31.7.09

มองดูนักชงกาแฟ (Barista)... คิดถึงซุนวู่ ...


ช่วงนี้ไม่มีข่าวของ เบยองจุน ไม่รู้จะเอาอะไรมาขึ้นให้อ่าน...ประกอบกับข่าวที่แปลเป็นภาษาไทยโดยคุณ Ladymoon โดนคัดลอกไปไว้ในเวปบางเวป แล้วสลับคำในรูปประโยค สุดท้ายไม่แปะเครดิตให้ หนำซ้ำยังกระทำการแบบไร้ยางอายโดยติดชื่อเครดิตของตนเองไว้อีกต่างหาก...การกระทำดังกล่าวถือเป็นการไร้มารยาทอย่างยิ่ง..บุคคลใดที่รู้ตัวกรุณาเอาข้อความของท่านที่ขึ้นไว้ในเวปดังกล่าวออกด้วย...มิฉะนั้นเราจะแจ้งไปทางเจ้าของเวปที่ท่านเข้าไปเป็นสมาชิก..ให้ลบรหัสและการเป็นสมาชิกของท่านทันที...

...ขอเตือนอีกครั้งว่า...หากท่านไม่ใช่สมาชิกคนหนึ่งของครอบครัว เบยองจุน..เราคงนำเอาข้อความที่ท่านนำไปโพสต์ไว้มาเปรียบเทียบกับข้อความเดิมที่คุณ Ladymoon ได้นำมา โพสต์ไว้ที่ blog นี้มาโชว์ให้เห็น...การกระทำที่เลวทรามต่ำช้าที่ท่านได้กระทำไว้...ก่อนหน้านั้นประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา...เราเคยเตือนไว้ก่อนหน้านั้นแล้วว่า หากท่านต้องการคัดลอกไปเราไม่ได้หวง...หากแต่ขอให้ขึ้นเครดิตให้กับผู้เขียนและผู้แปลด้วย...

อากาศแบบนี้เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝนตก..หากได้ดื่มกาแฟสักถ้วย...บนโต๊ะทำงานหรือหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์คงดีไม่น้อย...คิดไปคิดมาเลยคิดถึงบทกวีที่เคยเขียนไว้ในหนังสือของตัวเองเมื่องปี 2548...เอามาให้ทุกท่านได้อ่านกัน..เพลิน ๆ ใครจะเอาไปใช้บ้างก็ไม่ว่ากันนะคะ...

Roytavan


-------- ------------

มองดูนักชงกาแฟ (Barista)... คิดถึงซุนวู่ ...

...การดื่มกาแฟ...เป็นศิลปะอย่างหนึ่ง. .
ผู้ศึกษาและรู้เรื่องกาแฟอย่างแท้จริงเท่านั้น
จึงจะรู้ถึงความซับซ้อน...ละเอียดอ่อน...
ในเรื่องศิลปะของการชงกาแฟ
ไม่ว่าจะเป็นการคั่วกาแฟ...การบดกาแฟ...
...การใช้อุณหภูมิความร้อนในการชงกาแฟ...
...และอีกมามายหลายเรื่อง...
ที่สำคัญก็คือตัวเมล็ดกาแฟแต่ละพันธุ์นั่นเอง
นักชงกาแฟ ...จะเลือกชนิดไหน.. ผสมผสานอย่างไร...?
ให้กาแฟถ้วยนั้นได้รสชาติกลมกล่อม...ละมุนละไม...
ดังนั้น...กาแฟถ้วยนั้นจะอร่อยหรือไม่...
...ย่อมมีนักชงกาแฟ (Barista) เป็นผู้นำ...
...หากเปรียบนักชงกาแฟ (Barista)เป็นเช่นดังผู้นำทัพ...
ตามตำราพิชัยสงครามของซุนวู่แล้ว
ปราชญ์ท่าน ี้...ได้กล่าวถึงจุดอันตราย 5 ประการ
...ที่ผู้นำทัพจะต้องระวังตัวระวังใจตนเองไว้ดังนี้...
ผู้ที่คิดแต่สู้ตายถ่ายเดียว...อาจถูกหมายเอาชีวิตได้
ผู้ที่คอยแต่รักษาตัวรอด...อาจถูกจับกุมเป็นเชลย
ผู้ที่หุนหันพลันแล่น...อาจได้รับการยั่วเย้ารำคาญ
ผู้ที่ถืออุดมคติมากเกินไป...อาจถูกเหยียบย่ำใส่ไคล้
ผู้ที่รักพสกนิกร...มักได้รับความยุ่งยากใจ
...ปมด้อยทั้ง 5 ของผู้นำทัพ. .
เป็นมหันตภัยของการทหาร...ที่จะทำให้กองทัพล่มได้...
...นักชงกาแฟ (Barista) เปรียบเช่นหัวใจของร้านกาแฟ...
...ลูกค้าจะย้อนกลับมาร้านคุณหรือไม่...
การบริการของร้าน...และนักชงกาแฟ (Barista)
ย่อมมีส่วนสำคัญ...


กาญจน์มุนี ศรีวิศาลภพ (ร้อยตะวัน)
9 มิถุนายน 2548

***ผู้เขียน เขียนไว้ในหนังสือ. คุณรู้เรื่องกาแฟดีแค่ไหน..? ภาค 2 ..***

ลี มินฮุง และ คัง จุนซาง

ต้องขออภัยมายังเพื่อนๆ ที่เข้ามาเยี่ยมฃมบ้านหลังนี้นะคะ เนื่องจากระยะนี้ ทีมงานทุกคนมีภาะกิจส่วนตัวของแต่ละคนยุ่งมาก
และ คุณ เบ ที่รัก ของพวกเรา ก้ ไม่ค่อยมีข่าวคราวด้วย ก็ ฃมภาพ ของ ลี มินฮุง และ คัง จุนซาง เพื่อให้คลายคิดถึง ยงจุน ไปกันพลางๆ ก่อน นะคะ





























26.7.09

WINTER SONATA-19-Father and Son

WINTER SONATA
Episode -19-Father and Son

สายสวาดดิ์

สายสวาดดิ์ ของพ่อ ที่มีให้กับลูก
สำหรับพ่อแล้ว....
น่าเสียดายเวลา ที่ผ่านล่วงเลยไปเสียนาน ..ที่ไม่รู้ว่า ลูกคือลูกของพ่อ...

ลูกเอย......
อัน ชนก นั้นหนา ก็รักเจ้า…..

สำหรับ จุนซาง

พ่อ... ที่อยากพบมานานแสนานนั้น อันที่จริง พ่อ ก็อยู่ใกล้ แค่นี้เอง
พ่อ ที่ได้พบมาแล้ว ตั้งแต่ สิบปี ที่แล้วมา….




ความเดิม แต่ต้นเรื่อง
รักแรก ของ จุนซาง และ ยูจิน ที่เสมือน คือ พรหมลิขิต
เริ่มขึ้น เมื่อตอนที่พวกเขาเรียนอยู่ ม. ปลาย
แต่ความรักของพวกเขา ต้องจบลงอย่างน่าเศร้า ด้วยการตายของ จุนซาง ซึ่งได้สร้างรอยแผลเอาไว้ในใจ ของ ยูจิน

และอีก สิบปี ต่อมา
เมื่อ ยูจิน ได้ตกลง จะหมั้นหมาย กับ คิม ซังฮวก
ผู้ชายที่ชื่อ ลี มิน ฮุง ที่หน้าตาเหมือน จุนซาง ก็มาปรากฏตัวขึ้นต่อหน้า ยูจิน
คำถาม ของ ลี มินฮุง ที่ถาม ยูจิน : ในใจของคุณมีใครกันแน่
แล้ว ทั้งคู่ก็รักกัน

แต่ความรู้สึกผิดต่อ ซังฮวก และ ผู้คนรอบข้าง
ทำให้พวกเขาตัดสินใจ ต้องพรากจากกัน
ลี มินฮุง บอก กับ ยูจิน ภายหลังว่า : ผมอยากกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อน
ยูจิน ได้แต่บอก มินฮุง ว่า : ฉันขอโทษ ค่ะ มินฮุง
และในตอนนั้นเอง มินฮุง ก็เริ่มสงสัยในอดีตของตนเอง
และเขาก็เริ่มแน่ใจว่า ที่แท้ เขาก็คือ คัง จุนซาง
เหตุการณ์ในวันหนึ่งทำให้ ยูจิน รู้สึก ผิดหวัง ใน มินฮุง : ทำไมคุณทำแบบนี้ ไม่สมเป็นคุณเลยนะ
มินฮุง บอกว่า : ยูจิน ผมคือ จุนซาง
ยูจิน ยิ่ง ผิดหวัง ที่ มินฮุง บอกว่า เขา คือ จุนซาง

จุนซาง ได้ความทรงจำคืนมาหลังจากเกิดอุบัติเหตุ
ได้ให้คำมั่นสัญญาว่า จะมีชีวิต ที่มีความสุขกับ ยูจิน

ความเจ็บปวดในอดีตของพ่อแม่ของพวกเขา ค่อยๆเผยออกมาทีละนิด ๆ
จุนซาง ตกใจแทบช็อก เมื่อได้รู้จากแม่ว่า เขาและ ยูจิน มีพ่อคนเดียวกัน
แม่บอกเพียงว่า : แม่ขอโทษ นะ จุนซาง
จุนซาง ได้ไตร่ตรองอย่างดีที่สุดแล้ว เขาตัดสินใจ จะไปจาก ยูจิน
เมื่อ ยูจิน รู้เรื่อง เธอจึงวิ่งตามหา จุนซาง

Episode-19- Father and son

ยูจิน ถามแม่ของซังฮวก : เมื่อกี้ว่าอะไรนะคะ
ยูจิน ต้องการพิสูจน์ให้รู้แน่ ว่าเรื่องที่ เธอ เป็นพี่น้องกับ จุนซาง นั้นไม่เป็นความจริง นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

