25.4.08

เรื่องย่อ ตำนานจอมกษัตริย์เทพสวรรค์ (ตอนที่ 5)


Kyukku (คยอคคู ) กีฬาที่ปรากฏในละครเรื่องนี้ ก็เป็นกีฬาที่โปรดปรานของราชวงศ์อังกฤษ ที่เรารู้จักกัน คือ โปโล สำหรับบ้านเรา ก็เป็นกีฬาที่ปรากฏในวรรณคดี เรื่องสังข์ทอง ที่คนไทยเราเคยคุ้นคำว่าตีคลี ลองนึกภาพว่า พระสังข์ทอง ตีคลี แข่งขันพนันเอาเมืองกัน กับผู้มาท้าตีคลี คือพระอินทร์ที่แปลงองค์ลงมาจากสวรรค์ เพื่อให้ พระสังข์ยอมถอดรูปเงาะ ในพระราชนิพนธ์ได้บรรยายความสง่างามของ การตีคลี ของพระอินทร์และพระสังข์
ขอเชิญชมความอลังการของสนามและการแข่งขัน ตีคลี หรือโปโล ใน the legend แต่ต้องชมจากหน้าจอทีวี กันเอง เพราะผู้เล่า มิสามารถบรรยายภาพให้มองเห็นเป็นตัวอักษรได้
และขออภัย ที่การเล่า มีการใช้คำ ทั้งโปโล และ ไม้ตีคลี




ตอนที่5

การแข่งขัน คู่แรก คือทีมสีเหลือง ตัวแทนจากจากแคว้นกลาง คือเครุ และทีมสีน้ำเงิน ตัวแทนแคว้นซุนโน เมื่อยอน โฮแก ลงสนาม ก็มีเสียงผู้ชมต้อนรับ ซูจินี ทำท่าทางละเมอเพ้อฝันกับความสง่างามของยอนโฮแก แต่กลับเอาตัวเองกระแซะ องค์ชาย ทีมสีเหลืองทำคะแนนนำ ที่ทำให้เสนาบดียอน พออกพอใจ ทีมสีเหลืองเล่นแบบแรงขึ้น เรื่อยๆและ ใช้ไม้ตีคลี ตีผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม องค์ชายทอดพระเนตรแล้ว ทรงบ่นว่า ทำอย่างนั้นได้หรือ ซูจินีตอบว่า กฎมีเพียงข้อเดียวคือไม่ทำให้ม้าบาดเจ็บ การใช้ไม้ตีคลี จะทุบตีหรือกระแทก ทุกอย่างทำได้หมด บางทีคนเล่นก็ล้มลงกระดูกแตก บางทีก็ถึงตายได้ องค์ชายทรงค้านว่า แต่ไม้ตีคลีต้องทำจากไม้ไผ่เท่านั้นมิใช่หรือ นี่เป็นกฎเท่าที่ข้ารู้ ซูจินี ก็ได้แต่สงสัยว่า ถ้าไม่ใช่ไม้ไผ่แล้ว มันคืออะไรกันแน่


ผู้แข่งขัน ทีมสีดำ ก็ตั้งข้อสงสัยว่า กันในทีมว่า ดูและฟังเสียงแล้ว เหมือน ทีมสีน้ำเงินจะถูกตีด้วยเหล็ก รวมทั้งบาซอน และจูมูชิที่เข้าสนามมาและมองดูอยู่ และ จะมาถามข่าวเรื่องม้าของทีมสีดำ บาซอนบอกว่า จากประสบการณ์ 3 0 ปีในการเป็นช่างตีเหล็ก และเป็นทายาทจากตระกูลช่างตีเหล็ก ไม้ตีคลีนั่นทำจากเหล็ก
แล้วทุกคน ก็ฮือฮาตกใจ ที่ผู้แข่งทีมสีน้ำเงินตกลงมาจากหลังม้า และทีมสีเหลืองก็ ทำประตูได้ ยอนโฮแกดีใจ
แทจังโร เริ่มรูสึกถึงแสงแดงวาบ ๆที่ปรากฏในกระเป๋าเสื้อของตัวเอง ที่ใส่ หัวใจฟินิกซ์ไว้ เมื่อมองไปที่ ยอนโฮแก และโซคีฮา แทจังโรก็เข้าใจว่า เมื่อ ทั้งสองคนอยู่ใกล้กันทำให้ หัวใจฟินิกซ์ เปล่งแสงออกมา แท้ที่จริงแล้ว ซูจินี อดรนทนไม่ไหวลุกขึ้นจาก อัฒจรรย์ และองค์ชายขยับองค์ขึ้นตาม และกำลังจะเสด็จผ่าน แทจังโร โซคีฮาที่มององค์ชายอยู่ตลอด พลอยขยับตัวด้วยต่างหาก เมื่อองค์ชายเสด็จผ่านแทจังโร จริง แสงที่เปล่งออกมาก็ แดงยิ่งขึ้น แทจังโร มองยอนโฮแก แล้วยิ้มที่มุมปาก ทำท่าทางมั่นอกมั่นใจยิ่งขึ้น


