29.9.10

My Journey’s Diary : Trip to Korea Episode 7 – Show your love at N Seoul Tower


Going uphill to N Seoul Tower

สำหรับวันสุดท้ายบนแผ่นดินเกาหลี...ช่วงเช้าเราไปเที่ยวหอคอยแห่งกรุงโซล หรือ N Seoul Tower กันค่ะ หอคอยที่ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของกรุงโซล ตั้งอยู่บนเขานัมซาน มีความสูง 236.7 เมตร (วัดจากฐาน) เมื่อขึ้นไปอยู่บนหอคอยคุณจะมองเห็นทั่วกรุงโซล และเห็นไปไกลถึงเกาหลีเหนือเลยทีเดียว

ทางขึ้นเขาจะคดเคี้ยวเล็กน้อย รถของเราต้องค่อยๆ ไต่ขึ้นไปค่ะ ตลอดทางเราจะเห็นผู้คนเดินออกกำลังกายกัน มีทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ คนหนุ่มสาว และคนแก่ค่ะ คนเกาหลีนี่แข็งแรงกันจริงๆ เพราะขยันเดินขึ้น-ลงเขานี่แหละค่ะ แต่ของเราให้รถพาไปส่งตรงจุดที่ใกล้ที่สุดแล้วเดินต่อไปอีกนิดเดียวค่ะ (เดี๋ยวนางงามจะเหนื่อยค่ะ)

พอลงรถก็เดินขึ้นเขาต่อไปอีกหน่อยค่ะ...อากาศดีมากๆ เลยค่ะ ขอบอก...



พอขึ้นไปถึงเราก็เจอเจ้าเฮชิ สัญลักษณ์ประจำกรุงโซล ยืนรอต้อนรับอยู่ค่ะ หลายคนอาจสงสัยว่าเจ้าเฮชิคือตัวอะไรกันแน่ “Haechi” หรือ “Haetae” เป็นสัตว์เทพในตำนาน ลักษณะคล้ายๆ สิงห์ แต่มีคุณสมบัติพิเศษคือชอบกินไฟ ดังนั้นจึงถือเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของสัตว์เทพที่คุ้มครองเมืองให้รอดพ้นจากหายนะภัยทั้งหลาย ตามพระราชวังสมัยโชซอนก็จะมี Haetae ประดับอยู่ด้วยค่ะ เพียงแต่หน้าตาอาจจะไม่เหมือนเจ้าเฮชิสีเหลืองที่เราเห็นอยู่นี่ค่ะ เขาเอามาทำให้เป็นตัวการ์ตูนน่ารักขึ้นนะคะ

Haechi welcoming us at N Seoul Tower



บริเวณด้านล่างของหอคอยจะมีร้านค้าหลากหลาย มีร้านขายของที่ระลึกซึ่งมีของน่ารักๆ มากมายค่ะ รวมทั้งกุญแจคู่รัก ซึ่งเป็นความเชื่อของคนที่นี่นะคะ ว่าหากมาคล้องกุญแจคู่รักที่นี่ด้วยกัน ล็อคเรียบร้อยแล้วก็โยนลูกกุญแจทิ้งไป จะทำให้รักกันยืนยาวเหมือนล็อคความรักไว้ด้วยกันค่ะ เลยมีคู่รักมาคล้องกุญแจที่นี่กันมากมาย อย่างเช่นต้นคริสต์มาสที่เห็นอยู่นี่ ที่จริงก็คือกุญแจทั้งนั้นเลยค่ะ ไม่ใช่มีแค่นี้นะคะ ยังมีอีกเยอะเลย เสียดายที่คณะของเราคราวนี้มากันแบบเดี่ยวๆ ทั้งนั้น ไม่มีใครยอมพกแฟนมาด้วย (ให้เกะกะ) เลยอดพิสูจน์ความขลังของตำนานกุญแจคู่รักนี้ค่ะ




ก่อนที่จะขึ้นไปบนหอคอย เราไปแวะชมพิพิธภัณฑ์หมีเท็ดดี้แบร์กันก่อนค่ะ พิพิธภัณฑ์น้องหมีเท็ดดี้แบร์แบบนี้มีอยู่ไม่กี่แห่งทั่วโลกนะคะ คนเกาหลีจะผูกพันกับหมีเป็นพิเศษ เพราะเชื่อว่าพระเจ้าทันกุน ซึ่งถือเป็นต้นตระกูลของชาวเกาหลีนั้น ถือกำเนิดมาจากโอรสสวรรค์ เทพฮวานวุง กับนางอุงนีโย ซึ่งกลายร่างมาจากหมี ตามตำนานที่ดิฉันเคยเล่าให้ฟังไปแล้วค่ะ (ลองกลับไปหาอ่านดูในบล็อกเก่าๆ นะคะ)

