ดิฉันเป็นคนบ้านนอกใช้วิถีชิวิตชนบทอยู่ริมน้ำ ชีวิตจึงผูกพัน กับแสงตะวัน แสงจันทร์ ท้องฟ้า ดวงดาว สายลม และสายน้ำ ที่บ้านมีนอกชานกว้าง อยู่ชายแม่น้ำ กิจวัตรประจำค่ำคืนที่ไม่มีภาระเรื่องเรียน ทำการบ้าน ดูหนังสือเรียน เช่นปิดเทอม หรือวันหยุด ดิฉัน จะปูเสื่อกลางนอกชาน มองฟากฟ้า เวหาหาว นับดวงดาว ชมดวงจันทร์ไปตามประสาเด็ก แล้วแต่ว่าเป็นข้างขึ้นหรือข้างแรม รับรู้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน ตามนัยสำคัญ ของดวงจันทร์ หรือดวงดาว ที่พราวพร่างฟ้า อยู่ในขณะนั้น บางครั้งก็มีพี่น้องๆ มาร่วมสร้างจินตนาการของตัวเองแต่ละคน อยู่ใกล้ๆ
จนวันนี้ จะ 56 ปีแล้ว ไม่เคยเห็น ท้องนภายามราตรี เช่นคืนนี้เลยสักครั้ง
กำลังขับรถกลับบ้านเมื่อใกล้จะ 1 ทุ่ม บนถนน มอเตอร์เวย์ คุณ อัคคภูมิ น้องชายสุดรัก โทรศัพท์ ถามว่าถึงบ้านหรือยัง ครับ แม้จะยังไม่ถึง น้องชาย เพื่อนร่วมงาน ก็ยังบอกว่า พี่ครับดูพระจันทร์ครับ ดิฉันรีบจอดรถข้างทาง น้องชายบอกว่า พี่รีบมองหาพระจันทร์เร็วครับ เอทิศทางไหนกันละนี่ ข้างหน้าเป็นทิศตะวันออก ไม่เห็นมี ค่อยๆ เหลียวทางขวา ฉับพลันก็เห็น ภาพที่ไม่เคยเห็น พูดตอบน้องเสียงดังดีใจว่า เห็นแล้ว
พระจันทร์ยิ้ม
น้องบอกว่า พี่ครับ พระจันทร์ยิ้มให้พี่ พี่ เห็นไหมครับ นิมิตหมาย ที่ดี ของพวกเรานะครับ พระจันทร์ยิ้มให้ พวกเราคนไทยทั้งหมดครับ ขอขอบคุณคุณอัคคภูมิ มากที่สุด เลยค่ะ
จนวันนี้ จะ 56 ปีแล้ว ไม่เคยเห็น ท้องนภายามราตรี เช่นคืนนี้เลยสักครั้ง
กำลังขับรถกลับบ้านเมื่อใกล้จะ 1 ทุ่ม บนถนน มอเตอร์เวย์ คุณ อัคคภูมิ น้องชายสุดรัก โทรศัพท์ ถามว่าถึงบ้านหรือยัง ครับ แม้จะยังไม่ถึง น้องชาย เพื่อนร่วมงาน ก็ยังบอกว่า พี่ครับดูพระจันทร์ครับ ดิฉันรีบจอดรถข้างทาง น้องชายบอกว่า พี่รีบมองหาพระจันทร์เร็วครับ เอทิศทางไหนกันละนี่ ข้างหน้าเป็นทิศตะวันออก ไม่เห็นมี ค่อยๆ เหลียวทางขวา ฉับพลันก็เห็น ภาพที่ไม่เคยเห็น พูดตอบน้องเสียงดังดีใจว่า เห็นแล้ว
พระจันทร์ยิ้ม
น้องบอกว่า พี่ครับ พระจันทร์ยิ้มให้พี่ พี่ เห็นไหมครับ นิมิตหมาย ที่ดี ของพวกเรานะครับ พระจันทร์ยิ้มให้ พวกเราคนไทยทั้งหมดครับ ขอขอบคุณคุณอัคคภูมิ มากที่สุด เลยค่ะ
ท้องฟ้าที่มืดแม้จะไม่สนิท เพราะวันนี้ ขึ้น 4 ค่ำแล้ว มีดวงดาวแจ่มจรัส 2 ดวง อยู่ในตำแหน่งระดับแนวนอน แนวเดียวกัน ไม่ห่างจากกันมากนัก ต่ำลงมา เกือบอยู่ระหว่างกึ่งกลางระหว่างดวงดาวทั้งสองดวง พระจันทร์เสี้ยว ลักษณะหงายขึ้น เพราะเป็นข้างขึ้น เปล่งแสงสว่าง เหมือนริมฝีปากมนุษย์ เมื่อมองเป็นภาพรวม จึง เป็นภาพของ ดวงตา สองดวง และริมฝีปากที่ ยิ้มละไม ในท่ามกลางท้องฟ้าที่ค่อนข้างมืดมิด มองปุ๊บ ดิฉันถึงพูดทันที ว่า พระจันทร์ยิ้ม