ซูจินีไปที่ค่ายพักทีมสีเหลือง เพื่อมาดูไม้ตีคลี แล้วก็หายข้องใจ และเรียกค่าปิดปาก จาก อิลซู คนสนิทของยอนโฮแก 30 เหรียญ อิลซู โมโห บอกว่า ถ้าอย่างนั้นข้าจะปิดปากเจ้า ข้าจะทำให้มั่นใจว่า เจ้าจะเปิดปากอีกไม่ได้ และใช้ไม้ตีคลีเหล็ก ไล่ทำร้ายซูจินี ซูจินีหลบไปหลบมา จนตีพลาด ถูกตุ่มน้ำแตก ยอนโฮแกเข้ามาพอดี ถามว่า เจ้าทำอะไร นางเป็นผู้หญิงและไม่มีอาวุธ อิลซู ใส่ร้ายว่าซูจินี นำอะไรบางอย่างมาใส่น้ำ ข้าเห็นด้วยตาตัวเอง ต้องมีฝ่ายอื่นส่งนางมา ในที่สุดซูจินีถูกจับหิ้วปีก อิลซูบอกว่า จะดูแลนางเองและจะซักเอาความจริงให้ มีสุรเสียงขององค์ชายดังขึ้นว่า ใครกันแน่ที่ต้องบอกความจริง ซูจินีตกใจ รีบ บอกองค์ชายว่าอย่ามาที่นี่ ท่านมาทำไม ท่านรีบหนีไป ท่าทางหน้าตา สุ้มเสียงซูจินี เป็นห่วงองค์ชาย มาก (คงเป็นความรู้สึกลึก ๆ จาก ชาติภพ แช โอ เมื่อ2 พันปีมาแล้ว)


อิลซู เป็นผู้จัดการเรื่องไม้ตีคลี โดย ยอนโฮแก มิได้รู้เห็นด้วย เมื่อองค์ชาย เอาไม้ตีคลี ฟาดต้นเสา ยอนโฮแก ถึงได้เห็นด้ามเหล็กที่อยู่ข้างใน (สันนิษฐานว่า ไม้ตีคลี อันที่ยอนโฮแกใช้ คงเป็นไม้ไผ่ธรรมดาจริงๆ) ยอนโฮแกตกใจ อิลซู หลบตา เหมือนการสารภาพ องค์ชายทรงแนะนำว่าให้จ่ายเงินให้ซูจินีให้มากหน่อย ซูจินี คงปิดปากตัวเองได้ แต่ยอนโฮแก กลับตอบองค์ชายว่า องค์ชาย (ซูจินี ได้ยินชัด เจนที่ยอนโฮแก เรียกองค์ชายกว่า ครั้งแรก) หม่อมฉันจะไม่ปกปิดเรื่องนี้ หม่อมฉันจะพูดความจริงและยอมรับผลที่เกิดขึ้นในฐานะหัวหน้าทีมสีเหลือง หม่อมฉันจะรับผิดชอบเต็มที่พะย่ะค่ะ
องค์ชายทรงห้าม เพราะองค์ชายจะเดือดร้อนไปด้วย ที่เสด็จมาที่นี่ทั้งที่ทรงถูกห้ามไม่ให้ออกมานอกเขตวัง ทรงแนะนำให้ยอนโอแก เปลี่ยนใช้ไม้ตีคลี ที่สกปรกเป็นของที่สะอาด เจ้าไม่เห็นข้า และข้าก็ไม่เห็นไม้ตีคลีนี้ ตกลงไหม แล้วเสด็จออกมาจากค่ายพัก ยอนโฮแก ท่าทางครุ่นคิด และทำท่าทาง ไม่ได้ดังใจตัวเอง

