ไอดอลกิมจิ: ตัวปัญหาระดับชาติ หรือ เครื่องมือนักการเมืองจอมโหนกระแส ?
Cr. - koreaherald / manager online
Repost : http://twssg.blogspot.com/
ในระยะหลังวงการบันเทิงกิมจิ เริ่มถูกพาดพิงโดยผู้ใหญ่ของบ้านเมือง และนักการเมืองเกาหลีใต้มากขึ้นเรื่อย ๆ ในด้านหนึ่งก็สะท้อนถึงผลกระทบของวงการบันเทิงต่อสังคมโดยรวม แต่ในทางตรงกันข้าม มีหลายคนเริ่มสงสัยว่า แวดวงบันเทิงหรือศิลปินวัยรุ่น กำลังตกเป็นเครื่องมือของผู้ใหญ่ในบ้านเมือง เพื่อสร้างข่าวสร้างกระแสให้ตนเองเป็นที่สนใจขึ้นมา
เมื่อสมัยประชุมของรัฐสภาเกาหลีใต้เริ่มต้นขึ้น ดูเหมือนว่าวงการบันเทิงเกาหลีใต้จะกลายเป็นหนึ่งในเป้าโจมตี จากแวดวงการเมืองระดับชาติ บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนหลายท่าน ได้กล่าวพาดพิงมาถึงเหล่าดารา และวงการบันเทิง ซึ่งแน่นอนว่าส่วนใหญ่ไม่ใช่ในแง่บวก
เริ่มมีการเอ่ยชื่อของศิลปินนักร้องแบบเฉพาะเจาะจงเป็นรายบุคคล รวมถึงกล่าวถึงรายละเอียดแบบลึก ๆ เกี่ยวกับอุตสาหกรรมบันเทิง โดยเฉพาะชื่อของศิลปินสาวตัวแม่ อีฮโยริ (Lee Hyo Ri), สมาชิกวงไอดอลอย่าง ซอลลี่ (Sulli) แห่ง f(x), คังจียอง (Kang Ji Young) แห่ง Kara, ยุนโฮ (Yunho) ดงบังชินกิ (Dong Bang Shin Gi) และซีรีส์ยอดฮิต IRIS กลายส่วนหนึ่งที่ถูกสมาชิกสภาอันทรงเกียรติเอ่ยชื่อขึ้นมา ระหว่างการประชุมสภาในช่วงที่ผ่านมา ถึงประเด็นปัญหาต่าง ๆ กันไป
ซึ่งสุดท้ายในกระแสดังกล่าว ฝ่ายการเมืองเองก็ต้องตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เสียเองด้วย เมื่อนักวิเคราะห์การเมืองและชาวเกาหลีใต้ส่วนหนึ่งเริ่มมีความรู้สึกว่า ความคิดเห็นต่าง ๆ ของนักการเมืองต่อวงการบันเทิง อาจเป็นเพียงการเรียกร้องความสนใจ และแย่งชิงพื้นที่สื่อ มากกว่าจะตั้งใจพูดถึงปัญหาจริง ๆ
เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา สส. คิมซุงซู แห่งพรรคจีเอ็นพี กล่าวหาว่าศิลปินสาวซุปเปอร์สตาร์ อีฮโยริ ว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่งกับการทำหน้าที่ทูตแห่งเนื้อวัวเกาหลี โดยเขากล่าวว่า "ด้วยผมย้อมสีทองของเธอ ลีฮโยริ ทำให้เรานึกถึงเนื้อวัวนำเข้าจากต่างชาติมากกว่า"
เขายังเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนตัวพรีเซนเตอร์ โดยหยิบประเด็นการลอกเลียนผลงานเพลง ของนักร้องสาววัย 31 ปี ว่าเป็นหนึ่งในคุณสมบัติอันไม่เหมาะสมของเธอ พร้อมอ้างว่าค่าตัว 360 ล้านวอนของนักร้องคนดังยังเป็นเรื่องแพงเกินกว่าเหตุ จนเรื่องทั้งหมดกลายเป็นประเด็นเผ็ดร้อนทั้งในหน้าสื่อ และตามชุมชนออนไลน์ต่าง ๆ ของชาวกิมจิ
อย่างไรก็ตามมีเสียงวิจารณ์ออกมาจากอีกด้าน ว่าความเห็นต่อทั้งเรื่องการทำสีผม ตลอดจนปัญหาการลอกเลียนผลงาน เป็นเรื่องเล็กน้อยเกินกว่าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงตัวพรีเซนเตอร์เนื้อวัว
ชาวเน็ตเกาหลีใต้คนหนึ่งให้ความเห็น พร้อมกับตอกกลับว่า เงินเดือนแพงระยับของนักการเมือง น่าจะเป็นความสิ้นเปลืองกว่าตัวพรีเซนเตอร์ของอีฮโยริเสียอีก... "นักการเมืองก็แค่พยายามใช้ชื่อคนดังมาสร้างชื่อเสียง และปิดบังความไร้ประสิทธิภาพ, ไร้ความรับผิดชอบของตัวเองเท่านั้น"
ในอีกด้านชื่อของ ซอลลี่, คังจียอง และสาว ๆ สมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปที่มีอายุน้อยหลาย ๆ คนยังถูกนักการเมืองเอ่ยชื่อขึ้นมา ในการถกประเด็นร้อน เรื่องความเหมาะสมของการแสดงจากศิลปินวัยใสอายุไม่ถึง 16 ปี โดยเฉพาะ สส. ฮานฮยองฮวาน แห่งพรรคจีเอ็นพี เป็นอีกคนที่ออกมาวิจารณ์ว่า อุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีเริ่มเต็มไปด้วยเด็กอายุน้อยลงเรื่อย ๆ กับการแสดงที่เต็มไปด้วยความร้อนแรง
สส. ท่านนี้ยังนำเอาคลิปการแสดงของ 4minute, KARA และ T-ara มาเปิดระหว่างประชุมสภาด้วย ขณะที่นักการเมืองอีกคนอย่าง จุงฮาคยุน ก็หยิบยกซีรีส์เรื่อง "IRIS (아이리스)" ขึ้นมาพูดถึงประเด็นทางการแพทย์ที่อยู่ในเนื้อเรื่อง
