งานโปรโมต TWSSG “ตำนานจอมกษัตริย์ฯ” ในโตเกียว พร้อมบทสัมภาษณ์นักแสดง
Translated & Posted in BYJ Quilt by Joanne
Kwon Ohkyeong/Dainggamjjikyi posted this on the Talk Box of BYJ's official home.
Thai Translation by ladymoon
BYJ promotes TWSSG in Tokyo [Yonhap News] 6/4/08 17:17
BYJ, star in Asian region, had a media conference in Tokyo, Japan on 4, and sets out to promote the 'TWSSG', which is on air with popularity in Public NHK station.
BYJ ดาราแห่งเอเชีย เข้าร่วมงานแถลงข่าวที่โตเกียว เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. เพื่อโปรโมตละคร TWSSG ซึ่งออกอากาศทางสถานี NHK อยู่ในตอนนี้
At the media conference on that day, being held NHK Broadcasting Center in Shibuya, over 300 domestic and foreign reporters gather in, making actual realization of his status as Asian star. BYJ, expressing thanks to news gathering crew who filled up the conference venue, and pledged that "I think that I have to show appearance of working harder all the time."
ในงานแถลงข่าววันนั้น จัดขึ้นที่ NHK Broadcasting Center ในชิบูย่า มีสื่อกว่า 300 สำนักมาร่วมทำข่าว ทำให้เห็นได้ชัดถึงฐานะดาราแห่งเอเชียของเขา BYJ กล่าวขอบคุณนักข่าวที่มากันแน่นขนัดว่า “ผมคิดว่าผมคงต้องยิ่งทุ่มเทให้หนักขึ้นตลอดเวลา”
In the conference, actors Moon Sori and E Ji ah, who appeared in the TWSSG with im, and Kim Jonghak PD were with him and answered to questions from news gathering crew.
ในงานแถลงข่าว มีนักแสดงที่ร่วมงานกับเขาคือ มูนโซริ และลีจีอา รวมทั้งผู้กำกับคิมจองฮัคด้วย ช่วยกันตอบคำถามของนักข่าว
Following is essential points of question and answer at the media conference.
ต่อจากนี้ไปคือคำถามคำตอบบางส่วนจากในงาน
--Which part of the TWSSG do you want people to pay attention to.
ส่วนไหนของละครเรื่องนี้ที่คุณอยากให้คนสนใจเป็นพิเศษ
▲BYJ = I think that the TWSSG is a drama with true heartedness, containing truth of people and love those people exchange. My thought is that if my character might have been an open person who is able to free and horizontal exanges of opinions to be able to be friends with anyone despite having a power, and an apperance of a leader whom we really need in this period of timethis time.
BYJ = ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นละครที่กลั่นมาจากหัวใจจริงๆ เต็มไปด้วยความเป็นจริงของชีวิตและความรักที่คนเหล่านี้นำเสนอ ในความคิดของผม ตัวละครที่ผมแสดงเป็นคนที่เปิดเผย สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างอิสระและเท่าเทียมกับคนอื่น เป็นมิตรกับคนอื่น ถึงแม้จะเป็นผู้มีอำนาจก็ตาม เป็นภาพของผู้นำที่เราต้องการในช่วงเวลาแบบนี้
--We understand that Ms Moon Sori appeared in Korean TV drama for the first time now.
เราเข้าใจว่าคุณมูนโซริปรากฏตัวในละครทีวีครั้งนี้เป็นครั้งแรก
▲Moon Sori=The filming had big moving feeling as if I climb up the top of a big mountain. As I finished it, I got confidence to challange any dramas. I feel that it was the filming that will remain in my memory for my life.
มูนโซริ = การถ่ายทำละครเรื่องนี้ให้ความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่เหมือนฉันกำลังปีนสู่ยอดเขาสูง พอเสร็จงานแล้ว ฉันเกิดความมั่นใจที่จะท้าทายกับละครเรื่องอื่นๆ ฉันรู้สึกว่าการทำงานครั้งนี้จะอยู่ในความทรงจำของฉันไปชั่วชีวิตค่ะ
--For Miss E Ji Ah, the TWSSG is debut work, and how was it.