โซคีฮา ตามมาถึงหน้าค่ายพักทีมสีเหลือง พอดีกับที่องค์ชาย เสด็จอยู่หลังซูจินี ทรงถามซูจินีว่าเจ้าจะไม่ขอบคุณ ที่ข้าช่วยชีวิตเจ้าหรือ ซูจินี รู้สึกน้อยใจ ที่ไม่รู้ศักดิ์ที่แท้จริงขององค์ชาย องค์ชายห้ามไม่ให้ซูจินี พูดอะไรที่เกี่ยวกับองค์ชาย เกี่ยวกับทีมสีเหลือง และ.... แต่ซูจินี พูดขัดขึ้นว่า อย่างไรก็ไม่มีใครเชื่อข้าอยู่แล้ว ข้าเป็นเด็กข้างถนน มีเพื่อนเป็นองค์ชาย แล้วใครจะเชื่อว่า นักรบที่ยิ่งใหญ่ของชาติเราแอบเอาเหล็กใส่ไว้ในไม้ตีคลี องค์ชายปรามว่า เสียงเบาหน่อย ซูจินีไม่สนใจ พูดต่อว่า ข้าเป็นคนไร้การศึกษา โง่เง่า ข้าอยากจะถามท่าน มันเหมาะสมไหมที่เด็กข้างถนนอย่างข้าจะปิดปากเพราะเงิน แต่ในฐานะของคนในประเทศนี้ ท่านจะไม่ยึดถือ ความยุติธรรมสักหน่อยหรือ คนน่ารังเกียจบังอาจหลอกลวงต่อหน้ากษัตริย์ แล้วท่านจะให้ข้าเงียบไว้ องค์ชาย ทรงกระแอม กอดพระอุระ ซูจินีพูดต่อ ข้าได้เงินแล้วท่านได้อะไร องค์ชายตรัสว่า เจ้านี่ช่างไม่กลัวอะไรเลย ซูจินี ตอบว่า หัวหน้าของข้าก็พูดอย่างนี้ตลอดเวลาเลย “ เจ้านี่ช่างไม่กลัวอะไร “
องค์ชาย ทรงบอกกับซูจินีว่า มันมีหนี้ที่ต้องจ่าย ข้ามีหนี้ที่ต้องจ่ายให้กับลูกชายของตระกูลยอน วันนี้ข้าจ่ายเพียงดอกเบี้ย

โซคีฮาที่มายืนดูองค์ชายกับซูจินี ที่นอกค่ายของทีมสีเหลือง มีท่าทางไม่สบายใจ ซารยางมาบอกโซคีฮาว่า แทจังโรขอพบคืนนี้ โซคีฮาจะสะดวกไหม แต่โซคีฮา ยังคงมององค์ชายและซูจินีนิ่ง ซารยางต้องเรียกซ้ำว่า นายหญิงคีฮา แต่โซคีฮากลับตอบว่า เขากำลังยิ้ม ซารยางถามว่าอะไร โซคีฮาตอบว่า หลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้นตอนเด็กข้ายังไม่เคยเห็นเขายิ้มง่ายๆเลย เขากำลังยิ้มสดใส ...เมื่อเขามองดูเธอ ... (แต่เราคนชม ไม่เห็นภาพนี้หรอกว่าองค์ชายยิ้มสดใสขนาดไหน มีแต่โซคีฮาเห็นคนเดียว)

