3.5.10

[Article] "กรุงโซล" หนึ่งในจิตวิญญาณแห่งเอเชีย


[Article] "กรุงโซล" หนึ่งในจิตวิญญาณแห่งเอเชีย
Original : http://twssg.blogspot.com/


กรุงโซล เป็นเมืองหลวงของเกาหลีและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเกาหลีมากว่า 600 ปี และยังเป็นมหานครที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เกือบครึ่งหนึ่งของประชากรเกาหลีอาศัยอยู่ใกล้ๆกับกรุงโซล และเกือบ 25 เปอร์เซ็นต์ของประชากรเกาหลีอาศัยอยู่ในกรุงโซล ทำให้ที่นี่เป็นศูนย์กลางทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม ที่นี่เป็นสำนักงานใหญ่ของบริษัทระดับโลกมากมายเช่น ซัมซุง,แอลจีและฮุนไดทำให้โซล เป็นศูนย์กลางของธุรกิจในเอเชีย กรุงโซลเป็นเมืองที่น่าค้นหาเป็นเมืองที่มีความผสมผสานระหว่างความเป็นเมืองเก่าและเมืองใหม่ได้อย่างน่ามหัศจรรย์

หากเราเดินอย่ในกรุงโซล เราจะเห็นอาคารโบราณที่สวยงามแบบเกาหลีดั้งเดิมอยู่เคียงค้างกับตึกสูงสไตล์โมเดิร์นดูกลมกลืนกันกรุงโซล เป็นเมืองที่สนุกสนานและไม่เคยหลับ เราสามารถเลือกทำกิจกรรมได้มากมายตามสไตล์ของแต่ละคน ตั้งแต่ลิ้มลองอาหารเกาหลีรสเลิศแบบดั่งเดิม การเที่ยวชมธรรมชาติอันสวยงามของกรุงโซล ตลอดจนกิจกรรมกลางแจ้งเช่น การปีนเขาเพื่อดูวิวของกรุงโซล สำหรับผู้ที่รักการช้อปปิ้ง สามารถเพลิดเพลินกับเลือกซื้อสินค้าเกาหลี แบบดั้งเดิมและสินค้าแบรนด์เนมของเกาหลีได้ตามแหล่งช้อปปิ้งทั่วกรุงโซล



ในปีที่ 3 ของการปกครองของราชวงศ์โชซอน (ปี ค.ศ.1394) นั้นได้มีการย้ายเมืองหลวงมาที่กรุงโซล และตั้งแต่นั้นมาเป็นเวลากว่า 600 ปีแล้ว ที่ กรุงโซล กลายเป็นกรุงศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและการคมนาคม ในปัจจุบันประชาชนชาวเกาหลีจำนวน 1 ใน 4 ใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงโซล ที่ถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางและศูนย์รวมของความรู้ทั้งปวง ที่กรุงโซล มีการเก็บวัตถุโบราณของราชวงศ์โชซอนไว้มากมาย นั่นคือประตูทงแดมุนและนัมแดมุน พระราชวัง 5 แห่ง อันมีชื่อว่า เคียงบกกุง ชางด๊อกกุง ชางเกียงกุง ถ๊อกซูกุง และเคียงฮุยกุง หลุมฝังศพกษัตริย์ต่าง ๆ อันรวมถึงฮองเนิงซอนจองเนิง และซุงเคียนกวัน สถาบันสอนลัทธิขงจื๊อของกรุงโซล มรดกของกรุงโซล แพร่หลายไปทุกหนแห่ง ในเวลาเดียวกัน กรุงโซล ก็ผงาดขึ้นโดดเด่นในแง่ของความทันสมัย และสถานที่ที่น่าดึงดูดใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสวนสนุกล๊อตเต้เวิลด์ หรือหอคอยกรุงโซล อันถือเป็นสัญลักษณ์ของกรุงโซล ทีเดียว หอคอยติดไฟสว่างไสวตลอดคืน นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์และสวนสาธารณะต่าง ๆ ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าอื่น ๆ สโมสรแจ๊ซซ์ ร้านกาแฟ สถานคาสิโน เป็นต้น โซลนั้นเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของเกาหลีและอาจจัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองที่เปรียบเสมือนจิตวิญญาณแห่งเอเชียเช่นเดียวกันกับ กรุงเทพฯ โตเกียว กัวลาลัมเปอร์ ฯลฯ



