพูดได้ไหมคะ พอทีเถอะค่ะ ยูจินแข้งขาอ่อนไปแล้ว ภาพเบื้องหน้าพร่ามัว เพราะน้ำตา ในใจก็เลือนราง
ยูจิน เจ็บปวดยิ่งนัก รู้สึกว่า ถ้าเธอตายไปเสียเลยจะดีกว่า เธอไม่เข้าใจว่าทำไม มินฮุง ถึงทำร้ายหัวใจของเธอ ให้รวดร้าว เช่นนี้ มินฮุง คน ที่เธอมองเห็นเงาร่างของ จุนซาง ในตัวเขา
ได้โปรดเถิด อย่าทำอย่างนี้อีกเลย ยูจิน เจ็บปวดเหลือเกิน เจ็บปวดทั้งจิตใจ เจ็บปวดทั้งร่างกาย คำพูดของ มินฮุง ยิ่งตอกย้ำให้แผลในใจของ ยูจิน บาดลึกเข้าไปอีก
ยูจิน สะบัดตัว ออกจากมือ ของ มินฮุง ตะโกนออกมา ด้วยแรงอารมณ์ : พอทีเถอะ เลิกพูดเรื่องนี้ซะที ทำไมต้องทำแบบนี้ ? คุณทำแบบนี้กับฉันทำไม ???
มินฮุง ก็ตะโกนสวนออกไปจากส่วนลึกในใจของตัวเองอย่างไม่รู้ตัว : ก็เพราะผมรักคุณ
ยูจิน ตกตะลึง มินฮุง เอง ก็ตกตะลึง กับคำพูดที่เปล่งออกมา แทนความปรารถนาในใจ ที่มีต่อ ยูจิน เวลานั้นเองที่ มินฮุง ได้รู้สึกตัว ประจักษ์ชัดกระจ่างแจ้งในหัวใจของตัวเอง แล้วว่า มินฮุง รัก ยูจิน ด้วย ใจจริง
มินฮุง ก็รู้สึกทรมานเมื่อเห็น ยูจิน เจ็บปวดเพราะไม่อาจลืม จุนซาง ได้ แต่ถึงแม้ มินฮุง จะรู้สึกทุกข์ใจ แต่ก็ไม่รู้ว่า จริงๆ แล้ว ตัวเอง มีความรู้สึก กับ ยูจิน อย่างไร เวลา นี้ เขา รู้ตัวแล้ว ว่า ความรู้สึกเหล่านั้น คืออะไร
มินฮุง พูด อย่างช้า ๆ ย้ำและทบทวน ความรู้สึก ของตัวเอง กับ ตนเอง และยูจิน : เพราะว่า..หยุดเว้นระยะให้แน่ใจ กับความรู้สึก ที่เพิ่ง ได้รับรู้ เอง เช่นกัน...
: เพราะว่า... ผมรักคุณมากเหลือเกิน
ยูจิน ยังตกตะลึง มอง มินฮุง นิ่ง คาดไม่ถึงกับสิ่งที่กำลังได้ยิน พอได้สติ ว่าได้ยิน มินฮุง พูดอะไรกับเธอ ก็ผลุนผลัน วิ่งออกไป นอก อาคาร อย่างคนเสียสติ
( เขียนเอง งง เอง ได้สติ แต่วิ่งเหมือนคนเสียสติ สรุปว่า ก็คือ อย่าง ที่ ยูจิน ทำอยู่ในจอภาพ นั่นเอง)
Yoo-jin : I want to forget everything, if I could.
Misunderstanding:
Min-hyung : I am sorry. I apologize for being rude to you all this time. I am sorry that I couldn't apologize to you earlier. ....
Yoo-jin : I don't know what you are talking about. You mean you acted like that on purpose?
Min-hyung : That might sound like an excuse, but I was misunderstanding you.
Yoo-jin : Do you feel different about me now?... I am glad to hear that ...
Min-hyung: Don't you want to know what I misunderstood about? I really didn't think there was someone that looked exactly like me. I thought you made up the story to become close to me.
