[News Update]Lee Soo Man resigns from SM Entertainment, Avex sells shares.
Cr. Edaily SPN
Repost : http://twssgblogspot.com/
Edaily SPN reported that Lee Soo Man will resign from SM Entertainment and that Avex Entertainment has sold off all shares of SM Entertainment.
Apparently, SM is stating that Lee Soo Man is resigning so that SM can focus on investments and business development overseas, however I don’t see the correlation between the two events. Regardless, Lee Soo Man will no longer be engaged in business activities, however he will still remain the major stakeholder, acquiring another 1.5% of shares from Avex, making his total share of SM Entertainment, 28.3%.
In addition, the relationship between SM Entertainment and Avex Entertainment seems to be over, as Avex sold all 15.4% of their shares, with Neowizbugs acquiring the majority of it.
Avex Entertainment used to assist in promotions of SM Entertainment artists within the Japanese market, including TVXQ.
SM Entertainment was founded by Lee Soo Man on February 14, 1995.
So what does this mean for TVXQ? We’re not sure, but seeing that Avex Entertainment has sold all of SM Entertainment’s shares, it doesn’t look like good news. However, there is a silver lining in that Avex’s CEO Masato “Max” Matsuura recently blogged and tweeted about how proud he was of TVXQ with their recent accomplishments and achievements (Platinum status and more).
ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ใน "SM Entertainment" ประธานลาออก, Avex ขายหุ้นทิ้ง
Repost : http://twssg.blogspot.com/
Cr.Manager Online
Edaily SPN จากเกาหลีได้รายงานว่า "ลีซูมาน" (Lee Soo Man) ประธานบริหาร และผู้ก่อตั้งบริษัท "SM Entertainment" ได้ตัดสินใจยื่นใบลาออกจากบริษัทแล้ว อย่างไรก็ตามเขายังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทต่อไป นอกจากนั้น "Avex Entertainment" จากญี่ปุ่นได้ขายหุ้นใน "SM Entertainment" ทิ้งทั้งหมดแล้ว ทั้งหมดกลายเป็นคำถามว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับยักษ์ใหญ่แห่งวงการบันเทิงเกาหลีแห่งนี้
ลีซูมาน ผู้ก่อตั้งบริษัท SM Entertainment ได้ออกแถลงการณ์ลาออกจากตำแหน่งประธานบริหาร ในบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่ของเกาหลีแห่งนี้ โดยเขาได้ให้เหตุผลว่า ต้องการมุ่งความสนใจไปที่ด้านการลงทุน และการขยายธุรกิจในต่างแดนแทน ซึ่งมีรายงานว่า เขาอาจะต้องการกลับไปทำงานดนตรีอีกครั้งด้วย
อย่างไรก็ตาม ลีซูมานยังจะคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทต่อไป แม้ว่าหลังจากนี้เขาจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับการบริหารงานของบริษัทแล้วก็ตาม โดยขณะนี้ อดีตประธานบริหารวัย 57 ปี ถือหุ้นของ SM Entertainment อยู่ถึง 28.3 เปอร์เซนต์ ซึ่งรวมกับหุ้นจำนวน 1.5 เปอร์เซนต์ที่เพิ่งซื้อมาจาก Avex บริษัทบันเทิงจากญี่ปุ่นด้วย
นอกจากนั้น ดูเหมือนว่า ความสัมพันธ์ทางหุ้นส่วนทางธุรกิจระหว่าง SM Entertainment และ Avex Entertainment ได้เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดแล้วด้วย เมื่อ Avex บริษัทเพลงจากญี่ปุ่น ได้ขายหุ้นทั้งหมด 15.4 เปอร์เซนต์ของตัวเองทิ้ง โดยบริษัท Neowizbugs เป็นผู้ซื้อหุ้นในส่วนนั้นไป และกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับสองใน SM Entertainment ไปโดยปริยาย
ความเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างบริษัท SM Entertainment เป็นที่จับตามองเป็นอย่างมาก ในเรื่องนโยบายเกี่ยวกับสัญญาของศิลปินในสังกัด ที่ถึงตอนนี้ SM Entertainment ยังคงไม่สามารถหาข้อตกลงในเรื่องสัญญาที่ไม่เป็นธรรม กับสมาชิก 3 คนของ ดงบังชินกิ บอยแบนด์หมายเลข 1 ของบริษัท รวมถึงศิลปินอีกจำนวนได้
ขณะเดียวกัน ยังมีคำถามถึงเรื่องตลาดในต่างประเทศของบริษัท โดยเฉพาะในญี่ปุ่นที่ SM Entertainment ได้รับการสนับสนุนจาก Avex อย่างดีมาตลอด จนสามารถผลักดันให้ ดงบังชินกิง (TVXQ) และโบอา (BoA) กลายเป็นศิลปินแถวหน้าในแดนปลาดิบ ขณะเดียวกัน SM Entertainment ก็ทำหน้าที่จัดจำหน่ายผลงานของศิลปินญี่ปุ่นอย่าง นามิเอะ อามูโระ (Namie Namuro) และโคดะ คุมิ (Koda Kumi) ในเกาหลีด้วย
ลีซูมาน เริ่มต้นอาชีพในวงการดนตรีเกาหลีในฐานะศิลปินเพลงที่มีผลงานมาตั้งแต่ยุค 70 จนกระทั่งประสบความสำเร็จอย่างสูง กับการก่อตั้งบริษัท SM Entertainment เมื่อปี 1996 ซึ่งสามารถส่งศิลปินให้โด่งดังมากมาย กลายเป็นจุดเริ่มต้นยุคทองแห่งวงการเพลงเกาหลี ตั้งแต่ H.O.T, S.E.S., Shinhwa ในช่วงปลายยุค 90 จนถึงรุ่นของ Super Junior, SHINee, f(x), ดงบังชินกิง ในปัจจุบัน
No comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.