10.9.10

2010 JKS Asia Tour The Last in Seoul – At the event (2)




งานเริ่มด้วยภาพจากวีดีโอบนจอยักษ์กลางเวที ในวีดีโอคือใครคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมอาบน้ำนั่งดูวีดีโออยู่ ภาพในวีดีโอเป็นเหตุการณ์จากเอเชียทัวร์ที่ผ่านมา ไต้หวัน ปักกิ่ง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และฮ่องกง จากนั้นก็มีหัวเจ้าซ็อกอยู่บนเครื่องบินที่บินกลับสู่เกาหลี แล้วคนๆ นั้นก็ลุกขึ้นปิดวีดีโอแล้วถอดเสื้อคลุมออก (ตรงนี้ขอเซ็นเซอร์ค่ะ) หมอนี่เปลี่ยนมาอยู่ในชุดเสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนส์ เดินเข้าสู่ฮวาจุงยิมเนเซี่ยม (มาดประดุจเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้เลยทีเดียว) และแล้วเขาคนนั้นก็มาปรากฏตัวบนเวทีในชุดเดียวกันค่ะ

สำหรับช่วงนี้เป็นการร่ายประวัติส่วนตัวของจางกึนซ็อก บนเวทีมีแค่โต๊ะ เก้าอี้ และคอมพิวเตอร์ คุณจางเธอก็เล่าไปเรื่อยๆ พร้อมภาพประกอบบนจอเกี่ยวกับความเป็นจางกึนซ็อกตั้งแต่เด็ก (ที่ยังนอนพุงป่องแช่น้ำอยู่ในอ่าง) จนโต เขาบอกว่าตลอดชีวิตในวงการบันเทิงของเขา ช่วง 4 ปีหลังนี่คือช่วงเวลาที่เขามีความสุขที่สุดกับงานแสดง (ซ็อกก็เคยให้สัมภาษณ์หลายครั้งว่านับตั้งแต่เรื่องฮวางจินยี เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นนักแสดงจริงๆ ก่อนหน้านั้นเขาเป็นแค่ผู้ให้ความบันเทิงหรือ entertainer เท่านั้น) ก่อนจบมีเซอร์ไพรส์สำหรับซ็อกจากแฟนคลับ ด้วยการอวยพรวันเกิด มีการฉายภาพบนวีดีโอ มีตัวแทนถือเค้กขึ้นมาพร้อมของขวัญ และร้องเพลงวันเกิดให้กับเขา ซ็อกตื่นเต้นดีใจกับของขวัญวันเกิดอย่างมาก เพราะมันคือคอมพิวเตอร์ (viliv) ที่น่าจะกลายเป็นของเล่นใหม่สำหรับเขาอย่างแน่นอน ช่วงนี้เองที่เป็นช่วงให้ยกป้ายแดงและร้องเพลงวันเกิดตามคิวที่บอกไว้ในกระดาษ

และซ็อกก็บอกว่าเขาก็มีของขวัญให้แฟนๆ เช่นกัน นั่นก็คือเว็บไซต์ใหม่ cri-j.com (ใครสนใจแวะเข้าไปชมกันได้ค่ะ แต่เป็นภาษาเกาหลีล้วนๆ เลยนะคะ http://www.cri-j.com/html/index/main.php ) ว่าแล้วก็สาธิตวิธีเล่นให้ดู เป็นภาพกราฟฟิคการ์ตูนสวยๆ ค่ะ (แต่อ่านไม่ออกนี่สิ) เว็บไซต์เก่ายังคงใช้อยู่นะคะ เพียงแต่นี่เป็นเหมือนชุมชนให้กับแฟนคลับ (เกาหลี) มากกว่า

The event started with video from 2010 JKS Asia Tour in Taiwan, Beijing, Singapore, Japan & Hong Kong. And there’s a plane with JKS’s head flying back to Seoul. JKS appeared on stage in black sweater & blue jeans. He has table, chair & computer with him on stage. He told the story of JKS since his childhood to present. He revealed many things about himself, about his height and told that he felt happy with his acting in the past 4 years. There’s a surprise from fan club for him. They celebrated his birthday . He really excited with the gift, it’s Viliv. His new toy, of course^^ And he also have gift for fans. He introduced new community that he created for his fans, cri-j.com.



นี่เป็นป้ายไฟวิ่งๆ ที่ติดไว้เหนือเวทีค่ะ สวยมากๆ เลยเก็บภาพมาฝากค่ะ

I like the stage, it’s so beautiful !!!



