31.1.09

กุศลผลบุญ

I would like to say thanks for the wish and the goodwill giving to me on my birthday. I hope that the wish, which you gave to me will return to all of you.

On 18-26 January, I did the Buddhist meditation ("Vipassana" in Thai) behaving 3 goodness included giving, religious precept ( sila 8), and praying. Deep Buddhist and I strongly believe that these make an immense merit. I wish it will spread out to everyone ( BYJ and BYJ family) like you do it by yourself.



Amornbyj ไปปฎิบัติธรรม มา เมื่อวันที่ 18- 26 มกราคม 2552 ที่ ยุวพุทธิกสมาคม มี พระครูปลัด ประจาก สิริวณฺโณ วัดปรินายก กทม และ ศูนย์ปฏิบัติธรรม ตาณัง เลณัง ดอยเสก็ด เชียงใหม่ และ พระมหาทองมั่น สุทฺธจิตฺโต วัดภัททันตะอาสภาราม ชลบุรี เป็นพระวิปัสสนาจารย์ โดยปฎิบัติ วิปัสสนากรรมฐาน ด้วยการเจริญสติปัฎฐาน 4

การปฎิบัติ คือ การถือศิล 8 งดการพูดคุย ยกเว้น กับพระวิปัสสนาจารย์ และมีเหตุจำเป็นจริงๆ ทุกๆวัน ตั้งแต่ 4.30 - 22.00 น ก็ เดินจงกรม นั่งสมาธิ กำหนด อิริยาบถย่อยทุกขณะ ฟังธรรมบรรยายตอนเย็น สอบอารมณ์ ในการปฎิบัติ ตั้งแต่วันที่ 3 ของการปฎิบัติ

สรุปว่า อมร ไป รักษาศีล ทำทาน และ ภาวนา มาค่ะ

อมร ปฏิบัติ ด้วยความตั้งใจ อดทน ปลื้มปิติ กับการได้เข้าปฎิบัติ จึงมีจิตขอน้อมนำส่ง ผลบุญกุศล ที่ได้เพียรปฎิบัตินี้มายัง คุณ เบ ยองจุน ครอบครัวของ คุณเบ ยองจุน ทั้ง ชาวต่างประเทศ ทั่วโลก และ ชาวไทย รวมทั้งผู้เข้ามาแวะเยี่ยมชม Web Site นี้ ทุกท่าน
ขอให้ท่านทั้งหลาย มีความสุข ความเจริญรุ่งเรือง มีอายุวรรณะ สุขะพละ จะเดินทางไปที่ใด ให้ปลอดภัยในที่ทุกสถาน ตลอดกาลทุกเมื่อ คิดหวังสิ่งใดในทางที่ชอบที่ควรขอจงสมปรารถนา ขอให้ อุดมด้วย ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ที่มีความสุขอยู่แล้วขอให้สุขยิ่งๆ ขึ้นไป ที่มีความทุกข์ จะทุกข์กายหรือทุกข์ใจ ขอให้บรรเทา เบาคลาย ทุกท่านเทอญ

ขอให้ ผู้ อ่าน ทำจิตให้เกิดกุศล อนุโมทนา รับผลบุญนี้ ด้วยใจของท่าน

ในอดีตกาล เมื่อนางวิสาขา ได้ สร้างวัด ถวายพระพุทธเจ้า เมื่อ มีการถวายเสร็จเรียบร้อยแล้ว กลับมาบ้าน ระหว่างนั้น ได้พบเพื่อนหญิงคนหนึ่ง นางวิสาขา ได้ บอกเพื่อนและแผ่กุศลผลบุญให้เพื่อน นางก็ อนุโมทนารับไว้ ด้วยจิตใจ ที่เปี่ยมล้นด้วยความปลาบปลื้มยินดี ดังหนึ่งว่า นางเป็นผู้ ประกอบผลบุญนี้เอง เมื่อตายไป ได้ขึ้นสวรรค์ หมู่เหล่า เทวดาที่ผ่านมายังปราสาท ของนาง ต้องหยุดถามไถ่ กันเสมอ ว่า เจ้าของปราสาทนี้ ทำบุญด้วยอะไร ปราสาทจึงสวยงามใหญ่โต สว่างไสว สะดุดตาผู้พบเห็นเช่นนี้ คำตอบก็คือ นาง ได้ อนุโมทนารับบุญของผู้อื่น ด้วยจิตใจที่ปลาบปลื้มด้วยบุญกุศลยิ่งนักในโลกมนุษย์


