15.12.09

[HK Movie] Interview actors & actresses of Storm Warriors



คุยเรื่องหนังไปแล้วอยากให้ได้อ่านบทสัมภาษณ์นักแสดงกันอีกนิดนะคะ นี่เป็นการสัมภาษณ์ขณะที่กองถ่ายมาปักหลักถ่ายทำในเมืองไทย มาดูกันว่าพวกเขาคิดอย่างไรบ้างกับการมาทำงานในเมืองไทย ดูแฮปปี้กันดีแท้ทั้งเรื่องเที่ยวเรื่องกิน ถึงจะบ่นว่าร้อนๆ ก็ตามทีค่ะ



[บทสัมภาษณ์จาก Asian Plus Vol.35
ขอขอบคุณ sanook.com ค่ะ]


วันนี้มีคิวสัมภาษณ์นักแสดงนำจากภาพยนตร์เรื่อง ฟงอวิ๋น 2 หลังจากที่ลงทะเบียน กินน้ำ กินขนมแล้วก็นั่งรอนักแสดง เพราะดูเหมือนว่ายังแต่งตัวกันไม่เสร็จ วันนี้ก็มีนักข่าวจากหลายประเทศไม่ว่าจะเป็น จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง แล้วก็ไทย รอได้สักพัก เขาก็เชิญบรรดาช่างภาพและนักข่าวไปถ่ายสถานที่ถ่ายทำและฉากต่อสู้ ก็กินเวลาไปเกือบชั่วโมง อากาศวันนั้นร้อนสุดๆ แต่ก็ไม่มีใครถอย แถมบรรดานักแสดงก็ใส่เสื้อผ้าซะเต็มยศกันเลย


ประมาณบ่าย 3 โมงก็กลับมาที่โกดัง และตอนนี้ก็เป็นช่วงที่ทุกคนรอคอย นั่นก็คือการสัมภาษณ์นั่นเอง และการให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้เขาจะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มด้วยกัน คือจาก จีน สิงคโปร์กับมาเลเซีย ฮ่องกง แล้วก็ไทย ที่เขาจัดแบบนี้ก็เพื่อเป็นการสะดวกต่อการให้สัมภาษณ์ เพราะเอาเข้าจริงงานนี้ก็มีดารามากันเพียบเลย ไม่ว่าจะเป็น กัวฟู่เฉิง, เจิ้งอี้เจี้ยน, อาซา, ถังเหยียน, เยิ่นต๊ะหัว, เซี่ยะถิงฟง และ เหอเจียจิ้ง และดาราที่ให้นักข่าวไทยสัมภาษณ์เป็นกลุ่มแรกก็คือ เจิ้งอี้เจี้ยน กับ อาซา


รู้สึกยังไงที่ได้มาเล่นหนังเรื่องนี้ แล้วเมืองไทยเป็นยังไงบ้าง ?
อาซา : ดีใจมากเลยค่ะ ที่ได้มาเล่นหนังเรื่องนี้ ก็คือเป็นที่รู้จักอยู่แล้วว่าหนังเรื่องนี้ภาคที่แล้วนั้นดังมาก แล้วก็สร้างมาจากการ์ตูนดัง พอได้มาเล่นก็รู้สึกภูมิใจมากๆ แล้วอีกอย่างได้มาถ่ายที่เมืองไทยด้วย ชอบเมืองไทยมาก เวลาถ่ายเสร็จก็ได้ไปเที่ยวด้วย



เจิ้งอี้เจี้ยน : สิ่งแรกก็คือ ภาคแรกนั้นห่างจากภาคนี้มาก็ 10 ปีแล้ว แล้วหนังเรื่องนี้ก็ถือได้ว่าเป็นหนังเรื่องแรกๆ ที่ใช้ CG เยอะมา แต่ตอนนี้ระบบและ CG ก็ทันสมัยมากขึ้นด้วย มันเป็นอะไรที่น่าติดตามมาก ชอบเมืองไทยนะ ตอนถ่ายเรื่องนี้ก็สนุกมาก แต่ถ้าอากาศร้อนอย่างวันนี้ ต้องถ่ายข้างนอกคงจะร้อนแย่เลย

มาเมืองไทยตั้งนานพูดภาษาไทยได้บ้างหรือเปล่า ?
อาซา : ร้อนมากๆ อย่าลืมไปดู ฟงอวิ๋น นะคะ ( หัวเราะ )
เจิ้งอี้เจี้ยน : ฉันก็รู้ เข้าใจ

ประทับใจอะไรในเมืองไทยบ้าง ?
อาซา : อาหารไทย อาหารทะเล เพราะว่าสามารถสั่งให้ทำอาหารได้หลายอย่างดี
เจิ้งอี้เจี้ยน : ชอบเดินห้างฯ แล้วก็ดูผู้หญิงสวยๆ ( หัวเราะ ) [ไม่ทิ้งนิสัยเดิมเลยนะเฮียนะ]