ช่วงต่อไป เป็นวีดีโอสัมภาษณ์จากผองเพื่อน Team H ค่ะ ดูๆ ไปแล้วเพื่อนจะรักมากเลย ดิฉันก็ฟังไม่เข้าใจทั้งหมด แต่ดูจากท่าทางแล้วดูเหมือนเพื่อนจะชื่นชมกันซะเหลือเกิน (อันนี้ประชดค่ะ) ต่อจากนั้นก็เป็นปฏิบัติการสังหารลูกน้อง ซ็อกออกมาใหม่ในเสื้อสีขาวกับกางเกงยีนส์ เขาจะเป็นพิธีกรสัมภาษณ์สต๊าฟของตัวเอง ซึ่งก็มีกึนซามะ ฮึงโร และฮุลรัง คำถามของเขาก็อย่างเช่น ทำงานกับจางกึนซ็อกเป็นยังไงบ้าง? ทุกคนก็ต้องตอบว่ามีความสุขดีสิคะ ใครจะกล้าตอบว่าไม่ดี (ขืนตอบก็อดโบนัสล่ะสิ) จากนั้นเจ้าบอร์ดโพสต์อิทก็ถูกยกขึ้นมา ซ็อกเลือกเด็ดมาหนึ่งใบส่งให้ลูกน้อง ซึ่งเมื่อรับไปอ่านถึงกับอึ้งแล้วรีบส่งคืนทันใด ดิฉันมองไม่เห็นแต่คิดว่าซ็อกเลือกหยิบอันที่เป็นภาษาอังกฤษให้ ซึ่งเขาอ่านไม่ออก (ประมาณว่าแกล้งชาวบ้านนั่นเอง)

Next, the interview video from Team H and live interview with Tree J Staff by JKS himself. JKS was in white shirt & blue jeans. He asked his staff how about working with JKS. Of course, they should answered it’s great, they’re very happy. You don’t dare to say bad things before your boss, do you?



จากนั้นทั้งแสง สี เสียงบนเวทีบ่งบอกให้รู้ว่าคุณกำลังจะได้สัมผัสกับ Lounge H แล้วเคิร์ทก็ออกมาประจำที่บู๊ธดีเจ เสียงเพลงดังกระหึ่มขึ้นเหมือนในงาน Lounge H in South Africa แล้วซ็อกก็ปรากฏตัวขึ้นบนเวทีพร้อมธง พอเจ้าซ็อกตะโกนว่า “Everybody stand up!” ทุกคนก็ลุกขึ้นยืนกันทันที (อะไรจะเชื่อมันขนาดนั้น) แล้วความสนุกของ LH ก็เริ่มขึ้นค่ะ เสื้อเจ้าซ็อกมันขาดหน้าขาดหลังคงเห็นกันแล้วจากภาพตามสื่อนะคะ (เด็กอนาถา ใส่เสื้อขาด) ดิฉันอดเหลียวไปมองอาม่าที่นั่งหัวแถวไม่ได้ ดิฉันเห็นแกตั้งแต่ตอนเข้ามานั่ง อายุประมาณ 70-80 ได้ อาม่าเต้นสนุกสนานไปกับซ็อกด้วยนะคะ ขอบอก ถ้าเราไม่เต้นจะอายอาม่ากันเลยทีเดียว

After that it’s the LH Time!! Kurt at the DJ Booth and JKS on stage with his flag. He waved his flag and sang the main theme from LH in South Africa. Everybody stand up and have fun with him^^





ต่อจากนั้นเป็นการย้อนกลับไปรำลึกถึงผลงานละครที่ผ่านมาในช่วง 4 ปีหลัง อย่างที่ซ็อกบอกไปแล้วว่าเขามีความสุขมากกับการทำงานเหล่านั้น เริ่มด้วย “ฮวางจินยี” เป็นภาพจากในละคร และมีสัมภาษณ์สั้นๆ จากนักแสดงที่เล่นเป็นคนรับใช้ของอึนโฮ จากนั้นฮวางจินยีก็ปรากฏตัวบนเวที ทำเอาแฟนๆ กรี๊ดกันสนั่นเพราะไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่เมื่อเขาแอบหันมาเล็กน้อย เสียงกรี๊ดยิ่งดังกว่าเดิม เพราะนั่นคือกึนซามะนั่นเอง (สงสัยจะเป็นความฝันของกึนซามะ อยากเป็นฮวางจินยี) แล้วอึนโฮก็ออกมา ดูจากท่าทางดิฉันคิดว่าซ็อกไม่รู้มาก่อนว่าใครจะสวมชุดฮวางจินยี เพราะคุณชายอึนโฮถึงกับหยุดกึกไปเล็กน้อย แล้วไม่สามารถเล่นตามบทได้ ได้แต่ก้มหน้าหัวเราะ (เป็นตอนที่อึนโฮขอจินยีแต่งงาน) สุดท้ายอึนโฮก็สามารถสวมแหวนให้จินยีสำเร็จ ตามบทต้องจูบด้วย แต่คุณชายได้แต่ยกมือแตะหน้าแล้วกอดจินยีและบอกว่า “เราไปกันเหอะ” (ไม่ไหวจะเคลียร์) ขณะที่เดินเข้าไปนั้นดิฉันเห็นเลยว่าเจ้าซ็อกมันขำจนตัวงอทีเดียว (ช่วงนี้ไม่ได้เก็บภาพมาเพราะมัวแต่ขำอยู่ ไม่ไหวจริงๆ)