ยูจินไปที่บ้านของ จุนซาง ยูจิน กดลิฟท์ แต่ไม่ทันใจ ยูจิน จึงวิ่งขึ้นบันไดไป ด้วยความรีบร้อน ดวงตาก็พร่าพรายด้วยหยดน้ำตา จึงหกล้มที่ขั้นบันได แต่ ยูจิน ก็กัดฟันพยายามลุกขึ้นมาวิ่งต่อไปจนถึงบ้านของ จุนซาง กดกริ่งอย่างร้อนใจ ก็ไม่ทันใจที่กระวนกระวาย ยูจิน ทุบประตูบ้าน เสียงดังโครมคราม แม้ในใจจะเชื่อ ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ ยูจิน ก็สั่นสะท้านทั้งกายและใจ

คัง มุยฮี เป็น คนเปิดประตูบ้านออกมา
ยูจิน เข้าไปภายในบ้าน คัง มุยฮี ยกน้ำชามาให้ : ดื่มน้ำชาเสียก่อนสิ ฉันมาหา จุนซาง เหมือนกัน เขาไม่ได้ติดต่อ มาหลายวันแล้ว
ยูจิน จับถ้วยน้ำชามือสั่นจนต้องกำถ้วยน้ำชาไว้ ถาม คัง มุยฮี ว่า : มันเรื่องจริงเหรอคะ จริงเหรอคะ ที่ว่า จุนซาง เป็นลูกชาย ของพ่อหนู
คัง มุยฮี หลบสายตาของ ยูจิน
ยูจิน ปากสั่น : ไม่ใช่ ใช่มั๊ยคะ เขาไม่ใช่ลูกชายของพ่อหนูใช่มั๊ยคะ
แล้ว ยูจิน ก็ร้องไห้ : บอกหนูสิคะ ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง บอกสิคะ
คัง มุยฮี ก้มหน้าลงต่ำ ที่ตักของตัวเอง
ยูจิน : บอกหนูสิคะว่า ไม่ใช่เรื่องจริง
คัง มุยฮี ลุกขึ้นยืน ขณะที่ ยูจิน ยังพูดไม่ทันจบประโยค
ยูจิน ก็ ลุกขึ้นจากเก้าอี้นั่งเช่นกัน : บอกหนูมาเถอะ ว่า มันไม่ใช่เรื่องจริง
คัง มุยฮี ที่ยืนหันหลังให้ ยูจิน ถอนใจก่อนจะบอก ยูจินว่า : ตัดใจจาก จุนซาง ซะเถอะ ตัดใจซะ
คัง มุยฮี ก็ต้องหลับตา สะกดความรู้สึกของตัวเองไว้ : คิดเสียว่า ไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเธอและ จุนซาง
ยูจิน ผลุนผลัน จนชนกับเก้าอี้ วิ่งออกจากบ้านของ จุนซาง
คัง มุยฮี : ยูจิน
คัง มุยฮี ก็มีท่าทางไม่สบายใจ เช่นกัน

นี่คงเป็นฝันร้าย ถ้าไม่ใช่ความฝันแล้วจะมีเรื่องไร้สาระเช่นนี้ได้อย่างไรกัน

ตลอดสิบปีที่ ยูจิน เคยคิดว่า จุนซาง ตายไปแล้ว ยูจิน มีชีวิตอยู่กับ จุนซาง เพียงภายในใจ
กว่าจะได้พบ จุนซาง ที่ยังมีชีวิตอยู่ กว่าจะฝ่าฟันอุปสรรค นานับปการ
กว่าจะผ่านเรื่องราวของความเข้าใจผิดมากมาย
ในที่สุด ก็แน่ใจว่าเขาก็คือ จุนซาง แต่ จุนซาง กลับจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้เลย และคิดจะจาก ยูจิน ไป ทั้งยังบอกอีกว่าจำช่วงเวลาที่อยู่กับ ยูจิน ไม่ได้ แต่ ยูจิน ก็ทิ้ง จุนซาง ไม่ลง

เมื่อเกิดอุบัติเหตุอีกครั้ง และ จุนซาง ได้ความทรงจำ คืนกลับมา
แต่เพราะผู้ใหญ่ขัดขวาง ความรักของ จุนซาง และ ยูจิน ต้อง พบกับความเจ็บปวด
เท่านั้น ยังไม่พออีกหรือ ตอนนี้ มีคนมาบอกว่า จุนซาง และ ยูจิน เป็นพี่น้องพ่อเดียวกัน
นี่ .....จุนซาง และ ยูจิน ถูกคำสาป หรือไรหนอ

ยูจิน ยังไม่ทันตั้งตัว ยังไม่ทันเตรียมใจรับการลงโทษ พระเจ้าลงโทษเราสองคนอย่างโหดร้ายเหลือเกิน
ทั้งๆ ที่ ยูจิน รัก จุนซาง อย่างลึกซึ้ง ยิ่งกว่าชีวิต แต่กลับได้รับโทษทัณฑ์แสนสาหัสจากพระเจ้าอีกด้วยหรือ
นี่เป็นเรื่อง ที่ ยูจิน ไม่อาจเข้าใจได้เลย
ได้โปรดเถิดพระเจ้า....ขอให้เป็นเพียงความฝัน เท่านั้นเถิด

ที่บริษัท มาเซี่ยน
คุณ คิม เปิดประตูห้อง เข้ามา ถามจุนซาง ที่นี่งอยู่ ที่โต๊ะทำงานว่า : นี่คุณหายไปไหนมา ทำไมถึงติดต่อคุณไม่ได้เลย
แต่พอ คุณคิม เข้ามาใกล้จุนซาง : นี่คุณหายไปไหนมาทำไมดูโทรมจัง มีเรื่องอะไรเหรอ
จุนซาง หลับตาลง

ยูจิน มาถึงบริษัท มาเซี่ยน พยายามใช้เรี่ยวแรง ที่ยังคงมีเหลืออยู่เพียงเล็กน้อยเดินขึ้นบันไดไป
และไม่ใส่ใจกับคำห้ามปรามของเลขาหน้าห้อง ของ ลี มินฮุง ว่า เข้าไปไม่ได้ นะคะ
ยูจิน เปิดประตูห้องทำงาน กรรมการบริหารเข้าไป




คุณคิม และ จุนซาง หันไปที่ประตูห้อง ก็พบว่า ยูจิน เข้ามายืนจังก้า
เลขาสาว ตามเข้ามาโค้งขอโทษ จุนซาง : ขอโทษค่ะ
จุนซาง : ไม่เป็นไร
จุนซาง หันไปที่ คุณคิม : คุณคิม ขอเราอยู่กันตามลำพังได้มั๊ยครับ
คุณ คิม พยักหน้า ให้ จุนซาง แล้ว ลุกขึ้นจากเก้าอี่นั่ง เดินออกไปจากห้อง
จุนซาง เคราขึ้นครึ้ม เพราะไม่ได้ใส่ใจดูแล ช่างแตกต่าง จาก ลี มินฮุง หรือ จุนซาง ที่เป็นผู้ชายที่พิถีพิถันมาตลอด



จุนซาง ถาม ยูจิน ด้วยเสียงที่เย็นชา : คุณมาทำอะไรที่นี่
ซังฮวก ไม่ได้บอกคุณหรือไง ว่าผมขอเลิกกับคุณ
และอย่ามาเจอผมแบบนี้
ยูจิน จ้องหน้า จุนซาง : จุนซาง
จุนซาง คิดว่านอกจากพูด อย่างนี้ น้ำเสียงอย่างนี้แล้ว ก็ไม่มีวิธีอื่นอีก
จุนซาง พูด ด้วยน้ำเสียงไม่ไยดี ต่ออีกว่า : อีกไม่นานผมก็จะบินไปอเมริกา
เราไปกันไม่ได้ อย่าพยายามอีกเลย
ยูจิน : ทำไม ทำไม ทำไม เราถึงไปกันไม่ได้
จุนซาง ที่เงยหน้ามอง ยูจิน ที่ยืนอยู่เบื้องหน้า ลดสายตาลง มองตรงไปข้างหน้า : เพราะผมไม่ได้รักคุณ
ผมเพิ่งรู้หลังจาก จำเรื่องทุกอย่างได้

นี่ไม่ใช่เหตุผลที่เหมาะสมเลย แต่ว่า จุนซาง ยังหาเหตุผลที่ดีกว่านี้ไม่ได้ : ผมไม่ได้รักคุณเลย
ยูจิน : คุณโกหก น้ำตาปริ่ม ขึ้นมา
จุนซาง พูดเสียงดัง : ผมไม่ได้โกหก
ยูจิน ก็เสียงดังไม่ยอม จุนซาง เช่นกัน : คุณโกหก
จุนซาง เงยหน้ามอง ยูจิน
ยูจิน : นั่นมันโกหกทั้งเพ คุณ น่ะรักฉัน ฉันรู้ว่าคุณรักฉัน เราสองคนแค่รักกัน ไม่ได้เหรอ
จุนซาง ที่ทำหน้าตา เย็นชา กลับกลายเป็น เศร้าสร้อย ขึ้นมา เพราะน้ำเสียงในตอนท้ายของ ยูจิน : ยูจิน ...นี่คุณ..
ยูจิน : มันเรื่องจริงเหรอ เรื่องจริงเหรอ




จุนซาง : ยูจิน
ยูจิน : จริงใช่มั๊ย
จุนซาง พูดไม่ออก ได้แต่พยักหน้า พลันน้ำตาที่กลั้นไว้ ก็ไม่อาจกลั้นอยู่ อีกได้ต่อไปแล้ว
ยูจิน ทรุดลงไปกองกับพื้นอย่างสิ้นเรี่ยวแรง
จุนซาง ขยับตัวจะลุกขึ้นไปหา ยูจิน : ยูจิน
แต่ ยูจิน ห้ามเสียงดัง ราวกับว่าหาก จุนซาง เข้าไปใกล้เธอ เธอ จะยิ่งบาดเจ็บ : ไม่ต้องเข้ามา อย่าเข้ามา อย่าเข้ามา

จุนซาง ทรุดตัวลงลงที่เดิม น้ำตาร่วงพรู ทะลักทะลายจากทำนบของความรันทด ความอาดูร
ความสัมพันธ์ของ จุนซาง และ ยูจิน ดูเหมือนจะอยู่ห่างไกล ไกลแสนไกล นับเป็น พันลี้ หมื่นลี้

