ขอคุยด้วยคนค่ะ

ขอแสดงความคิดเห็นด้วยคนนะคะ
ด้วยมุมมอง ที่ได้สัมผัสมาเช่นกัน จาก คนรอบตัว คนรอบข้าง หรือครอบครัวตัวเอง
อาจคนละมุมมองกับคุณ ยิ้มแป้นนะคะ


เมื่อหลายปีก่อน ที่บ้านดิฉัน ได้รับการเชิญชวนให้ ไปรับเงินกองทุนหมู่บ้านละ 1 ล้านบาท กำนันและผู้ใหญ่บ้าน ได้ มาตาม คนที่บ้านให้ไปรับเงิน 2 หมื่นบาท ซึ่ง ในขณะนั้น ที่บ้าน ไม่ได้ เลี้ยงชีพด้วยการ เป็น เกษตรกร อย่างใด เลย เพราะ หลังจากที่ต้องขายที่ชำระหนี้ จาก ชีวิต เกษตรกร เลี้ยงกุลาดำ และประกาศวางมือ จากอาชีพ ที่เกี่ยวกับ การเป็นเกษตรกร เพราะรู้ตัวว่า ดวงคงไม่สมพงษ์ พี่ชาย บอกว่า อยู่เฉยๆ ด้วยการใช้ นโยบาย เศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริ ก็สุขกายสบายใจ เก็บผัก จับปลา กินไปตามเรื่อง ดีกว่า ทำไมต้องไปเป็นหนี้

น้องชาย ขอไปรับแทน ดิฉันถามน้องว่า จะเอาเงินมาทำอะไร น้องบอกว่า ทำอะไรก็ได้ ใคร ๆ เขาก็ไปรับกัน ทำอะไรๆ ที่เขา เอามาทำกัน เช่น ซื้อ มอเตอร์ไซด์ใหม่ ซื้อ ตู้เย็นใหม่ ซื้อ ทีวีใหม่ ซื้อ มือถือ ซื้อทองรูปพรรณ ร้านทองขายดิบขายดี ในช่วงนั้น คนแถวบ้าน ใส่สายสร้อย มีมือถือ กัน ครั้นถามว่า เงินนี้ได้ มาฟรีๆ เหรอ เขาบอกว่า เดี๋ยวก็ต้องมีการพักหนี้ เพราะ คนได้เงิน ไม่มีเงินไปใช้หนี้ เนื่องจาก เงินที่ได้มา เขาก็ไปรับเงินกันมาทั้งนั้น และทำแบบนี้ ทั้งนั้น บ้าน ลุง .ก .ป้า ข. ยาย ค . น้า ง.แต่ละบ้าน ก็ ไม่ได้เอาเงิน มาลงทุนอะไร ที่จะ มีเม็ดเงินมาใช้หนี้ ทั้งนั้น แหละ แล้ว ปี ถัดไป ก็ มีการพักหนี้ เกษตรกร จริงๆน้องชาย มาเล่าว่า เห็นไหม เห็นไหม ไม่ต้องใช้หนี้ ก็จะเอาที่ไหนมาใช้หนี้เล่า เพราะคนที่ไปรับเงิน ไม่ได้อามาทำทุน ทำมาหากิน แต่น้องก็เชื่อฟัง เพราะโดนดิฉันเทศนา ว่า ถ้าไปรับมาต้อง เอามาทำอะไร ที่สามารถ เอาเงินไปคืน เขาได้ ดิฉัน จะไม่ช่วยเข้าไปใช้หนี้ เด็ดขาด

ก็ไม่รู้ว่า เอาใครสวมสิทธิ แทน บ้านของดิฉันไป

ก่อนหน้านั้นเคยมี เงินผัน ของท่านคึกฤทธิ์
จำได้ ว่า มีการขุดลอก คูคลองหนองบึง ปลูกต้นไม้ที่ถนน สร้างสะพาน ในหมู่บ้าน ยังไง ก็ยังมีส่วนพัฒนา หมู่บ้าน ประชาชนได้ออกแรงออกกำลัง ให้ ได้รู้ว่า เงิน เหล่านี้ ต้องเอาเหงื่อ ไปลงทุน แม้ จะมีการโกงกิน มโหฬาร แต่ ยังเหลือค่าจ้างให้ ผู้ ที่ไปออกแรงทำงานมา ได้ มากินอยู่ ได้มาใช้สอย หมู่บ้านมีการพัฒนา