ศีล

ศีล นั้น ต้องมีเจตนางดเว้นเอง ฝากให้ใครทำแทนไม่ได้ ส่วน ทานนั้นพอฝากคนอื่นทำแทนได้ ศีล ต้องรักษาเอง ศีล จึงยากกว่าทำทาน
ศีล มีหลายประเภท ศีล 5 ศีล 8 ศิล 10 ศีล 227 และศีลภิษุณี 331 อาชีวัฎฐะมะกะศิล เป็นศิล 8 ของผู้ครองเรือนมีอาชีพทำมาหากิน

ศีล จะป้องกันไมให้กิเลศหยาบๆล่วงออกมา
ศีล คุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข
ผู้ใดรักษาศีลไว้ดีแล้ว ย่อมได้รับอานิสงส์

ภาวนา แปลว่า ทำให้มีขึ้น เจริญขึ้น ถ้ายังไม่มีไม่เกิด ก็ทำให้มีขึ้น เกิดขึ้น ถ้ามีแล้ว ก็ทำให้เจริญ ยิ่งๆ ภาวนากุศลจัดเป็นการทำความดีในชั้นสูงกว่าการให้ทานและรักษาศีล เพราะทำได้ยากกว่า เป็นวิธีที่จะนำผู้ปฎิบัติพัฒนาจิตใจให้สูงขึ้นระดับที่จะเกิดสมาธิและปัญญา สามารถจะบรรลุมรรคผลได้ในที่สุด

ขอย้อนกลับมาที่ ศีล ที่ทุกท่าน สามารถงดเว้นเองได้เลยเมื่อไรก็ได้

ศีล เป็นอาภรณ์อันประเสริฐ
สีลํ อาภรณํ เสฏฐํ

ฤดูที่ดอกไม้บาน เป็นฤดูที่ยังความรื่นรมย์ ให้แก่มนุษย์และสัตว์ ดอกไม้หลากชนิด หลายสี บานสะพรั่ง อวดสีและกลิ่นอยู่บนต้น บางอย่างหอมมาก บางอย่างหอมน้อย บางอย่างไม่หอมเลย บางอย่างสวยทั้งสีและกลิ่น บางอย่างสีสวยแต่ไม่มีกลิ่น บางอย่างไม่สวยทั้งสีและกลิ่น บางอย่างหอมชั่วเวลาเช้า บางอย่างหอมตอนสาย บางอย่างหอมเวลาบ่าย บางอย่างหอมเวลาเย็น บางอย่างหอมเฉพาะกลางคืน บางอย่างหอมทั้งวันทั้งคืน แต่บางอย่างก็หอมทนอยู่ได้หลายวัน ถึงกระนั้นเมื่อเหี่ยวแห้งร่วงโรยแล้วก็หมดหอม ไม่มีดอกไม้ชนิดใดเลยที่จะหอมอยู่เป็นนิจทั้งในเวลาบานและโรยหล่น แม้เมื่อเวลาบานอยู่ ถูกลมพัดร่วงพรูจากต้น จนประดับพื้นดินจะยังมองดูงามแปลกตา และกลิ่นของมันยังหอมกรุ่นเป็นที่ชื่นชอบของผู้พบเห็น แต่เมื่อมันเหี่ยวแห้งอับเฉา ก็ไม่เป็นที่ต้องการของผู้ใด