ยูจิน รู้สึกเหมือน กับว่า ไม่ว่า เธอจะเดินไปทิศทางใด ราวกับเดินอยู่กลางทะเลทราย
ทะเลทรายที่ปราศจากลม ไม่มีต้นไม้ ร้างไร้ผู้คน




ยูจิน กลับไปหาแม่ที่ ชุนชง
แม่กำลังตากผ้า
แม่ ดีใจ เพราะ ยูจิน ที่แม่กำลังเป็นห่วงอยู่ กลับมาแล้ว
แต่ใบหน้าของ ยูจิน ช่างน่าเป็นห่วง กว่าที่แม่คิดไว้เหลือเกิน : มีอะไรหรือเปล่าลูก
ยูจิน : ทำท่าจะร้องไห้ เปล่าค่ะ หนูแค่อยากมาหาแม่
ใบหน้าของแม่ เปี่ยมด้วยความรักและห่วงใย

จุนซาง เดินเข้าบ้าน

หลังจากที่ จุนซาง ทิ้ง ยูจิน ไว้ที่ริมทะเล แล้วกลับมาตามลำพัง
จุนซาง ดื่มเท่าไหร่ ก็ไม่เมา ทำอย่างไรก็นอนไม่หลับ
เป็นเพราะ ยูจิน หญิงสาวคนเดียวในโลก ที่จุนซาง รักเหลือเกิน
จุนซาง คิดว่ากลับมาแล้ว หลับตาลงจะทำให้ลืมทุกอย่างได้
แต่ในความมืด เงาของ ยูจิน ยิ่งเด่นชัด
คำพูดที่ว่า....หากตามองไม่เห็นเสียแล้ว ก็จะลืมได้ ล้วนเป็นเรื่องโกหก

เดิม จุนซาง คิดว่า หลังจากจัดการเรื่องราวทั้งหมดแล้วจะรีบบินไปอเมริกา
ยูจิน ก็จะไม่รู้ความจริงเรื่องที่ จุนซาง และ ยูจิน เป็นพี่น้องกัน
แต่แล้ววันนี้ จุนซาง ได้เห็นสภาพที่เจ็บปวดรวดร้าวของ ยูจิน หลังรู้ความจริงแล้ว
จุนซาง ทำได้ก็เพียงแต่นั่งมอง ยูจิน ร่ำไห้ อยู่บนเก้าอี้ของตัวเอง เท่านั้น
นับแต่นี้ต่อไป

จุนซางไม่อาจได้กอด ยูจิน ไว้แน่น ถ่ายทอด ความรัก ความรู้สึกจากส่วนลึกของหัวใจ ได้ อีกต่อไปแล้ว
ได้แต่ นั่งมอง ยูจิน จากไป เท่านั้นเอง



ที่บ้านของ จุนซาง
จุนซาง ถอดรองเท้า แล้ว รู้สึกสายตาพร่า ต้อง หยุดยืนอยู่ครู่หนึ่ง จึงเดินต่อเข้าไปในบ้าน ก็พบว่าแม่นั่งอยู่ที่โต๊ะ
คัง มุยฮี : กลับมาแล้วเหรอลูก ลูกหายไปไหนมา
จุนซางไม่ตอบแม่ เดินต่อมาจนใกล้แม่
คัง มุยฮี : ยูจิน เขาแวะมาที่นี่ด้วย ตอนนี้เขารู้เรื่องทั้งหมดแล้ว
จุนซาง หลับตาลง กล้ำกลืน ความรู้สึก ที่ประเดประดัง กันอยู่ในใจ เดินผ่านหน้าแม่ไปโดยไม่พูดอะไร
จุนซาง ไม่อยากพบแม่ ที่มาเพื่อ บอกขอโทษ เป็น คำพูด ซ้ำ ๆ ที่ จุนซาง ไม่อยากฟังอีกต่อไป
คัง มุยฮี หลับตาลง อย่างปวดร้าวใจกับท่าทางหมางเมินของ จุนซาง
จุนซาง เซ จนต้องเกาะผนังไว้ แล้วทรุดตัวลงนั่งกับพื้น
คัง มุยฮี ตกใจ : จุนซาง
คัง มุยฮี เข้ามาเกาะไหล่ของ จุนซางไว้

คัง มุยฮี นั่งที่ปลายเตียง : จุนซาง แม่ขอโทษ
แม่น่ะไม่รู้ว่า ลูกรัก ยูจิน ขนาดนี้เลย ถ้าแม่รู้ ถ้าแม่รู้แบบนี้....
จุนซาง นั่งอยู่ทางหัวเตียงนอน : ไปเสียเถอะครับ
คัง มุยฮี มอง จุนซาง อย่างเสียใจ : จุนซาง
จุนซาง : ได้โปรดเถอะครับ ผมไม่อยากได้อะไร หรือคิดอะไรทั้งนั้น
คัง มุยฮี : จุนซาง แม่ขอโทษ
แล้ว คัง มุยฮี ก็ลุกขึ้น ออกไปจากห้องของ จุนซาง

จุนซาง กล้ำกลืนน้ำตาตัวเอง แล้วเอนตัวนอนลงบนเตียง
ไม่อยากลืมตาขึ้นมาอีกเลย การมีชีวิตที่จมอยู่กับเรื่องนี้ ช่างทุกข์ทรมานใจเหลือเกิน




ยูจิน นั่งร้องไห้
แม่ ของ ยูจิน เอามือวางบนไหล่ไหล่ ยูจิน ไว้อย่างปลอบใจ : ยูจิน
ยูจิน : หนูไม่เป็นไรค่ะแม่
แม่ของ ยูจิน : เกิดอะไรขึ้น ลูกเลิกกับเขาเหรอ ลูกถึงได้ร้องไห้
ลูกสองคนต้องเลิกกันเพราะแม่ใช่มั๊ย แม่ขอโทษนะ ยูจิน
ยูจิน : แม่คะแม่ยังรักพ่ออยู่มั๊ย คะ
แม่ ของ ยูจิน ลูบผม ยูจิน : จ้ะ พ่อและลูกๆ คือทุกสิ่งทุกอย่างของแม่
ยูจิน : แม่คะ ถ้าเกิดหนูเกลียดพ่อล่ะ หนูเกลียดพ่อละคะ แม่
แม่ ดึง ยูจิน เข้ามากอด : ลูก ไม่ควรเกลียดพ่อของลูก
แม่รู้ว่า เขาทำให้ลูกเจ็บปวด ที่มาขัดขวางความรักของลูก
แต่ว่า ลูก คือทุกสิ่งทุกอย่างของ พ่อ อย่าเกลียดพ่อเขาเลยนะลูกนะ อย่าลูก
ยูจิน ซบลงกับอกแม่ร้องไห้




อาจารย์คิม เดินผ่านสนามเด็กเล่น มีคุณพ่อวัยหนุ่ม และลูกชายตัวน้อย แตะบอลกันอยู่
อาจารย์ คิม หลับตาลงเมื่อมองเห็นภาพที่พ่อขยี้หัวเด็กน้อย แล้วอุ้มขึ้นมาถามว่า เป็นไงลูก
อาจารย์คิม เดินต่อ แล้วไปกดกริ่งที่หน้าบ้านของ จุนซาง

จุนซาง นอนหลับสนิท ไปหนึ่งวันเต็มๆ ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงนี้
และลุกขึ้น ด้วยอาการโงนเงน และเซ ก้าวเดินอย่างลำบาก
เหงื่อท่วมตัวราวจะเป็นลม รู้สึกหมดแรง ต้องใช้มือเกาะผนังห้อง เดินไปเปิดประตู
ประตูเปิดออก อาจารย์คิม เงยหน้า มอง จุนซาง

จุนซาง ไม่คาดคิดว่าจะเป็น อาจารย์ คิม รีบแสดงคารวะอาจารย์ คิม
อาจารย์ คิม : ขอโทษ ที่ไม่ได้โทรมาบอก ฉันอยากมาถามอะไรเธอสักอย่าง
อาจารย์ คิม ก็ ได้เห็น อาการของ จุนซาง : นี่เธอไม่เป็นไรใช่มั๊ย นี่
แต่แล้ว จู่ ๆ จุนซาง ก็ล้มลงไป นอนเหยียดยาวอยู่กับพื้นห้องนั่นเอง
จุนซาง ถูก นำส่ง โรงพยาบาล

อาจารย์ คิม เป็นห่วง : เขาเป็นอะไรมากมั๊ยครับนี่
ตอนลงทะเบียน คนป่วย แพทย์ คนหนึ่งถาม อาจารย์คิมว่า : เป็นพ่อของคนไข้หรือเปล่าครับ
อาจารย์ คิม : เอ๊ะ
พอได้ยินคำว่าพ่อ อาจารย์คิม ต้องหยุดหายใจอยู่ครู่หนึ่ง
ถึงแม้แพทย์ จะไม่ได้ถาม แต่ คำถามนี้ยังค้างคาใจ อาจารย์ คิม อยู่
อาจารย์คิมคิดจะถาม จุนซาง อยู่เหมือนกัน




แชรีน เพิ่งกลับจาก ญี่ปุ่น เดินเข้ามาในร้าน บ่นเรื่องข้าวของวางระเกะระกะ
เดินไปบ่นไป ก็เห็น จินซุก นั่ง ท่าทางไม่สบายใจ จึงเดินไปนั่งข้างๆ : เกิดอะไรขึ้นเหรอ ตอนฉันไม่อยู่ เป็นอะไรไป
จินซุก : ตอนเธอไม่อยู่ เกิดเรื่องขึ้นเยอะเลย ยูจิน กับ จุนซาง พวกเขาเลิกกันแล้ว
แชรีน : เมื้อกี้ เธอว่าไงนะ
แล้ว แชรีน ก็ไปหา ซังฮวก ที่สถานีวิทยุ เพื่อไปถาม ซังฮวก เรื่องของ ยูจิน และจุนซาง ว่า มีเรื่องอะไรกัน สองคนนั้นจะเลิกกันจริงๆหรือ
พอดีกับที่ อาจารย์คิม โทรมาบอก ซังฮวก ว่า จุนซาง เข้าโรงพยาบาล




