3.10.09

Impressions – Travel…by gosijo



[Thai Translation by Ladymoon]


อีกครั้งแล้วที่ฉันมาแบ่งปันความประทับใจของฉันจากงานที่โตเกียว โดม ครั้งนี้เป็นวันที่ 2 เป็นงานของหนังสือ Travel in Search of the Beauty of Korea หนังสือของเบยงจุนที่รักของเรา ถึงแม้ต่อมาฉันจะพบว่าความทรงจำของฉันไม่สู้ดีนัก ถึงแม้ฉันจะไม่เข้าใจภาษาเกาหลีหรือญี่ปุ่นที่พูดกันบนเวทีเลยก็ตาม และต้องคอยอ่านหรือฟังจากที่เขาแปล แต่ฉันก็หวังว่าคุณจะเห็นบทความนี้เป็นเสมือนตัวแทนความรู้สึกของฉัน เป็นสิ่งที่อยู่ในหัวของฉันก่อนที่ฉันจะเข้านอนเมื่อคืนนี้

งานนี้ไม่เหมือนกับงาน WLS Anime งานนี้เบยงจุนมาบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของเขาให้กับพวกเรา ครอบครัวของเขา ฉันขอบอกว่ารู้สึกประทับใจกับ 4 ช่วงของงานดังนี้ ซึ่งอาจจะไม่ได้เรียงตามลำดับสักเท่าไหร่ เพราะถูกคั่นสลับฉากด้วยเพลงเพราะๆ และการเต้นรำสวยๆ รวมทั้งการตอบคำถามของพิธีกรกับศิลปินที่มาร่วมงาน

1) เบยงจุนอ่านข้อความจากหนังสือของเขาให้เราฟังเป็นภาษาเกาหลี มันฟังดูราวกับบทกวีอันไพเราะสำหรับฉัน รวมทั้งเต็มไปด้วยปรัชญา เสียงของเขาที่ส่งผ่านมาดุจดังผ้าคลุมไหล่อันอบอุ่นที่ทำจากผ้าเนื้อดี ที่ห่อหุ้มไหล่ของเราให้อบอุ่น

2) เบยงจุนอ่านข้อความอีกหน้าจากหนังสือของเขาเป็นภาษาญี่ปุ่น เป็นอีกครั้งที่เรารู้สึกได้ถึงความปรารถนาอันแรงกล้าของเขาที่จะเป็นสะพานเชื่อมระหว่าง 2 วัฒนธรรม

3) เบยงจุนนั่งบนเก้าอี้สนามและเขียนโปสการ์ดถึงเรา เขาเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่น และฉันได้เห็นว่าเขาไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย เขียนแต่ละตัวอักษรอย่างหนักแน่นและมั่นใจ คนที่นั่งอยู่ข้างๆ ฉันบอกว่าตัวอักษรของเขาสวยมาก

การได้เห็นแต่ละคำปรากฏขึ้นมา และแต่ละความคิดเป็นรูปเป็นร่างขึ้นนั้นกินใจพวกเราอย่างยิ่ง รู้สึกเหมือนเรากำลังมองข้ามไหล่ของเขาขณะที่เขาเขียนแต่ละตัวอักษรถึงเรา สำหรับฉันนี่เป็นช่วงเวลาที่งดงามที่สุดของงานนี้ ถึงแม้ตอนนั้นฉันจะไม่รู้ว่าเขาเขียนอะไรก็ตาม ต่อมาฉันได้พบกับเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่ได้พบกันเป็นครั้งแรก Whistl และเธอช่วยแปลข้อความของเบยงจุนให้ฟัง เขาเขียนถึงการกลับมาหาพวกเราจากการเดินทางของเขา หลังจากได้ไปพบเห็นสิ่งสวยงาม ไปได้ยินสำเนียงอันไพเราะ และได้ลิ้มรสอาหารแสนอร่อย ตลอดเวลาเหล่านั้นเขามีพวกเรา “ครอบครัว” ของเขา อยู่ในหัวใจตลอดเวลา

ผู้ชมมากมายถึงกับหลั่งน้ำตาเมื่อได้อ่านข้อความเหล่านั้น (ขอเล่าเสริมนิดนึงนะคะ ขณะที่เบยงจุนเขียนข้อความลงบนสมุดโน้ต กล้องจับภาพจากด้านหลังของเขา ทำให้ดูเหมือนผู้ชมกำลังมองข้ามไหล่ของเขาไป และเห็นตัวอักษรที่เขากำลังเขียนอยู่)