Yoo-jin : Why would I do that to you?
Min-hyung : I realized I was wrong. I thought there was something wrong. At first I was very confused because it was nothing like what I felt when I saw you for the first time. When you first saw me, I remember that you cried ... Was it because I reminded you of him? Was it because of him that you didn't want to do this work? And also you saved my life because of him, didn't you? Do I really look like that person named Kang Jun-sang?
Yoo-jin : Yes. Sometimes I wanted to believe you are Jun-sang. So many times, I wanted to think you were Jun-sang. You once said to me that the best thing for the deceased is to forget the dead person. I know you are right about that. But still I can't help it.
Min-hyung : Can you forgive me?
Yoo-jin : I don't have anything to forgive you, you were just misunderstanding me.......
Min-hyung : Let's start all over again. Don't mistake me again. My name is Lee Min-hyung. Nice to meet you.
Yoo-jin : I am Jung Yoo-jin.
Reasons to love:
Min-hyung : Then tell me why you love him so much.
Yoo-jin : Sang-hyuk knows more about me than anyone else. He's born with a warm heart. We have grown up like a family since we were young. He's full of understanding and responsibility ... Why do you laugh?
Min-hyung : Nothing ... You have too many reasons for loving a person ... But for example, give me reasons why you should like me ... You can't., can you? You shouldn't be able to explain why you like something, if it's something special ... I was only joking, I'll be serious this time. Why do you like Jun-sang so much? Can you give me reasons for that?
The shadow land:
Yoo-jin : Have you heard of the man who went to the land of shadows?...
Min-hyung : Do you know why I brought you here?
Min-hyung : Until when are you going to remember that friend?
Yoo-jin : I don't want to talk about it. I don' think that's none of your business.
Min-hyung : No. I don't think it's none of my business.
Yoo-jin : Please, stop it.
Min-hyung : That' not love.
Yoo-jin : Stop it! Please, stop it!!
Min-hyung : Because I love you! ... Because I ... I love you too much ...
เวลาบ่าย ...ที่สกีรีสอรต์
มินฮุง ถือม้วนเอกสาร เดินฝ่าหิมะ ยูจิน สะพายกล้องรออยู่ข้างรถกระเช้า ทั้งสองเดินเข้าหากัน
มินฮุง : คุณรอนานหรือเปล่า
ยูจิน : เปล่าค่ะ
มินฮุง :ไปข้างบนกันเถอะ