Next, remember back with his favorite works, started with Hwang Jin Yi. Hwang Jin Yi appeared on stage and make everybody screaming out loud because that’s Gunsama (is this your dream Gunsama? To be Hwang Jin Yi :lol: ) JKS can’t speak his line, just laughing hard. Finally, he can make it and drag his Jin Yi to backstage. I can see him can’t stop laughing…haha

เรื่องต่อมาก็คือ Happy Life มีบทสัมภาษณ์จุงจินยอง ดารารุ่นเก๋ามากฝีมือที่ชื่นชมฝีมือการแสดงของซ็อกเอามากๆ (คุณพี่คนนี้เล่นเรื่อง Itaewon ด้วย เป็นอัยการค่ะ) ซ็อกออกมาร้องเพลง Active Volcano ซึ่งดิฉันถือว่าพิเศษมากๆ เพราะนานมากแล้วที่ไม่เคยเห็นซ็อกร้องเพลงนี้บนเวที

Next is “Happy Life”, JKS performed “Active Volcano”. I really surprised because after the movie not often that he perform this song live on stage.



ต่อไปก็คือ Beethoven Virus หลายคนคงเดาได้ว่าซ็อกจะร้องเพลงอะไร (เพลงหากิน ร้องมันทุกงาน) แต่คราวนี้พิเศษที่เปิดด้วยการเป็นวาทยกรของคังกึนวูก่อน เราจึงได้ชมมาดวาทยกรของซ็อกกันแบบสดๆ แล้วตามมาด้วยเพลง Can you hear me

And Kang Gun Woo showed his conductor’s talent before your eyes and of course, JKS sang “Can you hear me”






สุดท้ายก็คือบทบาทของฮวางแทคยองใน You’re Beautiful ซ็อกยังคงยืนยันที่จะร้องเพลง What Should I Do ซึ่งเป็นเพลงปราบเซียนสำหรับเขา ดิฉันคิดว่าเขากำลังพยายามเอาชนะตัวเองให้ได้ และแฟนๆ ต่างก็ให้กำลังใจเขา สังเกตได้ว่าทุกครั้งที่เขาขึ้นท่อน “Oktokajo” แล้วทำได้สำเร็จแฟนๆ จะส่งเสียงเฮราวกับกำลังเชียร์บอล และสุดท้ายเมื่อเขาร้องสำเร็จจนจบเพลงมีเสียงเฮดังลั่นสนั่นฮอลล์ ราวกับปาร์คจีซองยิงประตูได้เลยทีเดียว เป็นเพลงที่ฟังไปเหนื่อยไปจริงๆ...เฮ้อ...

ต่อจากนั้นฮวางแทคยองก็บอกว่า A.N.JELL ติดงานเลยทำให้มาร่วมงานไม่ได้ แต่แล้วก็มีเสียงเรียกดังขึ้น “ฮยองนิม...ฮวางแทคยอง...” นั่นเป็นเสียงของโกมินัมกับคังชินวู A.N.JELL มาแล้วค่ะ (เนื่องจากฮงกีติดงานอยู่จึงมาไม่ทัน แต่ยังอุตส่าห์มาตอนเค้าเลิกไปแล้ว) ซ็อกกอดต้อนรับสมาชิกร่วมวงของเขา ซ็อกถามจุงยงฮวาว่าอยากร้องเพลงอะไร ยงฮวาตอบว่า “Promise” สำหรับการแสดงในช่วงนี้บอกได้เลยว่าไม่มีการเตี๊ยม เพราะไม่มีใครรู้คิวอะไรเลย ซ็อกร้องไป พอหยุดก็ไม่มีคนร้องต่อ สุดท้ายซ็อกใช้วิธีชี้แล้วจับตัวดึงออกมาเพื่อเป็นการให้คิวว่าคนนี้ร้องท่อนนี้ ก็เนียนๆ กันไปนะน้อง เข้าใจค่ะว่าทุกคนงานยุ่ง ยงฮวาก็กำลังอยู่ในช่วงเอเชียทัวร์ ที่มาปรากฏตัววันนี้ก็ถือว่าน่าแปลกใจอยู่แล้ว



JKS back on stage with this song, “What should I do”. The song that he can’t perform so well in Hong Kong. I think he try to overcome it. And he can do it!!! When he finished this song successfully, his fans cheering out loud as if when Park Ji Sung can make a goal in World Cup ^^ And it’s A.N.JELL Time!! Park Shin Hye & Jung Yong Hwa joined him on stage and they performed “Promise”.




