16.8.08

Barefooted Youth Episode 1...Translated by yimpan.


แปลโดย ...yimpan...
Barefooted Youth Episode 1


ณ หุบเขาที่ห่างไกลบริเวณทุ่งหญ้าใกล้ ๆ ปรากฎภาพการต่อสู้ของแก๊งอันธพาล ภาพชาย 5-6 คนที่กำลัง
ไล่ล่าเด็กหนุ่มผู้ซึ่งสะพายกระเป๋าพร้อมกีฬาไฟฟ้าไว้บนหลัง ซึ่งมันทำให้ชายหนุ่มที่พยายามปกป้องตัวเอง
เป็นไปด้วยความยากลำบาก ประกอบกับกำลังที่น้อยกว่า
ระหว่างนั้นได้มีรถบรรทุกพ่วงแล่นผ่านมา เด็กหนุ่มวิ่งด้วยความรวดเร็วและปีนขึ้นไปด้านหลังรถบรรทุก
กลุ่มอันธพาลที่ตามมาพยายามปีนตามขึ้นไป เด็กหนุ่มปกป้องตัวเองโดยตีพวกมันด้วยกระเป๋า เขาทั้งเตะทั้งถีบ
เพื่อไม่ให้พวกมันขึ้นมาบนรถได้ และมันทำให้เขาต้องเสียกระเป๋าสะพายไปกับเหตุการณ์นี้ด้วย
ห่างออกไปเรื่อย กลุ่มอันธพาลที่ไล่ตามอย่างบ้าคลั่ง ต่างสาปแช่งและเตะต่อยอากาศเพื่อเป็นการระบายความโกรธ โชคชะตาได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

ณ โรงเรียนมัธยม

ภาพ "ยูซุก" ที่กำลังเดินมาตามระเบียงทางเดินที่ว่างเปล่าพร้อมกีต้าร์ไฟฟ้าบนหลัง หลังจากที่ทำการปัดฝุ่นที่ติดตามเสื้อผ้าออกแล้ว เขาเดินมาถึงประตูห้องเรียนและกำลังจะเปิดมันเข้าไป แต่ประตูได้เปิดออกมา
จากด้านในเสียก่อน
"ครูปาร์ก" (มองเลยไปยังกีต้าร์ที่สะพายอยู่บนหลัง)(พูดด้วยสำเนียงท้องถิ่น) "นี่มันอะไรกัน? เธอมาโรงเรียนพร้อมด้วยเจ้าสิ่งนี้หรือ? แล้วกระเป๋าหนังสือของเธอหายไปไหน?
"ยูซุก" ....
"ครูปาร์ก" ที่ฉันรู้ก็คือ มันคือเรื่องจริงที่ทุกวันนี้เธอไปทำงานในบาร์ของเมือง และนั่นก็คือเหตุผลที่เธอไม่ควรจะมาเรียนที่นี่ เธอยังเป็นนักเรียนอยู่หรือ? หรือเธอเป็นเจ้าพวกเด็กข้างถนน?
"ยูซุก" (พยายามโค้งตัวลงเพื่อแทรกตัวเข้าไปภายในห้องเรียน)
"ครูปาร์" (ยืนขวางทางเข้า) เธอคิดว่าเธอกำลังจะไปไหน?
"ยูซุก" .....
"ครูปาร์ก" คนอย่างเธอไม่มีสิทธิ์จะได้สอบ ไปให้พ้น!
"ยูซุก" (เงยหน้าขึ้น) นี่มันเป็นการสอบไล่ครั้งสุดท้ายของผม
"ครูปาร์ก" เธอก็รู้ว่านี่เป็นการสอบไล่ครั้งสุดท้าย แล้วเธอยังทำตัวแบบนี้อีกหรือ? ไปซะ!
"ยูซุก" (ก้มหน้าอีกครั้ง, ผลักครูออกไปเบา ๆ แล้วเดินเข้าไปในห้อง)
"ครูปาร์ก" (ตวาดด้วยเสียงดัง)มันบอกให้ออกไป! ไม่เข้าใจหรือ? โรงเรียนนี้ไม่ต้องการคนอย่าง
เธอที่ทำตัวไร้สาระไปวัน ๆ
"ยูซุก" (มองครูอย่างเอาเรื่อง) ผมไม่เคยทำตัวไร้สาระไปวัน ๆ ที่ผมต้องทำงานกลางคืนเพราะ
ความจำเป็น (เดินผ่านไปที่โต๊ะเรียน หยิบกระดาษข้อสอบบนโต๊ะหันกลับ เดินผ่านครูที่
ท่าทางเอาเรื่องออกไปจากห้อง)
อีกครั้งบนระเบียงทางเดิน เค้านั่งคุกเข่าและเริ่มทำข้อสอบ ระหว่างนั้นที่สุดทางเดิน "ครูวู"(อายุราว ๆ
60ปี) ยืนพิจารณาเค้าเงียบจากหน้าห้องทำงาน
จากนี้น ภายในห้องครูใหญ่ "ครูวู" ได้พูดเตือนสติยูซุกนึกถึงยายที่เสียไปแล้ว และให้กำลังใจเค้า
ว่าอย่าพึ่งยอมแพ้
"ยูซุก" ผมไม่เคยยอมแพ้...ไม่เคย