ตอนกลางคืน ซูจินีบ่นพึมพำกับตัวเอง ทำท่าขัดอกขัดใจ ฟาดแขนตัวเองไปมา กับคำห้ามขององค์ชาย ฮยอนโกยืนมองอยู่นานอย่างสงสัย เรียกหาว่า นี่ลูกศิษย์ของข้า แต่ซุจินีไม่สนใจยังบ่นเรื่องที่ ฮยอนโกฟังแล้วไม่เข้าใจ พยายามปะติดปะต่อเรื่อง ซูจินีบอกว่า ไม่มีอะไรสลักสำคัญสำหรับท่านหรอก ข้าพูดอะไรไม่ได้ มันน่าอึดอัดใจ ฮยอนโกถามถึงยอนโฮแก ที่สั่งให้ซุจินี จับตาคอยมองไว้ ซูจินีตอบว่า ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรว่านักต้มตุ๋นนั่นทำอะไรอยู่ ฮยอนโก ถามว่าเจ้าเป็นอะไรไป ข้าสั่งให้เจ้าจับตามองเขาอย่างใกล้ชิดเขาพูดกันว่า สาวๆในปราสาทโกกแน ฝันถึงยอนโฮแกทั้งคืน ซูจินี ทำท่าทางระคายหู ฮยอนโกบ่นว่าเจ้าคงไม่ใช่ผู้หญิงแท้ๆ ข้าจะทำอย่างไรกับเจ้าดี ซูจินี หงุดหงิดใจเต็มที่ ผุดลุกขึ้นพูดเสียงดังว่า ข้าไม่ต้องการเห็นเขาอีก และถึงอย่างไรข้าก็ทำไม่ได้ ข้าบอกว่าข้าทำไม่ได้ ฮยอนโกตกใจ ถามว่าเจ้าไม่ได้อยู่กับผู้ชายคนนั้นใช่ไหม เจ้านอนกับเขาหรือ คราวนี้ซูจีนี อ้าปากค้างไปเลย ฮยอนโก อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ซูจินีไม่เล่าเรื่อง ฮยอนโกชักโมโห บ่นว่าเพราะอย่างนั้นเจ้าถึงบอกว่า เขาเป็นนักต้มตุ๋น หลังจากเกิดเรื่องแล้วเจ้าสารเลวนั่นพูดอะไรกับเจ้า ข้าจะทำอย่างไร ทีนี้ข้าจะทำอย่างไร แล้วก็โอดครวญช้ำอีกว่า ข้าจะทำอย่างไร .....

ที่พักลับของฮวานเซิน โชคีฮา มาพบแทจังโร แทจังโรเล่าเรื่อง ตามที่ตัวเองเข้าใจเอาเองว่าหัวใจฟินิกซ์ เปล่งประกาย เมื่อ ยอนโฮแก และโซคีฮา อยู่ใกล้กัน โซคีฮา ทวนความว่า ที่สนามแข่งขัน ตอนที่ยอนโฮแกและข้าอยู่ใกล้กัน หัวใจฟินิกซ์ กลับมีชีวิตขึ้นมา แทจังโรพูดต่อว่า แต่เราก็ไม่อาจแน่ใจ ข้าวางแผนจะไปเยี่ยมเยียน ยอนโฮแก ข้าจะเชิญเจ้าไปด้วย เราสองคนจะได้ยืนยันเรื่องนี้กัน โซคีฮาถามต่อว่า ถ้ายืนยันได้แล้วต่อไปอะไรจะเกิดขึ้น แทจังโรตอบว่า
เราจะทำให้เขาเป็นกษัตริย์ โคคุเรียวตามแผนการ จากนั้นแท่นบูชาใต้อารามหลวงอาบูลันซา ของฮวาเซิน จะได้รับการปลดปล่อย เราจะให้เขาหาสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์มังกรน้ำเงิน เสือขาว และเต่าดำ