4) ขบวนพาเหรดรอบสนามกีฬาที่แห่เบยงจุนซึ่งอยู่บนเสลี่ยงราวกับราชา

ถึงแม้ฉันจะรู้สึกเสียดายแทนแฟนๆ ที่นั่งอยู่ชั้นบน แต่ฉันโชคดีที่อยู่ใกล้พอที่จะเห็นเขาตอนผ่านไป ใกล้เช่นเดียวกับบอลลูนเมื่อวาน และได้เห็นใบหน้าของเขา สายตาของเขากวาดไปตามกลุ่มของพวกเรา ถึงแม้เขาจะไม่ได้สบตากับฉัน แต่ฉันก็แอบส่งข้อความไปถึงเขา รวมทั้งทุกคนที่อยู่รอบตัวฉันด้วย มันเกิดขึ้นแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดทางที่เขาผ่านไป และเขาคง “ได้ยิน” พวกเราและสัมผัสมันได้

งาน WLS Anime เมื่อคืนนี้เป็นเวลาแสนสุขนาน 2 ชั่วโมง แต่วันนี้ใช้เวลานานถึงเกือบๆ 3 ชั่วโมงครึ่ง เกือบครึ่งหนึ่งของเวลาดังกล่าว เบยงจุนปรากฏอยู่บนจอขนาดใหญ่ยักษ์ เราสามารถอ่านทุกสีหน้าของเขาได้ ทุกอิริยาบทที่เราจดจำได้ขึ้นใจ เรายังได้ยินสำเนียงอันคุ้นเคยในน้ำเสียงของเขา เสียงทอดถอนใจเวลาที่ปลาบปลื้มกับความรักของเราที่มีต่อเขา เสียง “อา” “อืม” ก่อนที่เขาจะตอบคำถาม ไปจนถึงเสียงหัวเราะของเขา คำตอบที่เขาเลือกตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยเหมือนคนคุ้นเคย

และอีกครั้งที่ฉันได้รับเชิญไปร่วมมื้อค่ำจากกลุ่มเพื่อนๆ ญี่ปุ่น เพื่อพบปะกับเพื่อนๆ ที่เคยพบกันแต่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ รวมทั้งคนที่ฉันไม่เคยพบมาก่อนเลย ช่างเป็นวันที่ลืมไม่ลงจริงๆ


Impressions – Travel… [co-posted KOB & Quilt]
by gosijo / 2009.10.01



Once again I will share my impressions on the Tokyo Dome event, #2 this time, focusing on Travel in Search of the Beauty of Korea, our dear BYJ’s book. Even if I later discover that my memory is not quite correct, even if I could understand neither the Korean or Japanese spoken onstage and have yet to read or hear translations (except for one), I hope you will take this post as representing what I felt, what came to mind as I reflected over my extraordinary day before going to sleep last night.

Unlike the Anime event, this one was, first and foremost, about Yong Joon addressing us, his kajok, his family, and telling us about his journey. I would say that I was most touched by the following four portions of the event. These were not consecutive but, rather, interspersed with beautiful musical and dance performances as well as question and answer segments with the hosts and artisans in attendance.

1) Yong Joon-nim reading to us in Korean a page from his book.
It sounded exquisitely poetic to me, highly philosophical as well. His delivery was like a warm shawl made of rich brocade wrapping around our shoulders and keeping us nice and warm.

2) Yong Joon-nim reading in Japanese another page from his book.
Here again, we felt his strong wish to act as a bridge between the two cultures through heartfelt and sincere exchange.

3) Yong Joon-nim sitting on a park bench and writing a postcard to us.
He did this in Japanese script and even I could see that he didn’t hesitate but rather formed each character with sure and precise strokes. Those sitting close to me told me his calligraphy was excellent.

Watching each word form and each idea take shape touched our hearts deeply; it felt like watching over his shoulder as he wrote to each and every one of us. For me, this was the most beautiful part of the event even if I did not know what he was writing at the time. Later, I met a Japanese sister for the first time, Whistl, and she translated Yong Joon’s message. He spoke of returning to us from his travels after seeing beautiful sights, hearing beautiful sounds and tasting delicious food, all the while keeping us, his “kajok” in his heart.

Many in the audience had tears in their eyes as they read these words.

4) The procession around the arena with Yong Joon-nim carried as a king in an open palanquin.

Although I felt sorry for family sitting higher up, I was lucky to be quite close to where he passed, closer to the balloon of the day before, and see him facing our way, his eyes brushing over our group for quite some time. Even though his eyes did not meet mine, I sent him my silent message, added it to everyone’s around me, and it was clear that this happened repeatedly all the way around and that he “heard” us and was deeply touched.

The Anime event of the night before lasted two delightful hours but this one went on for nearly three and a half hours. Close to half this time, our dear YJ was present and shown on the giant screens, and we could read all the shifts in his expression, shifts that we all recognize like those of our nearest and dearest. In addition, we could hear all the familiar inflections in his voice, from his initial sigh of being overwhelmed by our love for him, “aaaahhhh”, from his reflective “mmmmm” or “ah” before answering each question, to his laugh bubbling up, to the answers he chose to deliver in a quieter, more intimate tone here and there.

And once again, I was privileged to be invited to a pan-national dinner hosted by one of the Japanese groups, and to meet sisters I had previously met only online as well as many others whom I had never encountered before.
What a fitting cap to an unforgettable day!

P.S.: please feel free to re-post.

No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.