โซลนั้นมีชื่อเรียกในภาษาเกาหลีว่า “ซออูล” อันมีความหมายว่าเมืองหลวง เดิมชื่อว่าฮันยาง จนกระทั่งในปีที่ 3 ของราชวงศ์โชซอนมันได้ถูกเลือกให้เป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ ด้วยความสำคัญทางภูมิศาสตร์ 3 ประการ นั่นคือมันตั้งอยู่กึ่งกลางประเทศเกาหลี ซึ่งดูจะทำให้เป็นจุดศูนย์กลางในการเดินทางที่ดี ประการต่อมาคือการมีแม่น้ำฮันที่กว้างใหญ่ไหลผ่านดูจะเป็นสิ่งที่มีค่าอย่างมาก เพราะไม่ใช่เพียงการมีน้ำใช้ในการอุปโภคและบริโภคแล้ว ยังทำให้สามารถทำการเกษตรที่ดีได้ตลอดปี อีกทั้งยังคงทำให้การเดินทางสัญจรและขนส่งดูจะง่ายขึ้นไปด้วยเช่นกัน นอกจากนี้เกาหลีเองได้รับอิทธิพลจากจีนเป็นอย่างมาก จึงให้ความสำคัญกับฮวงจุ้ยด้วยเช่นกัน เมื่อโซลนั้นมีภูเขายงซันที่ตั้งอยู่กลางเมือง และมีแม่น้ำฮันไหลผ่านจึงถือว่าเข้าตำราฮ้วยจุยที่ดีมาทีเดียว ประการสุดท้ายในสมัยโครยอก่อนที่จะเลือกโซลเป็นเมืองหลวงนั้น ภัยคุกคามจากภายนอกประเทศมาจากชนเผ่าทางเหนือไม่ว่าจะเป็นคีตานหรือมองโกล การเลือกย้ายเมืองหลวงลงใต้จึงเป็นการดีที่จะปกป้องนครหลวงของประเทศ ทั้งยังมีภูเขาสูงด้านเหนือของกรุงโซลช่วยเป็นพรมแดนธรรมชาติให้อีก มันจึงน่าจะเป็นการยากที่กองทัพจากทางเหนือจะบุกเข้าโจมตีได้ง่ายเช่นแต่ก่อน



ในช่วงสงครามเกาหลีที่ต้องรบกันเองก็ต้องถือว่าเป็นโชคร้ายของโซล เพราะมันตั้งอยู่ติดกับพรมแดนเกาหลีเหนือพอดี จึงไม่แปลกเลยที่ในช่วงสงคราม 3 ปี มันจะถูกเปลี่ยนมือถึง 4 ครั้ง ถ้าใครเคยดูภาพยนตร์หรือสารคดีเกี่ยวกับเกาหลี ก็จะเห็นว่ามีหลายครอบครัวที่ถูกแยกให้อยู่ในเกาหลีเหนือและใต้ เพราะการถูกบุกยึดกันไปมาในระหว่างสงครามนี่เอง เมื่อเป็นเมืองเก่าแก่นับแต่สมัยกษัตริย์ โซลจึงเต็มไปด้วยศิลปะและสถานที่สำคัญนับแต่โบราณมา ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังทั้ง 5 ของราชวงศ์โชซอน ได้แก่ เคียงบกกุง ชางด๊อกกุง ชางเกียงกุง ถ๊อกชูกุง และเคียงฮุยกุง ประตูสำคัญทั้งสองคือประตูทงแดมุนและนัมแดมุน รวมทั้งหลุมฝังศพของกษัตริย์ในราชวงศ์โชซอนอีกด้วย



สถานที่สำคัญในกรุงโซล :

พระราชวังเคียงบกกุง ซึ่งมีอายุเก่าแก่พอกับกรุงโซล เป็นพระราชวังหลักในราชวงศ์โชซอน เคยมีมากกว่า 200 ตำหนักก่อนจะโดนญี่ปุ่นเผาทิ้งทั้งหมดช่วงเข้ายึดครองเกาหลี ทุกวันนี้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมด แต่ยังคงต้องใช้เวลาอีกมากในการจะบูรณะให้สมบูรณ์เช่นแต่เดิม ละครสุดฮิตเรื่องหนึ่งได้ถ่ายทำที่พระราชวังนี้เป็นหลักนั่นคือ กุงหรือเจ้าหญิงวุ่นวายเจ้าชายเย็นชานั่นเอง

พิพิธภัณท์แห่งชาติเกาหลี ตั้งอยู่ติดกับพระราชวังเคียงบกกุงเลยทีเดียว มีความสวยงามและการนำเสนอศิลปวัตถุที่น่าสนใจมากทีเดียว นอกจากนี้ยังมีตำหนักบัคมุนกวานที่สูงเด่นเป็นสง่าให้เห็นแต่ไกลเมื่อสนใจจะเดินทางไป จึงขอรับรองเลยว่าทุกคนจะไม่ผิดหวังที่เลือกเยี่ยมชมพิพิธภัณท์แห่งนี้



บูลเฮาส์หรือชองวาแด นี่คือทำเนียบประธานาธิบดีแห่งเกาหลีใต้ แม้ตัวบลูเฮาส์จะไม่มีอะไรมากนัก แต่พื้นที่โดยรอบช่วยสร้างความน่าสนใจได้มีทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นอนุสาวรีย์นกฟินิกซ์ที่คนเกาหลีเชื่อว่าเปรียบเสมือนตนเอง และเมื่อถ่ายรูปกับนกฟนิกซ์แล้วต้องติดภูเขามังกรยงซัน ซึ่งทำให้บริเวณดังกล่าวคือสถานที่ที่มีฮวงจุ้ยดีที่สุดในโซล นอกจากนี้ยังมีกลองใหญ่ที่สมัยโชซอนมีไว้ให้ประชาชนมีลั่นกลองร้องเรียนกรณีที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมตั้งโชว์อยู่อีกด้วย