ที่วังหลวง องค์ชายแอบหนีออกจากวังมาอีกตามทางลับที่ทรงใช้เป็นประจำทรงแปลกพระทัยที่ พบ ยอนโฮแก ยอนโฮแก ไม่ต้องการมีจุดอ่อนให้องค์ชายมาใช้ข่มขู่ในวันหน้า องค์ชายตอบว่า พระองค์ก็ไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ว่า พระองค์ออกมานอกวัง ดังนั้น ให้ถือว่า เราสองคน ไม่ได้พบกันดีไหม ยอนโฮแก ทูลว่าหม่อมฉันจนตรอก หม่อมฉันต่างจากคนอื่นที่ฆ่าแม่คนอื่นแล้วยังไม่เคยชดใช้เลย หม่อมฉันไม่เคยได้อะไรมาโดยง่าย หม่อมฉันต้องการชนะการแข่งขันครั้งนี้และวางแผนให้ประชาชนสนับสนุน องค์ชายตอบว่า จะเอาชนะทีมสีดำนั้นไม่ง่ายหรอก มีหมอดูแม่นๆบอกว่าทีมสีดำจะชนะ ยอนโฮแก ย้ำว่า หม่อมฉันทูลแล้วว่าหม่อมฉันจนตรอก ทรงไม่เข้าพระทัยใช่ไหม ถือว่าหม่อมฉันได้รับอนุญาตจากองค์ชายแล้ว ทูลลาพะย่ะค่ะ
( อันที่จริง ยอนโฮแก เป็นคนดี มีความสง่าผ่าเผยในตัวเอง เป็นคนตรงไปตรงมา เคยอยากเป็นเพื่อนกับองค์ชายในวัยเด็ก แต่เป็นเพราะความแค้นจึงเปลี่ยนเป็นเกลียดชังและคิดแก้แค้นองค์ชาย )
องค์ชายพบซูจินี พึมพำพูดกับตัวเองอยู่คนเดียว ดื่มเหล้าด้วย องค์ชาย ถามซูจินีว่าป่วยหรือเปล่าจึงพูดอยู่คนเดียว ซูจินีถามว่ามาที่นี่ทำไม องค์ชายแย่งเหล้าเอาไปเสวย ซูจินีคว้าคืนไป ถามว่าท่านตัดสินใจออกมาข้างถนนหรือ องค์ชายตอบว่า ข้าอ่านหนังสือจนเหนื่อยเลยออกมาดูผู้คนและมีคนบอกว่าจะพาข้าไปดูอะไรที่น่าสนใจ
แล้วก็สมพระทัยองค์ชายจริงๆ เพราะยอนโฮแก มาดื่มเหล้า และโกรธลูกน้องอิลซูที่โกงเรื่องไม้ตีคลี ทำให้อับอายองค์ชาย อิลซูทำลงไปเพราะต้องการชัยชนะ ผู้ชายทุกคนต้องการเป็นอัศวิน ถ้าหากไม่ชนะการแข่งขัน ก็ไม่มีทางเข้ามาเป็นอัศวินได้ ยอนโฮแก เองก็เฝ้าแต่ย้ำว่า ข้าไม่แพ้กับใครทั้งนั้น เจ้าเข้าใจข้าไหมข้าจะไม่แพ้ อิลซูพูดว่า เราได้รับการดูถูกต่อหน้าองค์ชาย ถ้าเราไม่ชนะ...พูดไม่จบประโยคยอนโฮแก เข้ามาจับอิลซู ทั้งเขย่าทั้งตวาดว่า เจ้าเรียกมันว่าองค์ชายต่อหน้าข้าหรือ แล้วก็ผลักอิลซูออกไป สั่งว่าเจ้าจะต้องวางแผนสำหรับการแข่งขันวันพรุ่งนี้ เจ้าควรต้องเตรียมการเพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะ เหมือนอย่างที่เจ้าทำกับไม้ตีคลี
อิลซู พาลูกน้องไปทำร้าย นักแข่งทีมสีดำ องค์ชายและซูจินีเข้าไปช่วยเหลือ และองค์ชายต้องพาโซคีฮามาช่วยรักษา เพราะจะพาไปหาหมอไม่ได้ เนื่องจากมีกฎว่า ถ้าผู้แข่งขันบาดเจ็บ จะลงแข่งขันไมได้ ในระหว่างการรักษามีตอนหนึ่งซูจินีถามโซคีฮาว่าท่านเคยเห็นข้ามาก่อนไหม ข้ารู้สึกเหมือนเคยเห็นท่านโซคีฮาไม่ตอบ และในขณะที่กำลังจัดยาและ อธิบายอาการบาดเจ็บคนเจ็บทั้งสามคนและการรักษาให้ซูจินี ฟัง เมื่อโซคีฮา เห็นองค์ชายยืนทอดพระเนตรอยู่ ก็มองสบตา กับองค์ชาย ที่ยืนอยู่ห่างทั้งสองคนออกไป องค์ชายส่งรอยแย้มพระสรวลและสายพระเนตรวาวหวานให้โซคีฮา โดยทั้งสองไม่สนใจซูจินี ที่ยืนอยู่ใกล้ๆโซคีฮาเลย