หลังจากกลับมาจากทะเลสาบ ทั้ง มินฮุง และ ยูจิน ต่างตะขิดตะขวงใจ เพราะต่างรู้สึกว่า หัวใจของตนเอง กำลังเอนเอียงเข้าหาอีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งคู่รู้สึกขัดเขินซึ่งกันและกัน นั่งตรงข้ามกันในรถกระเช้า ที่มีเพียง สองเรา
( อ้อ สองคนก่อน...ยังไม่เป็นสองเรา)
เมื่อแรก ก็ต่างมองวิวทิวทัศน์ข้างทางที่รถกระเช้าเคลื่อนตัว
มินฮุง กำมือยกขึ้นๆลงๆ แล้วก็เบือนหน้ามามอง ยูจิน สายตา อ่อนโยน พอ ยูจิน ละสายตาจากกระจกของกระเช้า ก็ได้สบตากับ มินฮุง มินฮุง ก็เบือนหน้าไปด้านข้างมองทะลุกระจก พอ ยูจิน หันไปด้านข้าง มองทะลุกระจกบ้าง มินฮุง ก็ มอง ยูจิน อีก มองวิวข้างกระจกกันไป แอบมองกันมา จน... ได้สบตากัน ต่างยิ้มให้กันและกัน แล้วก็เกิดอาการเขิน... จนต้องก้มดูมือของตัวเองบนตัก เงยหน้า มองด้านข้างกระจกของกระเช้า พร้อมกัน
( แหม คุณ มินฮุง คุณ ยูจิน ตอนนี้ คุณอายุ 28 แล้ว ทำเป็นเด็กๆ ไร้เดียงสา คุณ มินฮุง น่ะ ไหน คุณคิมเรียกว่า playboy แต่ยังไง ก็น่ารักค่ะ สำหรับฉากนี้ )
มินฮุง กำมือยกขึ้นๆลงๆ แล้วก็เบือนหน้ามามอง ยูจิน สายตา อ่อนโยน พอ ยูจิน ละสายตาจากกระจกของกระเช้า ก็ได้สบตากับ มินฮุง มินฮุง ก็เบือนหน้าไปด้านข้างมองทะลุกระจก พอ ยูจิน หันไปด้านข้าง มองทะลุกระจกบ้าง มินฮุง ก็ มอง ยูจิน อีก มองวิวข้างกระจกกันไป แอบมองกันมา จน... ได้สบตากัน ต่างยิ้มให้กันและกัน แล้วก็เกิดอาการเขิน... จนต้องก้มดูมือของตัวเองบนตัก เงยหน้า มองด้านข้างกระจกของกระเช้า พร้อมกัน
( แหม คุณ มินฮุง คุณ ยูจิน ตอนนี้ คุณอายุ 28 แล้ว ทำเป็นเด็กๆ ไร้เดียงสา คุณ มินฮุง น่ะ ไหน คุณคิมเรียกว่า playboy แต่ยังไง ก็น่ารักค่ะ สำหรับฉากนี้ )
โลกเบื้องล่างที่กระเช้าเคลื่อนผ่าน ราวกับประดับด้วยอาภรณ์ขาวโพลน สกีรีสอร์ต และป่าเขา เต็มไปด้วยหิมะ ส่องประกายสีขาวเยือกเย็น ออกมา ฤดูหนาวสีขาวที่ จุนซาง ชื่นชอบก็มีภาพลักษณ์แบบนี้
เมื่อกระเช้า หยุดลง มินฮุง ส่งมือมารับ ยูจิน เหมือนอย่างเคย
มินฮุง ดูแปลนในมือ ออกความคิดเห็นกับส่วนต่างๆ ที่จะปรับปรุง ยูจิน ให้คำปรึกษาหารือ ท่าทางของทั้งคู่แจ่มใสเป็นนักหนา ถ้อยทีถ้อยอาศัย ลงเรือลำเดียวกันช่วยกันจ้ำช่วยกันพาย
ที่ห้องอาหารชั้นบน
มินฮุง : เราจะใช้ที่นี่เฉพาะเวลามาสังเกตการณ์ ผมอยากให้ดูอบอุ่นกว่านี้ และอยากให้มีสีสันกว่านี้หน่อย
ยูจิน : ของเดิมเขาใช่สีงา กับสีน้ำตาล ก็เข้ากันดีอยู่แล้ว งั้นเอาสีขาวมาแต่งเติมแล้วกัน
มินฮุง จำได้ว่า ตอนยูจิน เมาเหล้า เขายังไม่ได้ยินว่า ยูจิน บอกว่าชอบกินอะไร
มินฮุง : รู้แล้ว สีโปรดของคุณ คือสีขาว และฤดูโปรดของคุณ คือ ฤดูหนาว แล้วอาหารที่คุณชอบล่ะ
ยูจิน : คุณถามทำไม
มินฮุง : ผมก็แค่อยากจำเอาไว้
ยูจิน งง มาก มาก มาก แล้วก็รู้สึกเหมือนมีหินก้อนใหญ่หนักอึ้งมาทับที่ทรวงอก นี่เป็นคำพูด ของเธอ และ จุนซาง นี่นา ทำไม..ถึง...