สื่อกิมจิอย่าง Herald Media สรุปถึงเรื่องนี้ว่า เป็นความจริงที่วงการบันเทิงเกาหลีใต้ในยุคปัจจุบันมีปัญหา โดยเฉพาะอิทธิพลต่อสังคมและเยาวชนรุ่นใหม่ แต่มันไม่ยุติธรรมที่เหล่าศิลปินหลาย ๆ คน ต้องตกเป็นข่าว หรือถูกพูดชื่อออกมาโดยที่ไม่มีความจำเป็นแม้แต่น้อย
คนบันเทิงผู้หนึ่งพูดถึงเรื่องนี้ว่า เห็นได้ชัดว่าเมื่อนักการเมืองต้องการได้รับความสนใจ ดาราและแวดวงบันเทิงคือเครื่องมือที่สามารถหยิบใช้ได้อย่างง่ายดายที่สุด ...
"มีหลายครั้งที่นักการเมืองหยิบประเด็นเกี่ยวข้องกับวงการบันเทิงขึ้นมาพูด เพียงเพราะต้องการพื้นที่สื่อ เพราะบางครั้งพวกเขาไม่จำเป็นต้องลงรายละเอียดอะไรเลย แต่ก็ยังอุตสาห์พูดชื่อนักร้อง, ดารา หรือชื่อซีรีส์ ขึ้นมาเพื่อเรียกร้องความสนใจ"
[News] South Korean Politicians abuse celebrity issues to promote themselves ?
As the season for the inspection of government offices begins, the entertainment industry finds itself in a tense situation. During the audit process by the Korean Congress, not only are specific celebrities’ names mentioned, but confidential information about the industry is being revealed. One opinion criticizes politicians’ abuse of celebrity issues in order to promote themselves, saying that they are tainting the dignity of the administrative inspection process.
The hot topics mentioned during the inspection process included Lee Hyori and girl group members such as f(x)’s Sulli and KARA’s Kang Jiyoung, DBSK’s Yunho, and even the popular drama “Iris“.
On October 4th, Kim Sung Soo of the GNP (Grand National Party) pointed out Lee Hyori’s incompetence as a spokesmodel for Korean beef, saying, “Lee Hyori reminds people of imported foreign beef with her dyed blonde hair.” He requested that the spokesmodel be changed to a different person. Lee Hyori’s modeling salary, which was revealed to be 360 million won ($323,159.76 USD) on this day, also became a hot issue over the internet.
However, on the site of this inspection, there were many who questioned whether there was really a need to change the model. Netizens criticized the politicians, saying, “Aren’t you trying to use famous celebrities as scapegoats to cover up your own incompetence and responsibilities?” They pointed out that revealing Lee Hyori’s pay was clouded judgment on the politician’s part.
Sulli, Kang Jiyoung and other girl group members under the age of 16 were also mentioned. Ahn Hyung Hwan of the GNP party criticized the fact that the entertainment industry’s girl group members are getting younger and younger and showed footage of girl groups like 4minute, KARA and T-ara as examples.
One politician by the name of Jung Ha Kyun even used a celebrity from the famous drama “IRIS (아이리스)” as an example to point out the seriousness of human placenta injection abuse.
In truth, it is expected that various issues in the entertainment industry become flared up during the inspection period. There are indeed aspects of the industry that require change in order to improve its structure. However, it is unfair to the celebrities and entertainment companies when unnecessary and often confidential information is revealed at their expense. One representative of an entertainment agency complained, “There are many instances when politicians bring up entertainment issues in order to gain attention. Even when they don’t need to mention such information, some politicians deliberately put forth names of celebrities and dramas to gain attention.”
No comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.