15.11.09

[Digress] A Walk to Remember ; ก้าวรักในรอยจำ [The Best Movie & Novel]



A walk to remember : ก้าวรักในรอยจำ

A walk to remember เป็นผลงานอีกเรื่องของ Nicholas Sparks นักเขียนนวนิยายโรแมนติกที่ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุด และผลงานของเขาถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตรหลายต่อหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Message in a bottle , Notebook รวมถึง A walk to remember ที่ล้วนแต่ถ่ายทอดเรื่องราวของความรักในหลากหลายมุมให้ได้ชมและสัมผัสถึงความรู้สึกของคำว่า "รัก" อย่างนุ่มนวล

A walk to remember (Novel)

A Walk to Remember is a novel by American writer Nicholas Sparks, released in October 1999. The novel, set in the mid-1950s in Beaufort, North Carolina, is a story of two teenagers who fall in love with each other despite the disparity of their personalities. A Walk to Remember is adapted in the film of the same name.

The novel was published in the fall of October 1999 in hardcover print, and later in paperback edition. It spent nearly six months in the best-seller list on hardcover, and an additional four months on paperback.

The novel received mixed reviews from critics. The Sunday New York Post holds that it "never fails to be interesting, touching, at times riveting ... a book you won't soon forget".African Sun Times echoes the former's comments, saying, "A remarkable love story that, like its predecessors, will touch the hearts of readers everywhere." New York Daily News compliments Sparks, commenting that he "has written a sweet tale of young but everlasting love, and though he's told us to expect both joy and sadness, the tears will still come". Clarissa Cruz of Entertainment Weekly, however, panned the novel, saying, "With its cliche-riddled prose and plot twists that can be predicted after skimming the prologue, Nicholas Sparks' latest, A Walk To Remember, reads more like the script for a bad after-school special than anything approaching literature." Although the novel is number 12 on their list of 1999 Bestsellers Fiction, Publishers Weekly described it as "a forced coming of age story" and "the author's most simple, formulaic, and blatantly melodramatic package to date"




A walk to remember ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ เมื่อปี 2003 โดยได้นักร้องสาวชื่อดังอย่าง Mandy Moore เป็นดาราแสดงนำ หลายคนหลงรักเรื่องนี้ รวมถึงผู้เขียนด้วย แต่เมื่อมีโอกาสได้อ่านหนังสือฉบับแปลที่ถ่ายทอดด้วยฝีมือของคุณจิระนันท์ พิตรปรีชา กับชื่อภาษาไทยสวยเก๋ ว่า "ก้าวรักในรอยจำ" ทำให้รู้สึกว่าความประทับใจจากภาพยนตร์ก็ยังไม่เท่ากับการได้อ่านผ่านตัวอักษร ที่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกและบรรยากาศได้งดงามตามแต่ที่จินตนาการจะพาไป

แลนดอน คาร์เตอร์ ชายชราวัย 57 ปี ย้อนนึกถึงอดีตเมื่อสี่สิบปีที่แล้ว ที่เขายังไม่เคยลืม เขาจึงพาผู้อ่านก้าวข้ามผ่านเวลาแห่งความทรงจำไปสัมผัสกับความรักของเขาที่มีต่อหญิงสาวคนหนึ่ง หญิงสาวที่เขาไม่เคยคิดจะรัก แต่ความทรงจำเกี่ยวกับหญิงสาวคนนี้กลับฝังอยู่ในความทรงจำของเขาอย่างแนบแน่น แม้เวลาจะล่วงผ่านมานานแล้ว

เธอชื่อ เจมี่ ซัลลิแวน ลูกสาวของสาธุคุณนักเทศก์ประจำโบสถ์แบ๊ปติสท์ เธอถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดสำหรับโรงเรียน รวมถึงเขาเองก็เห็นเช่นนั้น เพราะตั้งแต่เธอเรียนมา เธอไม่เคยทำตัวเหมือนเด็กวัยรุ่นคนอื่น ๆ ไม่แต่งตัวตามแฟชั่น สิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอ เธอจะถือคัมภีร์พระคริสต์ธรรมติดตัวไปทุกที่