คำพูดที่ติดปาก และ กิริยา ท่าทางของ มินฮุง ทำให้ ยูจินสำคัญผิดไม่ได้ว่า เขา คือ จุนซาง แต่ก็น่าแปลก ที่เขาไม่ใช่ จุนซาง
จนดวงตะวันตกดินลับฟ้าไปแล้ว ทั้งคู่ ออกมานอกอาคาร แต่งานก็ยังไม่เสร็จ มินฮุง ยัง ชี้ตรงโน้น ชี้ตรงนี้ อยู่กับ ยูจิน
ที่สกีรีสอร์ต คุณคิม และจุงอา เริ่มกังวล ที่ ยูจิน และ มินฮุง ยังไม่กลับลงมา คุณคิมเล่าว่า : ทางโน้นโทรมาแจ้งว่า วันนี้ข้างบนลมแรง ปล่อยกระเช้าออกมาไม่ได้
บนภูเขา มีลมพายุพัดแรงมาก มินฮุง กำลังโทรศัพท์เช็คสถานการณ์ เมื่อรู้ว่า ปล่อยกระเช้าไม่ได้ ยูจินท่าทางเป็นกังวล
มินฮุง และ ยูจิน เข้าไปที่ห้องอาหารอีกครั้ง มินฮุง จุดเตาผิง ใส่ท่อนฟืน แล้วนั่งเก้าอี้ที่หน้าเตาผิงนั่นเอง
ยูจิน ยืนที่ข้างหน้าต่าง มองออกภายนอกไปพบแต่ความมืดมิด
มินฮุง หันไปมอง ยูจิน : คุณเป็นห่วงหรือ
ยูจิน หันหน้ามาตอบว่า นิดหน่อยค่ะ แล้วเราเดินลงเขาเองไม่ได้หรือคะ
มินฮุง : เราจะเดินไปได้อย่างไรล่ะ เรานั่งรออยู่นี่ รอให้ลมสงบดีกว่า
ยูจิน หันกลับไปมองข้างนอกหน้าต่างอีก
มินฮุง : อยู่กับผมแล้วคุณอึดอัดเหรอ
ยูจิน หันมามอง มินฮุง แต่ไม่ตอบคำถาม
มินฮุง : ถ้าไม่ได้อึดอัด งั้น ก็มานั่งใกล้เตาผิงสิ
ยูจิน : เดี๋ยวฉันขึ้นไปดูชั้นสามก่อนนะคะ แล้ว เส บ่นออกมาว่า ที่นี่หนาวเป็นบ้าเลยเน๊อะ
มินฮุง ได้แต่มองตาม ยูจิน ขึ้นบันไดไป หัวใจ มินฮุง หนักอึ้งขึ้นทุกที
ซังฮวก และเพื่อนๆ มาถึงสกีรีสอร์ต และรับรู้ว่า มินฮุง และ ยูจิน ติดอยู่บนภูเขา กลับลงมาไม่ได้
ที่สกีรีสอร์ต คุณคิม และจุงอา เริ่มกังวล ที่ ยูจิน และ มินฮุง ยังไม่กลับลงมา คุณคิมเล่าว่า : ทางโน้นโทรมาแจ้งว่า วันนี้ข้างบนลมแรง ปล่อยกระเช้าออกมาไม่ได้
บนภูเขา มีลมพายุพัดแรงมาก มินฮุง กำลังโทรศัพท์เช็คสถานการณ์ เมื่อรู้ว่า ปล่อยกระเช้าไม่ได้ ยูจินท่าทางเป็นกังวล
มินฮุง และ ยูจิน เข้าไปที่ห้องอาหารอีกครั้ง มินฮุง จุดเตาผิง ใส่ท่อนฟืน แล้วนั่งเก้าอี้ที่หน้าเตาผิงนั่นเอง
ยูจิน ยืนที่ข้างหน้าต่าง มองออกภายนอกไปพบแต่ความมืดมิด
มินฮุง หันไปมอง ยูจิน : คุณเป็นห่วงหรือ
ยูจิน หันหน้ามาตอบว่า นิดหน่อยค่ะ แล้วเราเดินลงเขาเองไม่ได้หรือคะ
มินฮุง : เราจะเดินไปได้อย่างไรล่ะ เรานั่งรออยู่นี่ รอให้ลมสงบดีกว่า
ยูจิน หันกลับไปมองข้างนอกหน้าต่างอีก
