[Article] National Symbol - Korean Flag

แหม...น้องโจมาพูดถึงแทกึกกี (ธงชาติเกาหลี) งั้นขอลงบทความนี้เลยแล้วกันค่ะ (พี่ก็ว่าจะเก็บไว้หากินในโอกาสต่อๆ ไปนะเนี่ย เหอๆๆๆ เขียนไว้ตั้งแต่ตอนที่เห็นน้องคิมยูนาถือธงยิ้มร่า แต่ยังไม่ได้เอาลงซะที)...




While the Winter Olympic Games is take place in Vancouver, you can see often when the athletes showed their country’s flag after gained the victory. They showed their pride, their love, in their country through this symbolic. And of course, as Kim Yu Na, the talented female ice skater win many awards again this year, and she always show the Korean Flag so often. Do you know what is the meaning of all symbols on the flag? Let’s get to know more about Korean Flag together here.

The Korean flag is called Taegeukgi. Its design symbolizes the principles of the yin and yang in Asian philosophy. The circle in the center of the flag is divided into two equal parts. The upper red section represents the proactive cosmic forces of the yang. Conversely, the lower blue section represents the responsive cosmic forces of the yin. The two forces embody the concepts of continual movement, balance, and harmony that characterize the sphere of infinity. The circle is surrounded by four trigrams, one in each corner. Each trigram symbolizes one of the four universal elements: heaven, earth, fire, and water.



ธงชาติเกาหลีเรียกว่า “แท-กึก- กี” ออกแบบเป็นสัญลักษณ์ของหยินกับหยางตามหลักปรัชญาของชาวเอเชีย วงกลมที่อยู่ตรงกลางของธงแบ่งออกเป็นสองส่วน ด้านบนส่วนที่เป็นสีแดงเป็นตัวแทนของพลังหยาง* ส่วนด้านล่างที่เป็นสีน้ำเงินเป็นตัวแทนของพลังหยิน พลังทั้งสองสอดประสานเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดสมดุลและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับบ่งบอกถึงความเป็นนิรันดร์ วงกลมนี้ล้อมรอบด้วยสัญลักษณ์ทั้ง 4 ด้านในแต่ละมุม สัญลักษณ์แต่ละตัวแทนธาตุทั้ง 4 คือ สวรรค์ โลก ไฟ และน้ำ (สำหรับเรื่องราวความเชื่อเรื่องธาตุทั้ง 4 นั้นจะบรรจุอยู่ใน “ตำนานเกาหลี” ตอนที่เทพฮวางวุงเสด็จลงมายังโลกมนุษย์)

*ตามความเชื่อของลัทธิเต๋า พลังหยาง ถือเป็นพลังแห่งเพศชาย บ่งบอกถึงพลังอันร้อนแรง เข้มแข็ง สว่างสดใส อบอุ่น และมั่นคง ส่วนพลังหยิน ถือเป็นพลังแห่งเพศหญิง บ่งบอกถึงความเยือกเย็น สงบ อ่อนนุ่ม ความมืด ความลึกลับ ทั้งสองสิ่งต้องประสานกันเคลื่อนไหวสลับสับเปลี่ยนเพื่อให้เกิดความสมดุล เหมือนมีความมืดก็ต้องมีความสว่าง มีกลางคืนก็ต้องมีกลางวัน มีหญิงก็ต้องมีชายเป็นของคู่กัน