Winter Love Song [เบยองจุน] : กิมจิซีรี่ส์ฟีเวอร์
ซีรีส์เกาหลีเพลงรักในสายลมหนาว หรือ Winter Love Song กลับมาฉายอีกครั้ง ถึงแม้จะเป็นตอน 11 โมง วันธรรมดา แต่บรรดาแฟนๆ ซีรีส์เกาหลีคงดีใจอยู่ไม่น้อย ที่จะได้ชมกันเต็มๆ อีกซักที มาพูดแบบนี้ ไม่ได้ต้องการจะมาโปรโมตซีรีส์เรื่องนี้แต่อย่างใดนะคะ แต่อยากเล่าถึงความแรงของ Winter Love Song จนทำให้เกิดกระแสวัฒนธรรมใหม่ๆ
ซีรีส์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นที่ชื่นชอบของแฟนละครเกาหลีในบ้านเราเท่านั้น แต่สาวๆ ในหลาย ประเทศ ทั้งจีน ฮ่องกง และญี่ปุ่น ต่างก็คลั่งไคล้ซีรีส์เรื่องนี้ไม่แพ้กัน
Winter Love Song หรือที่รู้จักในอีกชื่อคือ Winter Sonata เป็นที่ชื่นชอบถึงขั้นได้รับการโหวตจากผู้ชมชาวญี่ปุ่นให้เป็นสุดยอดละครต่างประเทศแห่งปี และสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค ถึงกับนำซีรีส์เรื่องนี้มาออกอากาศซ้ำถึง 4 ครั้งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พ็อกเกตบุ๊กของซีรี่ส์เรื่องนี้ ตอนนี้ขายได้จะเกือบ 1 ล้านแล้ว นอกจากนี้ สถาบันวิจัยสื่อมวลชนของญี่ปุ่นอย่าง The NHK Broadcasting Culture Research Institute ถึงกับระบุว่า Winter Sonata ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางวัฒนธรรมครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้ง หลังจากที่เคยเกิดขึ้นครั้งหนึ่งเมื่อละคร “โอชิน ที่ออกอากาศเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน ซึ่งทำให้คนญี่ปุ่นหันมาสนใจวัฒนธรรมของชาติตัวเอง เพียงแต่คราวนี้ Winter Sonata ทำให้คนญี่ปุ่นหันมาสนใจวัฒนธรรมกิมจิมากขึ้น โดยเฉพาะในหมู่เด็กวัยรุ่น ทำให้คอร์สเรียนภาษาเกาหลีได้รับความนิยมอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เด็กมหาวิทยาลัยต่างๆ ก็หันมาเลือกเรียนเมเจอร์เป็นวิชาเกี่ยวกับประเทศเกาหลี อย่างประวัติศาสตร์เกาหลี วัฒนธรรมเกาหลี ผลพวงของกิมจิฟีเวอร์ยังทำให้หนุ่มๆ เกาหลีได้รับอานิสงส์ไปด้วย เพราะบริษัทรับนัดเดท ยืนยันว่า หลังจาก “Winter Sonata” ออนแอร์ มีสาวๆ ญี่ปุ่นให้บริษัทจัดเดทให้ โดยระบุว่าต้องเป็นหนุ่มเกาหลีเท่านั้น
ที่เป็นแบบนี้ เพราะสาวเมืองปลาดิบต่างมีทัศนคติต่อหนุ่มเกาหลีเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง หลังจากที่ได้ดูซีรีส์ จากภาพของผู้ชายที่ดูโผงผาง ชอบใช้ความรุนแรง สาวๆ จินตนาการภาพผู้ชายเกาหลีว่า หนุ่มเกาหลีน่าจะอ่อนโยน อบอุ่น และโรแมนติก เหมือน “จุน ซาง” ตัวละครเอกของเรื่อง Winter Sonata
“จุน ซาง” รับบทโดย เบ ยอง จุน ในฐานะที่ดิฉันเป็นแฟนละครเกาหลีที่เหนียวแน่นคนหนึ่ง ดิฉันว่าเบ ยอง จุน ดาราเกาหลีคนนี้ อาจจะโด่งดังและเป็นที่รู้จักของแฟนๆ ละครเกาหลีบ้านเรา น้อยกว่าพระเอกหน้าทะเล้นอย่าง วอน บินหน่อยนึง แต่สำหรับสาวกซีรีส์เกาหลีชาวญี่ปุ่นแล้ว พ่อเบ ยอง จุน กลายเป็นซูเปอร์สตาร์หมายเลขหนึ่ง แซงหน้าคนอื่นอย่างไม่เห็นฝุ่น