ในบาร์
ภาพยูซุกกำลังเล่นกีตาร์ ท่ามกลางเสียงโห่ร้องอย่างพอใจแฟนเพลง ขณะที่เค้ากำลังเล่นเพลงอย่าง
ตั้งใจ แก๊งอันธพาลที่เคยมีเรื่องกับเขามาก่อนหน้านี้ที่อยู่ภายในบาร์ หนึ่งในแก๊งมองเห็นเค้า ส่งเสียงท้าทาย
"ด็อกเอน" เดินเข้าหาเข้าไปหาและเตะเขา..แต่ยูซุกเอี้ยวตัวหลบ พร้อมถอยไปด้านหลัง และพูดว่า
"ถ้าแกทำอย่างนั้นอีกครั้งละก้อ ฉันจะฆ่าแก" พวกมันพากันหัวเราะเยาะเค้า แต่ก็ต้องเงียบเสียงลง เมื่อ
หัวหน้าของมัน "กังซู" ร้องถามยูซุกว่า "เมื่อชั้นสั่งให้แกมา ทำไมแกไม่มา?" ระหว่างนั้น (โดยเฉพาะ ด๊อกเอน กับ เมจู) ที่ยังอยู่ในอารมย์โกรธพยายามที่จะเข้ามาทำร้ายยูซุก หัวหน้าต้องตวาดให้หยุดด้วยเสียงอันดัง
และพูดกับยูซุกว่า "ฉันชอบความกล้าได้กล้าเสียของแก และชั้นต้องการแก"

"กังซู" "โกกังซู" ในตอนนี้จะดูเล็กสำหรับเธอ แต่ฉันก็หวังว่ามันจะอยู่คู่เมืองนี้ตลอดไป,และฉันจะต้องทำให้มั่นยิ่งใหญ่ในได้ในสักวัน เธอคอยดูก็แล้วกัน ดังนั้น ในวันข้างหน้าเมื่อฉันเรียกหาเธอเธอจำต้องมาทันที โดยไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ ทั้งสิ้น จากนั้นยูซุกกลับไปเล่นดนตรีต่อ