ทีมโปโลสีเหลือง คือ ทีมของแคว้นกลาง เครุ
ทีมโปโลสีน้ำเงิน คือทีมของแคว้น ซุนโน
ทีมโปโลสีดำคือทีมของแคว้น จุนโน
มีอีก 2 แคว้น คือแคว้นกวานโน และแคว้น โซโน ที่ไม่กล่าวถึง

ในรอบนี้เป็นรอบตัดสินของทีมสีดำ และสีเหลือง หัวหน้าทีมสีดำ เป็นบุตรชายของหัวหน้าเผ่า ตัวอ้วนใหญ่เสียงดังฟังชัด และทีมสีดำ จะมามีความผูกพันกับองค์ชาย ช่วยเหลือองค์ชาย
หัวหน้าทีมสีดำ ฉายาเจ้าหมูป่า และผู้เล่นตัวสำรอง ถูกรุมตีในเกม จนกรรมการให้ยุติ โดยเฉพาะเจ้าหมูป่าบาดเจ็บถูกทำร้ายตั้งแต่ตอนกลางคืน (เมื่อองค์ชายและซูจินี เข้าไปช่วยและจะพาไปหาหมอ เจ้าหมูป่าได้ถามองค์ชาย( ยังไม่รู้ว่าเป็นองค์ชาย) ว่าช่วยพวกตนทำไม พวกทีมสีดำ ไม่ใช่คนของที่นี่ด้วยซ้ำไป องค์ชายตอบว่า เพราะข้าเล่นพนันไว้ ว่าทีมสีดำจะชนะทีมสีดำจึงยอมรับความช่วยเหลือ)



องค์ชายกับซูจินี ปลอมตัวลงไปแข่งให้ทีมสีดำ
เมื่อกรรมการให้ทีมสีดำเปลี่ยนตัวผู้แข่งขัน แทนคนที่บาดเจ็บพอทีมสีดำได้คะแนน ทีมเชียร์บนอัฒจรรย์ มีหัวหน้าเผ่าตัวอ้วนใหญ่ นำทีม ลุกขึ้น มาเต้น ย้ายสะโพกซ้ายขวา ไปทางเดียวกันพร้อมๆกัน น่าเอ็นดู กับ ไอเดียของผู้กำกับ น่ารักปนขำกลิ้ง มีจังหวะหนึ่งที่ซูจินีหมวกหลุดทำให้ ยอนโฮแกและอิลซูจำได้ ว่าเป็นใครและเดาได้ ว่า ผู้ที่ลงมาแทนคนเจ็บอีกคนคือใคร ทั้งคู่พยามทำร้ายองค์ชาย จนองค์ชายตกจากหลังม้า และตั้งใจให้ม้าของตนเหยียบองค์ชาย แต่ซูจินีเข้ามาขวางไว้ (ด้วยสัญชาตญาณอีกตามเคย) พระมาลาขององค์ชายกระเด็นหลุดจากพระเศียร ทำให้ ทุกคนในสนาม รู้ว่า นั่นคือองค์ชายทัมด๊ก องค์ชายเสด็จขึ้นที่ประทับยอมรับผิด กับกษัตริย์ เป็นเหตุให้ เสนาบดียอน กล่าวหาในเรื่องรัชทายาท ไม่วางตัวเป็นกลาง และนี่เป็นการหลอกลวงกษัตริย์และประชาชน กษัตริย์ ทรงให้ยกเลิกการแข่งขัน และทำโทษ ผู้กระทำผิด ทำให้องค์ชายถูกกักบริเวณ อยู่ในสุสานหลวง และทีมสีดำ ถูกนำไปขังที่คุกบ้านตระกูลยอน รวมทั้งซูจินีด้วย