อาจารย์คิม บอก ซังฮวกว่า : คงเป็น ไซด์เอฟเฟค จากอุบัติเหตุครั้งก่อน ต้อง Test อีก 2-3 อย่าง ก็คงจะรู้ผล
ตอนนี้ จุนซาง หลับอยู่

อาจารย์คิม ปิด โทรศัพท์ แล้ว ไปที่ห้อง แพทย์ : เท่าที่ทราบเขาเป็นมาตั้งแต่เจออุบัติเหตุ
จากนั้นเขาก็ปกติดี ไม่เห็นเขามีอาการอะไรนี่ครับ
คุณหมอ : อ้อ ..คือ อย่างนี้ครับ มันต้องมีอะไรผิดปกติ ถ้า จู่ ๆ คนหนุ่มๆจะเป็นลมแบบนั้น
และ ไซด์เอฟเฟค จาก อุบัติเหตุ มันก็ซับซ้อนกว่าที่คุณคิดนะ
อาจารย์ คิม : เขา เป็นอะไรร้ายแรงเหรอครับ
คุณหมอ : เราจะรู้แน่ชัด หลังจากได้ผลการตรวจทั้งหมด
อาจารย์คิม : อ้อ ครับ
คุณหมอ ; ไม่ต้องเป็นห่วง ลูกชาย คุณหรอกนะครับ

อาจารย์คิม แปลกใจ และตกใจ
มีคนพูด ว่า เขาเป็น พ่อ ของจุนซาง 2 ครั้งแล้ว ที่โรงพยาบาลนี้
อาจารย์ คิม รู้สึก สับสนในหัวใจ
เพราะคำว่า พ่อ นี้เอง ทำให้ อาจารย์คิม บอก คุณหมอว่า : มีเรื่องหนึ่ง ผมอยากให้คุณหมอช่วยเทสต์ ให้
อาจารย์ คิม ไปที่ห้องเจาะเลือด เพื่อพิสูจน์ ดี เอ็น เอ





หลังจากนั้น อาจารย์ คิม ก็ไปนั่งมอง จุนซาง ที่เตียงคนไข้
คิดย้อนไปถึงคำพูดที่ถามซังฮวกว่า : จุนซาง และ ยูจิน น่าจะอายุไม่เท่ากันสิ
แล้วทำไมพวกเขาถึงได้เรียนชั้นเดียวกัน
ซังฮวก : ไม่ทราบครับ แต่ยังไงพวกเขาก็อายุเท่ากัน พวกเค้าอายุห่างกันแค่สองเดือนเอง

อีกทั้ง คำพูด ที่อาจารย์คิม พูด กับ คัง มุยฮี : ถ้าบอกว่าเธอท้องกับเขา เขาก็คงไม่ทิ้งเธอไป
คัง มุยฮี : ถ้าหากเธอรักใครสักคน เธอจะเชื่อทุกอย่าง ที่คน ๆ นั้น บอกเธอ เพราะเธอน่ะรักฉัน
แต่ ฮุนโซ เขาไม่ได้รัก นี่แหละที่เธอแตกต่างจาก ฮุนโซ
อาจารย์ คิม เอื้อมมือไปเพื่อจะลูบใบหน้าของ จุนซาง แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ

ซังฮวก และ แชรีน เข้ามาในห้องคนป่วย




อาจารย์คิม และซังฮวก ออกมาหน้าโรงพยาบาล
อาจารย์คิม : พ่อต้องไปก่อนนะ
ซังฮวก : ครับพ่อ พ่อครับ ตอนนี้ ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วครับ
จุนซาง กับ ยูจิน เขาเลิกกันเรียบร้อยแล้ว พ่อไม่ต้องเป้นห่วงอะไรแล้วนะครับ ตอนนี้..
อาจารย์คิม : งั้นเหรอ พวกเขาสองคน เลิกกันแล้วงั้นหรอ
อาจารย์ คิม ไม่ได้แสดงท่าดีใจเลย ดู ท่าทางสับสน ด้วยซ้ำไป
อาจารย์ คิม ; แล้วลูกคิดว่า จุนซางเป็นยังไงบ้าง ลูกชอบเขามั๊ย
อาจารย์คิม ทำท่า กระวนกระวายใจ : ลูก กับ จุนซาง สนิทกันแค่ไหน แล้ว จุนซาง.....
ซังฮวก : พ่อครับ
อาจารย์คิม รู้สึกตัว : ช่างเถอะลูก กลับเข้าไปเถอะ
อาจารย์คิม เดินจากไป ทิ้ง ซังฮวก ที่มองพ่ออย่างสงสัย กับท่าทางแปลกๆ ของพ่อ


แชรีน เอาผ้า ชุบน้ำ ซับตามใบหน้าของ จุนซาง ที่พราวไปด้วยเหงื่อ
แชรีน มอง จุนซางอย่างเป็นห่วง
จุนซาง ขยับปาก เรียกหา ยูจิน เหมือนคนละเมอหลายครั้ง




ซังฮวก เดินเข้ามาในห้องคนป่วย
แชรีน : ทำไม ยูจินถึงไม่มา เธอโทรหายูจินหรือเปล่า
เขาน่าจะมาเป็นคนแรกที่มานะ ทำไมเขาถึงยังไม่มาล่ะ
ซังฮวก ไม่ตอบอะไร แชรีน ลุกขึ้นยืน : บอกฉันมาสิพวกเขาเลิกกันแล้วยังงั้นเหรอ
ซังงฮวก : ใช่ รู้แค่นั้นก็พอแล้ว
แชรีน เสียงดัง : ทำไมล่ะ
ซัง ฮวก : จุนซาง กับ ยูจิน เลิกกันแล้ว
แชรีน : เพราะอะไรล่ะ
ซังฮวก : เป็นเพราะเขาขัดแม่เขาไม่ได้ เขาไม่คิดว่านั่น คือความรัก มันเป็นความผิดพลาด
แชรีน : จุนซาง พูดอย่างนั้นเหรอ
ซังฮวก : ใช่
แชรีน : อย่ามาโกหก อย่ามาโกหกฉัน
จุนซาง เพิ่งจะเพ้อเรียกชื่อ ยูจิน นี่เหรอไม่ใช่ความรัก
เรื่องมันเป็นยังไง ทำไมไม่บอกฉันล่ะ เธอรู้ใช่มั๊ย

ซังฮวก และ แชรีน ออกมาจากห้องคนป่วย ไปที่เก้าอี้นั่งคอยข้างนอก
ซังฮวก บอก แชรีน ว่า : พวกเขาเป็นพี่น้องกัน
แชรีน : จริงๆเหรอ ไหนบอกฉันอีกทีสิ พวกเขาเป็นอะไรกันนะ
ซังฮวก : เขามีพ่อคนเดียวกัน จุนซาง เป็นลูกชาย ของ คัง มุยฮี และ พ่อของ ยูจิน

แม้ไม่น่าเชื่อ แต่นี่ก็เป็นความจริง แชรีน เคยรู้สึกไม่พอใจ เมื่อเห็น จุนซาง รักอยู่กับ ยูจิน ก็จริง
แต่เรื่องก็ไม่น่าจะเป็นแบบนี้ อย่างน้อยก็ไม่ใช่อย่างที่ แชรีน คาดหวังไว้
ทำไมเรื่องเหลวไหลไม่น่าเชื่ออย่างนี้ถึงได้เกิดขึ้น กับ จุนซาง และ ยูจิน
แชรีน รู้สึกปวดใจแทน





จุนซาง ลืมตาขึ้นมา พยาบาล ที่เข้ามาปรับสายน้ำเกลือให้ ทักว่า : ตื่นแล้วเหรอคะ
จุนซาง : ครับ ผมตื่นแล้ว ผมไม่อยากจะตื่นขึ้นมาด้วยซ้ำ
พยาบาล ได้แต่ตอบว่า : ค่ะ
จุนซาง หลับตาลงมีหยาดน้ำตาซึมอยู่รอบดวงตาทั้งสอง

วันรุ่งขึ้น

แชรีน มาที่โรงพยาบาล
จุนซาง ลุกจากเตียง หยิบเสื้อคลุมที่แขวนไว้มาสวมทับ
แชรีน เปิดประตูห้องเข้ามา
จุนซาง หันไปมองตามเสียงประตูเปิด
แชรีน : คุณตรวจทุกอย่างครบแล้ว คุณกลับบ้านได้แล้วล่ะ
จุนซาง ตกใจ ที่เห็น แชรีน : คุณมาทำอะไรที่นี่
แชรีน : ก็มารับคุณกลับบ้านไง




แชรีน พา จุนซาง ไปส่งที่บ้านของ จุนซาง จับแขน จุนซาง พยุงเข้าบ้าน จุนซาง นั่งลงที่โซฟา
จุนซาง เงยหน้าขึ้นพูดกับ แชรีน ที่ยังยืนอยู่ว่า : ขอบคุณนะ แชรีน
แชรีน : พักผ่อนเสียนะ ฉันไปละ
จุนซาง : ครับ
แชรีน เดินไป แล้วก็หยุด เปลี่ยนใจเดินกลับมาหา จุนซาง : บอก ยูจิน ไปสิว่ารู้สึกยังไง
คุณน่ะ แค่หนี คุณไม่รู้หรอก พวกคุณสองคนไม่รู้อะไรหรอก
จุนซาง เงยหน้ามองแชรีน
แชรีน : คุณจะห้ามมันได้ยังไง ตอนแรกที่เจอกัน คุณไม่รู้นี่นา
จุนซาง ตั้งตัว นั่งตรง : คุณรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่
จุนซาง คิดว่า ใครๆก็รู้กันหมดแล้ว เราสองคนจะหนีไปไหนได้
แชรีน นั่งลงข้างๆ จุนซาง : รู้ตั้งนานแล้ว ตาโง่เอ๊ย
จุนซาง : รู้จาก ซังฮวกเหรอ
แชรีน : นี่ฉันนึกว่า คุณแค่เลิกกับ ยูจิน น่ะ
แล้ว แชรีน ก็น้ำตาคลอ : แต่ถ้าเลิกกันแบบนี้ คุณจะมีความสุขเหรอ
ถ้าคุณเลิกกับ ยูจิน แบบนี้ งั้นเราก็เจอกันอีกไม่ได้หรอก ฉันคงไม่กล้าขอคืนดีกับคุณหรอก