Teddy Bear Museum…



พอเราเดินเข้าไป ด้านในจะทำเป็นคล้ายๆ อุโมงค์ค่ะ เหมือนเรากำลังเดินผ่านอุโมงค์กาลเวลา สิ่งแรกที่เจอก็คือวีดีโอที่บอกเล่าเรื่องราวตำนานการกำเนิดชนชาติเกาหลีที่ว่านั่นแหละค่ะ

Walking through tunnel and back to the old times, start with “The Origin of Korean Nation”




ด้านในจะจัดแบ่งไว้เป็นสองส่วน ส่วนแรกคือเรื่องราวจากประวัติศาสตร์โบราณของเกาหลี เหตุการณ์สำคัญและพิธีกรรมต่างๆ โดยมีน้องหมีเป็นพรีเซนเตอร์ค่ะ จับน้องหมีมาใส่ชุดสมัยต่างๆ แล้วก็จัดเป็นภาพเหตุการณ์ไว้ ไอเดียดีและน่าสนใจมากๆ ค่ะ

Teddy Bears in ancient korean costumes, and scenes from history.





พอมาถึงส่วนที่เป็นปัจจุบัน ก็จะมีสถานที่ต่างๆ เหมือนพาเราเที่ยวชมกรุงโซลเลยค่ะ อย่างอันนี้เป็นหมีเชียร์บอลโลกที่เพิ่งผ่านมาค่ะ

Teddy Bears for World Cup…


แล้วก็หมีนันทาโชว์ค่ะ การแสดงเลื่องชื่อของเกาหลี

Teddy Bear Nanta…


อันนี้ชอบมากค่ะ หมีบอดี้การ์ด กำลังคุ้มกันรถของประธานาธิบดีค่ะ

This is sooo cute!!! Teddy Bear Bodyguard…



แล้วก็นี่ค่ะ...ไม่ว่าไปไหนเราก็จะเจอเขา แม้แต่ในพิพิธภัณฑ์...หมีจุนแบร์ ซึ่งแฟนๆ ของเบยงจุนคงคุ้นเคยกันดี เป็นหมีสัญลักษณ์แทนตัวเบยงจุนค่ะ ถ้าดิฉันใช้คำว่า “แก่” กับเบยงจุน เขาคงค้อนดิฉันไป 3 วัน 7 วันเลยทีเดียว แต่ว่า...ถึงขนาดถูกบรรจุไว้ในพิพิธภัณฑ์แบบนี้ ก็ไม่รู้จะใช้คำไหนดีแล้วล่ะค่ะ เอาเป็นว่า “เก่า” ก็แล้วกันนะ...ยงจุน...

And…this one is Joon Bear. Actually, I don’t want to call you an “old man”, BYJ. But…if you can be in museum like this, I can’t figure out another words…hahaha^^



จุนแบร์ลีมิงฮุง กับจุนแบร์ทัมด๊ก...


อันนี้ทรัพย์สมบัติของคุณเธอค่ะ ถูกนำเข้าพิพิธภัณฑ์ซะแล้ว (เก่าจริง อะไรจริงนะ...ยงจุน...)



หลังจากนั้นเราก็ขึ้นสู่หอคอยกรุงโซลกันค่ะ ด้วยลิฟต์ความเร็วสูง ที่ความเร็วสูงจริงๆ ขนาดที่ว่าเราไม่รู้สึกเลยว่ามันเคลื่อนที่อยู่ แป๊บเดียวประตูก็เปิดออก และเราก็อยู่บนหอคอยเรียบร้อยแล้วค่ะ

Inside N Seoul Tower…


มีบอกไว้ด้วยว่าไกลจากกรุงเทพฯ เท่าไหร่


วิวสวยๆ จากบนหอคอยค่ะ





ตรงนี้เป็นชั้นล่างถัดลงมาค่ะ กำแพงนี้ใช้สำหรับประกาศความรักของคุณค่ะ โดยการเขียนข้อความลงบนแผ่นกระเบื้อง แล้วก็ติดไว้บนผนังนี้เลยค่ะ มันเป็นแม่เหล็กค่ะ ติดแน่นทนนาน มีคนมาเขียนข้อความกันหลากหลายภาษาเลยค่ะ

This is the lover’s tile wall. Place your lover’s tile on this wall to show your love. So romantic!



และ...มองไปมองมาก็เจอนี่ค่ะ ภาษาไทยของเราค่ะ ชาติไทยไม่แพ้ใครในโลกจริงๆๆ...



ตอนเดินลงจากเขาเพื่อกลับไปขึ้นรถ บังเอิญเจอนี่เข้าค่ะ... งูกินหาง...เด็กๆ เกาหลีน่ารักดีค่ะ เดินมาเป็นแถว (แบบคดเคี้ยว) เลยเก็บภาพมาฝากค่ะ...

Cutie korean kids !!!





หลังจากนี้เราจะไปเที่ยวสวรรค์ของนักช้อปกันค่ะ...ตลาดเมียงดง...

Later, we’ll go to a paradise of shopping, Myeong-dong…

No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.