แทจังโรไปพบเสนาบดียอน เสนาบดียอนเข้าใจว่า แทจังโรมาคุยเรื่องการค้า จึงทำท่าไม่สนใจ แทจังโรจึงบอกว่าตนเอง มีสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ฟินิกซ์ และรู้จักผู้พิทักษ์สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์นี้ และจะนำมาพบ ยอนโฮแก หากผู้พิทักษ์ สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ และกษัตริย์ จูชิน มาอยู่พร้อมกัน สัญลักษณ์ จะเปล่งประกายแสงออกมา โซคีฮา ถูกนักพรตหญิงจับได้ในขณะที่จะหลบออกมาหาแทจังโร ถูกนำตัวไปสอบสวนเรื่องที่ เธอชอบหนีออกจากอารามหลวงในเวลากลางคืนเป็นประจำ


องค์ชายจะออกไปเจรจาช่วยเหลือผู้เล่นทีมสีดำที่ถูกขัง จึงขอให้องครักษ์หญิงยอมเป็นตัวประกัน องครักษ์หญิงถามว่า พระองค์มั่นใจ ว่าจะชนะหม่อมฉันหรือ องค์ชายจึงต้องประลองฝีมือเพื่อเอาชนะหัวหน้าองครักษ์หญิง องครักษ์หญิง ถวายดาบยาวให้ องค์ชายใช้พระหัตถ์ กดดาบลงเป็นทำนองไม่ใช้ องค์รักษ์ จึงชักดาบสั้นที่พกติดตัวออกมา พร้อมทูลว่า เกรงว่าจะทำอันตรายองค์ชายบาดเจ็บ องค์ชายตอบว่า ข้าสัญญาว่าถ้าข้าบาดเจ็บ ข้าจะไม่ร้องไห้


ฉากการต่อสู้ประลองฝีมือ ที่องค์ชายไม่ใช้อาวุธ ใช้พระหัตถ์เปล่า คอยหมุนองค์หลบหลีก ตลอดเวลา สู้ไปแย้มพระสรวลไป ส่งสายพระเนตรหวานฉ่ำ ทำลายความแข็งแกร่งของวิทยายุทธ์ขององครักษ์หญิง องค์ชายสู้แบบเล่นสนุกเสียมากกว่า พยายามยึดแขนข้างที่มีอาวุธ แต่ลีลา หลีกหลบ กระโดดไต่กำแพง จังหวะที่ช้พระบาทเตะ หมุนพระองค์ ลีลาเยี่ยมยุทธ์ พลิ้วไหว ยังกับสายลมพัดโบก ด้วยชุดสีขาว สวยมาก ผลที่สุดทรงยึดแขนที่จับมีดสั้นในลักษณะโอบองครักษ์ ไว้ ถามว่าเจ้าบอกว่าเจ้าชื่ออะไรนะ แล้วก็เหวี่ยงองครักษ์ออกห่างพระองค์ ทรงพระดำเนินเอาพระหัตถ์ไขว้พระปฤษฎางค์ 2-3 ก้าวแล้วหยุดเอียงข้าง(สีข้างเรียกว่าพระปรัศว์)แล้วก็หันพระพักตร์มาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่องครักษ์ หอบแฮก ผมเผ้ายุ่งเหยิง เข้ามาทูลว่า ตนเองชื่อ kakdan องค์ชายบอกว่าข้าจะรีบกลับมา kakdan ทูลองค์ชายว่า ทีมโปโลสีดำ ถูกขังที่คุกของบ้านตระกูลยอน

COPYRIGHT@ Amornbyj & SUE

No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.