ห้องฉายหนัง
ยูซุกไปหา "แมนโบ" เพื่อนของเขาที่ทำงานอยู่ในห้องฉายหนัง "แมนโบ" มองไปรอบ ๆ จนแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่แล้ว จึงพูดกับยูซุกว่า "แกคิดดีแล้วหรือ? มันบ้าชัด ๆ ที่แกไปเป็นพวก "โกกังซู"..
"ยูซุก" ใครพูดว่าชั้นจะยอมเป็นลูกน้องมันอยู่ในเมืองเล็ก ๆ นี้? ไม่ต้องสนใจพวกมันหรอกมันแค่
พูดไปอย่างนั้นเอง (มือหมุนม้วนฟิล์มเล่น)
"มันโบ" (มองหน้าเพื่อน) ว่าไงนะ? แกยังจำไม่ได้หรือไง ก็เพราะเรื่องนี้มันสร้างปัญหาให้แกมาก
แค่ไหน ชายสูงวัยกว่าพูดถึงการทำลายล้าง (ยูซุกไม่ใส่ใจ)แกกับความโง่เขลาของแก
ยูซุกกำลังดู หนังที่เก่ามาก เป็นภาพผู้หญิงที่กำลังใกล้ตายด้วยโรคมะเร็ง กำลังพูดกับลูกของเธอ ยูซุกหยิบ
รูปเหมือนผู้คนนั้นออกมาจากกระเป๋าสตางค์ และนึกย้อนกลับไปในความทรงจำ.....

ณ บ้านยายของเขา
(ปี1981, ในหนังเป็นปี 1995)ยูซุกในวัย 4ขวบ (5 ขวบในเกาหลี)
"ยาย" (กังวลและหวาดกลัว) แกมาทำไม? แกต้องไปแล้ว? แกจะยังไงหากผู้ชายคนนั้นมาเจอ
เจ้าเข้า?
"ซูนัม" แม่ขอร้องละ หนูอยากเห็นตอนที่เค้าหลับ (คร่ำครวญ)ขอเวลาแค่นาทีเดียว ได้โปรด?
"ยูซุก" (ลืมตาขึ้น) ยาย...(เปิดประตูออกมา)
"ยาย" อังกู หลานยาย...(พยายามกอดเค้าไว้)
"ซูนัม" ยูซุกของแม่ (วิ่งเข้าไปหาพยายามจะกอดเค้า แต่ยายดึงไว้)
"ซูนัม" (ไม่ยอมปล่อยมือจากเค้า และกอดแน่นขึ้น) ยูซุกของแม่...แม่ขอโทษ แม่ขอโทษ
จริง ๆ ยกโทษให้แม่ด้วย แม่ควรจะทำอย่างไรดี ยูซุกของแม่...ลูกที่น่าสงสาร ลูกที่น่า
สงสารของแม่ (เสียงรถจอดที่ด้านนอก)
"ยาย" (ดึงยูซุกมาจากแม่) นั่นรถของแกใช่ไหม? เร็วเข้าเถอะไปซะ หรือแกต้องการปลุกคนทั้ง
เมือง?
ซูนัม ไม่อยากจากไป เธอกำลังร้องไห้
"ยาย" (ดึงเด็กชายออกมา) ส่งเขากลับมาให้ชั้น แกต้องไปเดี๋ยวนี้ ถ้าแกต้องการให้ลูกแกใช้ชีวิต
เหมือนคนทั่วไป แกต้องไปซะ
"ซูนัม" (ส่งเด็กคืนให้แม่) ยูซุกของแม่ ลูกต้องตั้งใจเรียน สัญญากับแม่ได้ไหม? ลูกต้องตั้งใจ
เรียน (ในอ้อมกอดของยาย เขาพยักหน้ารับ)และจำไว้ว่า อย่าลืมแม่ของลูกคนนี้ ลูกต้อง
ไม่ลืมแม่ ตกลงนะจ้ะ? สัญญาว่าลูกจะไม่ลืมแม่...(ยูซุกยังมองแม่ของเขาด้วยความ
ไม่เข้าใจ)รถเร่งเครื่องอีกครั้ง ด้วยความรวดเร็ว ยายผลักแม่ของเขาออกไป แม่จากไปด้วย
ความเศร้าโศก นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้เห็นแม่ของเขา จากนั้นไม่นานแม่ของเขาก็
ฆ่าตัวตาย และนี่เป็นหนังเพียงเรื่องเดียวที่แม่เขาแสดงไว้

