11.6.08

[แปล]เบยองจุน ชายผู้จับทุกสิ่งเป็นเงินเป็นทอง

Translated by Kally

สวัสดี เบยองจุน และครอบครัวเบยองจุนที่น่ารักทุกท่าน

Lynn ได้โพสต์รายงานข่าวที่ยอดเยี่ยม
เกี่ยวกับคุณสมบัติที่น่าชื่นชมของเบยองจุน
ในฐานะผู้บริหารกิจการไว้ในเว็บไซต์ของ Joon's Family.
มันเป็นบทความที่อ่านแล้วดียิ่ง
น่าสนใจมากๆที่ได้รู้ว่า 74 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งหมดของยองจุน
ไม่ได้มาจากงานแสดง
ว้าว! แสดงว่ายองจุนจะต้องรักงานแสดงมากๆ เลยนะเนี่ย

หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งรายงานเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2008
โดย Chang May Choon(changmc@sph.com.sg)


ชายผู้จับทุกสิ่งเป็นเงินเป็นทอง

ทั้งชุดเบนโตที่ขายในญี่ปุ่น ทั้งภัตตาคารในกรุงโซล
และเอเจนซี่ตัวแทนการจัดการที่เป็นเจ้าของกิจการเสียเอง
ดาราเกาหลีคนดังอย่างเบยองจุนจึงไม่หยุดอยู่แค่การเป็นนักแสดงเท่านั้น
นิยามความเป็นตัวตนของเบยองจุนที่ขึ้นไว้ในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเขา
มีอยู่ว่า "เบยองจุนไม่เคยหยุดนิ่ง เขาเข้าถึงพวกเราในรูปแบบใหม่ๆ เสมอๆ"
มันจริงแท้อย่างไร? มาดูกัน

ดาราหนุ่มแว่นจากละคร"เพลงรักในสายลมหนาว"
ที่มากับรอยยิ้มพิมพ์ใจอันเป็นเอกลักษณ์นั้น
มีวิธีที่จะเขย่าหัวใจแฟนๆ ทั้งหลายของเขาได้
ด้วยไอเดียคิดใหม่ทำใหม่สดใหม่นั่นเอง
เห็นได้ชัดจากชุดเบนโต (หรือที่เราเรียกกันว่า
ชุดข้าวกล่องอาหารกลางวัน) ที่วางขาย
ในร้านสะดวกซื้อ 7-11 ของญี่ปุ่นในสัปดาห์นี้
เปล่านะ!
หน้าของเบยองจุนไม่ได้ไปแปะอยู่บนกล่องเบนโตหรอก
แต่เบยองจุนบรรจงคัดสรรรายการอาหารเกาหลี 16 อย่างด้วยตัวเอง
มาจัดเป็นชุดอาหารที่เรียกันอย่างไม่เป็นทางการว่า เบนโตของยอนซามะ
ข่าวนี้รายงานจากสำนักข่าวยอนแฮปนิวส์
ยอนซามะ (หรือ ท่านชายยอน) คือชื่อที่แฟนๆ ชาวญี่ปุ่น
เรียกขานอย่างรักใคร่เทิดทูนนั่นเอง
ชุดเบนโตนี้ผลิตโดยภัตตาคารโกชิเระ
ซึ่งเป็นภัตตาคารอาหารค่ำชั้นเลิศที่เบยองจุนได้เริ่มต้นกิจการขึ้นในปี 2549
ราคาอาหารนั้นตกอยู่ที่รายการละ 2500 เยน
(หาก 100 เยน เท่ากับ 32 บาท ตีเป็นเงินไทยประมาณ 800 บาท)
และเปิดบริการเฉพาะวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์เท่านั้น
กลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการมากที่สุดคือกลุ่มสตรีวัยกลางคน
ยองจุนได้กลายมาเป็นเจ้าของกิจการผู้หลักแหลมปราชญ์เปรื่อง
ของ 3 บริษัทในธุรกิจบันเทิงและ 3 ภัตตาคารขนาดใหญ่
ที่ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม

นิตยสารโชซัน อิลโบ ขนานนามของเขาว่า "นักธุรกิจที่ไม่ธรรมดา"
ผู้เอาชนะภาพมายาได้ด้วยความสมบูรณ์แบบโดยธรรมชาติของตัวเขาเอง
เขามีพรสวรรค์ในการผูกมิตรกับผู้อื่นได้ง่ายและ
ความเก่งกาจในการจับประเด็นที่ทำให้"ข้อตกลงเกิดกำไรงาม"