มินฮุง : อยู่กับผมแล้วคุณอึดอัดเหรอ
ยูจิน หันมามอง มินฮุง แต่ไม่ตอบคำถาม
มินฮุง : ถ้าไม่ได้อึดอัด งั้น ก็มานั่งใกล้เตาผิงสิ
ยูจิน : เดี๋ยวฉันขึ้นไปดูชั้นสามก่อนนะคะ แล้ว เส บ่นออกมาว่า ที่นี่หนาวเป็นบ้าเลยเน๊อะ
มินฮุง ได้แต่มองตาม ยูจิน ขึ้นบันไดไป หัวใจ มินฮุง หนักอึ้งขึ้นทุกที
ซังฮวก และเพื่อนๆ มาถึงสกีรีสอร์ต และรับรู้ว่า มินฮุง และ ยูจิน ติดอยู่บนภูเขา กลับลงมาไม่ได้
ยูจิน กลับลงมาชั้นล่างเห็น มินฮุง นั่งหลับอยู่หน้าเตาผิงขณะที่ยังสวมแว่นอยู่
ยูจิน เดินเข้าไปหา มินฮุง นั่งลงใกล้ๆ ยูจิน เอียงตัวมอง มินฮุง สักพัก ก็ตัดสินใจ เอื้อมมือไปบรรจงถอดแว่นตาให้ มินฮุง อย่างแผ่วเบา เห็น มินฮุง ยามหลับแล้ว ยูจิน ก็อดคิดถึง จุนซาง ไม่ได้ ยูจิน จ้องมองใบหน้าของมินฮุง สักพัก ทันใดนั้น มินฮุง ก็ลืมตาขึ้นมอง ยูจิน เมื่อประสานสายตากัน ยูจิน รู้สึกวุ่นวายใจอย่างบอกไม่ถูก
( คุณมินฮุง ไม่สวมแว่นตา แล้ว มองหน้า ยูจิน เห็นหน้า ยูจิน ชัดไหมมันมืดด้วยนี่นา)
ยูจินพูด ตะกุก ตะกัก : ฉัน แค่จะถอดแว่นให้คุณ กลัวคุณนอนไม่สบายน่ะค่ะ นี่ไงคะ แล้ว ยูจิน ก็ยื่นแว่นตาคืนให้
มินฮุง ขยับตัวนั่งตรง
มินฮุง ขยับตัวนั่งตรง
ยูจิน พยายามแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นสายตาของ มินฮุง ที่มองมาที่เธอ จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน เดินจากที่นั่ง อ้อมมาด้านหลังของ มินฮุง
มินฮุง ยกมือขึ้นลูบตาตัวเอง : คุณ จะยังจำเขา ไปถึงไหน
มินฮุง ยกมือขึ้นลูบตาตัวเอง : คุณ จะยังจำเขา ไปถึงไหน
ยูจิน เดินมาเบื้องหลัง มินฮุง หยุดชะงัก
มินฮุง ลุกขึ้นยืน สวมแว่นตาเข้าที่ : คน คน นั้น เขายากจะลืม จริงๆหรือ
มินฮุง สาวเท้าเดินไปหา ยูจิน จนเข้ามาใกล้ ยูจิน ทำท่าจะเดินหนี
มินฮุง : ยูจิน ขอผมถามอะไรอย่างสิ : ถ้าหากเขายังอยู่ คุณว่า พวกคุณจะยังรักกันมั๊ย
มินฮุง มายืนด้านข้างของ ยูจิน
ยูจิน พูดเสียงดัง : คุณ มินฮุง
แต่ มินฮุง ยังคงโจมตี ยูจินต่อไป ราวกับ ลมพายุ ที่อยู่ข้างนอก เพราะ จุนซาง คนที่ตายไปแล้ว เพราะคนที่ไม่ได้อยู่ในโลกนี้น่ะหรือ ที่ทำให้ ยูจิน ยังยึดติดอยู่แบบนี้ พอที พอทีเถอะ