พระราชวังถ๊อกซูกุงและบริเวณใกล้เคียง เป็นพระราชวังอีกแห่งที่เก่าแก่ ในช่วงหนึ่งของราชวงศ์โชซอนมันเคยถูกเลือกเป็นพระราชวังหลักเช่นกัน สถานที่สำคัญในวังนี้คือประตูแทฮันมุนอันเป็นประตูหลัก พระที่นั่งชุงวาจอนซึ่งเป็นท้องพระโรงว่าราชการ และซุกโซจอนที่เป็นศิลปะตะวันตกเพียงแห่งเดียวที่ปรากฏในพระราชวังของเกาหลี บริเวณใกล้เคียงยังมีพระราชวังเคียงฮุยกุง โรงละครนันทา โรงละครโชซอนอิล และโบสถ์ให้เยี่ยมชมอีกด้วย



โซลทาวเวอร์หรือบางครั้งถูกเรียกว่านัมซานทาวเวอร์ ตั้งอยู่ที่ภูเขานัมซานอันเป็นถิ่นที่อยู่ของขุนนางสมัยโชซอน นัมซานทาวเวอร์นี่เหมาะสมจะเป็นสัญลักษณ์ของเมืองอย่างแท้จริง เพราะความสูงถึง 240 เมตรจึงทำให้สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน และสามารถใช้เป็นจุดชมวิวกรุงโซลที่ดีที่สุด โดยเฉพาะยามค่ำคืนที่สามารถมองเห็นแสงสีของกรุงโซลที่งดงาม และยังมีการโชว์แสงสีที่สวยงามของตัวทาวเวอร์เองอีกด้วย ถ้าใครจำได้ที่นี่จะเป็นโลเกชั่นที่ถ่ายละครเรื่องแม่มดยูฮีด้วย



หลังจากพาไปเที่ยวศิลปวัฒนธรรมแล้ว คงต้องพาไปแหล่งช๊อปปิ้งด้วย แห่งแรกเลยคือตลาดเมียงดงหรือสยามสแควร์เกาหลี เป็นแหล่งรวมสินค้าแฟชั่นเกือบทุกอย่างของเกาหลี โดยเฉพาะเครื่องสำอางที่มีเกือบทุกยี่ห้อ และบางยี่ห้อนั้นก็มีหลายร้านเสียด้วย เช่นอีทูดี้ สกินฟู๊ด มิชช่า บิวตี้เครดิต เนเจอร์รีพับบลิค โรตี บวิพัต เป็นต้น ที่สำคัญร้านสกินฟู๊ดร้านหนึ่งจะได้พบเห็นคนไทยไปเลือกซื้อกันเป็นจำนวนมาก เพราะมีพนักงานขายคนหนึ่งเป็นคนไทยที่สามารถแนะนำสินค้าให้ทุกคนได้อย่างดีนั่นเอง อย่างไรหากจะไปเยี่ยมเมียงดงขอแนะนำให้เตรียมเงินไปให้พอ เพราะรับรองว่าจะไม่มีใครกลับออกมาโดยไม่เสียเงิน



อิแทวอนตลาดเสื้อผ้าแฟชั่นเกาหลีราคากันเอง หากจะให้เปรียบกับบ้านเราคงจะเป็นประตูน้ำแพลทตินัมนั่นเอง หากไปเดินที่อิแทวอนจะได้พบกับเสื้อผ้ามากแบบหลายสไตล์ที่ทำให้คุณได้อัพเดตและแปลงกายเป็นหนุ่มสาวเกาหลีไปเลยทีเดียว

สุดท้ายขอเสนอให้ไปเดินที่ย่านชุนชอน ที่นี่อาจจะเป็นถนนสายเล็กๆ แต่เป็นแหล่งรวมของนักศึกษาเกาหลี ทำให้เต็มไปด้วยร้านเสือผ้าแบบที่ทันสมัยพอที่นักศึกษาเกาหลีเขาจะเลือกใส่กัน แต่ก็ต้องบอกว่าราคาอาจจะไม่ถูกนักแต่ว่าก็ไม่แพงจนจับต้องไม่ได้ นอกจากนี้หากเข้าไปในร้านกาแฟที่มีอยู่มากมายหลายร้าน จะได้พบเห็นบรรยากาศที่ปัญญาชนเกาหลีมานั่งเล่นพูดคุยหรือติววิชาเรียนกัน ซึ่งได้บรรยากาศไปอีกแบบ และทั้งหมดนี้คือ "กรุงโซล" หนึ่งในจิตวิญญาณแห่งเอเชีย....



No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.