10.9.11

[Lyrics] Sad Story in 'Sweetness' from 'Tawan' Thailand music band.






เพลง "Sweetness"
ร้องโดย "พงษ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (วงตาวัน)"
ประพันธ์คำร้องโดย "Todd Lavelle "



...Sweetness...



Sweetness lived beyond the night, just behind my door.

A love you see, a friend to me, and everything more.

Once a child, twice the time, her laughs and tears soon became mine.

Run across the fields and days; “forever” we’d say.

Sweetness played the momma’s hand, I’d pretend the man.

Skipped the roadside, played the fieldside fantasies.

We had raced through school, to laughin’ fools; time was ours at every turn.

Up and under, rolled like thunder, we’d love to burn.

Na Na Na……..



Lassie comes to lady, sweetness comes to sorrow.

Faster than a stolen glance, the day becomes the morrow.

School days soon are family ways, the fire of youth is left in embers.

Sweetness swears she can still, still remember.

Chance and distance seperate us.

Somewhere comes the night.

In those eyes that once were candy, something just ain’t right.

A whisper here, a shout in fear, a husband’s voice can soon be heard.

Sweetness leaves me wonderin’ with no word.

Na Na Na…..



Shotgun blast, and soon the past is shattered with the night husband’s dead beyond the bed.

Sweetness out of sight, days of youth distort the truth.

I while away each aging hour, wonderin’ how sweetness turns to sour.

Sweetness lived, all there is, hurt on fire, no desire.

Sweetness goes, time sure knows, years and miles, steal the child.



-----------------------------------------------------


~ akkhanich : Thai Translation ~


น้ำหวาน/หวานใจ/แสนหวาน


น้ำหวานเคยใช้ชีวิตอยู่กับราตรีอันมืดมิดหลังประตูบ้านของฉันเอง
เธอเป็นที่รักของฉัน เธอเป็นเพื่อนของฉัน และทุกๆ สิ่งที่มากไปกว่านั้น
จากที่ครั้งหนึ่งเธอเคยเป็นเด็กตัวน้อยๆ แต่ต่อมาเธอก็เติบโตขึ้น
ต่อมาเสียงหัวเราะและน้ำตาของเธอ ก็ได้กลายมาเป็นเสียงหัวเราะและน้ำตาของฉันไปด้วย
เราวิ่งเล่นข้ามท้องทุ่งและวันเวลา ซึ่งเราคิดว่าอยากจะให้มันเป็นเช่นนั้นตลอดไป
น้ำหวานเคยเล่นบทเป็นแม่คน และฉันก็จะแสร้งเล่นเป็นคนรักของเธอ
เราเลี่ยงจากข้างถนนไปเล่นในท้องทุ่งอันงดงามราวกับความฝันที่เราเคยเล่นด้วยกัน
เราแข่งกันวิ่งไปโรงเรียน ทำตัวเหมือนคนบ้าที่หัวเราะกันอย่างไร้สาระเรื่อยเปื่อย
วันเวลาได้เป็นของเราในทุกๆ โมงยาม
เราเคยกระโดดขึ้นๆ ลงๆ หมุนตัวไปมาราวกับสายฟ้า
เราพร้อมที่จะใช้ชีวิตนี้อย่างเต็มที่ไปเลย


จากเด็กน้อยกลายเป็นหญิงสาว แล้วความเศร้าโศกก็เข้ามาเยือนชีวิตของน้ำหวาน
เวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว เหลือบมองเพียงแว่บเดียว วันนี้ก็หลายเป็นพรุ่งนี้ไปเสียแล้ว
ช่วงเวลาที่เคยไปโรงเรียนได้กลายเป็นช่วงเวลาของชีวิตครอบครัว
ไฟแห่งวัยเยาว์ถูกทอดทิ้งให้เป็นเพียงเถ้าถ่านที่กำลังจะมอดลง
น้ำหวานสาบานว่าเธอยังคงจำวันเวลาที่ผ่านไปนั้นได้
โอกาสและระยะทางได้แยกเราจากกัน
ในบางแห่งหนราตรีอันมืดมิดก็เข้ามาเยือน
ในดวงตาคู่นั้นที่เคยหวานหยดเหมือนลูกอม เริ่มมีบางสิ่งที่ไม่ถูกต้องเกิดขึ้น
เสียงกระซิบดังเหมือนเสียงร้องตะโกนด้วยความหวาดกลัว เราได้ยินเสียงเรียกจากสามีของเธอ
น้ำหวานผละจากฉันไป ทำให้ฉันสงสัยมึนงง จนพูดอะไรไม่ออก


เสียงปืนยาวดังขึ้น และต่อมาภาพอดีตดีๆ ที่เคยมีก็ถูกทำลายลงไปอย่างไม่มีชิ้นดีในราตรีอันมืดมิด
เหลือไว้เพียงร่างของสามีนอนตายอยู่ข้างเตียง
ส่วนน้ำหวานก็หายตัวไป ช่วงเวลาแห่งวัยเยาว์ได้บิดเบือนความจริงแห่งชีวิต
ฉันใช้เวลาทุกๆ โมงยามของวัยที่แก่ลงไปทุกที
ครุ่นคิดว่าความหวานรักที่แสนหวานซึ้ง ได้กลายเป็นความเปรี้ยวหรือขมขื่นขึ้นได้อย่างไรกัน
เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า.....น้ำหวานเคยใช้ชีวิตอยู่ที่นี่
ท่ามกลางความทุกข์ทน...โดยปราศจากความหวังใดๆ
น้ำหวาน(ในวัยเยาว์)ได้จากไปแล้ว....กาลเวลาเท่านั้นคือผู้ที่รู้ดีที่สุด
กาลเวลาอันแสนเนิ่นนานและระยะทางอันแสนไกล....คือผู้ที่ขโมยเด็กน้อย(ที่ไร้เดียงสา)คนนั้นไป


------------------------------------------------





No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.