เมื่อปีก่อน ยองจุนถูกจัดอยู่ในระดับสุดยอดคนดัง
ที่มีรายได้มากที่สุดของเกาหลี ด้วยรายได้เข้ากระเป๋า
ที่ทำให้ใครต่อใครตกตะลึงพรึงเพริดถึง 43.2 พันล้านวอน
(หากคิดเทียบ 1,000 วอน เป็น 39.5 บาท ตีเป็นเงินไทยได้ 1706.4 ล้านบาท)
ซึ่งมากกว่าเกือบสองเท่าของดารานักร้องหนุ่มเรน
ที่มีรายได้อันดับรองลงมาที่ 25 พันล้านวอน
(หากคิดเทียบ 1,000 วอน เป็น 39.5 บาท ตีเป็นเงินไทยได้ 987.5ล้านบาท)
ทว่ารายได้ของเบยองจุนมีเพียง 1 ใน 4 ของรายได้ทั้งหมดเท่านั้น
ที่มาจากการแสดง รวมถึงสินค้าจำพวกที่มีลายเซ็นของเขาอยู่ด้วย

ตามที่รายการข่าวอีนิวส์ของสถานีโทรทัศน์ ทีวีเอ็น เคเบิล
74 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งหมดของเบยองจุน
มาจากการเป็นถือหุ้นหลักของบริษัท Key East Inc,
ซึ่งทำธุรกิจบันเทิงเป็นหลัก
ในปี 2549 มีรายงานว่าเบยองจุนลงทุน 9 พันล้านวอน
(หากคิดเทียบ 1,000 วอน เป็น 39.5 บาท ตีเป็นเงินไทยได้ 355.5 ล้านบาท)
เพื่อซื้อหุ้น 40 เปอร์เซ็นและกลายเป็นผู้ถือหุ้นหลักของบริษัทดังกล่าว
และการเข้ามาถือหุ้นแบบกระทันหันของเขายิ่งทำให้ราคาหุ้นนั้นเหิรทะลุเพดานไปเลย

เบยองจุนก่อตั้งเอเจนซี่ตัวแทนการจัดการของตัวเองขึ้นในนาม BOF เมื่อปี่ 2547
มีรายงานว่าเขาถือหุ้นถึง 85 เปอร์เซ็นต์ใน BOF ซึ่งเป็นเอเจนซี่ตัวแทนให้กับ
โซจีซับ ลีนายอง และดาราหน้าใหม่อย่างลีจีอา
ยิ่งกว่านั้น ตอนนี้ BOF ได้ก่อตั้งสำนักงานในนาม BOF International ในประเทศญี่ปุ่น
โดยเบยองจุนถือหุ้นอยู่ถึง 33 เปอร์เซ็นต์ และบริษัททั้ง 2 นั้นเป็นบริษัทในเครือของ Key East Inc.
นิตยสารโชซัน อิลโบยังกล่าวอีกด้วยว่า ในชั่วเวลาเพียงไม่นานเลย
พ่อหนุ่มแว่นคนนี้ ก็ได้กลายมาเป็น "แม่เหล็กยักษ์แห่งวงการบันเทิง" ในเกาหลี
นิตยสารดังกล่าวยังรายงานอีกด้วยว่า เบยองจุดเป็นเสมือน"กุญแจสำคัญ"
ในการบริหารจัดการของบริษัท Key East Inc.
ซึงมีแผนจะประชาสัมพันธ์ความร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน
และหยั่งรากกระแสนิยมของวัฒนธรรมเกาหลีให้มั่นคงถาวรในต่างประเทศอีกด้วย
(ผู้แปล : ยองจุนที่ร๊าก~! คุณเป็นบุคคลที่ประวัติศาสตร์โลกต้องจารึกเสียแล้วล่ะ)

และเบยองจุนยังดึงความสนใจของแฟนๆ ให้แวะเข้ามาในภัตตาคาร 3 แห่ง
ที่เขาก่อตั้งภายใต้การดูแลโดยบริษัท Smart Kitchen
คือ ภัตตาคาร Gorilla In The Kitchen และ คาเฟ่ Tea Loft ที่อยู่ในกรุงโซล
ซึ่งยอดเยี่ยมไม่แพ้ ภัตตาคาร Gosireh ในกรุงโตเกียวเลย