ต่อมา มีเงินสงเคราห์ะคนชรา ที่จ่ายผ่าน อ.บ.ต. แม่ของ ดิฉัน อายุ 90 แล้ว ขณะ ที่มีเงินนี้ ออกมา แต่ไปติดต่อ กี่ที ๆ ก็ ได้รับคำตอบว่า เงิน ยังไม่มา ยังไม่ถึง ทั้งๆ ที่บ้าน เป็นบ้านเลขที่ 2 หมู่ 3 ของหมู่บ้าน ไปๆมา คนชรา ที่อายุ 60 กว่าๆ บ้าน เลขที่ ตัวเลข เยออะๆ หมู่บ้านที่ เกิน หมู่ 3 เขาได้เงิน มาตั้งหลายเดือนแล้ว แม่ ดิฉัน เป็นคน ใส่ใจ การใช้สิทธิ ตัวเอง มาก ไม่ว่า การไปลง คะแนน เลิกตั้ง ทุกสนาม
ต่อมาท่านหกล้ม ขาหัก จึงไม่สร้างความเดือดร้อน ให้ลูกหลาน ต้องพาไปเลือกตั้ง แม่ เคย ไปช่วย พรรคการเมือง ในดวงใจ หาเสียง โดยไม่รู้จัก ผู้สมัครมาก่อน แต่พอรู้ว่า มาลงสมัคร พรรคที่ตัวเองชอบ มีคนพามาที่หมูบ้าน ก็ ออกแรงช่วยเต็มที่ ไม่ได้ ค่าจ้าค่าแรงอะไร แต่สุขใจกับการช่วย หาเสียง คือ แค่พา ผู้สมัคร ไปบ้าน เพื่อน พี่น้อง หมู่ญาติ คนรู้จัก ในหมู่บ้าน ขอคะแนนสงสารให้ผู้สมัคร

ดังนั้น แม่ จึง ให้ น้องชาย ไปตามเรื่อง อย่างจดจ่อต่อเนื่อง อย่านึกว่า คุณยายแก่ๆ คนนี้ ยอมให้ใครมาละเมิดสิทธิ์ แล้ว ก็ ปรากฏว่า มีการย้ายชื่อ ของ แม่ออกไปจากทะเบียน รายชื่อ ผู้มีสิทธิ์ ของทาง อ.บ.ต.ไปจังหวัดอื่น แล้ว มีชื่อ ใครไม่รู้ เข้ามาอยู่แทน เอาละคะ ย่อๆว่า แม่ของดิฉันยอมรับ กับคำชี้แจงว่า เกิดความผิดพลาด เพราะอะไรไม่รู้ ไม่รู้ ก็ไม่รู้ ไม่เป็นไร

ตอนนี้รู้แล้ว ก็จัดการให้ถูกต้อง และยายต้องได้รับเงินก็แล้วกัน แม่ ดิฉันก็ไม่ได้ ต่อความยาวสาวความยืด แต่อย่างใด

ทีนี้ ก็มาถึง เงิน 2 พันบาท
ท่านนายกมีนโยบายว่า จะกระคุ้นการใช้จ่ายเงิน เพราะคนเริ่มไม่ใช้จ่ายเงิน แต่ถ้าจะถามว่า เพราะเอาไปออมไหม ดิฉัน ก็ไม่เห็น ภาพรวม ของสถาบันการเงินว่ามีเงินออมมากขึ้น ในตอน ที่ พูดกันว่า คนไม่ใช้จ่ายเงิน ก็ เห็นแต่ เศรษฐี ที่มีเงิน ถอนเงิน ก้อนใหญ่ ไป หาซื้อ ของถูกๆ ที่ดิน หรือบ้านกัน หรือคนระดับกลางระดับล่างเขาเก็บเงิน อยู่ที่บ้านไม่ ทราบนะคะ