ภาพยูซุกกำลังเดินกลับบ้านพร้อม "ซูวา"ที่ขี่จักรยานตามหลังเค้า
"ซูวา" ทำไมเธอถึงกลับบ้านช้าอย่างนี้? ฉันนึกว่าจะต้องรอเธอจนตายซะแล้ว
"ยูซุก" ใครเค้าใช้ให้เธอมารอฉันล่ะ? เลิกมายุ่งกับฉันแล้วกลับบ้านไปได้แล้ว
"ซูวา" (ยัดห่อเนื้อใส่มือยูซุก) เธอต้องกินเนื้อซะบ้างนะ จะได้มีแรงทำงานแล้วก็เรียนในเวลา
เดียวกัน
"ยูซุก" (ส่งห่อเนื้อคืนให้ซูวา) เลิกเห็นฉันเป็นเด็กซะที ถ้าไม่อยากให้ชั้นเลิกคบเธอล่ะก้อ
ราตรีสวัสดิ์
"ซูวา" (ยัดห่อเนื้อกลับไปในกระเป๋ายูซุก) ไม่ต้องทรมานตัวเองขนาดนั้นก็ได้ (วิ่งหนีไป)
แล้วอย่าลืมไปดูชั้นเดินพาเหรดเสาร์นี้ล่ะ

ภายในห้องพักของยูซุก
เขากำลังท่องหนังสือ หยุดอ่าน หยิบรูปที่เก็บรักษาไว้อย่างดีในห่ออลูมิเนียมฟอยออกมา
มันคือรูปของ "หานซูนัม"กับคนรักของเธอ (คีซุงจี)ตอนเป็นวัยรุ่น ยูซุกเพ่งมองใบหน้าของผู้ชาย
ที่อยู่ในภาพเป็นพิเศษ เขาจำได้ว่าเคยถามยายของเขาว่าผู้ชายที่อยู่ในภาพนั้นเป็นใคร ซึ่งยายไม่เคยให้
ความกระจ่างกับเขาเลย "ชั้นจะรู้ได้อย่างไรในเมื่อแม่แกไม่เคยพูดว่าใครเป็นพ่อของแก"

ถนนนอกเมือง
รถลีมูซีนสีดำวิ่งมาด้วยความเร็วสูง ภายในรถ, จางซังยุบ นั่งอยู่เบาะผู้โดยสาร และ จีซิก นั่งคู่
คนขับ จีซิกพยายามโทรหานายใหญ่ เพื่อรายงานว่าอยู่ที่ไหน แต่ "ซังยุบ" บอกให้เลิกโทร "เราไม่จำเป็น
ที่รายงานทุกอย่างให้พ่อรู้ระหว่างการเดินทาง" "เร็วเข้า"

ณ ห้องบรรยายของมหาวิทยาลัยกฎหมาย
เป็นการบรรยาย (สัมมนา)ใหญ่เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาข้อบังคับและเครือข่ายมาเฟียเกาหลี
"กีซังจี" ขึ้นสไลด์ของตระกูลจัง จำนวนสามรุ่นของแก๊งมาเฟียที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี สไลด์แรกที่ถูกฉายขึ้นมาเป็นรูปของ "จังดูซู" ผู้ก่อตั้งแก๊ง สืบเชื้อสายมาจากชาวญี่ปุ่น ภาพถัดมาเป็นภาพชายในชุดนักโทษ พร้อมอธิบายว่า "ปลดเกีษยร" ไปอยู่เบื้องหลังแล้ว สไลด์ต่อมาเป็นภาพลูกชายที่สืบทอดตำแหน่งแทน "จังเมียงซุก" ที่มีอำนาจและทรงอิทธิพลที่สุดในประเทศ สุดท้ายเป็นภาพหลานชายของกีซังจี หัวข้อการวิพากย์วิจารย์ในเวลานี้ก็คือ "เขาไม่มีคุณสมบัติของการเป็นผู้นำของพ่อเค้าเลย ภาพ"จังเมียงซุก" ถูกฉายขึ้นอีกครั้ง นำไปสู่การเสื่อมสลายของแก๊ง"
มือได้ถูกยกขึ้นพร้อมคำถาม และคำถามที่ถูกถามขึ้นโดย "กีซองจุน" เขาดูโดดเด่นและดูเหมือนคนที่มีความลับอยู่ตลอดเวลา "ซังจี" รู้สึกชอบใจกับการตอบคำถามอย่างชาญฉลาด เขาหันกลับมาพร้อมรอยยิ้ม จากนั้น ภายนอกห้องบรรยาย ภาพซังจีกำลังจับมือกับอัยการ พร้อมกล่าวขอบคุณอัยการที่สละเวลา
ให้นักศึกษาของเขา "ซองจุน" เดินมาสมทบ ความจริงแล้วเค้าคือลูกชายอัยการ