อย่าหวังว่าจะเห็นภาพของเขาแปะอยู่ทั่วผนังเสียให้ยาก
ยองจุนนำเสนอตัวเองในรูปแบบของอาหารแทนต่างหาก
มีรายงานว่าเขาบรรจงคัดสรรรายการอาหารเองกับมือ
อาหารสไตล์ตะวันตกที่เสิร์ฟในภัตตาคาร Gorilla In The Kitchen นั้น
ดึงดูดใจนักกินผู้ใส่ใจสุขภาพเช่นเดียวกับตัวเขาเอง
ซึ่งอยากจะมีรูปร่างสมส่วนตลอดเวลา
ในส่วนของภัตตาคาร Gosireh นั้น
เบยองจุนมีความมุ่งหวังอันแรงกล้าที่จะทำให้อาหารเกาหลี
เป็นที่นิยมอย่างมากในต่างประเทศ
มีรายงานว่าภัตตาคารนี้มีการลงทุนก่อสร้างตกแต่งไปเมื่อ 2 ปีก่อน
เป็นเม็ดเงินที่มากอย่างน่าใจหายถึง 600 ล้านเยน
(หาก 100 เยน เท่ากับ 32 บาท ตีเป็นเงินไทยประมาณ 192 ล้านบาท)
บริการอาหารเกาหลีระดับราชสำนักซึ่งกลายมาเป็นที่นิยมอย่างมาก
และกวาดรายได้ไปถึง 5 พันล้านวอนต่อปี
(หากคิดเทียบ 1,000 วอน เป็น 39.5 บาท ตีเป็นเงินไทยได้ 197.5 ล้านบาท)

ที่เห็นได้ชัด คือ ยองจุนนั้นชิมและให้คำแนะนำในทุกรายการอาหารใหม่
ที่นำเสนอในภัตตาคาร Gosireh และเขายืนกรานว่าจะใช้ส่วนประกอบ
ที่มาจากธรรมชาติและพืชผักออร์แกนิกล้วนๆ เท่านั้น
ภัตตาคาร Gosireh มีแผนจะเปิดสาขาที่ 2 ในเดือนกรกฎาคมนี้ที่นาโกย่า
ตามที่ถูกรายงานในแหล่งข่าว My Dailyของเกาหลี

โฆษกของบริษัท BOF กล่าวว่า ยองจุนประสงค์ที่จะขยายธุรกิจของเขาในญี่ปุ่น
ไม่ใช่เพื่อทำเงิน แต่เพื่อสร้างกระแสเกาหลีนิยมในญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง
ผ่านทางอาหารเกาหลีนั่นเอง

สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดในกลยุทธการจัดการของยองจุนก็คือ
การจัดการให้สื่อมวลชนแขนงต่างๆ ล้วนให้การสนับสนุนเขาอย่างมาก
โดยไม่มีข่าวในแง่ลบออกมาเลย อะไรก็ตามที่พ่วงชื่อของเขาเข้าไปด้วย
ดูเหมือนจะได้บัตรผ่านให้กลายเป็นข่าวเด็ดรายงานด่วนได้ตลอดเวลา

แม้ว่าเบยองจุนจะไม่ได้ออกมาทำอะไรเพื่อเป็นการโฆษณาละครเรื่องล่าสุดของเขา
อย่าง"ตำนานจอมกษัตริย์เทพสวรรค์" ก็กลายเป็นข่าวได้ตลอด 2 ปีที่มีการถ่ายทำ
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าละครเรื่องนี้ทำลายสถิติการสร้างละครจอแก้ว
ที่ทุ่มทุนสร้างมากที่สุดที่เกาหลีเคยทำมาไปแล้ว
ละครที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับตำนานกษัตริย์เกาหลี (แสดงโดยยองจุน)และเทพทั้งสี่
มีการลงทุนสร้างปาเข้าไป 43 พันล้านวอน
(หากคิดเทียบ 1,000 วอน เป็น 39.5 บาท ตีเป็นเงินไทยได้ 1,698.5 ล้านบาท)
และได้รับความนิยมอย่างยิ่งในเกาหลีไม่ต่างจากหนังเรื่อง Lord of The Rings
ซึ่งในขณะนี้ ละครกำลังฉายทางช่อง Channel U เวลา 19.30 น. ทุกวันเสาร์-อาทิตย์

สินค้าต่างๆจากละครเรื่องนี้ รวมไปถึงหนังสือรวมภาพ
ดีวีดีพิเศษ และขวดน้ำหอมที่ยองจุนมอบให้หญิงคนรักตามบทละครนั้น
ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม
จริงๆ แล้ว กลุ่มแฟนคลับตัวยงของเขาส่วนใหญ่
มักจะเป็นหญิงวัยกลางคนที่แทบจะขาดเขาไม่ได้เลย
(ผู้แปล : จริงไหมครับพี่น้อง~!)