อารัมบท มายืดยาว ท่านนายก บอกว่า ไม่มีข้อมูลของ เกษตรกร ว่า มีจำนวนเท่าใด หรือคนที่ไม่ได้เข้าระบบประกันสังคม มีเท่า ใด ข้อมูล ที่มีในขณะนี้ มีเพียง เงินเดือนข้าราชการ และ เงินเดือน ของคนที่เข้า ระบบประกันสังคม

คนงานที่เป็นลูกจ้างรายวัน บ้าง รายชั่วโมง บ้างจะหาฐานข้อมูล ได้ จากไหน ดิฉัน สงสัยว่า เป็นลูกจ้างรายวันของใคร เพราะง่าย ๆ อย่าง บริษัท ทำความสะอาด บริษัท รปภ. หรือ โรงงาน ต่างๆ ก็ล้วนมี ลูกจ้างรายวัน บางคนมาทำงาน 3 วัน ก็หายตัวไป ถามบริษัท ว่า คนที่ส่งมา ทำงาน ทำไมไม่มา ก็ ทราบว่า เขาออกไปแล้ว แต่ถ้าเขาอยู่ ทำงานครบเดือน เขา ก็จะถูกหักเงินประกันสังคม คือ เขา ได้เข้าไปอยู่ระบบประกันสังคม กฎหมายระบุว่าสถานประกอบการที่มีลูกจ้าง ตั้งแต่ 1 คน ต้องเข้าระบบประกันสังคม ถ้าทุกคนเข้าระบบ และไปใช้สิทธิ เมื่อรู้ว่า มีสิทธิ์ ก็คง ไม่มีใครเข้ามาสวมสิทธิ์

ลูกสาว ดิฉัน ไม่มีสิทธิ์ เพราะเข้าระบบประกันสังคม ช้าหลังวันที่9 มกราคม ไปเพียง 2 วัน
ลูกน้อง ดิฉัน ที่อยู่ในระบบ ต่างพากันรักษาสิทธิ์ ตรวจสอบว่า ตัวเองจะได้เงินไหม ไม่มีใคร มีปัญหา
ลูกน้อง ที่มาจาก บริษัท ภายนอก เช่น รปภ. แม่ บ้าน คนขับรถ ขอลางานไปยื่นสิทธิ์ตัวเอง และ ทุกคน ก็ได้รับเงินมา และใช้เงินหมดไปแล้ว พอถามว่า เอาไปทำอะไรกัน เขาหัวเราะเขินๆ ว่า ก็ เอามากิน มาใช้ ในบ้านนี่แหละ 2 พัน จะ ทำอะไรได้ ล่ะครับ


นโยบาย ทุกนโยบาย ที่ออกมา จะได้ผล เมื่อ ทุกคน รู้ว่า ตัวเอง มีสิทธิ์อะไร ไปใช้สิทธิ์ หรือเปล่า ไม่มีชื่อไม่มีสิทธิ์ ไปร้องใช้สิทธิ์ หรือไม่

คนที่ตั้งใจโกง กิน คอรัปชั่น บิดเบือนข้อมูล สร้างข้อมูลเท็จ สิ่งเหล่านี้ ทำได้อย่างไร ในเมื่อ นโยบาย เก็บตัวเลข ล่าสุด เมื่อ 9 มกราคม 2552 จำนวนคน ที่มีเงินเดือน อยู่ในฐาน คูณ หัวละ 2 พัน คือ จำนวนเงิน ที่อยู่ในงบประมาณ หากจะมองว่า เลือกปฎิบัติ ก็ อยู่ตรงที่ เลือกฐานข้อมูล ตรงนี้ ที่สามารถรวบรวม ได้เร็วที่สุด

ฐานข้อมูล ของ ผู้ใช้แรงงานอื่นๆ เช่น ลูกจ้างรายชั่วโมง จะหาได้จากไหน หาจากฝ่ายลูกจ้าง ลูกจ้างมี หลักฐานอะไร แสดง ถ้าหาจาก นายจ้าง นายจ้างก็ สร้างข้อมูลได้เช่นกัน
เหมือนเราจะรู้ว่า คนๆนี้ เป็นคนไทยไหม เราก็ยังต้อง ดูจากบัตรประชาชน ตรวจสอบ

