16.9.10

My Journey’s Diary : Trip to Korea Episode 4 – Korean Culture : Kimchi & Hanbok



วันที่ 2 ของการเดินทาง วันนี้เป็นวันที่เราจะไปเรียนรู้วัฒนธรรมเกาหลีกันค่ะ เริ่มจากวัฒนธรรมพื้นบ้านก่อนนะคะ นั่นก็คือการทำกิมจิ อาหารประจำชาติของเกาหลีค่ะ

ที่โรงเรียนสอนทำกิมจิ พอไปถึงเค้าก็จะแจกผ้ากันเปื้อนสีแดงๆ ให้คนละผืน แล้วก็บนโต๊ะมีผักกาดขาวที่แช่น้ำเกลือเรียบร้อยแล้ว และส่วนผสมกิมจิที่ปรุงไว้เสร็จแล้ววางไว้ให้คนละชุดแบบในรูปด้านบนค่ะ

ที่จริงการทำกิมจิเราต้องเริ่มจากการเตรียมผักก่อน ด้วยการนำเอาผักกาดขาวสดๆ ไปแช่ในน้ำเกลือก่อน แต่เพื่อเป็นการประหยัดเวลาทางโรงเรียนได้ทำเตรียมไว้ให้แล้วค่ะ และต้องนำเครื่องปรุงทั้งหมดที่เห็นอยู่นี้มาผสมกัน ซึ่งค่อนข้างจะยุ่งมากพอสมควรอยู่ ทางโรงเรียนจึงจัดการผสมให้เสร็จแล้วเช่นกันค่ะ

The 2nd day of our trip, we went to Kimchi School to learn how to make kimchi. Here are all ingredients.


สาวๆ ของเราตั้งใจฟังอาจารย์อธิบายกันอย่างดีค่ะ


คนนี้ล่ะค่ะอาจารย์...เป็นชายหนุ่มค่ะ ไม่ใช่แม่บ้านเกาหลีแต่อย่างใด...

This is our teacher…


ที่เราต้องทำก็คือนำเอาส่วนผสมสีแดงที่เค้าทำไว้ให้ทา...ทา...ทา...ลงบนผักกาดขาวทีละใบๆ...

พอเสร็จแล้วก็พันให้เรียบร้อย...ออกมาหน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ...

After finished, it came out like this…



กิมจิที่พวกเราทำทั้งหมดนั้นเค้าจะนำไปแจกให้กับเด็กๆ ยากจนนะคะ เฮ้อ...ช่างให้ความรู้สึกเหมือนเป็นนางงามมาเก็บตัวจริงๆ อย่างที่รัชจังไปหลอกคุณลุงคนขับรถไว้เลย (รักเด็ก รักโลก ธรรมชาติ สายลม และแสงแดด อะไรประมาณนั้น แรก ๆ คุณลุงดูเหมือนจะเชื่อจริงจัง แต่คงมาเลิกเชื่ออีตอนจบงานแฟนมีตซ็อกนี่แหละค่ะ เพราะนางงามแต่ละคนหอบของพะรุงพะรังที่ไปเหมามาจากร้านเจ้าซ็อกราวกับซานตาคลอสก็ไม่ปาน แถมยังมีเสียงซ็อกๆๆๆ...จางกึนซ็อกๆๆๆ...ดังอยู่ตลอดเวลาราวกับเสียงสะท้อน ซึ่งดังจ๊อกแจ๊กจอแจอยู่ตลอดเวลานับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา)

ส่วนอันนี้เป็นมันฝรั่งกับบรรดาขนมที่เค้าเอามาให้ชิมค่ะว่ากินได้เข้ากั๊น เข้ากันกับกิมจิ ต้องไปลองชิมดูเองค่ะแล้วจะรู้ว่ามันเข้ากันได้จริงอย่างไม่น่าเชื่อ

All kimchi that we made today will give out to the poverty children ^^



หลังจากนั้นก็ได้เวลาสาวๆ แปลงร่างเป็นสาวเกาหลีเต็มตัวแล้วค่ะ ด้วยการไปลองสวมชุดฮันบก ชุดประจำชาติของเกาหลี (ทั้ง 2 อย่างนี่อยู่ที่เดียวกันเลยค่ะ) ซึ่งมีสีสันสดใสสวยงามมากเลยค่ะ คุณสามารถเลือกชุดได้ตามใจชอบ จะเลือกใส่กี่ชุดก็ได้ค่ะ สาวๆ ของเราก็เลยเพลิดเพลินเจริญใจกันมากกับการสวมชุดฮันบกถ่ายรูปกัน คุณป้าที่มาช่วยสวมชุดให้ก็แสนจะน่ารัก เรียก “มิสไทยแลนด์ๆๆๆ...” อยู่ตลอดเวลาเลยทีเดียว

ประชันโฉมกับแม่นางแดจังกึมค่ะ

And now all ladies dressed in Hanbok, national costume of korean.