แชรีน ร้องไห้ : ทำไมไม่พูดอะไรล่ะ คัง จุนซาง พูดอะไรสักอย่างสิ
จุนซาง หันมาทาง แชรีน : นี่คุณไม่เรียกผมว่า มินฮุง แล้วเหรอ
แชรีน พยักหน้า : ค่ะ คัง จุนซาง

ปกติ แชรีน จะเรียกเขาว่า มินฮุง แต่ตอนนี้ จู่ๆ แชรีน ก็รียกเขาว่า จุนซาง
จุนซาง รู้สึกเหมือนกับว่าการพบเพื่อนเก่าอีกครั้งเป็นเรื่องง่าย แต่ถึงจะพบเพื่อนเก่าครบทุกคนแล้ว ทว่า ยังมีอีกคนหนึ่งมี่ไม่มีวันพบตลอดกาล จุนซาง หลับตาลง จุนซางเหมือนเห็น ยูจิน ยืนอยู่คนเดียว

ยูจิน ไปที่หลุมฝังศพ พ่อ
ในมือถือช่อดอกไม้ ยูจิน ทรุดตัวลงนั่ง : พ่อ พ่อคะ เมื่อคืนหนูฝันด้วยค่ะ ฝันว่าหนู กับ จุนซาง มาที่นี่ด้วยกันเรามาเยี่ยมพ่อ และเราสามคนนั่งดื่มกันด้วยนะคะ เราจะให้พ่อเห็นว่าเราน่ะสนิทกันมากแค่ไหน นี่อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ หนูรักเค้ามากเหลือเกิน เพราะเรามาจากที่เดียวกัน ใช่มั๊ยคะพ่อ

มีเพลง my memory
ยูจิน มองหลุมศพพ่อ อยู่ นาน ราวกับว่าสายน้ำไหลผ่านไปนานนับพันปี
นอกจากต้องอดทนให้วันเวลาผ่านพ้นไปให้ได้แล้ว ดูเหมือนจะไม่มีหนทางอื่น
เพราะตอนนี้ไม่มีทางแก้ไขความจริงได้ คงต้องเป็นเช่นนี้

ยูจิน เดินกลับมาลงมา จากเนินเขา มี ชายหนุ่มหญิงสาวคู่หนึ่งอยู่ข้างหน้า
แต่ ยูจิน เห็น เป็นภาพ ของ จุนซาง และ ตัวเธอเอง เดินอยู่ตรงนั้น แล้วภาพนั้นก็กลายเป็นคนอื่น
ยูจิน น้ำตาไหลร่วง
ยูจิน นั่งรถประจำทาง กลับ โซล ลาก่อน....จุนซาง..




เมื่อกลับมาโซล
ยูจิน ไปหาซังฮวก ที่สถานีวิทยุ
ซังฮวก ยิ้มให้ ยูจิน : มาก่อนเวลานี่ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ไปอยู่ชุนชง สนุกมั๊ย
ยูจิน : พอเถอะน่า ไม่อยากให้ฉันกลับมาเหรอ
ซังฮวก : เปล่า ดีใจที่มา ฉันคิดถึงเธอมาก และเป็นห่วงเธอด้วย
ยูจิน : ขอโทษนะที่ทำให้เป็นห่วง
ซังฮวก และ ยูจิน ไปทานอาหารด้วยกัน
ซังฮวก : หมายความว่ายังไงจะลาออก
ยูจิน : พักหลังเนี่ยะ ฉันไม่มีกะใจจะทำงานเลย ฉันน่ะเป็นภาระให้ จุงอา ต้องทำงานแทนฉันตลอดเลย
ซังฮวก : ลาออกแล้วจะไปทำอะไร
ยูจิน : ตอนนี้ฉันยังไม่มีโครงการอะไรเลย
ซังฮวก : ก็ดี พักผ่อนสักพัก เธอทำงานหนักมามาก ได้พักก็ดี
ยูจิน : ซังฮวก เธอช่วยให้ฉันได้เจอกับ จุนซาง ได้มั๊ย ฉันติดต่อ จุนซาง ไม่ได้เลย เธอช่วยโทรหาเขาให้หน่อยสิ

ซังฮวก นั่งคิด แล้วตอบ ยูจิน ว่า : ไม่ดีกว่า ฉันไม่อยากให้เธอสองคนเจอกันอีก
ถ้าเธอเจอเขาอีก เธอก็ต้องปวดใจ ฉันจะช่วยให้เธอลืม จุนซาง ให้ได้ เธอต้องลืม จุนซาง ให้ได้นะ
ยูจิน : ได้โปรดเถอะ ซังฮวก ฉันไม่เป็นอะไรหรอก ฉันแค่อยากจะบอกอะไรเค้าอย่างหนึ่งแค่นั้นเอง
ถึงเธอจะลำบากใจ แต่ช่วยบอกเขาหน่อยเถอะนะ ว่าฉันอยากเจอเขา อยากเจอเป็นครั้งสุดท้าย

ซังฮวก รู้ดีว่า คำขอร้องของ ยูจิน จริงจังมาก ยูจิน ก็รู้ว่า จุนซางหลบหน้าเธออยู่ ยูจิน ย่อมมีเหตุผล นี่คงหมายความว่า ยูจิน จะบอก จุนซาง และตัวเขาว่า ยูจิน ทำใจได้แล้ว หรือไม่ก็เป็นเพราะ ยูจิน อยากให้ จุนซาง จากไปอย่างสบายใจ




ที่บริษัท มาเซี่ยน
คุณคิม : ผม รู้สึกไม่ดีเลย ที่คุณจะยกเลิกที่เราทำมาทั้งหมด แบบนี้เสียหายแย่ นี่ให้ผมทำต่อให้ ดีมั๊ยล่ะ
จุนซาง : เอายังงั้นเหรอครับ ถ้าคุณจะทำต่อผมก็เบาใจ
คุณคิม : งั้นเหรอ งั้นเอามาให้หมดเลย
แล้ว คุณคิม ก็ลุกขึ้น เก็บเอกสารต่างๆที่วางอยู่หน้าจุนซางบนโต๊ะ : เอ้อ..แล้วคุณกับ ยูจิน
จุนซาง ยื่นแฟ้มให้คุณคิม
คุณคิมรับแฟ้มมา : ผมไม่มีอะไรจะพูดหรอกนะ
แต่ผมสงสัยว่าพวกคุณ จะต้องทนทุกข์กับเรื่องพวกนี้ไปจนถึงเมื่อไร เห็นคุณทีไรก็อดคิดไม่ได้
โอเค ผมจะไปสานต่องานให้เอง แล้วเจอกันนะ




มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
จุนซาง : ซังฮวกเหรอ ฉันเองนะ
เหรอกลับมาแล้วเหรอ ยูจินสบายดีเหรอ จำเป็นด้วยเหรอ โอเค งั้นตกลง

จุนซาง ปิด โทรศัพท์ มือถือ
แล้วเอนตังพิงพนักเก้าอี้ สายตามองออกไปนอกหน้าต่าง




อาจารย์ คิม ก็ได้รับโทรศัพท์ ขณะที่เดินอยู่ในที่ทำงาน : ครับ พูดอยู่ครับ
ใช่ครับ ผม คิม จินวู ครับ ได้ผลการทดสอบแล้วเหรอครับ



ยูจิน กำลังเก็บของในบริษัท Polaris ยกแบบบ้านวางบนลังกระดาษใส่สัมภาระ
จุงอา เข้ามา : ยูจิน ยูจิน นี่มันอะไรกันน่ะ
ยูจิน : ฉันต้องรีบลาออก ก่อนที่จะโดนไล่ออก
จุงอา : ยูจิน
ยูจิน : น่า.. ฉันอยากมีเวลานั่งคิด ว่าตอนนี้ฉันทำอะไรได้บ้าง
จุงอา ถอนใจ
ยูจิน : ฉันอยากกลับไปคิดทบทวนตั้งแต่ต้นน่ะ จุงอา
เธอจำได้หรือเปล่า มีอยู่ครังหนึ่งที่มีคนมาขอให้เราออกแบบบ้านให้เขา แต่พบว่าค่าก่อสร้างมันแพง และเป็นไปไม่ได้น่ะ
จุงอา พยักหน้า : อืม..ฉันจำได้ทำไมเหรอ
ยูจิน : ฉันตั้งใจจะเลิกทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ฉันแค่อยากจะเลิก
จุงอา มอง ยูจิน อย่างไม่รู้ว่าจะพูดอะไรได้
ยูจิน เดินถือ แบบบ้าน เดินออกจากบริษัท poraris



จุนซาง ที่ขับรถมาจอดใกล้ๆ บริษัท Polaris
นั่งมอง ยูจิน ที่เดินออกมาจากบริษัท อยู่ภายในรถ
จุนซางเปิดประตูรถลงมา แล้ว เดินตามหลัง ยูจินไป



ยูจิน ไปที่สวนสาธารณะ ยูจิน นั่งลงที่ม้ายาวในสวน
เอาแบบบ้านวางไว้ข้างตัวแล้วนั่งมองเด็กๆเล่นกันในสวนนั้นอย่างสนุกสนาน
มีเด็กชาย คนหนึ่งมาดูบ้านกระดาษของ ยูจินอย่างสนใจ
ยูจิน ถามว่าอยากได้หรือจ๊ะ
เด็กชาย : ให้จริงเหรอ
ยูจิน : เอ้อ.. นี่เป็นบ้านในป่า เอาไปซิจ๊ะ
เด็กชาย : แล้ว พี่ละครับ
ยูจิน : พี่นะเหรอ ไม่อยากได้หรอกจ้ะ หนูเก็บเอาไว้เถอะ พี่มีบ้านอยู่ในหัวใจแล้ว เอาไปสิจ๊ะ
เด็กน้อย มองดู แบบบ้าน แล้ว ลุกขึ้น : ไม่เอาดีกว่า แล้วก็วิ่ง ออกไปเล่น กับกลุ่มเพื่อนๆ
ยูจิน มองตาม แล้ว ก็ได้แต่ถอนใจ ยูจิน ยกแบบบ้านขึ้น เดินจากม้ายาวที่นั่ง แล้วก็หยุด เมื่อเห็น จุนซาง ยืนอยู่



