ขอคุยด้วยคนกับ Frozen Flower…
สวัสดีค่ะ...มาเกาะกระแสด้วยคนกับ A Frozen Flower สำหรับตัวหนัง ดิฉันได้ดูแล้ว แต่ในวันนี้จะไม่ขอพูดคุยเรื่องเนื้อหาของหนัง เพราะมีคนพูดถึงกันเยอะแล้วนะคะ มาคุยเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากหนังเรื่องนี้กันดีกว่าค่ะ
A Frozen Flower ( 쌍화점: Ssanghwajeom) เป็นผลงานชิ้นที่ 5 ของผู้กำกับยูฮา (Yoo Ha) ผู้กำกับยูฮาและโจอินซุงเคยร่วมงานกันมาแล้วจากเรื่อง A Dirty Carnival ผู้กำกับยูเคยกล่าวไว้ถึงหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนที่เริ่มโครงการสร้างหนังเรื่องนี้ครั้งแรกว่า “นี่เป็นผลงานที่สร้างขึ้นจากเรื่องจริงในสมัยราชวงศ์โครยอ สำหรับชื่อเรื่องผมยังไม่ตัดสินใจ แต่มันเป็นเรื่องราวความรักระหว่าง 2 ชายกับ 1 หญิง นี่เป็นผลงานชิ้นที่ 5 ของผม แต่ผมอยากทำอะไรที่แปลกใหม่ จึงตัดสินใจสร้างหนังแนวประวัติศาสตร์ ผมรู้สึกลำบากใจอยู่บ้างกับงานศิลป์แบบนี้ แต่จะพยายามเอาชนะมันให้ได้ นี่นับเป็นความท้าทายใหม่สำหรับผม”
ทางด้านโจอินซุง เนื่องจากเขาถึงกำหนดต้องเข้ารับใช้ชาติด้วยการเป็นทหาร นี่จึงเป็นผลงานเรื่องสุดท้ายที่เขาจะฝากไว้ก่อนไปทำหน้าที่ลูกผู้ชาย เขาได้ปฏิเสธบทอื่นๆ ไปหมดเพื่อรับงานชิ้นนี้
เพื่อแสดงหนังเรื่องนี้ โจอินซุงต้องไปฝึกขี่ม้า ฝึกศิลปะการต่อสู้ ฝึกฟันดาบ และที่สำคัญก็คือการฝึกเล่น “โกมังกู” (พิณเกาหลี 16 สาย) โจอินซุงได้ให้สัมภาษณไว้ว่า “หลังจากเรื่อง A Dirty Scandal ผมตัดสินใจว่าจะทำงานชิ้นต่อไปร่วมกับผู้กำกับยู ผมเริ่มฝึกขี่ม้า ศิลปะการต่อสู้ และฝึกเล่นโกมังกู เพราะผู้กำกับบอกว่ามันจำเป็นสำหรับบทของผมในเรื่องนี้ ผมยังไม่รู้รายละเอียดอะไรทั้งสิ้น แต่เชื่อมั่นในตัวผู้กำกับ ผมจะพยายามให้ดีที่สุด เพราะเชื่อว่ามันเป็นโอกาสดีที่จะแสดงความสามารถในฐานะนักแสดงของผมอีกครั้ง” (นิสัยแบบนี้ ฟังแล้วคุ้นๆ อยู่เหมือนกันใช่มั้ยคะ??)
สำหรับตัวละครหลักทั้ง 3 คือพระราชา หัวหน้าองครักษ์ และพระมเหสี โจอินซุงได้รับการวางตัวเป็นนักแสดงคนแรกของเรื่องในบทหัวหน้าองครักษ์ ฮงลิม เขาเริ่มฝึกซ้อมเพื่อแสดงหนังเรื่องนี้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2007 ตามมาด้วยจูจินโมที่ได้รับการคัดเลือกให้มารับบทพระราชา โดยมีการประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม 2007 แล้วจึงถึงคิวของ ซงจีฮโย ซึ่งมารับบทพระมเหสี
A Frozen Flower วางงบประมาณการถ่ายทำไว้ที่ 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยเริ่มถ่ายทำเมื่อวันที่ 16 เม.ย. 2008 และเป็นหนังเรื่องแรกที่ได้ประเดิมถ่ายทำในโรงถ่ายใหม่ของ Jeonju Cinema Studio
Director Yoo Ha of 'A Dirty Carnival' and Jo In-sung are partnering once again. This time it is a historical film set in Goryeo and is a melodrama following homosexual love.
Director Yoo says, "This is an original piece based on a true story of the Goryeo era and I have not yet decided the title. It is a love story with two men and one lady".
He also says, "This is my fifth piece, but I wanted to make a change so I decided to do a historical film. I always felt uncomfortable with the genre but I felt I should try to overcome those feelings. It is also a new challenge for me to focus on a melodrama".
Jo In-sung has been turning down numerous offers for movie and drama appearances to take on the role in the upcoming film by the director. The film will start filming next March, being the last for Jo In-sung before he enlists for his military duty. The title is to be determined.
Jo In-sung says, "After 'A Dirty Carnival', I decided to do my next piece with director Yoo. I will start learning horseback riding, martial arts, and the geomungo starting this month as the Director says it is necessary for my role".
He added, "I haven't heard the details about the film yet, but I trust the director. I will try my best as I believe it is an opportunity to show a good aspect of myself as an actor once again", showing his faith in Director Yoo.
Jo In-sung was on board from the beginning of the project, having turned down other acting roles to make A Frozen Flower his last work before enlisting for military service. He choose to appear in the film without knowing the exact details, having faith in the director following their earlier collaboration in 2005 on A Dirty Carnival. Jo In-sung began training for the role in August 2007, learning martial arts, fencing, horse riding and geomungo. The casting of Ju Jin-mo as the king was announced in December 2007.
The budget for A Frozen Flower was $10 million, and the film went into production on 16 April 2008. It was the first film to shoot at the newly built Jeonju Cinema Studio.
[ Special Thanks to : broasia.com / wikipedia.org / KOFIC ]
No comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.