สาวๆ ในชุดฮันบก สีสันคัลเลอร์ฟูลกันมาก เหมือนกำลังจะเข้าไปถวายตัวในวัง (กับพระราชาซ็อก) ยังไงยังงั้นเลยค่ะ...ที่เห็นมีชายหนุ่ม (น้อย) ยืนอยู่นั่น คือคุณลุงคีซานิม คนขับรถของเราเองค่ะ พอสาวๆ โบกมือเรียก คุณลุงรีบวิ่งมาทันใด ( คงดีใจที่ได้ถ่ายรูปกับนางงาม )



แต่งตัวสวยงามเสร็จแล้วก็ไปเก็บผลไม้ในไร่กันค่ะ พอดีช่วงที่เราไปเป็นฤดูร้อน (ของเกาหลี) จึงไม่มีสตรอเบอร์รี่ให้เก็บ เลยต้องไปเก็บเจ้าแตงแคนตาลูปนี่แทนค่ะ เค้าให้คนละ 2 ลูก ตอนที่เดินลงไปในแปลง รัชจังเดินมาข้างๆ แล้วบอกดิฉันว่า “อยู่ได้ไม่เกิน 10 นาทีครับพี่ รับรองได้” จริงของเขาค่ะ มันร้อนมากจริงๆ ในนั้น ใครว่าเกาหลีอากาศเย็นสบาย ดิฉันขอเถียงเลยค่ะ ตอนที่ไปนั้นร้อนมากๆๆ ราวกับอยู่ในกรุงเทพฯ เลยทีเดียว (ขอบ่นแก้แค้นเจ้าซ็อกหน่อยค่ะ มันไปประเทศไหนๆ ก็ชอบไปบ่นว่าประเทศเค้าร้อน บ้านมันก็ร้อนเหมือนกัน)

After that, we went to the fruit farm to pick up this yellow cantaloup. The weather was really hot that day…( JKS, South Korea is sooo hot :P )



เจ้าแตงแคนตาลูปที่ว่าหน้าตามันเป็นแบบนี้ค่ะ ลูกเล็กๆ แต่ก็หวานดีนะคะ (น้องต่ายปอกมาเสริฟให้ตอนเรากินมื้อกลางวันค่ะ)



มื้อกลางวันของเราวันนี้คือ “คาลบิ” หมูย่างเกาหลีของแท้ค่ะ วิธีการกินก็คือ เค้าจะให้หมูหมักเรามาเป็นชิ้นโตๆ เลยค่ะ เราก็เอามาปิ้งบนเตา ปิ้งแล้วค่อยใช้กรรไกรตัดเป็นชิ้นพอคำ แล้วคีบหมูมาจิ้มซอสซัมจัง วางลงบนผัก แล้วตักพวกเครื่องเคียงต่างๆ วางลงไปตามชอบ เสร็จแล้วก็ห่อและเอาเข้าปากค่ะ เหมือนกินเมี่ยงเลยล่ะค่ะ และเช่นเคยนะคะ เค้าจะมีข้าว ซุปสาหร่าย และกิมจิให้ด้วยค่ะ กินเท่าไหร่ก็ไม่หมดค่ะเพราะมันเยอะมากๆๆๆ ถ้าหมดเค้าก็มีเติมให้อีกค่ะ (ชุดเดียวก็ไม่รอดแล้ว จะเติมทำไมนักหนา)

นี่ค่ะ...ปิ้ง...ปิ้ง...ปิ้ง...แบบนี้...

Our lunch is “Calbi” korean BBQ…



แล้วก็...ตัด...ตัด...ตัด...( เรามีนางแบบมาสาธิตวิธีการตัดด้วยค่ะ)



ผักและเครื่องเคียงค่ะ...เยอะจริงๆ

Served with vegetables and various side dish…




อันนี้ป้ายในห้องน้ำค่ะ พอดีไปเห็นเข้า ชาติไทยไม่แพ้ใครในโลกจริงๆ...



ที่ร้านนี้เองเป็นแห่งแรกที่ดิฉันได้เห็นศักยภาพการช้อปๆๆๆ ของพ่อแม่พี่น้องร่วมคณะ เพราะมีของขายอยู่หน้าร้าน เป็นพวกของที่ระลึก พวงกุญแจ ช้อน ชาม ตะเกียบ อะไรพวกนี้...และคณะของเราก็ช้อปๆๆๆ ทั้งช้อน ทั้งตะเกียบ ทั้งพวงกุญแจ แม้กระทั่งกระปุกใส่ข้าวก็ยังมีคนซื้อไป...สุดยอดนักช้อปจริงๆ...

หลังจากมื้อกลางวันนี้แล้วจะไปป้อมฮวาซอง หนึ่งในมรดกโลกกันค่ะ...ติดตามตอนต่อไปนะคะ...

After lunch we went to Hwaseong Fortress in Suwon. To be continued ^^

No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.