แต่คนมีศีล มิเป็นเช่นนั้น คนมีศีลนั้นหอมอยู่เสมอ หอมทั้งตามลมและทวนลม หอมทั้งในเวลามีชีวิตอยู่และละโลกนี้ไปแล้ว เป็นที่ชื่นชมรักใคร่ของคนทั่วไปในเวลาที่มีชีวิต เป็นที่เสียดาย อาลัยรัก และกล่าวขวัญสรรเสริญถึงในเวลาที่ตายจากไป ทั้งนี้เพราะตลอดเวลาที่มีชีวิต คนมีศีลไม่มีพิษมีภัยต่อผู้ใด มีกิริยาวาจาละมุนละไมน่ารัก ไม่ฆ่าตีข่มเหงเบียดเบียนทำร้ายใคร ทั้งด้วยกายและวาจาประกอบด้วยความเมตตากรุณาแก่สัตว์ทั้งปวงอยู่เป็นนิจ

พวงมาลัยดอกไม้หอมที่นายช่างบรรจงร้อยไว้อย่างมีระเบียบย่อมงดงามน่าดู ควรค่าแก่การเป็นเครื่องสักการะฉันใด คนที่มีกิริยาวาจานุ่มนวลเรียบร้อย งดงาม ก็ควรค่าแก่ความเคารพนับถือยกย่องฉันนั้น
ด้วยเหตุนี้ พระสีลวเถระองค์อรหันต์ ผู้สาวกของพระพุทธเจ้า จึงสรรเสริญ ศีล ว่า ศีล เป็นอาภรณ์คือเครื่องประดับอันประเสริฐ

คนมีศีลเป็นเครื่องประดับจึงงดงามทุกเมื่อ
ศีล คือความไม่ล่วงละเมิดของผู้มีเจตนาตั้งใจงดเว้นจากความชั่ว ทางกาย วาจา และอาจตลอดไปถึงใจด้วย
บางคนอาจจะไม่ล่วงละเมิดเพราะตั้งใจไว้ก่อน เช่นตั้งใจว่าจะไม่ฆ่าสัตว์ ก็ไม่ฆ่าตามที่ตั้งใจไว้ แต่บางคนก็ไม่ล่วงละเมิดโดยที่มิได้ตั้งใจไว้ก่อน ต่อเมื่อมีเหตุที่จะล่วงละเมิดเกิดขึ้นเฉพาะหน้า ก็คิดงดเว้นไม่ล่วงละเมิดได้เอง เช่น เห็นงูพิษเลื้อยเข้ามาในบ้าน รู้ว่าเป็นงูพิษ ถ้ากัดใครเข้าถึงตายได้ จึงหยิบไม้หมายจะตีงูให้ตาย แต่แล้วเกิดเมตตาสงสารว่างูก็มีชีวิตเช่นเดียวกับเรา อย่าทำมันเลย ก็โยนไม้ทิ้ง ไล่งูเสียออกจากบ้าน การกระทำเช่นนี้ก็เป็นศีล แต่เป็นศีลที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า มิได้เจตนาคิดจะงดเว้นมาก่อน
ศีล จึงเป็นเครื่องขัดเกลา กาย วาจา รวมไปถึงใจ ให้สะอาด เป็นเครื่องขัดเกลากิเลสอย่างหยาบที่จะล่วงออกมา ทางกาย ทางวาจา เป็นต้น

โดย...พระมหาทองมั่น สุทฺธจิตโต

อมร ขอกราบขอบพระคุณ ขอบคุณ มายัง พี่ๆ เพื่อน น้องๆทุกท่าน ที่มีจิต เมตตา อวยพร วันเกิด ให้กับอมร

อมรขอน้อมรับ คำอวยพร ทุกคำอวยพร และขอตั้งจิต น้อมนำส่งคำอวยพรเหล่านั้น กลับคืนมายังทุกท่านๆ ขอความสุข และสิ่งมงคลทั้งหลาย จงได้แด่ทุกท่านเทอญ


อาจมี ผู้ เข้ามาเยี่ยมชม หาข่าว ของยงจุน นึกในใจ ว่า อมร มาลงข้อความ ที่ใกล้เคียงจนดูขัดแย้งกับความบันเทิง ที่ค่อนข้างล่อแหลม ในเรื่องของภาพยนตร์ untold scandal รวมทั้งภาพ ที่ post ให้ชมกัน คุณ ร้อยตะวัน ตั้งใจ นำเสนอ ใน การพิจารณา และวิจารณ์ ในเชิง Art และความเยี่ยมยอดของการแสดง ของผู้สวมบทบาท ของตัวละคร โดยเฉพาะ ยงจุน




