9.11.10

[News] CNN writes about Nichkhun and his journey from a Shy Boy in Thailand to K-Pop star.


CNN เขียนข่าวเกี่ยวกับนิชคุณ (Nichkhun): เส้นทางของเด็กวัยรุ่นขี้อายจากประเทศไทยที่กลายเป็นนักร้องผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในวงการเพลงเกาหลี (K-Pop)
Cr. - CNNGO

เวปไซต์ CNN’s International (CNNGO) ได้ โพสต์บทความที่น่าสนใจช่วงสายของวันนี้ ( 8 พฤศจิกายน) เกี่ยวกับ นิชคุณ (Nichkhun) สมาชิกของกลุ่มศิลปินนักร้อง 2PM เรื่อง "เส้นทางการเปลี่ยนแปลงกับความก้าวหน้าของเด็กวัยรุ่นขี้อายจากประเทศไทยที่กลายเป็นดารานักร้องผู้มีชื่อเสียงอย่างแท้จริงในวงการเพลงเกาหลี (K-Pop)"

ชาวไทยอเมริกันที่ประสบความสำเร็จอย่างมากที่ประเทศเกาหลีใต้

นิชคุณชาวไทยอเมริกันที่น่าดึงดูดในวงการ K-Pop

เมื่อวัยรุ่นไทยอเมริกันนิชคุณถูกทาบทามโดยพวกแมวมองถามเขาว่า เขาอยากลองไปทดสอบที่จะเป็นซุปเปอร์สตาร์ป็อปหรือไม่ เขาไม่ได้ลังเลที่จะปฏิเสธไปเลยทันที

นิชคุณกล่าวว่า "ผมตอบไปแบบว่า ไม่!” “ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่า พวกคุณเป็นใคร ผมร้องไม่เป็นหรือเต้นก็ไม่เป็น ผมเป็นเพียงแค่เด็กผู้ชายขี้อาย ผมก็เลยบอกไปว่า ผมไม่มีทางทำเรื่องนี้เด็ดขาด!"

แต่แล้วก็เป็นเรื่องโชคดีสำหรับแฟนๆ K-Pop ที่แมวมองศิลปินจากประเทศเกาหลีใต้โดยโปรดิวเซอร์ปาร์คจินยอง (Park Jin Young) จากบริษัท JYP Entertainment ยังคงพยายามอย่างเต็มที่ แล้วมีการโทรไปตื้อจนทำให้เกิดการออดิชั่นแบบทุลักทุเลขึ้นจนได้ ที่ด้านนอกของร้านสตารบัคส์ในลอสแอนเจอลิส ซึ่งเป็นที่ๆ พวกเขาไปร่วมงาน South Korean Cultural Festival

“พวกเขาบอกทำนองว่า ให้ร้องอะไรก็ได้! เพราะฉะนั้นผมจึงร้องออกมา แต่ว่ามันเป็นการร้องที่แย่มาก ซึ่งพวกเขาบอกว่า โอเค นี่คงจะไม่เวิร์คจริงๆ หลังจากนั้นอีกประมาณ 3สัปดาห์พวกเขาก็โทรกลับมาหาผม และบอกว่า พวกเราอยากให้คุณเดินทางมาที่ประเทศเกาหลีใต้และเริ่มฝึก”

การคัดเลือกให้เข้ามาแบบแปลกแหวกแนวของนิชคุณนี้แตกต่างจากศิลปินคนอื่น สำหรับวงการบันเทิงเกาหลี กรณีของนิชคุณถือว่าเป็นกรณีที่หาได้ยากที่สุด คือ เป็นชาวต่างชาติคนหนึ่ง



กรณีที่หายาก

นิชคุณเกิดที่ประเทศสหรัฐฯ โดยคุณพ่อเป็นชาวไทยและคุณแม่เป็นชาวไทยเชื้อสายจีน นิชคุณย้ายกลับมาที่ประเทศไทยตอนที่อายุได้ 2 ปี และใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศไทย 10 ปี แล้วย้ายไปเรียนภาษาอังกฤษต่อที่นิวซีแลนด์อยู่ประมาณ 2-3 ปี แล้วกลับไปเรียนต่อจนจบต่อที่สหรัฐฯ ขณะที่ศึกษาอยู่ที่สหรัฐฯ เขาได้พบกับคนที่เป็นแมวมองพาเขามาสู่ JYP แล้วมีชื่อเสียงกับวงบอยแบนด์ 2PM

มันเป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิตแบบงงๆ อย่างสิ้นเชิง แต่กลับไม่ได้สับสนกับการเปลี่ยนแปลง เขากำลังรอคอยการเดินไปสู่บ้านใหม่ของเขาในอนาคตของเขา