มีอะไรฝากถึงแฟนๆ กันบ้างมั้ย ?
เจิ้งอี้เจี้ยน : เมื่อ 10 ปีที่แล้ว หนังเรื่องนี้ดังมาก แต่ว่าภาค 2 ถ้าไม่ได้ดูก็น่าเสียใจนะครับ


กลุ่มต่อมาเป็น กัวฟู่เฉิง กับนักแสดงสาวจากจีน ถังเหยียน พอมาถึงปุ๊บ เฮียกัวฟู่เฉิง ก็เล่นพูดภาษาไทยเอาใจกันก่อนเลย .....

กัวฟู่เฉิง : สวัสดีครับ แฟนๆ ทุกคน ผมคิดถึงคุณ ผมรักคุณ ( ใครสอนเนี่ย น่ารักมากๆ ) [น่ารักมานานแล้วจ้ะ]
ถังเหยียน : สวัสดีค่ะ ฉันรักคุณ

ความรู้สึกในการถ่ายทำหนังเรื่องนี้เป็นยังไงบ้าง ?
ถังเหยียน : รู้สึกว่าร้อนมาก ( หัวเราะ ) แต่ความรู้สึกในใจก็คือ ดีใจที่ได้ร่วมงานกับทุกคน ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมาย และก็ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหนังเรื่องนี้
กัวฟู่เฉิง : ร้อนมากๆ หิวมากๆ ( หัวเราะ ) ดีใจที่ได้ทำงานในหนังเรื่องนี้อีก เวลาทำงานก็สนุกมากๆ ก็เลยคิดว่าจะพยายามทำงานให้ดีที่สุด เพื่อให้คนดูพอใจ ผู้กำกับฯ พอใจ แล้วหนังเรื่องนี้ก็ใช้ Special Effect เยอะ ก็คิดว่าหนังก็ต้องออกมาสนุกแน่ๆ อยากให้ทุกคนได้ดูหนังกัน


ได้ไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง ?
ถังเหยียน : เกาะพีพี ภูเก็ต เพราะว่าอยู่ที่ปักกิ่งไม่ค่อยได้เจอทะเลเท่าไร ครั้งนี้ได้มาเที่ยวทะเล รู้สึกสบายแล้วก็ดีใจมาก
กัวฟู่เฉิง : ไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย ส่วนใหญ่ก็อยู่โรงแรม กองถ่าย แล้วก็ห้องออกกำลังกาย [ปกติเฮียก็ไม่ชอบออกไปไหนอยู่แล้วนี่นา]

ประทับใจอะไรในกองถ่ายเรื่องนี้ที่เมืองไทย ?
ถังเหยียน : ประทับใจที่ได้มาถ่ายที่เมืองไทย อาหารไทยอร่อยมาก แค่ข้าวในกองถ่ายก็รู้สึกเหมือนว่าได้มากินอาหารในภัตตาคารที่ปักกิ่งเลย อร่อยสุดๆ
กัวฟู่เฉิง : ชอบคนไทยมาก คนไทยใจดี ขอบคุณที่คอยดูแลครับ แล้วก็อาหารไทยอร่อยมาก ปกติแล้วผมเป็นคนที่ชอบกินเผ็ด ก็เลยชอบกินอาหารไทยเป็นพิเศษ [เน้นของกินกันทั้งคู่เลยนิ]

มีอะไรฝากถึงแฟนๆ บ้างมั้ย ?
กัวฟู่เฉิง : สวัสดีครับ อยากให้ทุกคนไปดูหนังเรื่องนี้ และก็ขอบคุณที่ทุกคนคอยสนับสนุน ขอบคุณครับ
ถังเหยียน : สวัสดีค่ะ เชื่อว่า ฟงอวิ๋น 2 เป็นหนังที่สนุกมาก ทีมงานและนักแสดงตั้งใจทำงานมากด้วย อยากให้ทุกคนไปดูค่ะ ขอบคุณค่ะ


และกลุ่มสุดท้ายที่เราสัมภาษณ์กันก็คือ นักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง เยิ่นต๊ะหัว, เหอเจียจิ้ง และนักแสดงหนุ่มสุดหล่อ เซี่ยะถิงฟง ขอบอกว่าฮามากๆ เพราะพี่แกจะคอยแซวกันเองตลอดเวลา [จับ Nicholas ไปรวมกลุ่มกับพวกคุณอาที่เป็นเพื่อนพ่อเลยนะเนี่ย Nicholas หรือเซี่ยะถิงฟงเป็นลูกชายของเฮียเซียะเสียนค่ะ]