และนี่คือสัจธรรมของมนุษย์ ที่ยังไม่ได้บรรลุธรรมอย่างน้อยสุด คือพระโสดาบัน

คือ อมร ยังเป็นปุถุชน ที่เวียนว่าย ในสังสารวัฎ เพียงแต่ มีความเพียร ที่จะปฎิบัติธรรม เพื่อเข้าสู่เส้นทาง ไปสู่มรรคผล แต่ ยังคงเป็นผู้อยู่ในทางโลก เพียงแต่จัดสรรเวลาเวลาให้ตัวเอง ไปสู่ทางธรรม ในวันเวลาที่สามารถกระทำได้ อย่างเข้มข้น ถึงพร้อมข้อปฏิบัติทางธรรม ครั้ง ละ 7 วัน 8 วัน หรือ 9 วัน

เมื่อกลับออกมา ก็ใช้ชีวิตอย่างคนปกติ มี สติสัมปชัญญะ กับการใช้ชีวิตทางโลก แล้วแต่สติปัญญาของแต่ละคนที่เคยเข้าปฎิบัติธรรม ว่าจะนำ สิ่งที่ได้ เข้าไปเรียนรู้ มาใช้กับชีวิต ของตัวเองอย่างไร ในวันเวลา ที่ล่วงผ่านไปในแต่ละวัน ซึ่งเป็นวันเวลาที่น้อยๆลง ใกล้ ที่จะมาถึง สิ่งที่จริงแท้แน่นอนของทุกคนทุกสิ่งมีชีวิต คือความตาย ความตายคือสิ่งจริงแท้แน่นอน
ก็น่าจะไม่เกิดข้อตำหนิ ว่าอมรนำบทความทางธรรม มา post ติดต่อใกล้เคียงกับ เรื่อง ทางโลกรวมทั้งภาพที่ล่อแหลม
น่าจะเป็นข้อคิดให้หลายๆท่าน ที่ยังไม่เคยคิด เข้าปฎิบัติธรรมสร้างกุศลให้ตนเอง อยากเข้าปฎิบัติสักครั้ง เพราะเอ๊ะ อมร เขา ปฎิบัติธรรมแล้ว ก็ ยัง เป็นปกติ กับชีวิตประจำวัน ยังเป็น ครอบครัวของ ยงจุน เหมือนเดิม อมร ขอเชิญชวน ให้ทุกท่าน เกิดศรัทธา เข้าปฎิบัติธรรม กันนะคะ มีสถานที่ให้เราเข้าปฎิบัติมากมายหลายหลักสูตร หลาย วิปัสสนาจารย์ หลากหลายพระวิปัสสนาจารย์ และไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆเลย เพราะ มีเจ้าภาพ จ่ายค่าใช้จ่ายให้ผู้มีจิตศรัทธา เข้า ปฎิบัติ รอคิว เป็นเจ้าภาพกันยาวเหยียด เพราะท่านๆ เหล่านั้น เข้าปฎิบัติแล้ว ก็เกิดศรัทธา อยากให้ คนอื่นๆ ได้เข้ามารับรสของธรรม อันเป็นธรรมชาติ ของความเป็นจริงที่เป็นอยู่ของแต่ละบุคคลเอง เพราะท่านแค่ ไปดู ไปรู้ เรื่อง ของตัวเอง เท่านั้น ส่วนจะได้ธรรม กลับมาแค่ไหน ก็ แล้วแต่บุญกุศล ที่ท่านเคยสะสมมา และมาตั้งใจปฎิบัติ ในช่วงเวลาที่เข้าปฎิบัติเอง ท่านลงทุนเพียง นำ กายกับใจ ของท่าน ไปเท่านั้น รวมทั้งความตั้งใจในการปฎิบัติ และยอมสละเวลาอันมีค่า ของท่าน เท่านั้นเองค่ะ

1 comment:

  1. ขอบคุณมากนะครับสำหรับบทความ

    ReplyDelete

Note: Only a member of this blog may post a comment.