นิชคุณกล่าวว่า "ผมย้ายไปย้ายมาบ่อย" "ดังนั้น (นอกจากเรื่องของภาษาแล้ว) ผมไม่เคยมีปัญหาในเรื่องวัฒนธรรมที่ไม่คุ้นเคยเลย” แต่พอเริ่มเจองานหนักๆ เข้า ผมก็เริ่มชักไม่แน่ใจขึ้นมา"

"แล้วเมื่อตอนที่ผมได้พบกับคนอื่น พวกเขาเก่งในทุกๆ ด้าน ทั้งการร้อง การเต้น และพวกเขายังเป็นคนเกาหลีอีกด้วย เพราะฉะนั้นผมเลยจินตนาการตัวเองไม่ออกเลยว่า ผมจะเหมาะกับวงการนี้ได้ยังไง” และ “แต่คุณพ่อคุณแม่ของผมเป็นประมาณว่า อย่าเพิ่ง อย่ายอมแพ้ เพราะฉะนั้นผมก็เลยเชื่อฟังพวกท่าน"

ดังนั้นนิชคุณที่มีแรงบันดาลใจนี้พยายามอย่างมุ่งมั่นในการฝึกที่แสนโหดที่ขึ้นชื่อของ JYP พร้อมกับเพิ่มแรงดลใจเพื่อต้องการจะพิสูจน์ตัวเองเข้าไป

"ผมไม่ค่อยชอบนัก แต่ผมก็ยอมรับว่าผมเป็นที่รู้จักด้วยหน้าตาของผม" นิชคุณกล่าว "เพราะฉะนั้นผมจึงทำให้ตัวเองอยู่ภายใต้แรงกดดันมากยิ่งขึ้น ผมอยากให้คนอื่นเห็นว่าผมได้พัฒนาไปมากแค่ไหน"

ผมได้พยายามไปพร้อมๆ กับเพื่อนร่วมวง 2PM ซึ่งหมายความว่าต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 เริ่มต้นด้วยการทำงานตามคิวงานที่แน่นสำหรับการโปรโมทและการซ้อม แล้วก็ปีนกลับขึ้นเตียงได้ประมาณตี 1 ของวันรุ่งขึ้น

นิชคุณกล่าวว่า "เวลาที่ผมเจอศิลปินอเมริกันบางคน พวกเขาก็ถามประมาณว่า แบบนั้นไม่ผิดกฎหมายเหรอ?"

ด้วยการทำงานที่มากนี้กลับกลายเป็นข้อเสีย เขาได้กลับบ้านเพียงแค่เดือนละครั้ง ซึ่งนั่นคือช่วงเวลาที่เขาได้ไปเติมพลังให้ตัวเขาเองด้วยอาหารไทย และใช้เวลาสั้นๆ กับครอบครัว ส่วนเรื่องการเดทนั้น (เพื่อเป็นเรื่องสบายใจให้สำหรับแฟนๆ ที่ชื่นชมเขา) เขากล่าวว่า มันเป็นไปไม่ได้เลย



Still 2:00PM

จนถึงตอนนี้พวกเขาได้มีผลงาน 1 อัลบั้มเต็มและ 4 EP ซึ่งก็เป็นไปตามแนวทางทั่วๆ ไปของวงบอยแบนด์ ด้วยอัลบั้มล่าสุด Still 2:00 PM นิชคุณและเพื่อนร่วมวงของเขาต่างใฝ่ฝันในสิ่งที่ใหญ่ยิ่งขึ้น ในเดือนมิถุนายนปีนี้พวกเขาได้เข้าร่วมออกทัวร์อย่างต่อเนื่องแบบ 9 วัน 9 เมืองที่ประเทศสหรัฐฯ เพื่อเป็นการสนับสนุนเพื่อร่วมค่ายวง Wonder Girls

นิชคุณกล่าวว่า "มันเป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมมากต่อหน้าคนดูที่หลากหลาย โดยมีทั้งหลายคนที่เป็นคนผิวดำและผิวขาว" "และมันน่าประหลาดใจมากที่ได้ยินพวกเขาเรียกชื่อของพวกเรา ผมรู้สึกประมาณว่า นี่ผมกำลังฝันอยู่หรือเปล่า?"

ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ห่างไกลจากจุดยืนที่เขาเคยบอกว่า เด็กหนุ่มขี้อายคนหนึ่ง จากประเทศไทย คนที่เคยบอกว่า เขาสามารถกลับบ้านของเขาโดยปราศจากคำยกยอ ที่ตอนนี้คำชมเชยต่างๆ ติดตามตัวเขาไปตลอดที่ประเทศเกาหลีใต้

นิชคุณกล่าวว่า "ผู้คนก็รู้จักผม แต่เป็นเพราะว่าผมไม่ได้มีกิจกรรมที่ประเทศไทยมาก พวกเขาก็แค่พูดว่า อ๋อ คนนั้นคือคนที่ไปเป็นศิลปินเกาหลี ก็แค่นั้นเอง"

"ผมคิดว่าไม่จำเป็นว่าจะเป็นแค่เฉพาะคนไทยเท่านั้น แต่ใครๆ ก็สามารถมาอยู่ตรงจุดเดียวกับผมได้ เพราะว่าผมเริ่มจากจุดที่ต่ำกว่าศูนย์ อย่างที่ทราบกันแล้วว่า ผมไม่มีพื้นฐานการร้อง การเต้น ไม่มีอะไรเลย ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของความตั้งใจทำงานอย่างหนักมากแค่ไหน และมากแค่ไหนที่คุณอยากจะได้มันมา"



[News] CNN writes about Nichkhun and his journey from a Shy Boy in Thailand to K-Pop star.

CNN’s International website CNNGO put up a nice article earlier today about 2PM member Nichkhun and his journey / transformation from growing up in Thailand as a shy boy into a bona fide K-pop superstar.

Check out the article below:

When Thai-American youngster Nichkhun was approached by talent scouts asking if he wanted a shot at pop superstardom, he didn’t hesitate for a second.

“I was like, no!” he says. “I don’t even know who you guys are, you know? I didn’t know how to sing or dance. I was just like some shy little boy, so I was like, no way I’m doing this!”

Fortunately for K-Pop fans, the scouts, from legendary South Korean pop producer Jin-young Park’s company JYP Entertainment, persisted. Following a string of phone calls, a ramshackle audition took place outside a Starbucks in Los Angeles, where they had all been attending a South Korean cultural festival.

“They were like, sing something! So I sang something, and it was bad, and they were like, OK, this is not going to work. About three weeks later they called me back and said, ‘We’d like you to come to Korea and start training.’”

But Nichkhun’s unorthodox recruitment is far from the only thing setting this young pop sensation apart. In South Korea’s distinctly homogenous entertainment industry, Nichkhun is that rarest of things: a foreigner.



A rare commodity

Born in the United States to a Thai father and a Thai-Chinese mother, Nichkhun moved to Thailand aged two, spent 10 years there, studied English in New Zealand for a couple of years, and then completed his schooling back in the States. While there, he met the men who would take him to JYP and fame with boyband 2PM.

It was, by any standards, a dizzying life transformation. But far from being dazzled by the changes, this cosmopolitan idol-in-waiting took his new home largely in his stride.

“I’ve moved around a lot,” he says. “So [apart from the language] I didn’t have any big culture shocks.” But when the hard work began, so did the doubts.

“When I saw these other guys, they were just so good at everything — singing, dancing. And they’re Korean, so I just couldn’t imagine how I could fit into the industry,” he says. “But [my parents] were like, no, don’t give up. So I listened.”

Thus inspired, Nichkhun threw himself into JYP’s famously rigorous training with the added impetus of having something to prove.

“I don’t like it, but I admit that I’m known for my face,” he says. “So I put myself under pressure. I want people to see how much I’ve improved.”

Along with his 2PM bandmates, that can mean waking up at 5 a.m., following a grueling schedule of promotions and practice, and then crawling to bed at 1 the next morning.

“When I meet some American pop singers, they’re like, is that even legal?” says Nichkhun.

The punishing workload has it downsides. He only gets to go home once a month, when he can replenish himself on Thai food and spend a little time with his family. And dating (to the undoubted relief of his adoring fans) is, he says, simply not possible.



Still 2:00PM

Now one album and four EPs into their career — which has followed the usual boyband arc from boyish to more rugged, with latest release Still 2:00PM –Nichkhun and his bandmates are dreaming bigger. In June this year they embarked on a breathless, nine-day, nine-city tour of the United States supporting label mates The Wonder Girls.

“It was amazing playing to such a mixed crowd, with lots of black people and lots of whites, too,” he says. “And it was so surprising to hear them call our names. I was like, am I dreaming?”

It’s all a far cry from the self-professed “shy little boy” from Thailand, who says he can still return to his homeland free of the adulation that now follows him in South Korea.

“People know me, but since I don’t work a lot in Thailand they just say, oh, it’s that guy who’s a K-pop star. That’s about it,” he says.

“I think, not just Thai people, but anybody could be in my spot. Because I started below zero, you know; I had no singing background, no dancing, nothing. I think it’s a matter of how hard you work and how much you want it.”


No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.