เมื่อคราวที่เขาปรากฏตัวที่ญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม
หลังจากที่หายหน้าไปนานถึง 3 ปีเพื่อโปรโมทละคร
"ตำนานจอมกษัตริย์เทพสวรรค์" แฟนๆ กว่า 3,000 คน
แห่กันไปรุมตอมราวฝู่งผึ้งเพื่อรอต้อนรับเขาที่สนามบินคันไซ
(ผู้แปล : นี่เป็นตัวเลยอย่างไปไม่เป็นทางการนะคะ
จำนวนนี้เป็นแฟนๆ ที่ได้อยู่ในอาคารเท่านั้นค่ะ)

สำหรับความคลั่งไคล้ที่กลายมาเป็นสินค้านี้
หากแฟนๆ ของเขาไม่อาจเข้าไปเห็นเขาแบบระยะประชิดได้
พวกแฟนๆ ก็ยังคงไปเยี่ยมชมที่ร้าน Park BOF แห่งใดก้ได้ ทั้ง 5 สาขา
ซึ่งมีการนำเสนอผลงานของเขา รวมไปภึงสินค้าต่างๆ
ตั้งแต่แก้วมัก ไปจนถึง ผ้าขนหนูและปฏิทิน
ร้าน Park BOF เปิดสาขาอยู่ที่กรุงโซล เกาะเชจู ในเกาหลี
และที่กรุงโตเกียว โอซาก้า และฟุกุโอกะในญี่ปุ่น

แฟนคลับชาวสิงคโปรนามว่า ทิฟฟานี่ โอ
ได้ลองมาชิมอาหารทั้งที่ภัตตาคาร Gorilla In The Kitchen
และ คาเฟ่ Tea Loft และยังไปเยี่ยมชมร้าน Park BOF
ทั้งในกรุงโซลและเกาะเชจูอีกด้วย

" ยองจุนเฉียบแหลมมากที่ทำให้แต่ละที่มีลักษณะแตกต่างกันไป"
(ผู้แปล : หมายความว่า พอแต่ละที่แตกต่างกันไป
ใครๆ ก็เลยอยากจะไปกันให้ครบทุกที่ไง)
"ยองจุนไม่จำเป็นต้องคงสถานะการเป็นดารานำตลอดไป
ฉันก็ยังคงชอบเขามาก (ในฐานะนักธุรกิจ)ซึ่งหมายถึงว่า
เขายังคงมีรายได้ที่มั่นคงตลอดไป
หากเขาอยากจะเกษียนตัวเองจะงานแสดง"
ทิฟฟานี่กล่าว

คุณทิฟฟานี่ โอ ซึ่งมีอายุ 41 ปีในขณะนี้ยังกล่าวเสริมอีกด้วยว่า
อาหารที่เธอรับประทานในภัตตาคาร Gorilla In The Kitchen นั้น
ยอดเยี่ยมพอที่จะรับประกันได้เลยว่าจะมาเป็นครั้งที่ 2
เธอจ่ายเงินค่าชุดอาหารค่ำไปเป็นเงิน 60 เหรียญสิงคโปร
เมื่อตอนที่เธอไปใช้บริการในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
(หากคิดเทียบ 1 เหรียญสิงคโปรเป็น 25 บาท ตีเป็นเงินไทยได้ 1,500 บาท
แสดงว่าถ้าเราไปเกาหลีก็มีหวังได้กินล่ะนะ)

"ฉันจะไปที่ภัตตาคารนี้อีกครั้งด้วยเหตุผล 2 ประการด้วยกัน
ข้อแรก เพราะว่าเบยองจุนเป็นผู้ก่อตั้งภัตตาคารนี้
ข้อที่สอง เพราะว่าอาหารนั้นใช้ได้และราคาก็สมเหตุสมผล
ดีต่อสุขภาพด้วย ในรายการอาหารเหล่านี้ไม่มีอาหารขยะ
หรืออาหารทอดๆ เลย รสชาติก็อร่อย "

ขอบคุณ Lynn, at Joon's Family !!มากๆค่ะ

ขอให้เป็นวันที่ดีนะจ๊ะทุกคน
myoce

ปล. ใครมาอ่านก่อนหน้านี้ ขออภัยที่คูณค่าเงินผิดนะคะ แก้ให้ถูกแล้ว ^^"

No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.