สำหรับคุณลีจีอานี่เป็นงานแรกของคุณ เป็นยังไงบ้าง
▲E Ji Ah=Because I got to act for the first time, all things were very unfamiliar and difficult. I think I was able to work on it because seniors, director and staff helped me. Although you told a lot that I am always stately without trembling, I am really shaky a lot in fact. I am also trembling now. I thank you for thinking of me that way.
ลีจีอา = เพราะฉันเพิ่งแสดงเป็นครั้งแรก ทุกอย่างดูไม่คุ้นเคยและยาก ฉันคิดว่าที่ทำงานได้สำเร็จก็เพราะรุ่นพี่ ผู้กำกับ และทีมงานคอยช่วยเหลือฉัน ถึงจะมีคนพูดว่าฉันดูหนักแน่น ไม่สั่นเลย แต่ที่จริงแล้วฉันสั่นมากเลยล่ะค่ะ ตอนนี้ก็ยังสั่นอยู่เลย ฉันขอขอบคุณที่คิดถึงฉันแบบนั้น
--The filming was long over one year and 9 months. What was the difficult point.
การถ่ายทำที่ยาวนานถึง 1 ปี 9 เดือน อะไรคือจุดที่ยากลำบากที่สุด
▲Kim Jonghak=Considering from the planning, it was 3 years, and filming alone took about 2 years. Although actors had to have time for preparation as the script is out early, I feel wanting that it was not the case. And, as the period became prolonged, there were difficulties including tense feeling between actors and staff. I feel that the difficult things were the fact that many actors got injured as there were many actions as it came to an end, etc.
ผู้กำกับคิม = นับตั้งแต่วางแผนงาน มันยาวนานถึง 3 ปี แค่ถ่ายทำอย่างเดียวก็กินเวลาไปถึง 2 ปี นักแสดงมีเวลาเตรียมตัวกันนานเพราะบทออกมาก่อนนานมาก แต่ผมยังรู้สึกว่านั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ ช่วงเวลาถ่ายทำที่ยาวนาน มีความยากลำบาก รวมทั้งมีความตึงเครียดเกิดขึ้นในหมู่นักแสดงและทีมงาน ผมรู้สึกว่าที่ลำบากจริงๆ ก็คือการที่นักแสดงหลายคนได้รับบาดเจ็บเพราะมีฉากบู๊เยอะมากตั้งแต่ต้นจนจบ
--You've filmed in many places. Which place did you like the best.
คุณไปถ่ายทำมาหลายที่ คุณชอบที่ไหนที่สุด
▲Bae=No matter what, I like the Jeju Island, where there was a main set. She is a beautiful island. Air quaility is also good. Although it was difficult, I filmed joyously. If I can add one more place, I liked Danyang, Choongbook, very much. My heart was also able to be comfortable.
BYJ = ไม่ว่ายังไงผมก็ชอบเกาะเชจูที่สุด ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำหลัก เป็นเกาะที่สวยมาก คุณภาพอากาศก็ดี ถึงแม้จะค่อนข้างลำบาก ผมก็ทำงานอย่างมีความสุข ถ้าจะมีอีกที่ คงเป็นที่ Danyang, Choongbook ครับ ผมรู้สึกสบายใจจริงๆ
--Inside drama, E Ji Ah and Moon Sori are contrasting. Personally, which side do you prefer.
ในละคร ลีจีอากับมูนโซริ มีความแตกต่างกัน โดยส่วนตัวแล้ว คุณชอบแบบไหนมากกว่า
▲Bae= First, I feel that I like all. Kiha (Moon Sori) was in relation of lovers in the drama, so that (she was) able to do it from the front, and Suzini (E Ji Ah)was a friend rather than a lover so that she seemed to express a little bit of certain emotion that she could not express behind of me because she was cautious as I was her King. By the way, it just flashed upon me that I prefer to do it in the front.