ณ โกดังเก็บสินค้านอกเมือง
"พวกชานชลิก" กำลังซ้อมการต่อสู้ด้วยดาบและหมัด ทันใดนั้นพวกของ"ซางยุบ" ได้บุกเข้ามา กระโดดลงจากรถก่อนที่รถจะหยุด คนกลุ่มแรกที่มีกำลังมากกว่าคนกลุ่มที่สอง ภาพ"ซางยุบ" ที่เดินผ่านแถว "พวกชานชลิก"ที่คุกเข่า ถามขึ้น "หัวหน้าพวกแกอยู่ไหน?" ไม่มีคำตอบ มองตรงไปยังผู้ชายที่อยู่กลางกลุ่ม "ชางยุบ" ล้วงแอปเปิ้ลออกมาแล้ววางมันไว้เหนือหน้าผาก พร้อมทั้งร้องท้าให้คนคนนั้นปามีด
มาที่แอปเปิ้ล "ถ้าแกสามารถปาถูกลูกแอปเปิ้ลโดยที่ไม่โดนหน้าของชั้นได้ละก้อ ชั้นจะไว้ชีวิตพวกแก"
ปาดาบทิ้ง

กองบัญชาการลับ
เพียะ เพียะ เพียะ ภาพจางเมียงซุกตบหน้าซางยุบด้วยความโกรธ พร้อมด่าว่าการกระทำที่
โง่เหง่าเสี่ยงต่ออันตราย พูดกับลูกชายเค้าว่า นี่นะหรือคนที่เป็นทายาทสืบทอดองค์การ ที่ไม่เคยทำตัวให้
สมกับตำแหน่งผู้สืบทอดแม้แต่น้อย ยังคงต้องพึ่งพาและอาศัยบารมีของเขา ทุกครั้งที่เกิดเรื่องก็ไม่เคยพ้นเขา
ซะที ซึ่งมันเป็นสิ่งที่แย่มาก ซึ่งถ้ามันยังไม่สามารถแก้ไขได้ล่ะก้อ นั่นคือจุดจบขององค์กรที่เค้าเพียรพยายามสร้างมาถึง 40 ปี "จะต้องให้ฉันพูดอีกสักกี่ครั้ง แกถึงจะรู้จักทำอะไรด้วยความรอบครอบและสมศักดิ์ศรีมากกว่านี้"