การที่มีคน มีเงินได้ มากกว่า 15,000.-บาท เข้าไปใช้สิทธิ์ ได้ ไม่ใช่ จาก นโยบาย แต่ อยู่ที่ ผู้ปฎิบัติ ที่พลิกแพลง เอาประโยชน์ ใส่ตน เหมือน พวก มิจฉาชีพปลอมแปลงบัตรประชาชน ปลอมแปลงข้อมูล

สำหรับหนี้ ที่เกิด มาสำหรับรายหัวของคนไทยทั้งหมด ยังไงเสีย มันก็ย้อนกลับมาที่คนไทย กลับมาสู่ พ่อค้าแม่ขาย เกิดการหมุนเวียนในประเทศ และเงิน 2 พันนี้ก็กระจายไปสู่คนหมู่มาก

การแบกหนี้ ครั้งนี้ ยังดูดีกว่า หนี้ ที่เกิดจากสถาบันการเงิน ที่ส่งผลไปยัง คนที่ร่ำรวย ระดับ มีเงินฝาก กับสถาบันการเงิน บางคน มี ตั้ง 50 ล้านบาท 100 ล้านบาท แม้จะมีหลักพันหลักหมื่น บาท ก็ยังเป็นเงินที่เหลือเก็บ บางคน ก็ลืม ไปแล้ว ด้วยซ้ำว่า ตัวเอง มีเงิน กับธนาคาร ค้างมา ตั้ง 10 ปี หลักหลายร้อยบาท จนเป็น หลักแสนบาทพอจะถูกตัดบัญชี และทางธนาคารแจ้งบอกไป ก็ ตกใจ ว่า ฉันลืมเงิน ของธนาคารนี้ ไปตั้ง 10 ปี

หนี้ครั้งนั้นพวกเรา ยังเคยแบกมาแล้ว
หากจะบอกว่า มาจาก หัวหน้ารัฐบาล พรรคเดียวกับพรรคของหัวหน้ารัฐบาลในปัจจุบัน
แต่ในยุคนั้ น รัฐบาล ขณะนั้น ก็ กำลังจะชดใช้หนี้ได้หมดอยู่แล้ว


กับคนเงินเดือน น้อยกว่า 15,000.บาท ที่บางคนมีบัญชี เพื่อผ่านระบบเงินเดือน แต่ไม่เคยเหลือเงินในบัญชีเลยในแต่ละเดือน มากมายจริงๆนะคะ


ที่อเมริกา ประชาชน ก็ไม่พอใจ ที่รัฐบาล เข้ามาอุ้มสถาบันการเงินบางสถาบัน บางสถาบันก็ปล่อยให้ล้ม นั่นก็เป็นการเลือกปฎิบัติเช่นกัน โดย เขาก็มีเหตุผลในการตัดสินใจ คนอเมริกัน บางคนรับได้ บางคนก็รับไม่ได้ กับเหตุผลที่ชี้แจง
แต่ที่ดิฉันคิดว่า ทุกรัฐบาล ที่ใช้วิธีเลือกปฎิบัติ เขามีจุดมุ่งหมาย หรือกรอบการตัดสินใจที่ชัดเจน ของแต่ละรัฐบาล และสามารถชี้แจงที่มาที่ไปได้


ในการทำงานของดิฉัน ก็ มีกฎเกณฑ์ ของหน่วยงาน เฉพาะ แต่ละเรื่อง
เช่น ประกันชีวิตประเภทนี้ ผู้ซื้อต้องเป็นลูกจ้าง ที่อยู่ในระบบ ประกันสังคม หรือ ระบบราชการ รัฐวิสาหกิจ เท่านั้น
บางผลิตภัณฑ์ ผู้ซื้อ ต้องไม่ใช่ ผู้ทำงานด้วยการใช้มอเตอร์ไซด์ เป็นต้น
หรือการปล่อยเงินกู้ประเภทนี้ ยกเว้น ผู้ประกอบอาชีพ เหล่านี้... 1 2 3.4....ไม่สามารถ เป็นผู้กู้ได้
ผู้กู้ ต้อง มีรายได้ เดือนละ ..... บาท เป็นต้น
รวมถึงขณะนี้ การรับฝากเงิน ก็มีการเลือก ที่จะปฎิเสธ สำหรับ บางกรณี (ไม่ขอลงรายละเอียด)


จากนโยบายลงมาถึงขั้นการปฎิบัติงาน แล้วมีการซิกแซก เป็นความผิดของใครกันแน่
นโยบายมี กรอบกำหนด แต่มีคนหาทางจัดคนที่ไม่อยู่ในกรอบ เข้าไปอยู่ในกรอบได้..

