Let’s know more about “12 Apostles”
...by Ladymoon
“Drops of God” or “Kami no Shizuku” is the story of searching superior wines called “12 Apostles” that mentioned in the late Mr. Kanzaki’s will. But have you ever wondered what is the exact meaning of “12 Apostles”. Let’s find out a little bit about this word.
“Drops of God” หรือ “Kami no Shizuku” เป็นเรื่องราวการค้นหาสุดยอดไวน์ ทั้ง 12 ชนิดที่เรียกขานว่า “12 Apostles” ซึ่งระบุอยู่ในพินัยกรรมของคุณคันซากิผู้ล่วงลับ คุณเคยนึกสงสัยกันบ้างหรือไม่ว่า “12 Apostles” นี้แท้จริงแล้วมีความหมายว่าอย่างไร เรามาทำความรู้จักกับคำๆ นี้กันให้ดีอีกสักนิดกันดีกว่า
To talk about “12 Apostles”, I have to refer what says in the Bible or the story of Jesus Christ. The word "disciple" refers to a "learner" or "follower." The word "apostle" refers to "one who is sent out". While Jesus was on earth, the twelve were called disciples. The 12 disciples followed Jesus Christ, learned from Him, and were trained by Him. After Jesus resurrection and ascension, He sent the disciples out (Matthew 28:18-20; Acts 1:8) to be His witnesses. They were then referred to as the twelve apostles. However, even when Jesus was still on earth, the terms disciples and apostles were used somewhat interchangeably, as Jesus trained them and sent them out.
เมื่อพูดถึง “12 Apostles” คงต้องกล่าวอ้างไปถึงสิ่งที่จารึกไว้ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล หรือเรื่องราวของพระเยซูคริสต์นั่นเอง มักจะปรากฏคำ 2 คำที่ชวนให้สับสน คำว่า "disciple" นั้นหมายถึง “สาวก” หรือ “ผู้ติดตาม” ส่วนคำว่า "apostle" นั้นหมายถึง “ผู้ที่ถูกส่งออกไปปฏิบัติภารกิจ” ตอนที่พระเยซูยังทรงอยู่บนโลกนั้น ทั้ง 12 คนนี้คือสาวก สาวกทั้ง 12 คอยติดตามรับใช้พระเยซู และรับฟังคำสั่งสอนจากพระองค์ หลังจากที่พระเยซูทรงฟื้นคืนชีพและเสด็จสู่สวรรค์ ได้ทรงส่งสาวกทั้ง 12 ออกไปเป็นดั่งตัวแทนของพระองค์ สาวกทั้ง 12 จึงกลายสถานภาพเป็นผู้เผยแพร่พระธรรม แม้แต่ตอนที่พระเยซูยังทรงอยู่บนโลก ก็มีการใช้คำเรียกขานทั้งสาวกและผู้เผยแพร่พระธรรมกันแบบสับสน โดยเรียกรวมๆ กันไปว่าสาวก เพราะพระเยซูทรงเป็นผู้สั่งสอนพวกเขา
The original twelve apostles are listed in Matthew 10:2-4,
"These are the names of the twelve apostles: first, Simon (who is called Peter) and his brother Andrew; James son of Zebedee, and his brother John; Philip and Bartholomew; Thomas and Matthew the tax collector; James son of Alphaeus, and Thaddaeus; Simon the Zealot and Judas Iscariot, who betrayed Him." สาวกทั้ง 12 มีระบุไว้ใน แมทธิว 10:2-4 ดังนี้
“นี่คือชื่อของสาวกทั้ง 12 บุคคลแรกคือ ไซมอน (ผู้ที่ถูกเรียกว่าปีเตอร์), และ แอนดรูว์ ผู้เป็นน้องชาย, เจมส์ บุตรแห่งเซเบเด, และจอห์น ผู้เป็นน้องชาย, ฟิลลิปและบาร์โธโลมิว, โธมัสและแมทธิว คนเก็บภาษี, เจมส์ บุตรแห่งอัลเฟอุส, และธัดเดอุส, ไซมอน เดอะซีล็อต, และจูดาส อิสคาริออต ผู้ซึ่งทรยศต่อพระองค์”
The Bible also lists the 12 apostles in Mark 3:16-19 and Luke 6:13-16. In comparing the three passages, there are a couple of minor differences in the names. It seems that Thaddaeus was also know as "Judas, son of James" (Luke 6:16) and Lebbaeus (Matthew 10:3). Simon the Zealot was also known as Simon the Canaanite (Mark 3:18). Judas Iscariot, who betrayed Jesus, was replaced in the twelve apostles by Matthias (see Acts 1:20-26). Some Bible teachers view Matthias as an "invalid" member of the 12 apostles, and instead believe that the Apostle Paul was God's choice to replace Judas Iscariot as the twelfth apostle.