จนเขาได้มีโอกาสรู้จักเธอมากขึ้นในชั้นเรียนการละคร เขาจึงพบว่าเจมี่ก็เป็นเหมือนเด็กสาวอื่น ๆ ที่มีความฝัน แต่ความฝันของเจมี่กลับเป็นการที่ได้ทำประโยชน์ให้แก่เด็กกำพร้า เธอมักจะใช้เวลาว่างไปขลุกอยู่กับสถานเด็กกำพร้ามากกว่าจะไปนั่งทานอาหารตามร้านfast food อย่างเด็กคนอื่น เธอมักชอบช่วยเหลืองานของคนในหมู่บ้านเป็นประจำหากมีโอกาสที่จะอำนวย เธอออกจะเป็นที่รักใคร่และเอ็นดูของพวกผู้ใหญ่เอาซะมาก ๆ ซึ่งตรงข้ามกันกับที่โรงเรียน ที่เธอไม่ค่อยมีเพื่อนมากซักเท่าไหร่ เธอชอบที่จะพูดพร่ำคำสอนพระคริสต์ธรรมในวงสนทนา ส่วนตัวเขาเองนั้นแม้จะเริ่มจะชื่นชมเจมี่อยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่อยากไปไหนมาไหนกับเธอมากนัก เพราะเขาอายถ้าเกิดมีเพื่อน ๆ ในโรงเรียนมาเห็นเขาอยู่กับเจมี่

ในงานโฮมคัมมิ่งที่กำลังจะมีขึ้นในอีกไม่กี่วัน งานที่จัดขึ้นเพื่อให้นักเรียนที่กำลังจะจบการศึกษาในปีนี้ได้เฉลิมฉลองกัน ซึ่งแต่ละคนก็ต้องหาคู่ควงมาร่วมงานด้วย เหลือเพียงแลนดอนที่ยังไม่สามารถหาคู่มาร่วมงานได้ เจมี่คือผู้หญิงคนสุดท้ายที่เขาจะชวน เขาคิดในใจว่าเธอคงไม่อยากมาแน่ แต่ทุกอย่างผิดคาด เธอตอบรับเขา สร้างความแปลกใจให้เขาไม่น้อย

หลังจากงานผ่านพ้นไป เขาก็สนิทกับเธอยิ่งขึ้นจากการที่เขาและเธอต้องร่วมแสดงละครประจำปีด้วยกัน ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นโดยที่เขาเองไม่รู้ตัวเลย จนวันแสดงละครมาถึง หญิงสาวที่เฉิ่มเชย มาวันนี้กลับกลายเป็นคนละคน เธอดึงดูดสายตาคนนับร้อยในโรงละครให้หยุดมองด้วยความตื่นตะลึง ณ วินาทีนั้น เขาเพิ่งรู้ว่าตัวเองรู้สึกกับเจมี่มากเพียงไหน

หลังจากนั้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ เขาให้เสื้อเสวตเตอร์ตัวใหม่แก่เธอเป็นของขวัญวันคริสต์มาส เพียงเพื่อหวังว่าเธอจะได้ใส่มันแทนชุดเชย ๆ ชุดนั้น และเธอก็ให้พระคริสต์ธรรมเล่มนั้นแก่เขาเป็นของขวัญเช่นกัน พระคริสต์ธรรมเล่มนั้นก็คือเล่มที่เธอถือติดตัวไปไหนต่อไหน เขาเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่า มันมีความสำคัญต่อเธอมากเพียงใด เพราะมันเป็นสมบัติชิ้นเดียวที่แม่เธอทิ้งไว้ให้เธอ เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกว่าถึง แม่จะสิ้นลมไปแล้ว ก็จะมีแม่อยู่ข้าง ๆ เธอเสมอ