ดิฉันเอง เคยเป็นเกษตรกร ที่เมื่อ ทางราชการบอกว่า ให้ไปขึ้นทะเบียน ดิฉัน ก็ไป เมื่อถูกเรียกไปชำระภาษี เหมารายได้ ดิฉัน ก็ไปชำระ ทุก ปี เมื่อเลิก อาชีพ ก็ไปแจ้งว่า เลิกอาชีพนี้แล้ว และไม่จ่ายภาษี เกษตรกร เพาะเลี้ยงกุ้งแล้ว ตั้งแต่บัดนั้น

ดิฉัน ไม่รู้หรอกว่า ใคร ควรได้ ใครไม่ควรได้
เพราะที่จริง ประชาชนที่เข้าเกณฑ์รายได้ของนโยบายนี้ ก็ควรได้รับหมดทุกคน
แต่ เข้าใจ ว่า หากพูดเรื่องฐานข้อมูล ที่จำเป็นนำมาใช้อย่างเร็ว ให้เกิดผล มันก็คือข้อมูล ที่ตรวจสอบได้ มีเป็นระบบให้เรียกใช้ได้ เพื่อให้จัดงบประมาณได้


เลือกปฎิบัติไหม
เลือกแน่นอน ก็เลือกว่า ให้กับคนที่อยู่ในระบบที่ ชัดเจน ว่า มีจำนวนเท่าไร ในการตั้งงบประมาณ
ตรวจสอบได้ไหม ตรวจสอบได้ แม้มีการทุจริต ก็ ต้องอาศัย ผู้พบเห็น ร้องเรียน แจ้งเบาะแส เราไม่ควรปล่อยคนชั่ว ให้ลอยนวล


หนี้ สาธารณะ เป็นหนี้ ที่ ดิฉัน เอง แบกมาหลายรอบ ถามว่า ตัวเองกระทบกระเทือนไหม

ในชีวิต ความเป็นอยู่ มีบางช่วง ที่มีชีวิต กับการที่ประเทศชาติ เป็นหนี้ บางช่วงไม่เป็นหนี้ เกือบมองไม่เห็นความแตกต่าง
แม้แต่ สิ่งที่ชาติ สูญเสีย กับเรื่อง ทุจริต คอรัปชั่น ของข้าราชการ ของนักการเมือง เรายังแทบไม่กระทบกระเทือนเลย
เขา ชี้แจง ขุดคุ้ยกันปาวๆ เรายังไม่รู้เลยเรา ว่า เสียหาย เราลำบาก

เราฟังกันแล้ว คนฟัง ก็ยังเฉยมาก
เพราะมันเป็นเรื่องมหภาค เป็นเรื่องความเจริญของประเทศชาติ ถ้าประเทศชาติ ร่ำรวย มีเงินมาก เราก็น่าจะได้ สาธารณูปโภค สวัสดิการจากรัฐ และการดูแล ประชาชนที่ดีกว่านี้ ที่เรายังไม่เคยได้ และจะได้หรือเปล่า ในชีวิตนี้ของดิฉัน มันดูเป็นความหวังที่ห่างไกล
ทำให้ ดิฉันจำกัด วงแคบ แค่เรื่องจุลภาค ว่า ดิฉัน ไม่เห็น ความแตกต่างจากการเป็นหนี้สาธารณะ หรือไม่เป็น


ความเห็นที่แตกต่างกัน คงไม่เป็นไรนะคะ เรามีสิ่งเหมือนกัน คือความชื่นชม ความรัก เบยองจุน ไงคะ
ไว้เรามาคุยกัน กับ winter sonata ดีกว่านะคะ เรามีสิ่งนี้เป็นสายสัมพันธ์ โยงใยความผูกพัน ของ BYJ FAMILY ทั่วโลก

เป็นชุดเกาหลี ที่คนสวมใส่ เป็นคนไทย จิตวิญญาณไทย ที่ สืบเชื้อสาย จีนและลาว มาหลายร้อยปี