ในพระคัมภีร์ยังมีการระบุรายชื่อสาวกทั้ง 12 ไว้ใน มาร์ค 3:16-19 และ ลูค 6:13-16 เมื่อเปรียบเทียบกันทั้ง 3 ฉบับแล้ว มีชื่อที่แตกต่างกันเล็กน้อย ดูเหมือนว่าธัดเดอุส รู้จักกันในชื่อ “จูดาส บุตรแห่งเจมส์” (ลูค 6:16) และ”เล็บเบอุส” (แมทธิว 10:3) ส่วนไซมอน เดอะซีล็อต รู้จักกันในชื่อ “ไซมอน เดอะคานาอาไนต์” (มาร์ค 3:18) และจูดาส อิสคาริออต ผู้ที่ทรยศต่อพระเยซู ถูกแทนที่โดย แมธเทียส แต่ผู้สอนศาสนาบางท่านตัดแมธเทียสออกจาก 12 สาวก แล้วเชื่อว่าผู้ที่มาเป็นสาวกแทนนั้นคือ พอล ซึ่งเป็นบุคคลที่พระเจ้าทรงเลือกมาแทน จูดาส อิสคาริออต
The twelve apostles were ordinary men whom God used in an extraordinary manner. Among the 12 were fishermen, a tax collector, and a revolutionary. After witnessing Jesus resurrection and ascension into Heaven, the Holy Spirit transformed the apostles into powerful men of God who "turned the world upside down" (Acts 17:6).
สาวกทั้ง 12 นี้เป็นคนธรรมดาที่พระเจ้าทรงเลือกมารับใช้ ทั้ง 12 คนมีทั้งชาวประมง คนเก็บภาษี และแม้แต่นักปฏิวัติ หลังจากได้เป็นพยานในการฟื้นคืนชีพและเสด็จสู่สวรรค์ของพระเยซูแล้ว วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ได้มอบพลังอำนาจให้แก่ผู้แทนทั้ง 12 ของพระผู้เป็นเจ้า เพื่อ “เปลี่ยนแปลงโลก”
You can see “12 Apostles” in the renowned portrait of Leonardo Da Vinci, “The Last Supper”, it’s showing Jesus, at the center, saying to His 12 apostles, "One of you shall betray me". After this last supper, Jesus have been captured and tortured. That makes number 13 is the unlucky number since then.
คุณสามารถดูหน้าค่าตาของสาวกทั้ง 12 นี้ได้จากภาพเขียนอันแสนโด่งดังของ ลีโอนาร์โด ดาวินชี ภาพ “The Last Supper” ในภาพแสดงให้เห็นพระเยซูที่ทรงอยู่กลางโต๊ะ กำลังตรัสกับสาวกทั้ง 12 ว่า “หนึ่งในพวกเจ้าจะทรยศเรา” หลังจากอาหารมื้อสุดท้ายนี้แล้ว พระเยซูทรงถูกจับกุมและถูกทรมาน นั่นจึงทำให้เลข 13 กลายเป็นเลขอัปมงคลนับแต่นั้นมา
[Special thanks to gotquestions.org]
No comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.