ทั้งที่ นี่ไม่ใช่เรื่องที่ มินฮุง ควรจะเข้ามาก้าวก่าย ไม่ว่า ยูจิน จะยึดติดอยู่ หรือจะโอบกอด ความเพ้อ ฝัน นั้นไว้ก็ตามที ไม่ใช่เรื่อง ที่มินฮุง จะเข้ามายุ่งเกี่ยว แต่ มินฮุง ทนไม่ไหว แล้ว
มินฮุง พูดต่อ ตามที่ อยากพูด : เหตุผลที่คุณยังลืมเขาไม่ได้ เพราะเขาตายไป และไม่ได้อยู่ในโลกนี้อีกแล้ว
ยูจิน เสียงเกือบเป็นการตะโกน : ฉันไม่อยากพูดถึงมัน และมันก็ไม่เกี่ยวอะไร กับคุณด้วย
ยูจิน น้ำตาคลอ เบือนหน้ากลับ
มินฮุง : ก็ใช่ มันไม่เกี่ยวอะไรกับผม
ยูจิน หันมามอง มินฮุง
มินฮุง : คุณเคยบอกว่า ผมไม่เคยรักใครหมดหัวใจ คุณพูดถูก ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับความรัก แต่ในความเห็นของผม การไม่ลืมคนที่ตายไปแล้ว ก็ไม่ใช่รักแท้หรอก นั่นไม่ใช่ความรัก มันคือความผูกพันที่คุณมีต่อเขา
มินฮุง สาวเท้าเดินไปหา ยูจิน จนเข้ามาใกล้ ยูจิน ทำท่าจะเดินหนี
มินฮุง : ยูจิน ขอผมถามอะไรอย่างสิ : ถ้าหากเขายังอยู่ คุณว่า พวกคุณจะยังรักกันมั๊ย
มินฮุง มายืนด้านข้างของ ยูจิน
ยูจิน พูดเสียงดัง : คุณ มินฮุง
แต่ มินฮุง ยังคงโจมตี ยูจินต่อไป ราวกับ ลมพายุ ที่อยู่ข้างนอก เพราะ จุนซาง คนที่ตายไปแล้ว เพราะคนที่ไม่ได้อยู่ในโลกนี้น่ะหรือ ที่ทำให้ ยูจิน ยังยึดติดอยู่แบบนี้ พอที พอทีเถอะ
ทั้งที่ นี่ไม่ใช่เรื่องที่ มินฮุง ควรจะเข้ามาก้าวก่าย ไม่ว่า ยูจิน จะยึดติดอยู่ หรือจะโอบกอด ความเพ้อ ฝัน นั้นไว้ก็ตามที ไม่ใช่เรื่อง ที่มินฮุง จะเข้ามายุ่งเกี่ยว แต่ มินฮุง ทนไม่ไหว แล้ว
มินฮุง พูดต่อ ตามที่ อยากพูด : เหตุผลที่คุณยังลืมเขาไม่ได้ เพราะเขาตายไป และไม่ได้อยู่ในโลกนี้อีกแล้ว
ยูจิน เสียงเกือบเป็นการตะโกน : ฉันไม่อยากพูดถึงมัน และมันก็ไม่เกี่ยวอะไร กับคุณด้วย
ยูจิน น้ำตาคลอ เบือนหน้ากลับ
มินฮุง : ก็ใช่ มันไม่เกี่ยวอะไรกับผม
ยูจิน หันมามอง มินฮุง
มินฮุง : คุณเคยบอกว่า ผมไม่เคยรักใครหมดหัวใจ คุณพูดถูก ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับความรัก แต่ในความเห็นของผม การไม่ลืมคนที่ตายไปแล้ว ก็ไม่ใช่รักแท้หรอก นั่นไม่ใช่ความรัก มันคือความผูกพันที่คุณมีต่อเขา
ยูจิน : เลิกพูดได้ไหมคะ พอทีเถอะค่ะ ยูจินแข้งขาอ่อนไปแล้ว ภาพเบื้องหน้าพร่ามัว เพราะน้ำตา ในใจก็เลือนราง
มินฮุง เอื้อมสองมือจับแขน ยูจิน ไว้ เขย่า เบาๆ เหมือนจะให้ ยูจิน ตื่นจากความฝัน สิบปี ของ ยูจิน เสียที