ในหนังเรื่องนี้รับบทเป็นใครกันบ้าง ?
เซี่ยะถิงฟง : รับบทเป็น เจวี่ยซิน ลูกชายของ เจวี่ยอู๋เซิน ( ระหว่างนั้นก็มีเสียงของ เยิ่นต๊ะหัว ตะโกนบอกว่า "ลูกชายผมเองครับ" ) ในหนังเรื่องนี้จะดูเป็นผู้ร้ายครับ
เยิ่นต๊ะหัว : รับบทเป็น เจวี่ยอู๋เซิน คือความจริงแล้วเขาไม่ได้เป็นคนจงหยวน แต่เดินทางมาเพื่อที่จะประลองกับ อู๋หมิง อาจารย์ของ กัวฟู่เฉิง
เหอเจียจิ้ง : รับบทเป็น อู๋หมิง อาจารย์ของ กัวฟู่เฉิง


รู้สึกยังไงกับการทำงานในเมืองไทยบ้าง ?
เซี่ยะถิงฟง : ก็รู้สึกดีใจที่ได้มาทำงานในต่างประเทศ และก็เป็นครั้งแรกที่มาเมืองไทย ปกติเช้าก็มากองถ่าย ถ่ายเสร็จก็กลับไปนอน ( สักพักก็มีเสียงของ เยิ่นต๊ะหัว กับ เหอเจียจิ้ง พูดเป็นภาษาไทยว่า "ใช่แล้วครับ ใช่ๆ ถูกแล้วครับ ถูกต้องแล้วครับ" ตลอดเวลา ) พอมาทำงานได้แต่งตัวเป็น เจวี่ยซิน ปุ๊บก็รู้สึกว่าจะเป็นตัวนั้นทันที แล้วก็ดีใจที่ทีมงานมีรถตู้คอนเทนเนอร์เป็นของตัวเอง ดูเป็นส่วนตัวดี ผู้กำกับฯ ก็เอาใจใส่ดีครับ
เยิ่นต๊ะหัว : ผมรักคนไทย ผมมาเมืองไทยหลายครั้งแล้ว ชอบเมืองไทย ชอบคนไทย อาหารไทยก็อร่อย อย่าง สับปะรด, ข้าวผัด และเมื่อ 20 ปีที่แล้วผมมีโอกาสมาถ่ายหนังกับ สรพงษ์ แล้วก็ เนาวรัตน์ พวกเขาเป็นคนใจดีมากๆ
เหอเจียจิ้ง : คนไทยใจดีมาก เจอกันก็สวัสดี ไปไหนมาไหนก็ทักทายตลอด มากี่แล้วจำไม่ได้เหมือนกัน เพราะมาบ่อยมาก อย่างช่วงไหนไม่มีอะไรทำ ก็มาตีกอล์ฟบ้าง ว่ายน้ำบ้าง

ได้ทำงานกับผู้กำกับฯ แดนนี่ กับ ออกไซด์ แปง เป็นยังไงบ้าง ?
เซี่ยะถิงฟง : เป็นครั้งแรกที่ได้ทำงานกับ ออกไซด์ แปลกใหม่มาก ทุกครั้งที่ทำงานกับผู้กำกับฯ หนังแต่ละคนก็สามารถเรียนรู้และสอนอะไรหลายๆ อย่าง และถึงแม้ว่าอากาศร้อน แต่ทุกคนก็ใจดี ไม่เคยว่าอะไรเลย แค่มองตาก็รู้ใจแล้ว รู้สึกอิ่มเอมใจมากหลังจากที่ทำงานเสร็จ
เยิ่นต๊ะหัว : นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ทำงานกับ ออกไซด์ ไอเดียเยอะ ดูงานหลายอย่างของผู้กำกับฯ คนนี้ พอทำงานด้วยกันก็รู้สึกดีมาก
เหอเจียจิ้ง : เหมือนกันครับ

ทำไมถึงมารับเล่นหนังเรื่องนี้ ?
เซี่ยะถิงฟง : รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ท้าทาย อ่านบทแล้วคิดว่าเป็นบทที่น่าสนใจ ทีมโปรดักชั่นก็น่าสนใจ ท้าทาย และก็แปลกใหม่มาก

ชอบการแสดงแบบไหนมากกว่ากัน ระหว่างโบราณกับสมัยใหม่ ?
เซี่ยะถิงฟง : ไม่เคยแบ่งว่าจะชอบหนังพีเรียด หรือหนังสมัยใหม่ ส่วนใหญ่จะอ่านบทก่อน พอได้มาแต่งตัวก็จะทำให้อินกับบทมากขึ้น แค่อ่านบทแล้วเราชอบก็พอแล้ว


No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.