BYJ = ผมรู้สึกชอบทั้งหมดครับ คีฮาในละครมีความสัมพันธ์แบบคนรัก เธอเลยสามารถแสดงออกต่อหน้าได้ ส่วนซูจินีเป็นเหมือนเพื่อนมากกว่าคนรัก จึงดูเหมือนมีบางอารมณ์ที่เธอไม่สามารถแสดงออกมาได้ เพราะเธอต้องคอยระวัง เนื่องจากผมเป็นกษัตริย์ของเธอ แต่ผมชอบการแสดงออกให้เห็นกันต่อหน้ามากกว่าครับ
--They watch (the drama) in Taiwan too. Please greet for Taiwanese fans.
ในไต้หวันก็ได้ชมละครเรื่องนี้เช่นกัน ช่วยกล่าวทักทายแฟนๆ ไต้หวันหน่อย
▲Bae=First of all, I am sorry that I was not able to go and meet Family in Taiwan. However, I will plan a good time where Asian Family can be united in one place. Dear Family in Taiwan, I wish you to be always healthy and happy.
BYJ = ผมรู้สึกเสียใจที่ไม่อาจไปพบกับแฟนๆ ที่ไต้หวันได้ แต่ผมจะหาเวลาเหมาะๆ ให้แฟนๆ ทั่วเอเชียได้มาพบกันที่ไหนสักที่ สำหรับแฟนๆ ในไต้หวัน ผมขอให้ทุกคนมีสุขภาพดีและมีความสุข
--What did you think when you worked on acting.
คุณคิดยังไงเวลาที่แสดง
▲Bae=While acting (drama character) Damdeok, I had been able to learn many things for 2 years because he was a figure who actually existed in history and great figure, and I think it is the drama in which I was able to mature. If finding a common features between I and Damdeok, Because (Damdeok) was such a great person...However, from the perspective of feeling sense of certain responsibility, it seems to be something in common between those men. Regarding loneliness, acatually I have not felt that much loneliness because there are friends whom I can trust, entrust, and depend on for everything, around me as well as around Damdeok also.
BYJ = ระหว่างที่รับบททัมด๊อก ผมได้เรียนรู้มากมายตลอด 2 ปีนี้ เพราะเขาเป็นบุคคลที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ และเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ซะด้วย ผมคิดว่านี่เป็นละครที่ทำให้ผมเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ผมต้องหาความเหมือนระหว่างตัวผมกับทัมด๊อกให้เจอ เพราะทัมด๊อกเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ ความรู้สึกรับผิดชอบนั่นเองที่ดูเหมือนจะเป็นส่วนที่คล้ายคลึงกันระหว่างผมกับเขา พูดถึงความโดดเดี่ยว ผมไม่รู้สึกโดดเดี่ยวขนาดนั้น เพราะผมมีเพื่อนๆ ที่ไว้วางใจ และพึ่งพาได้ อยู่รอบตัวผม เช่นเดียวกับทัมด๊อก
--There are much interest in TWSSG in Japan.
ในญี่ปุ่นให้ความสนใจละครเรื่องนี้กันมาก
▲Bae= First. I thank you as so many of you came here today. I also thank Netizens and TV viewers. Since the drama will get more interesting from now on, I hope you watch it with delight. I will put an effort from now on to be able to show better appearance and acting
BYJ = ผมต้องขอขอบคุณทุกคนที่มากันในวันนี้ ผมต้องขอขอบคุณ Netizens และท่านผู้ชม เพราะละครได้รับความสนใจอย่างมาก ผมหวังว่าพวกคุณจะชมมันอย่างมีความสุข จากนี้ไปผมจะทุ่มเทเต็มที่ในการนำเสนอผลงานที่ดียิ่งๆ ขึ้นไป
▲Moon= I aske you to love tears of (drama character) Kiha. Instead, I promise you that I will make you laugh enough with drama with much laugh next time.
มูนโซริ = ฉันอยากขอให้พวกคุณรักน้ำตาของคีฮา ฉันสัญญาว่าจะทำให้พวกคุณได้หัวเราะมากกว่านี้ในละครเรื่องหน้านะคะ
▲Lee=It was delightful for me, who did not have any experience in acting, to be able to do a bit drama. I really thank you that you love TWSSG very much, and love and give affection to (drama character) Suzini a lot also.
