17.4.10

“ลุงบุญมีระลึกชาติ” ผลงานใหม่ล่าสุดของอภิชาติพงศ์ ได้รับการคัดเลือกเข้าประกวด ในงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งที่ 63

อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล

“ลุงบุญมีระลึกชาติ” ผลงานใหม่ล่าสุดของอภิชาติพงศ์ ได้รับการคัดเลือกเข้าประกวด ในงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งที่ 63
Cr. Matichon Online
Repost : http://twssg.blogspot.com/


คณะกรรมการจัดเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส ได้ประกาศรายชื่อภาพยนตร์จากทั่วโลกที่ถูกคัดเลือกให้เข้าฉายในเทศกาล ประจำปีนี้ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-23 พฤษภาคม โดยภาพยนตร์ไทยเรื่อง “ลุงบุญมีระลึกชาติ” ของอภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล ได้ถูกคัดเลือกให้เข้าร่วมฉายในสายการประกวดหลัก (ชิงรางวัลปาล์มทองคำ) ประจำปีนี้

“ลุงบุญมีระลึกชาติ” มีแก่น เรื่องว่าด้วยความทรงจำของผู้คนในหมู่บ้านนาบัว ตำบลเรณูนคร อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม หลังจากที่อภิชาติพงศ์ได้เดินทางเข้าไปยังหมู่บ้านดังกล่าว และได้พบกับชาวนาที่ใช้ชีวิตผ่านความรุนแรงและการกดขี่ในรูปแบบต่าง ๆ ในยุคสมัยที่รัฐไทยทำสงครามประชาชนกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย



หนังเล่าเรื่องราวของลุงบุญมีที่ล้มป่วยเป็นโรคไตวาย เนื่องจากแกฝึกวิชาโยคะจึงทำให้ตระหนักถึงสภาพความเป็นไปในร่างกายของตนเอง เป็นอย่างดี ลุงบุญมีรู้ว่าตนเองจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียง 48 ชั่วโมง ขณะเดียวกัน ลุงก็รู้สึกว่าความป่วยที่ตนเผชิญอยู่มีความเกี่ยวพันกับบาปกรรมในอดีต ที่แกเคยฆ่าสมาชิกพรรคคคอมมิวนิสต์ตายไปหลายราย

ลุงบุญมีตัดสินใจให้ญาติห่าง ๆ พาแกออกจากโรงพยาบาล เพื่อหวังจะไปเสียชีวิตที่บ้านซึ่งเป็นสวนลำไย ที่นั่น พวกเขาถูกหลอกหลอนโดยผีเมียลุงบุญมี ซึ่งมาปรากฏกายเพื่อคอยรักษาพยาบาลลุง ยิ่งไปกว่านั้น ลูกชายของลุงบุญมีซึ่งหายสาบสูญไปก็กลับมาจากป่าพร้อมด้วยลักษณะบุคลิกแบบ ลิง ลูกชายของแกมีคู่รักเป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “ลิงผี” และเขาก็อยู่กินกับเธอบนต้นไม้ในป่ามาเป็นเวลา 15 ปี



ในค่ำคืนแรก ลุงบุญมีพูดถึงชีวิตในอดีตชาติที่แกระลึกได้ ในค่ำคืนต่อมา ขณะที่ผีเมียช่วยฟอกไตให้แก อยู่ดี ๆ ลุงก็อยากเดินทางไปยังสถานที่ที่ผีเมียกล่าวอ้างถึง ทั้งหมดจึงเดินทางเข้าป่าในยามดึก ที่นั่นเต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์และวิญญาณ สุดท้ายพวกเขาก็เดินไปถึงถ้ำบนยอดเขา

ลุงบุญมีระลึกได้ว่าถ้ำแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ตนถือกำเนิดในอดีตชาติ แรกที่แกย้อนรำลึกได้ แล้วลุงบุญมีก็เสียชีวิตไปพร้อม ๆ กับการสนทนาถึงเรื่องราวของชีวิตแกที่กินเวลายาวนานหลายร้อยปี

อภิชาติพงศ์ เคยได้รับรางวัลภาพยนตร์ที่น่าจับตามอง/ภาพยนตร์ชนะเลิศของสายการประกวดรอง ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์เมื่อปี พ.ศ.2545 (จากหนังเรื่อง “สุดเสน่หา”) และได้รับรางวัลภาพยนตร์ขวัญใจกรรมการเมื่อปี พ.ศ. 2547 (จากหนังเรื่อง “สัตว์ประหลาด”) ในเทศกาลภาพยนตร์แห่งเดียวกัน นอกจากนี้ เขายังได้รับเกียรติให้เป็นกรรมการตัดสินรางวัลปาล์มทองคำของเทศกาลภาพยนตร์ แห่งนี้ในปี พ.ศ. 2541 อีกด้วย

ผลงานของ อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล เมื่อต้นปีที่ผ่านมา...นิตยสารหนังศิลปะชื่อดังระดับนานาชาติยกย่องผลงาน "อภิชาติพงศ์" เป็นภาพยนตร์แห่งทศวรรษ

3 นิตยสารหนังนอกกระแส-หนังศิลปะชื่อดังในระดับนานาชาติ คือ "กาเยส์ ดู ซีเนม่า" แห่งฝรั่งเศส "ไซท์ แอนด์ ซาวด์" แห่งอังกฤษ และ "ฟิล์ม คอมเมนท์" แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศอันดับรายชื่อภาพยนตร์แห่งทศวรรษแรกของศตวรรษที่ 21 ออกมา ผลปรากฏว่าหนังของผู้กำกับชาวไทย "อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล" ยังคงติดอยู่ในการจัดอันดับลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง

โดยนิตยสารกาเยส์ ดู ซิเนม่า ได้จัดอันดับ 10 ภาพยนตร์แห่งทศวรรษ ซึ่งหนังเรื่อง "สัตว์ประหลาด" ของอภิชาติพงษ์อยู่ในลำดับที่ 3 ของการจัดอันดับดังกล่าว

ส่วนนิตยสารไซท์ แอนด์ ซาวด์ ได้จัดอันดับ 30 ภาพยนตร์สำคัญแห่งทศวรรษ โดยไม่ได้มีการเรียงอันดับความยอดเยี่ยมของหนังเหล่านั้นแต่อย่างใด ปรากฏว่า "สัตว์ประหลาด" ก็ยังถูกจัดเป็น 1 ใน 30 ภาพยนตร์แห่งทศวรรษด้วยเช่นกัน

สุดท้ายนิตยสารฟิล์ม คอมเมนท์ ได้สำรวจความคิดเห็นนักวิจารณ์เพื่อจัดอันดับ 100 ภาพยนตร์แห่งทศวรรษ ผลปรากฏว่า "แสงศตวรรษ" ของอภิชาติพงษ์ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 4 "สัตว์ประหลาด" อยู่ในอันดับที่ 8 และ "สุดเสน่หา" ของผู้กำกับชาวไทยรายนี้อยู่ในอันดับที่ 39


Source : ปลุกผีคอมมิวนิสต์แห่งบ้านนาบัว / Phantoms of Nabua / Thaifilm Journal


No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.