จุนซาง ยิ้มเศร้าๆให้ ยูจิน
จุนซาง และ ยูจิน พากันไปนั่ง ที่โต๊ะ มุมหนึ่งของสวนสาธารณะนั้น ยูจิน เอาแบบบ้านวางไว้บนโต๊ะ
ยูจิน : คุณสบายดีเหรอ
จุนซาง พยักหน้า ก้มมองแบบบ้าน
ยูจิน : แบบตลกดีมั๊ย อยากได้หรือเปล่าล่ะคะ
จุนซาง พูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง กลับตอบไปคนละเรื่อง : ยูจิน ผมไม่อยากให้คุณ รู้เรื่องน่ะ ผมอยากปกป้องคุณ
ยูจิน : คุณน่าพยายามให้มากกว่านี้ ที่จริง มันน่าจะลงเอยดีกว่านี้ ถ้าเลิกโดยไม่รู้
จุนซาง มอง ยูจิน : ใช่ คุณสบายดีมั๊ย
ยูจิน : แล้วคุณล่ะ



ยูจิน มอง จุนซาง : จุนซาง ฉันรักคุณ
แล้ว ยูจิน ก็หยุด พูด จุนซาง มอง ยูจิน




ยูจิน : ฉันรักคุณ จนถึงเดี๋ยวนี้ และก็จะรักคุณตลอดไป
ฉันผิดหรือเปล่า ที่จะรักคุณ มันผิดมั๊ย
จุนซาง ส่ายหน้าน้อยๆ ตอบ ยูจิน ว่า : ไม่หรอก ไม่ผิดหรอก
ยูจิน พยักหน้า เบาๆ : ใช่ มันไม่ผิดหรอก ฉันจะคิดว่า มันไม่ผิดน่ะ
ไม่ว่าใครจะว่ายังไง ฉันนก็ไม่อายที่จะมีความรัก ฉันจะไม่อายใคร
และฉันก็จะไม่ตื่นเต้น จะไม่หวั่นไหว กับเรื่องใดๆ
ถึงมันจะยากลำบาก แต่ว่า มันก็เป็นความทรงจำที่มีค่าสำหรับฉัน
ยูจิน น้ำตาหยาดรินลงมาข้างแก้ม : นี่ ฉันน่ะ รักคุณจริงๆนะ คุณจำเอาไว้ได้มั๊ย

จุนซาง มอง ยูจิน แล้ว ต้องเบือนหน้าเพื่อซ่อนน้ำตาของตัวเองไว้




ยูจิน : ฉันน่ะจะจดจำทุกอย่างเอาไว้ ความทรงจำจะเป็นของฉัน
และฉันจะจดจำเอาไว้ จะจำไว้หมดทุกอย่างเลย
แล้ว คุณล่ะ คุณจะจำฉันไว้ด้วยหรือเปล่า
แค่จำฉันไว้ ฉันจะเก็บความทรงจำของเราไว้ จนถึงวันตายเลยละ
ยูจิน มอง จุนซาง ทำเสียงถามในลำคอ : หืม...
จุนซาง : ได้ ผมจะจำคุณไว้
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะไม่ลืมคุณ ผมจะจำคุณไว้



ยูจิน : ขอบคุณมากๆเลย ขอบคุณ
จุนซาง : ผมด้วย ขอบคุณนะ
จุนซาง เดินถือแบบบ้าน เดินในสวนสาธารณะนั้นกับ ยูจิน




จุนซาง และ ยูจิน หยุดเดิน แล้ว หันหน้าเข้าหากัน
ยูจิน : งั้นเรามาสัญญากันอีกย่างหนึ่ง
เราห้ามหันหน้ากลับมามองกัน
ฉันไม่อยากเห็นคุณเดินจากไป เป็นความทรงจำสุดท้าย
จุนซาง : ได้ ผมสัญญา
ยูจิน : คุณสัญญาแล้วนะ ถ้างั้นห้ามหันมามองนะ
จุนซาง พยักหน้า



ยูจิน มอง จุนซาง แล้ว ค่อยๆหันหลัง เดินออกไปช้าๆ
จุนซาง เบือนหน้าไปด้านข้าง
เพื่อจะได้ ไม่เห็นด้านหลังของ ยูจิน
แล้วก็หันตัวกลับเดินออกไปเช่นกัน



ทั้ง จุนซาง และ ยูจิน ค่อยเดิน ห่างกัน ไปเรื่อยๆ
มีเพลง
ยูจิน พยายามกลั้นน้ำตาของตัวเองไว้



ที่โรงพยาบาล อาจารย์คิม ยืนถือกระดาษผลตรวจมือสั่นระริก : คุณหมอแน่ใจนะครับ นี่มันจริงๆหรือครับคุณหมอ
อาจารย์ คิม ค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้
คุณหมอ : หมอจะมั่นใจ ร้อยเปอร์เซ็นต์ มันก็ไม่ได้หรอกครับ แต่กรณีนี้ ผมกล้ายืนยันได้เลยว่า มันเป็นเรื่องจริง
อาจารย์ คิม จาก คาดไม่ถึง เพิ่มความตกใจ พูดอะไรไม่ถูก ได้ แต่ : อ้อ
คุณหมอ : คุณไม่เป็นไรใช่มั๊ยครับ
อาจารย์ คิม อึกอัก ยังพูดอะไรไม่ออก ค่อยๆลุกขึ้นยืนใหม่ แล้ว ทรุดตัวลงไป ตกจากเก้าอี้
คุณหมอ ตกใจ ได้แต่ส่งเสียง เอ้า เอ้า


จุนซาง กลับมาที่ บริษัท มาเซียน
เอาแบบบ้านวางไว้บนโต๊ะทำงาน ใช้มือค่อยๆลูบสัมผัส ไปตามส่วนต่างๆ ของแบบบ้านกระดาษหลังนั้น
น้ำตาที่กลั้นไว้ต่อหน้า ยูจิน ไม่อาจกลั้นไว้ได้อีกต่อไป พากันไหลรินลงมา
จุนซาง เงยหน้าขึ้น



อาจารย์คิม ไปหา คัง มุยฮี ที่กำลังซ้อมเปียโนอยู่
คัง มุยฮี พูดอย่างเย็นชา : เธอมาทำอะไรที่นี่น่ะ มีอะไร ที่เราต้องคุยกันอีกเหรอ
อาจารย์ คิม ต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งที่จะเปล่งเสียง แต่น้ำสียง กลับเหมือนคนติดอ่าง : เรื่องจริงเหรอ
คัง มุยฮี มองอาจารย์คิม อย่างแปลกใจ ว่า จะมาไม้ไหนในวันนี้
อาจารย์ คิม สีหน้า ยังไม่คลายจากความตื่นตกใจ : จริงใช่มั๊ย ...จุนซาง เป็นลูกชายของเรา จริงๆ ใช่มั๊ย
ตอนนี้ก็ถึงคราวที่ คัง มุยฮี ต้องตกใจ บ้าง พูดอะไรไม่ออก หลบสายตา อาจารย์คิม ได้แต่กลืนน้ำลายลงตอ



จุนซาง ที่ บริษัทมาเซียน ลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้นั่ง
แล้วตาก็พร่ามัว ค่อยๆ โงนเงน แล้ว ล้มลงนอนเหยียดยาวกับพื้นห้อง เสียงดัง
เลขาหน้าห้อง เปิดประตูเข้ามา ต้องตกใจ ก้มลงไปดู : คุณ ลี คะ



จุนซาง ถูกพาส่งโรงพยาบาล อีกครั้ง



อาจารย์ คิม เดิน เซ ออกมาจากห้องซ้อมดนตรี ของ คัง มุยฮี เหมือนคนสิ้นเรียวแรงจะทรงตัว
ค่อยๆ เกาะผนังหาที่ยึดเหนี่ยว แล้วพยายามเดินต่อไป
เสียของ คัง มุยฮี เมื่อ ครู่ ยังก้องในหูของ อาจารย์คิม : ใช่ มันเรื่องจริง จุนซาง เป็นลูกชายของเธอ

อาจารย์ คิม ไม่อาจรับรับมือ กับความสะเทือนใจอย่างรุนแรงในครั้งนี้ได้

ส่วนตัว คัง มุยฮี เองก็นั่งใบหน้าเศร้า สะกด ความรู้สึก ทั้งปวงไว้ หน้าเปียโน นั่นเอง

จินตนาการ ที่สร้างขึ้น ไว้หลอกตัวเองมา ยี่สิบแปดปี พังทลายสลายลงไปหมดแล้ว
ความจริงที่ว่า จุนซาง เป็นลูกชาย ของเธอ กับ คิม จินวู ( คิม ซังยู)
หาใช่ ลูกชายในฝัน ของ เธอ กับ จุง ฮุนโซ ( จุง ซินเจา )
ไม่ใช่ ไม่ใช่ จริงๆด้วย
พ่อตัวจริงของ จุนซาง ปรากฏโฉมที่ชัดเจน แล้ว ..
เป็น คิม จินวู ต่างหาก



จุนซาง ลืมตา ในเตียงคนไข้ของโรงพยาบาลอีกครั้ง ทั้งที่ไม่อยากตื่นขึ้นมาอีกเลย
เสียงคุณหมอ ดังขึ้น : คุณ คัง จุนซาง
จุนซาง หันไปตามเสียงเรียก
คุณหมอ : ผมโทรศัพท์ถึงคุณหลายครั้ง เพื่อจะบอกผลการตรวจ แต่คุณไม่ยอมรับโทรศัพท์