เบ ยอง จุน ตอนนี้อายุ 32 ปี เป็นดาราที่มีผลงานซีรีส์ให้กับเค บี เอส หลายเรื่อง และยังมีงานแสดง นายแบบ พรีเซ็นเตอร์เต็มไปหมด แต่ผลงานที่ทำให้เค้าดังเป็นพลุแตก จนครองใจสาวเล็กสาวใหญ่ได้มากที่สุดก็เห็นจะเป็นเพราะซีรีส์ Winter Sonata นี่ล่ะค่ะ
เพราะบทบาทในเรื่องที่เค้ารับบทเป็น “จุน ซาง” พระเอกที่บุคลิกสุขุม เยือกเย็น ทำให้เค้าได้ใจสาวๆ ไปเต็มๆ ดิฉันจำได้ว่า เห็นข่าวที่เบ ยอง จุน ไปโชว์ตัวที่ญี่ปุ่นปีที่แล้ว มีสาวๆ ไปรอกรี๊ดเต็มสนามบินประมาณ 7,000 คน และยังมีป้าแก่แม่ม่ายมาร่วมกรี๊ดอีกเพียบ เรียกว่าหนุ่มเบ กลายเป็นขวัญใจของผู้หญิงญี่ปุ่นแทบทุกวัย ความท่วมท้นของมิตรรักแฟนคลับของหนุ่มเบ มีการเปรียบเทียบว่า มีเยอะพอๆ กับที่สมัยวงดนตรี The Beatle มาเยือนญี่ปุ่นตั้งแต่เมื่อเกือบ 50 ปีก่อน
ความคลั่งไคล้หนุ่มเบ ยังมีถึงขั้นที่คำว่า “Yon-Sama” แปลว่า เจ้าชายน้อย ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้เรียกหนุ่มเบ ได้รับการโหวตผ่านทางอินเทอร์เน็ต และเอสเอ็มเอส จากคนทั่วญี่ปุ่นให้เป็น “คำฮิตแห่งปี” ของปี 2004 ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าคนญี่ปุ่นนึกถึงหนุ่มคนนี้ก่อนใครเพื่อน เพราะขนาดวลีเด็ดอย่างคำว่า “That’s all the player can do” ของ อิจิโร่ ซูซูกิ นักเบสบอลชื่อดัง หรือคำคมจากนายกรัฐมนตรีจุนอชิจิโร โคอิซูมิ ยังได้รับคะแนนโหวตที่น้อยกว่า
ความนิยมในตัว เบ ยอง จุน ยังสร้างประวัติศาสตร์ให้กับการโฆษณาสินค้าของบริษัทโซนี่ ใครๆ ก็รู้ว่า โซนี่ ซึ่งเป็นบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ไม่ค่อยทำการตลาดด้วยการจ้างดารา แต่คราวนี้ โซนี่ ถึงต้องกับเปลี่ยนแนวคิดซะใหม่ ด้วยการจ้างพ่อหนุ่ม เบ ยอง จุน มาเป็นพรีเซ็นเตอร์
ตอนนี้เบ ยอง จุน จึงเป็นยิ่งกว่าดารา ในความคิดของดิฉันเค้าเป็นเหมือนทูตสันถวไมตรีที่ช่วยเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติได้อย่างเหนียวแน่น และมีพลัง อย่างที่เคยเกิดไม่กี่ครั้ง เพราะตามประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เกาหลีและญี่ปุ่นไม่ค่อยกินเส้นกันมาเนิ่นนาน ทำสงครามกันมาหลายครั้ง จนเมื่อทั้งสองเปิดประเทศ ต่างฝ่ายต่างยังปลูกฝังความเป็นชาตินิยมไว้เหนียวแน่น ระยะแรก เกาหลีดูจะกังวลกับการไหลบ่าของวัฒนธรรมญี่ปุ่น เพราะเป็นฝ่ายรับอิทธิพลจากญี่ปุ่นมาหลายเรื่อง ทั้งการ์ตูน เกม ละคร แฟชั่น แต่นาทีนี้ วัฒนธรรมต่างๆ ที่เกาหลีรับมา ล้วนถูกผสมกลมกลืน และสะท้อนความเป็นตัวเองอย่างลงตัว ทำเอาญี่ปุ่นเองต้านไม่ได้ ต้องรับวัฒนธรรมเกาหลีมาบ้างเต็มๆ
และถ้าลองนึกดูแล้ว นอกจากความสัมพันธ์ที่เกิดจากการเป็นเจ้าภาพร่วมจัดฟุตบอลโลกของเกาหลีและญี่ปุ่นแล้ว ก็มีคราวนี้แหละค่ะ ที่ Winter Sonata ทำให้เกิดภาพการประสานความเป็นเกาหลี แลtญี่ปุ่นอีกครั้ง
ไม่น่าเชื่อว่า ละครเรื่องหนึ่งจะช่วยเปลี่ยนมุมมองความคิดของคนในระดับประเทศได้ขนาดนี้ จากที่เคยเป็นศัตรู ละครยังช่วยแปรเปลี่ยนให้เป็นมิตรได้
คนญี่ปุ่นที่เคยกินแต่วาซาบิ ก็เลยหันมาชอบกิมจิซะอย่างงั้น !!!
No comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.