ก่อนวันขึ้นปีใหม่ เขาตัดสินใจไปรับเธอไปทานข้าวในร้านอาหารหรู เป็นเวลาที่เขามีความสุข และเขารู้ว่าเขาตกหลุมรักเธอเข้าแล้ว เขาเทียวไปเทียวมาหาเจมี่บ่อยขึ้น เธอเองก็ดูจะสดชื่นที่ได้เจอเขออยู่ทุกวัน แม้ว่าระยะหลังเธอจะดูซูบลงไปบ้าง แต่เขาก็ไม่เอะใจอย่างใด จนเมื่อวันที่เขาบอกรักเธอ ก็ดูเหมือนว่าร่างของเขาได้ร่วงหล่นลงไปยังหุบเขาที่ลึกที่สุด

มันเป็นเรื่องยากสำหรับเขาเมื่อรู้ว่าคนที่ตัวเองมอบหัวใจทั้งหมดให้แล้วกำลังจะจากโลกนี้ไป เธอป่วยหนักและจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน นี่คือสิ่งที่เธอบอกเขา... เขาคิดว่ามันไม่ยุติธรรมเลยที่เขากำลังมีความรัก แต่กลับกำลังจะสูญเสียมันไป

แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะเลือกใช้เวลาที่เหลืออยู่รักเธอ และดูแลเธออย่างใกล้ชิด เขาพยายามทำทุกอย่างให้เธอมีความสุขเท่าที่เขาจะทำได้ เจมี่เริ่มผอมลงทุกวันจนเธอไม่สามารถเดินไปไหนไกล ๆ กับเขาได้แล้ว คงได้แต่นอนอยู่แต่ในบ้าน เขาก็มาเฝ้าเธอ และครุ่นคิดว่าเขาจะทำอะไรเพื่อหญิงที่เขารักได้บ้าง ต้องทำได้มากกว่านี้

จนในที่สุดเขาตัดสินใจขอเธอแต่งงาน เพราะรู้ว่าเป็นความฝันของเธอที่ฝันอยากแต่งงานและเป็นภรรยาที่ดี เขาทำฝันนั้นให้เป็นจริง เธอในชุดเจ้าสาวแม้ว่าจะไม่สวยงามเหมือนในวันแรกที่เธอแสดงละครบนเวที แต่แววตาของเธอในวันนั้นและวันนี้ไม่ได้ต่างกัน ดวงตาเปื้อนรอยยิ้มของเธอ พิธีแต่งงานจัดขึ้นในโบสถ์มีคนในหมู่บ้านมากมายที่รู้ข่าวมาร่วมงานจนล้นโบสถ์ แม้เธอจะต้องนั่งอยู่ในรถเข็นผู้ป่วย แต่เธอก็มีความสุขเหลือเกินที่ได้เห็นความฝันของตัวเอง และได้อยู่กับเขาจนวันสุดท้ายของเธอ...

http://en.wikipedia.org/wiki/A_Walk_to_Remember_(novel)



Only Hope : Mandy Moore
[A Walk to Remember Ost.]
There's a song that's inside of my soul
It's the one that I've tried to write
Over and over again
I'm awake in the infinite cold
Would you sing to me
Over and over and over again?
So I lay my head back down
And I lift my hands and pray
To be only yours
I pray to be only yours
I know now you're my only hope
Sing to me the song of the stars
Of your galaxy dancing and laughing and laughing again
When it feels like my dreams are so far
Sing to me all the plans that you have for me
Over again
So I lay my head back down
And I lift my hands and pray
To be only yours
I pray to be only yours
I know now you're my only hope
I gave my destiny
I'll give you all of me
I want your symphony
Singing in all that I am
At the top of my lungs
I'm giving it love
So I lay my head back down
And I lift my hands and pray
To be only yours
I pray to be only yours
I pray to be only yours
I know now you're my only hope

No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.