คุณหมอ พา จุนซาง ไปที่ห้อง แพทย์ มีภาพประกอบคำอธิบาย ให้กับ จุนซาง
ที่คุณเห็นอยู่นี้ เขาเรียกว่า “ ฮีมาโทน่า”
เส้นเลือดโป่งบวม ได้ก่อตัวเป็นก้อนเลือด มันเริ่มคั่งหลังจากที่คุณประสบอุบัติเหตุ
ถ้าไม่ได้เข้าผ่าตัดในตอนนั้น คุณ ก็ต้องเข้าผ่าตัดเดี๋ยวนี้เลย



จุนซาง : แล้ว มันร้ายแรงหรือเปล่าครับ
คุณหมอ : ก้อนเลือดน่ะอยู่ในตำแหน่งที่เป็นอันตราย
ถ้าไม่ผ่าตัดออกซะ ความดันจะส่งผลไปที่ดวงตา และมีสิทธิ์อาจทำให้คุณน่ะตาบอดได้
นอกจากกระทบกระเทือนบางส่วนในสมอง
มันยังเป็นอันตรายถึงชีวิตด้วย
คุณหมอ ถอนใจ : ผมรู้ว่าคุณยังไม่ได้เตรียมใจ แต่เราเหลือเวลาไม่มากแล้ว



จุนซาง : ถ้าผมเข้าผ่าตัด แล้วผมจะรอดมั๊ยครับ
คุณหมอ : ตอนนั้นน่ะ เรายังบอกไม่ได้ ก้อนเลือดอยู่ในตำแหน่งที่เปราะบางมาก
แม้การผ่าตัดจะสำเร็จ แต่ก็อาจจะมี ไซด์เอฟเฟค
แต่เราก็ไม่อาจนิ่งนอนใจได้ คุณควรจะรีบเข้าผ่าตัดโดยด่วนเลยนะครับ
จุนซาง : ขอผมคิดดูก่อนนะครับ
คุณหมอ : คุณไม่มีเวลาให้คิดแล้วครับ นาฬิกาเริ่มเดินแล้ว คุณต้องตัดสินใจเสียเดี๋ยวนี้เลย



จุนซาง เดินออกมาจากห้องนั้น
คิดถึงคำพูดของคุณหมอ : ถ้าไม่ผ่าออกซะ ความดันจะส่งผลไปที่ดวงตา
และมีสิทธิ์ อาจทำให้ตาบอดได้
นอกจากกระทบกระเทือนบางส่วนในสมองแล้ว
มันมันเป็นอันตรายถึงชีวิตด้วย



จุนซาง ผลักประตูโรงพยาบาลออกมา



จุนซาง เดินไปตามถนนอย่างไร้จุดหมาย
เวลานี้ เรื่องร้ายๆที่ผ่านมาไม่มากพออีกหรืออย่างไร
ยังตามมาด้วยอาการที่เกิดภายหลังอุบัติเหตุอีกด้วยหรือ

จุนซาง ไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ต่อไปอีกแล้ว
จุนซาง ถามสายลมที่พัดผ่านมาก็ไร้คำตอบ
สายลม ยังมีเหตุผลที่โชยพัด
แต่ จุนซาง เองยังหาเหตุผลที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้
ความเจ็บปวดนี้ช่างเหมือนอุโมงค์ ที่ยาวและมืดลึก
มองไม่เห็นจุดจบ เอาเสียเลย



อาจารย์คิม กลับมานั่ง ครุ่นคิด ถึงเรื่องราว ที่เพิ่งรับรู้ อย่างแน่ชัดมา ใหม่ ๆ
ซังฮวก ก็เดินเข้ามา แม่บอกว่า ข้าวเช้าเสร็จแล้วลูก ไปเรียก พ่อมาสิ
ซังฮวก รับคำ
ซังฮวก กลับลงมา : พ่อเขาไม่อยู่นี่ครับ ออกไปไหนแต่เช้าเลยครับ
แม่ก็แปลกใจ : เขาไปไหนของเขา เช้านี้ไม่มีสอนนี่นา

อาจารย์ คิม ไปกดกริ่งที่หน้าบ้านของ จุนซาง แต่ไม่มีคนเปิดรับ
อาจารย์ คิม จึงจำต้องเดินกลับ ขณะเดินออกมานอกอาคารนั้น
อาจารย์ คิม ยังรู้สึก พะว้าพะวังในจิตใจ เหลียวกลับไปมองประตูอาคาร
กำลังยืนตัดสินใจอยู่นั้น
จุนซาง ก็เดินออกมาจากลานจอดรถ จะเข้าไปในตัวอาคาร
และเดินผ่านหน้าอาจารย์ คิม



จุนซาง เชิญ อาจารย์คิม กลับมาที่บ้านตัวเอง ยกน้ำชามาต้อนรับ : น้ำชา ครับ
แล้ว จุนซาง ก็ทรุดตัวลงนั่งตรงกันข้าม
อาจารย์คิม ที่นั่งก้มหน้าอยู่ บอกว่า : ขอบคุณนะ ขอบคุณมาก
ยกสองมือ ขยับถอดแว่นตา ท่าทางไม่ปกติ ใช้นิ้วมือลูบที่หัวตาเหมือนจะซับน้ำตา

จุนซาง เห็น กิริยา ของอาจารย์คิม ก็แปลกใจ : คุณคิม มีอะไรหรือเปล่าครับ
อาจารย์คิม ใส่แว่นตากลับเข้าที่ และมองหน้า จุนซาง เขม็ง
จุนซาง : คุณคิม ครับ



อาจารย์คิม ได้ยิน จุนซาง เรียกตนเอง ว่า คุณคิม
ก็รู้สึก ลำคอตีบตันขึ้นมาทันที : ไม่อยากจะเชื่อว่า ฉันไม่เคยเฉลียวใจมาก่อน เธอน่ะ หน้าเหมือนคุณปู่ของเธอมาก

ด้วยเหตุนี้เอง อาจารย์คิม จึงเคยสนใจ จุนซาง มากเป็นพิเศษ
แต่ ตนเองก็โง่ เสียจนไม่รู้ว่า จุนซาง เป็นลูกชายของตนเอง ทำให้เสียเวลาไปมากมาย

จุนซาง มอง อาจารย์คิมอย่าง งง งวย ว่า อาจารย์ คิม จะพูดเรื่องอะไรกัน
อาจารย์ คิม : ไม่น่าเชื่อว่าทำไมฉันไม่ฉุกใจคิด
ใช่ มิน่าในตอนแรก เธอถึงได้สนใจฉันนัก
จุนซาง : นี่คุณพูดเรื่องอะไรเหรอครับ คุณพูดเรื่องอะไรครับ



อาจารย์คิม มอง จุนซาง ไม่วางตา : จุนซาง เธอคือลูกชายของฉัน
ในที่สุด อาจารย์คิม ก็สารภาพ ความจริงที่น่าสะเทือนใจออกมาด้วยเสียงที่สั่นเครือ



ในที่สุด อาจารย์คิม ก็สารภาพ ความจริงที่น่าสะเทือนใจออกมาด้วยเสียงที่สั่นเครือ
จุนซาง ตกตะลึง กับคำบอกกล่าวนี้ ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจ
อาจารย์คิมพูดซ้ำ : จุนซาง เธอคือลูกชายฉัน
จุนซาง : อะไรนะครับ
อาจารย์คิม : ฉันเพิ่งรู้เมื่อวาน ฉันเพิ่งรู้จากโรงพยาบาล
ฉันไปหาแม่เธอมาแล้วด้วย เธอน่ะไม่ใช่ลูกของ ฮุนโซ เธอคือลูกฉัน




อาจารย์ คิม : ขอโทษ พ่อขอโทษนะ จุนซาง
แล้ว อาจารย์คิม ก็นั่งร้องไห้
อาจารย์ คิม ร้องไห้ ด้วยความสำนึกผิด
เพราะเข้าใจในความรู้สึก ทุกข์ทรมาน ที่จุนซาง เคยได้รับมาโดยตลอด



จุนซาง นึกไปถึงเหตุการณ์ เมื่อ สิบปีที่แล้วขึ้นมาทันที

ตนเองเคยไปแอบดู อาจารย์ คิม ที่กำลังสอนวิชาคณิตศาสตร์ ที่หน้าชั้นเรียน
อาจารย์ คิม เคยพูดว่า : ความอยากรู้และจินตนาการ

จุนซาง ที่เคย บอก อาจารย์ คิม ว่า : ผมมาตามหาใครบางคน เพราะความอยากรู้และจินตนาการ



แล้ว ก็ถูกขัดจังหวะ โดยเสียงเรียก พ่อครับ ของ ซังฮวก
และ อาจารย์คิม มัวหันไปสนใจ ซังฮวก
จุนซางในครั้งนั้น จึงหมุนตัวกลับ




และอีกครั้ง ที่จุนซาง ไปหา อาจารย์คิม
ถามอาจารย์ คิมว่า : ผมอยากรู้ว่า คุณเคยเป็นอะไรกับ คัง มุยฮี ครับ



และ อาจารย์ คิม ตอบ จุนซาง ในครั้งนั้นว่า : ฉันน่ะเคยหลงรักเขา



จุนซาง ขับรถ ไปหาแม่ ด้วยสีหน้าเจ็บปวดร้าวรานใจ กับเรื่องราวที่ได้รับรู้มา

พ่อ ที่อยากพบมานานแสนาน นั้น
อันที่จริง พ่อ ก็อยู่ใกล้ แค่นี้เอง
พ่อ ที่ได้พบมาแล้วตั้ง สิบปี



เมื่อพบแม่ จุนซาง ก็ถามแม่ว่า : ทำไมต้องโกหกผม บอกผมสิ ทำไมถึงต้องบอกผมว่า พ่อผมตายแล้ว
คัง มุยฮี กับ ประโยค เดิมๆ : แม่เสียใจ แม่ขอโทษ นะ จุนซาง
จุนซาง : เสียใจเหรอครับ พอตอนนี้ แม่จะมาบอกว่าเสียใจเหรอ
แม่ ทำให้ ผมกับ ยูจิน ต้องหัวใจสลาย
แล้วแม่ก็ชดเชยด้วยคำขอโทษ คำเดียวน่ะเหรอ