เมื่อกลับมาถึงบ้านก็เรียกพี่ชายและน้องชายออกมาดู ทั้งสองคนบ่นว่า ดูอะไรกัน แค่พระจันทร์ เห็นมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ยอมเชื่อฟังโดยดี พอเห็นเข้า ดิฉันถามว่า เคยเห็นมาก่อนหรือเปล่าล่ะ สองคนอึ้งไปเลย แปลกที่ ดวงดาว ดวงขวามือ แสงรัศมีสลัวลง ไม่เหมือนครั้งแรกบนถนนมอเตอร์เวย์ เหลียวมองหาดาวดวงอื่น ก็ แทบจะหาไม่เจอ หลังจากเข้ามาโทรศัพท์ บอกคนอื่นๆ เลยทราบว่าเป็นเหตุการณ์ ตั้งแต่ 18 นาฬิกา กว่าๆ และ จะหมดไปเวลาประมาณ 2 ทุ่ม ออกไปดูอีกรอบแสงสว่างของดวงดาว เริ่ม อับแสงลงไปอีก ขณะนี้เวลา เกือบ 21 นาฬิกา ออกไปดูใหม่ ก็ไม่ทราบว่า พระจันทร์ ย้ายที่ไปอยู่ตรงไหนของท้องฟ้าเสียแล้ว เพราะรอบบ้าน มีต้นไม้ สูงใหญ่เยอะ ไม่โล่งแบบนอกชานบ้านในสมัยเด็ก และท้องฟ้า ก็มีดวงดาวแข่งขันกันเปล่งรัศมีมากดวงขึ้น หรือไม่ก็พระจันทร์ เคลื่อนคล้อยลอยลับหายไปจากท้องฟ้าแล้ว
จากประสบการณ์ ตอนหัวค่ำ จะมองเห็นดวงดาว น้อยดวง และมากขึ้นๆ ในยามที่ดึกขึ้น
วันนี้ วันจันทร์ ขึ้น สี่ค่ำ เดือน อ้าย ปีชวด ตรงกับวันที่ 1 ธันวาคม 2551
เป็นพระจันทร์เดือนธันวา ที่ ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
นักดาราศาสตร์ คงมีคำอธิบายที่เกิดภาพนี้ในท้องฟ้า
แต่คงมีหลายๆคนรวมดิฉันด้วยที่ชอบคิดแต่เรื่องง่ายๆ ไม่ต้องมีคำว่าละติจูด เส้นรุ้ง เส้นแวง วิถีการโคจร แรงดึงดูด หรือระบบสุริยจักรวาล อะไรทั้งนั้น
ก็คงมีคนจำนวนมากคิดคล้ายๆกันว่า นี่คือนิมิตหมายอันดี สำหรับพวกเรา แม้แต่ธรรมชาติยังสื่อภาพ ของความสุขให้มวลมนุษย์ได้เห็น ถ้าพูดแบบนิยาย ก็ว่าสวรรค์เป็นใจ สวรรค์บอกทาง ปลอบประโลมใจพวกเราว่า พวกเราจะได้พบความเบิกบานใจ ความสุข
ในดวงใจของคนไทยทุกดวง เพิ่งผ่านพ้นความโศกเศร้าครั้งใหญ่ ต่อด้วยความสับสน วุ่นวาย อีดอัด ขัดแย้ง ทั้งความคิดและการกระทำ ส่งผลให้บางคนท้อแท้ หมดหวัง ฯลฯ แต่เมื่อใกล้สิ้นเดือน พฤศจิกายน ทุกดวงใจของคนไทย ก็ ตื่นตัว มีพลัง รอวันสำคัญที่สุดของคนไทยซึ่งใกล้จะมาถึง แม้บรรยากาศรอบตัวจะยังอึมครึมเหมือนมีเมฆหมอกรายล้อมอยู่รอบตัว แต่ทุกคนใจจดจ่อที่จะรอแสงสว่างที่จะสาดส่องมาในเพลาอันใกล้ เพราะเรามีวันสำคัญ ที่คนไทยทั้งประเทศและที่กระจายกันไปอยู่ทั่วทุกสารทิศบนโลกใบนี้ จะร้อยรวมดวงใจเป็นหนึ่งเดียว ทูลเกล้าถวายความเทิดทูน ความจงรักภักดี แด่ พระผู้สถิตเป็นมิ่งขวัญ เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม อย่างสูงสุด ในวัน ที่ 5 ธันวาคม 2551
Amornbyj : Writer
ดาวดวงซ้ายที่สุกใสกว่าคือดาวศุกร์ ดาวดวงขวาคือดาวพฤหัสบดี
สำหรับท่านที่ไม่มีโอกาสได้ชมด้วยสายตาตัวเอง ตงต้องรอดูใหม่ ตามที่หนังสือพิมพ์ลงข่าวคือ อีก 44 ปี ข้างหน้า มี ดีเจ สถานีวิทยุบอก คืนวันที่ 2 ธันวาคม จะมีปรากฎการณ์นี้อีก อุตส่าห์เฝ้าคอย แต่กลายเป็นว่า พระจันทร์สลับอยู่ด้านบน ของดวงดาว ทั้ง2 ดวง แม้พระจันทร์จะยังอารมณ์ดี ยื้มแฉ่ง อยู่ กลางโพยม ให้พวกเราทุกคน และดูเหมือนว่า ทั้งพระจันทร์ และดวงดาวดูสุกกาวกว่าเดิมและดวงดาวก็ดูใกล้กันกว่าเดิม
No comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.