และพูดต่อ : ยอมรับความจริงเสียทีเถอะ เขา น่ะ ตายแล้ว เขาตายไปแล้ว รู้มั๊ย
และพูดต่อ : ยอมรับความจริงเสียทีเถอะ เขา น่ะ ตายแล้ว เขาตายไปแล้ว รู้มั๊ย
ยูจิน เจ็บปวดยิ่งนัก รู้สึกว่า ถ้าเธอตายไปเสียเลยจะดีกว่า เธอไม่เข้าใจว่าทำไม มินฮุง ถึงทำร้ายหัวใจของเธอ ให้รวดร้าว เช่นนี้ มินฮุง คน ที่เธอมองเห็นเงาร่างของ จุนซาง ในตัวเขา
ได้โปรดเถิด อย่าทำอย่างนี้อีกเลย ยูจิน เจ็บปวดเหลือเกิน เจ็บปวดทั้งจิตใจ เจ็บปวดทั้งร่างกาย คำพูดของ มินฮุง ยิ่งตอกย้ำให้แผลในใจของ ยูจิน บาดลึกเข้าไปอีก
ยูจิน สะบัดตัว ออกจากมือ ของ มินฮุง ตะโกนออกมา ด้วยแรงอารมณ์ : พอทีเถอะ เลิกพูดเรื่องนี้ซะที ทำไมต้องทำแบบนี้ ? คุณทำแบบนี้กับฉันทำไม ???
มินฮุง ก็ตะโกนสวนออกไปจากส่วนลึกในใจของตัวเองอย่างไม่รู้ตัว : ก็เพราะผมรักคุณ
ยูจิน ตกตะลึง มินฮุง เอง ก็ตกตะลึง กับคำพูดที่เปล่งออกมา แทนความปรารถนาในใจ ที่มีต่อ ยูจิน เวลานั้นเองที่ มินฮุง ได้รู้สึกตัว ประจักษ์ชัดกระจ่างแจ้งในหัวใจของตัวเอง แล้วว่า มินฮุง รัก ยูจิน ด้วย ใจจริง
มินฮุง ก็รู้สึกทรมานเมื่อเห็น ยูจิน เจ็บปวดเพราะไม่อาจลืม จุนซาง ได้ แต่ถึงแม้ มินฮุง จะรู้สึกทุกข์ใจ แต่ก็ไม่รู้ว่า จริงๆ แล้ว ตัวเอง มีความรู้สึก กับ ยูจิน อย่างไร เวลา นี้ เขา รู้ตัวแล้ว ว่า ความรู้สึกเหล่านั้น คืออะไร
มินฮุง พูด อย่างช้า ๆ ย้ำและทบทวน ความรู้สึก ของตัวเอง กับ ตนเอง และยูจิน : เพราะว่า..หยุดเว้นระยะให้แน่ใจ กับความรู้สึก ที่เพิ่ง ได้รับรู้ เอง เช่นกัน...
: เพราะว่า... ผมรักคุณมากเหลือเกิน
ยูจิน ยังตกตะลึง มอง มินฮุง นิ่ง คาดไม่ถึงกับสิ่งที่กำลังได้ยิน พอได้สติ ว่าได้ยิน มินฮุง พูดอะไรกับเธอ ก็ผลุนผลัน วิ่งออกไป นอก อาคาร อย่างคนเสียสติ
( เขียนเอง งง เอง ได้สติ แต่วิ่งเหมือนคนเสียสติ สรุปว่า ก็คือ อย่าง ที่ ยูจิน ทำอยู่ในจอภาพ นั่นเอง)
Scene-7: Winter storm
Recollection:
Yoo-jin : I want to forget everything, if I could.
Everything that relates to Jun-sang ...
I wish I wouldn't remember any of those.
But even though I try to forget him, my eyes remember Jun-sang's face.
My heart remembers what Jun-sang has said to me.