จุนซาง เสียงดังด้วยอารมณ์หลากหลาย ที่ประเดประดังกันเข้ามา ด้วยเรื่องราวทั้งหลายที่ถาโถมเข้ามาหา
เมื่อ จุนซาง เห็น พ่อร้องไห้อยู่ตรงหน้า
จุนซาง แทบไม่เชื่อกับสิ่งที่พ่อบอก
เมื่อไรหนอ เรื่องราว จะยุติเสียที ทำไมเรื่องราวถึงได้สลับซับซ้อนอย่างนี้
คำขอโทษของแม่ แล้วทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิมได้ไหม
แม่ที่รู้เรื่องราวต่างๆมากกว่าคนอื่น



สำหรับ คัง มุยฮี นี่เป็นเรื่องที่น่าอับอาย
หาก ควักหัวใจของ แม่ ออกมาให้ จุนซาง ดูได้ คัง มุยฮี ก็อยากจะทำ
เพราะความดื้อดึงในอดีต
ทำให้ คัง มุยฮี มีความสัมพันธ์เพียงชั่วคืนเดียว กับ คิม จินวู ชายที่ตนเองไม่ได้รักเลยแม้แต่น้อย
ในช่วงนั้นหากว่าความจริง ปรากฏ
คัง มุยฮี ก็ไม่รู้ว่า จะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไรได้




คัง มุยอี ร้องไห้ : แม่อยากคิดว่าลูก คือลูกของ ฮุนโซ จริงๆ
ไม่ว่าความจริงจะเป็นอย่างไร
แม่อยากเชื่อว่าลูก คือลูกของเขา
แม่เลยเรียกลูกมาตลอด เหมือนลูกเป็นลูก ของ ฮุนโซ
เป็นทางเดียวที่แม่จะมีชีวิตอยู่ได้ แม่จะได้ไม่คิดที่จะทิ้งลูก
แม่ผิดไปแล้ว จริงๆ
จุนซาง แม่ ขอโทษจริงๆ
จุนซาง มองแม่ น้ำตาหลั่งไหล หัวใจเจ็บปวดรวดร้าว ทุกข์ทรมานจนตัวสั่นเทาอยู่ตรงหน้าแม่..
แม่ ที่ พร่ำพูด คำว่า แม่ขอโทษ
สำหรับ ในความเป็นแม่แล้ว....นี่เป็นแม่ ที่เห็นแก่ตัวมาก...



ยูจิน ไปหาซังฮวก ที่สถานีวิทยุ เพื่อไปบอกว่า ยูจิน จะไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส
ซังฮวก : ฉันละอิจฉา เธอจริงๆ บางทีฉันน่าจะไปเรียนต่อกับเธอด้วยนะ
ยูจิน : แล้วใครจะเป็นคนดูแลรายการของเธอต่อล่ะ
ซังฮวก หัวเราะ และถามว่า : เธอ บอกแม่เธอรึยังล่ะ
ยูจิน : บอกแล้ว ตอนแรกแม่ก็คัดค้าน แต่ในที่สุด แม่ก็ยอม ฉันบอกแม่ว่า ฉันอยากจะเริ่มต้นใหม่ ฉันอยากจะเริ่มต้นใหม่แต่แรก ฉันไม่อยากมองย้อนกลับไป ฉันอยากมองไปข้างหน้าเท่านั้น แม่ฉันน่ะ ร้องไห้ไม่หยุดเลย

ซังฮวก : ท่านคงเสียใจที่เธอต้องไป ท่านคงเป็นห่วงเธอมาก ไม่ต้องห่วงหรอกนะ ฉันจะหมั่นไปเยี่ยมท่านบ่อยๆ
ซังฮวก เดินออกมาส่ง ยูจิน : นี่ ยูจิน ถ้าเกิดฉันตามไปเยี่ยมเธอเนี่ยะ เธอจะให้ฉันค้างด้วยไหม
ยูจิน : มันแน่นอนอยู่แล้ว
ยูจิน กลับไปแล้ว
เพื่อน ดีเจ ของ ซังฮวก เมื่อรู้ว่า ยูจิน จะไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส ก็ ทักท้วง ซังฮวก : นี่คุณ คิม อย่าให้เขาไปเชียวนะ คุณยังลืมเขาไม่ได้นี่นา
ซังฮวก : มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอก
ดีเจ คว้ามือซ้ายของซังฮวกขึ้นมา : แล้วนี่อะไรล่ะ
ที่นิ้วนางของซังฮวก ยังคงสวมแหวนหมั้น มาตลอดเวลา
ดีเจ : ผมไม่รู้ตื้นลึกหนาบางหรอกนะ แต่ ยูจิน น่ะเพิ่งผ่านเรื่องร้ายๆมา คุณน่าจะได้ ดูแล ปกป้องเขาซี่ จะทนอยู่ห่างๆกันได้ยังไง คุณ จะต้องเสียใจแน่ๆ ถ้าคุณปล่อยเขาไปแบบนี้ คุณไม่ควร ปล่อยให้คนที่คุณรักจากไป นี่แหละที่ผมคิด
แล้ว ดีเจ ก็ลุกออกไป

ความเสียดายคืบคลานเข้ามาในใจของ ซังฮวก
ความเสียดายที่ว่า จำต้องปล่อย ยูจิน จากไป ได้ก่อตัวเป็นระลอกคลื่นขึ้นอีก
จนบัดนี้ ซังฮวก ก็ยังไม่อาจลืม ยูจิน ได้เลย

ค่ำแล้ว

จุนซาง มาเดิน อยู่หน้า อพาร์ทเม้นท์ ของ ยูจิน
หลังจาก แยกกับแม่แล้ว จุนซาง ก็ทะยานมาหา ยูจิน
เมื่อรู้แล้ว ว่าไม่ใช่พี่น้องกัน จุนซาง กับ ยูจิน ก็กลับมารักกันใหม่ได้
จุนซาง มาเดินวนอยู่นานแล้ว ได้แต่แหงนมองแสงไฟในห้องของ ยูจิน


ยูจิน และ จินซุก นอนคุยกันบนเตียง
ยูจิน บอก จินซุกว่า : เธออยู่ต่อที่นี่ได้ จนกว่าเธอจะแต่งงาน
จินซุก : ไม่มีทางได้แต่งหรอก แฟน ยังหาไม่เลย
ยูจิน : ได้แต่งแน่ ก็ ยงกุ๊ก ไง
จินซุก เขิน ยูจิน : จะบ้าหรอ
แล้ว ก็ทุบ ยูจิน ไปหลายที จินซุก เสนอว่า น่าจะจัดงานเลี้ยงส่ง ยูจิน
นัดเพื่อนๆ มากินข้าวกัน ซังฮวก ยงกุ๊ก แชรีน และก็ จุนซาง

แล้ว จินซุก ก็นึกได้ เมื่อพูดถึง จุนซาง : ฉันเผลออีกแล้ว ขอโทษนะ ยูจิน
ยูจิน หน้าตาเศร้าหมองไปทันที แต่ก็ปลอบใจ จินซุกว่า : ไม่เป็นไรหรอก

เสียงโทรศัพท์ ดังขึ้น แล้ว ยูจิน ก็ลงมาข้างล่าง มองหาเจ้าของเสียงโทรศัพท์
ซังฮวก เดินเข้ามาหา ยูจิน ยูจิน ถามว่า : มีเรื่องอะไรเหรอ
ซังฮวก มอง ยูจินอย่างจริงจังเคร่งขรึม
รวบรวมกำลังใจของตัวเอง แล้วก็บอก ยูจิน ว่า : เรามาเริ่มต้นกันใหม่ได้มั๊ย
ยูจิน มอง ซังฮวก นิ่ง

ที่ใกล้ต้นไม้ มีใครคนหนึ่งที่ยืนอยู่กำลังตกใจ กับคำพูดประโยคนี้ของ ซังฮวก

เป็น จุนซาง ยืน อยู่ใกล้ๆ นั่นเอง

Scene-19: Father and a son

In front of father's tomb:

Yoo-jin : Dad ... I had a dream ... Jun-sang and I came here together ...to see you ... We had a drink together, too ... We came and showed you how close we were ... The two of us for a long time ...maybe the reason I loved him so much ... It's because we were the same from the start, right? That's why, right, Dad? So then I shouldn't have dreams like that anymore ... right, Dad?

Bid farewell:

Jun-sang : Yoo-jin, I'm sorry ... I didn't want you to find out ...I wanted to protect you ...

Yoo-jin : You should've tried harder. It would've been better if we broke up without knowing.
Jun-sang :Are you ... Are you OK?
Yoo-jin : What about you? Jun-sang, I love you ... I loved you up to now, and I'll love you in the future, too. Is it bad for me to love you now? Is it?
Jun-sang : No, it's not bad.
Yoo-ji n : Yeah, i's not bad. I'm going to think that it's not bad. No matter what anybody says, I'm not ashamed or embarrassed of my love. I'm not ashamed ... I got tingles over it ... I got excited over it ... There were hard times, too ... Do you know they are all precious memories to me ... Jun-sang, I really love you. Remember that ... Jun-sang I'm going to remember everything. My memories belong to me, so I'm going to remember every single one of them. So will you remember me, too? Just remember me. I'll possess our memories until I die, OK?
Jun-sang :OK. I'll remember you. No matter what ... I won't forget you. I'll remember.
....
Yoo-jin : Let's promise one more thing. Let's not look back at each other when we walk away. I don't my last memory of you to be your back.

Father:

Kim Jinwoo : I'm surprised that I didn't know all along. You look so much like your grandfather ... I'm surprised that I didn't realize all along. Yes ... I guess that's why you left a strong impression with me from the start ... Jun-sang ... You're my son! .... I found out yesterday at the hospital. I confirmed it with your mother, too. You're not Hyun-soo's son. You are my son. I'm sorry ... I'm sorry, Jun-sang.


Amornbyj@Copyright