ช่วงต่อไปคือ SEXY BACK ที่ยังตามมาหลอกหลอนได้ทุกงาน แต่คราวนี้ซ็อกอยู่ในชุดสีดำทั้งชุด เต้นเซ็กซี่แบบน่ารักพอประมาณ ช่วงหลังมีการแอบลงไปจากเวทีแล้วจับสาวผู้โชคดี (โชคร้ายมากกว่า เพราะโดนลากหลุนๆ มา) ขึ้นมาบนเวที น้องเค้าก็แสนจะเขินเต้นไม่ออก ซ็อกก็ยิ่งแกล้ง สุดท้ายก็เลยลากน้องเค้าเข้าหลังเวทีไป

And JKS with “Sexy Back”. He dance and sing and pick a girl to join with him. She looks so shy!!!





ช่วงต่อมา เจ้าซ็อกเปลี่ยนเสื้อเร็วราวกับทำสถิติโลกเพราะแค่แป๊บเดียวก็กลับออกมาในชุดสีขาวพร้อมดอกกุหลาบในมือ พร้อมกับบทเพลง “I’m in love” บทเพลงแสนหวานที่มีความหมายดีๆ พร้อมกับโยนดอกกุหลาบให้กับแฟนๆ

JKS come back in a few second with this white costume and sing “I’m in love”. He throw roses in his hands to fans.






จากนั้นก็เป็นช่วง encore เจ้าซ็อกร้องถามจากข้างในว่าสนุกพอหรือยัง แน่นอนแฟนๆ ตอบว่ายังไม่พอ เอาอีกๆๆ (ถ้าไม่มีคนตอบมันจะทำยังไงนะเนี่ย) ซ็อกบอกว่างั้นเล่นถึง 5 ทุ่มเลยดีมั้ย (ใครจะจ่ายค่าเช่าโรงยิมยะ) แล้วซ็อกก็กลับออกมาในเสื้อยืดสีขาวที่เขียนว่า I Love Fan เสื้อตัวนี้สต๊าฟทุกคนที่อยู่หน้างานก็ใส่ด้วยนะคะ คุณเข้าใจความหมายของมันมั้ยคะ? มันคือเสื้อคู่รัก เพราะเสื้อที่คุณซื้อกันมาจะเขียนไว้ว่า I Love JKS ส่วนเสื้อที่ซ็อกใส่เขียนว่า I Love Fan นี่คือสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ซ็อกพยายามทำเพื่อแฟนๆ ของเขา เพื่อสื่อให้รู้ว่าเขารับรู้ในความรักของคุณ แล้วก็รักพวกคุณเช่นกัน

ช่วง encore ซ็อกร้องเพลง Still และ Promise อีกรอบเพื่อเป็นการปิดท้ายค่ะ ถือได้ว่าเป็นการปิดฉากเอเชียทัวร์อย่างสวยงาม กับการแสดงที่จางกึนซ็อกเตรียมมาให้กับแฟนๆ ที่รักของเขาด้วยความตั้งใจและทุ่มเท ต่อจากนี้ไปจางกึนซ็อกจะเริ่มทำงานแสดงที่เขารักอีกครั้ง และหวังว่าพวกคุณจะคอยติดตามและให้กำลังใจ ให้ความรักกับเขาต่อไปนะคะ

การเดินทางของเรายังไม่จบลงแค่นี้ ยังมีอะไรอีกมากมายที่ดิฉันจะแบ่งปันกับพวกคุณ ติดตามกันต่อไปนะคะ...

For encore, he sing “Still” and “Promise”. He wears T-Shirt with the word “I Love Fan” on it. This is the couple T-Shirt. T-Shirt that fans have, they have word “I Love JKS” while the one he wears is “I Love Fan”. He shows his love to fans with this little thing.

2010 JKS Asia Tour has closed their curtain successfully. From now on, JKS will start his next project with his new drama, “Mary Skipped the Curfew”. I hope you’ll support him as always.






No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.