What should I do? What can I do about this?
Misunderstanding:
Min-hyung : I am sorry. I apologize for being rude to you all this time. I am sorry that I couldn't apologize to you earlier. ....
Yoo-jin : I don't know what you are talking about. You mean you acted like that on purpose?
Min-hyung : That might sound like an excuse, but I was misunderstanding you.
Yoo-jin : Do you feel different about me now?... I am glad to hear that ...
Min-hyung: Don't you want to know what I misunderstood about? I really didn't think there was someone that looked exactly like me. I thought you made up the story to become close to me.
Yoo-jin : Why would I do that to you?
Min-hyung : I realized I was wrong. I thought there was something wrong. At first I was very confused because it was nothing like what I felt when I saw you for the first time. When you first saw me, I remember that you cried ... Was it because I reminded you of him? Was it because of him that you didn't want to do this work? And also you saved my life because of him, didn't you? Do I really look like that person named Kang Jun-sang?
Yoo-jin : Yes. Sometimes I wanted to believe you are Jun-sang. So many times, I wanted to think you were Jun-sang. You once said to me that the best thing for the deceased is to forget the dead person. I know you are right about that. But still I can't help it.
Min-hyung : Can you forgive me?
Yoo-jin : I don't have anything to forgive you, you were just misunderstanding me.......
Min-hyung : Let's start all over again. Don't mistake me again. My name is Lee Min-hyung. Nice to meet you.
Yoo-jin : I am Jung Yoo-jin.
Reasons to love:
Min-hyung : Then tell me why you love him so much.
Yoo-jin : Sang-hyuk knows more about me than anyone else. He's born with a warm heart. We have grown up like a family since we were young. He's full of understanding and responsibility ... Why do you laugh?
Min-hyung : Nothing ... You have too many reasons for loving a person ... But for example, give me reasons why you should like me ... You can't., can you? You shouldn't be able to explain why you like something, if it's something special ... I was only joking, I'll be serious this time. Why do you like Jun-sang so much? Can you give me reasons for that?
The shadow land:
Yoo-jin : Have you heard of the man who went to the land of shadows?...
There was a man who went to the shadow land.
But no one there even talked to him ...
He was really lonely. That's the end. It's boring, isn't it? .
Min-hyung : Who told you that story?...I think your friend was very lonely too. That's why your friend told you that story ...
Min-hyung : Who told you that story?...I think your friend was very lonely too. That's why your friend told you that story ...
Min-hyung : Do you know why I brought you here?
Come this way ...
Look. Look at all that. Isn't it beautiful?
This place is so beautiful but what do you remember of this place?
You can only think of memories, isn't that it?
You look like you only have sad memories to remember.
You look like you only have sad memories to remember.
How can you love another person if you close yourself like that?
You look like you are the one who's living in the land of shadows.
You look like you are the one who's living in the land of shadows.
Are you going to continue to love with loneliness?
Why do you live outside in the cold lonely place when you have such a warm and beautiful place? See?
See all that.
Declaration in a storm:
See all that.
Declaration in a storm:
Min-hyung : Until when are you going to remember that friend?
That person .. Is it really hard to forget that person?
Yoo-jin. Let me ask you one thing. Is he was still alive ...
Do you think you two were still in love?
The reason you can't seem to forget him is because he's dead and that he's not living in this world, isn't it?"
Yoo-jin : I don't want to talk about it. I don' think that's none of your business.
Min-hyung : No. I don't think it's none of my business.
You said to me that I never loved a person with all my heart.
You are right, I don't know anything about love.
You are right, I don't know anything about love.
But in my point of view, it isn't a real love not to forget about someone who's already dead.
Yoo-jin : Please, stop it.
Min-hyung : That' not love.
It's like an attachment, lingering affection, or self-pity for him!
Please face the reality. That person is dead! That person is dead.
Yoo-jin : Stop it! Please, stop it!!
Why are you doing this?
Why are you doing this to me?
Min-hyung : Because I love you! ... Because I ... I love you too much ...
No comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.