สถานีตำรวจ
อัยการผู้ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของตำรวจยืนอยู่ภายในสถานี หนึ่งในนั้น มองตรงไปยังเด็กที่อายุน้อยที่สุดที่ถูกจับกุมจากการมั่วสุมในบาร์ พูดขึ้นว่า "ฉันละอายแทนพวกเธอจริง ๆ มันไม่มีอะไรที่ดีกว่านี้ทำแล้วหรือไง?ฉันละอยากรู้จริง ๆ ว่าใครเป็นพ่อแม่พวกเธอ" อัยการมองไปที่เด็กคนนั้นพร้อมทั้งพูดอย่างกระพร่องกระแพร่งว่า "เธอก็อีกคนหนึ่ง ลูกสาวของชั้น" (ภาพจับที่เฮจู) ตำรวจเริ่มสอบปากคำและลงบันทึกประจำวัน "หนูขอโทษ หนูไม่รู้" ภายในรถที่มี "คีย์ซังจี" กับ"เฮจู" พร้อม "อินซู" เพื่อนของเธอ
ทั้งหมดนั่งก้มหน้าด้วยความละอาย
"เฮจู" กระซิบ "พ่อหนูขอโทษ"
พ่อของเธอยังคงขับรถต่อไป พูดเตือน "ทำไมชอบทำให้อะไรโดยไม่คิดก่อนที่จะมานั่งเสียใจทีหลัง?"
"อินซู"พูดแก้ตัวแทนให้ว่าทุกอย่างเป็นความผิดของเธอเอง เงียบ! อัยการยังคงขับรถต่อไป
พูดถึงการสอบที่ผ่านมาซี่งเธอสามารถสอบผ่าน อีกครั้ง "เฮจู" ที่หน้าตาสดใสขึ้นและร่าเริงขึ้น จูบและ
กอดพ่อของเธอ อัยการตอบรับเธอด้วยรอยยิ้ม และขับรถต่อไป พูดกับ "เฮจู" "ถ้าลูกยังไปเที่ยวที่บาร์นั้นอีกครั้งละก็ อย่าหวังว่าพ่อจะช่วยเจ้าอีก"

ภายในกองบัญชาการลับ ในห้องของจังเมียงชุก
จีซิกที่ยืนอยู่ข้างนายจ้ง ถามเขาถึงคนทรยศ "ชานซิก" ลูกน้องมินซุก "แก่รู้ใช่ไหมแกต้องทำยังไงกับมัน?" มินซุกที่อยู่ในอาการเหนี่อยอ่อน เขาพูดลูกชายผู้สะเพร่าผู้ชอบท้าทายและหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัวเสมอ และสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาสามารถทำให้ลูกของเขาได้....ครุ่นคิดและรำพึงเบา ๆ "ถ้าเขามีลูกคนอื่น เขาคงไม่ต้องมานั่งกังวลแบบนี้ เขาคงจะวางใจได้มากกว่านี้ แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อเขามีลูกชายเพียงคนเดียว ถ้าเขามีลูกชายคนอื่น...."

ภายในห้องของยูซุกคืนนั้น
วันนี้คือวันครบรอบวันตายของแม่ ยูซุกคุกเข่าอยู่หน้าโต๊ะที่ตั้งเครื่องเซ่นไหว้ ซูวา พยายามที่จะเข้ามาในห้อง แต่ยูซุกผลักเธอออกไป เธอแทรกตัวเข้ามาในห้องอีกครั้ง ยูซุกไม่สนใจที่จะทำตามมารยาท เขาผลักเธอออกไปอีกครั้งและปิดประตู เธอเปิดประตูและต่อว่าเขา "เธอพูดเองไม่ใช่เหรอว่าแม่ของเธอหนีไปกับพ่อค้าเร่? แล้วบนโลกนี้เขาจะหาเธอพบได้ยังไง ถ้าเธอยังปิดกั้นตัวเองอย่างนี้?" ยูซุกผลักเธอออกไปอีกครั้ง และนึกย้อนไปในอดีต

บริเวณรถไฟขนสินค้า (กลางวัน)
"ยูซุก" เมื่อคืน ฉันฝันถึงพ่อ ครั้งหนึ่งชั้นเคยใกล้ชิดพ่อ แต่มันกลายเป็นคนอื่น...บางครั้ง บางครั้ง
ฉันคิดว่าพ่อทอดทิ้งฉันกับแม่ไป หรือบางที เค้าอาจจะไม่รู้ว่ามีฉันอยู่ก็ได้
เขาเดินไปพร้อมกับซูวา เธอถามเค้าว่า "เธอคิดว่าจะไปทำอะไร หากเธอได้เรียนต่อปริญญา"
"ยูซุก" ฉันจะไปจากเมืองนี้และไม่กลับมาที่นี่อีก
"ซูวา" (มองอย่างหวาดกลัว) ไม่เอาน่า...ที่นี่มันบ้านเกิดเธอนะ
"ยูซุก" (มองไกลออกไป) ชั้นไม่เคยมีบ้านเกิด

ขบวนพาเหรดในเมือง
ยูซุกมองดูขบวนพาเหรดผ่านหน้าต่างห้องเรียน ทันใดนั้นเอง เขาได้ยินเสียงร้องตะโกนมาจาก พวกโกกังซู "กังซู" พูดกับเขาว่า ฉันต้องการให้แกนำคำพูดของฉันไปบอกกับตำรวจที่สถานี ฉันจะไม่ส่งผู้ชายคนนั้นให้ เพราะว่ามันไม่มีหลักฐาน "ด้านหลัง" เขาพูดต่อว่า "ถ้าแกบริสุทธิใจจริง แกคงจะไม่ใช้ไม่ถึงปี และหากในอนาคตแกมีปัญหาอะไรละก็ แกสามารถขอความช่วยเหลือจากชั้นได้ทันที"
ยูซุกยังยืนอยู่ที่เดิม เขาพูดสั้น ๆ ว่า เขาไม่ต้องการ คำพูดนั้นนำไปสู่เหตุการรุนแรง และนั่นเป็นเหตุผลให้หัวหน้าส่งสัญญาณให้ลูกน้องสั่งสอนเค้า "ด็อกเอ็น และ เมจู" เข้าจับตัวเค้าไว้..แต่ ยูซุกทั้งผลักทั้งถีบมันออกไปทั้งสองคนเค้าวิ่งออกไปจากห้องเรียน พยายามล็อกประตู ดังนั้นในเวลานี้ เขานั่งอยู่สองต่อสองกับ "หัวหน้า" กังซู มองเค้าด้วยความตกใจ ไม่สามารถโตตอบ เมื่อยูซุกมองมาที่เขา เหวี่ยงหมัดใส่เขา
และพูดกับเขาว่าอย่ามายุ่งกับชั้น (มองด้วยสายตาเอาเรื่อง) ประตูถูกพังจากด้านใน "ยูซุก" วิ่งและกระโดดออกไปทางหน้าต่าง "ซูวา" ที่เดินอยู่ในขบวนพาเหรด เขาพูดกับเธออย่างรวดเร็วว่าให้ช่วยเก็บรูปของแม่ไว้ให้เค้าด้วย พร้อมทั้งยัดรูปแม่ใส่มือของเธอ (นี่คือการบอกลาเธอของเขา)
ขณะนี้ ภาพทุกคนกำลังวิ่ง ยูซุกอยู่ด้านหน้า และมีแก๊งอันธพาลวิ่งตามหลัง ต่ำลงไปภาพรถไฟกำลังเคลื่อนขบวนออก และยูซุกได้กระโดดขึ้นไปบนขบวนรถ กลุ่มที่ตามมาวิ่งมาถึงแต่สายไปเสียแล้ว ภาพซูวา
ที่กำลังเสียใจกับภาพการจากไปพร้อมโชคชะตาที่ห่างไกลของยูซุก เธอตะโกนเรียกเขา..ยูซุก!!!

จบตอนที่ 1 แล้วนะคะ ไม่รู้ว่าได้เรื่องได้ราวหรือเปล่า ยังไงก็ขออภัยสำหรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นนะคะ
เพราะยังไม่ชำนาญในภาษาอังกฤษดีพอค่ะ


ขอให้สนุกนะคะ
"ยิ้มแป้น"


Translated from English to Thai Language by...



No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.