ลีจีอา = นับเป็นความยินดีสำหรับฉัน สำหรับคนที่ไม่มีประสบการณ์ด้านการแสดงเลย ที่ได้มาเล่นละครเรื่องนี้ ฉันขอบคุณจริงๆ ที่พวกคุณรักละครเรื่องนี้ ขอให้รักและเอ็นดูซูจินีมากๆ เช่นกันนะคะ
▲Kim= Becaue it is a history drama, there are many people who take in with difficulty. Despite that, I thank for watching it even by studying (on drama). I am deeply moved. This drama will unfold with fun from now on. I would appreacite you if you watch it till the end with interests.
ผู้กำกับคิม = เพราะนี่เป็นละครประวัติศาสตร์ อาจมีหลายคนที่ทำความเข้าใจลำบากอยู่บ้าง แต่ผมก็ขอบคุณที่ติดตามชมถึงแม้ต้องคอยศึกษาตามไปกับละครด้วย ผมรู้สึกประทับใจจริงๆ จากนี้ไปเนื้อหาจะเริ่มสนุกขึ้น ผมจะขอบคุณมากถ้าพวกคุณติดตามชมจนจบ
--In drama there are many drinking scenes. Actually how much can you drink.
ในละครมีฉากดื่มเหล้าเยอะเลย จริงๆ แล้วคุณดื่มเก่งมั้ย
▲Bae=In the drama, Suzini drinks a lot, but she does not drink much in reality. And, I can drink a lot. Blue Dragon and White TIger, who drinks more than I, came to Tokyo along with me. They did not attend here, and I heard that they drank yesterday.
BYJ = ในละคร ซูจินีดื่มเหล้าเก่ง แต่ตัวจริงเธอดื่มได้ไม่มากครับ ส่วนตัวผมดื่มได้เยอะ มังกรน้ำเงิน (เขียว) กับพยัคฆ์ขาว ดื่มเก่งกว่าผมอีก พวกเขามาโตเกียวพร้อมผมด้วย แต่วันนี้ไม่ได้มาที่นี่ ผมได้ยินมาว่าเมื่อวานพวกเขาก็ดื่มด้วยกัน
▲Moon=As far as I know, Teacher Hyeonko (Oh Kwangrok) controls rain. Probably because he is associated with water, I know that he drinks liquer like water.
มูนโซริ = เท่าที่ฉันรู้ ท่านอาจารย์ฮยอนโกเป็นผู้ควบคุมฝน บางทีอาจเป็นเพราะเขาผูกพันกับน้ำก็ได้ค่ะ ฉันรู้มาว่าเขาดื่มเหล้ายังกับน้ำเลยทีเดียว
▲Kim=Probably because the (production of) drama was a long one, it seems that we had the highest number of dining together in my 32 year (history of) directing. I think that (the reason why) actors and staff stayed until the end, was because of frequent dining together.
ผู้กำกับคิม = บางทีอาจเป็นเพราะละครเรื่องนี้ถ่ายทำกันยาวนาน จึงดูเหมือนเราได้กินข้าวกันมากครั้งที่สุดตลอดชีวิตการกำกับ 32 ปีของผม ผมคิดว่าทั้งนักแสดงและทีมงานอยู่ด้วยกันตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นเพราะได้กินข้าวร่วมโต๊ะกันบ่อยๆ นี่เอง
--What was the most impressive things.
อะไรคือสิ่งที่น่าประทับใจที่สุด
▲Kim=As it was a long time, there happened many things. While moving from location to location, I suffered from an traffic accident so that I was hospitalized and underwent bowel surgery. What occurs to my mind is filming for last 2 months without finishing the surgery, and then undergoing re-operation.
ผู้กำกับคิม = เพราะใช้เวลานานมาก จึงมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ระหว่างที่ย้ายสถานที่ถ่ายทำ ผมต้องประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ผมต้องเข้ารับการผ่าตัด สิ่งที่ผมจำไม่ลืมก็คือการถ่ายทำช่วง 2 เดือนสุดท้ายทั้งๆ ที่ยังผ่าตัดไม่เสร็จ แล้วถึงกลับไปผ่าตัดใหม่อีกครั้ง
When Mr. BYJ could not move even a step when we left with last one week, or 10 days, we had separate persons each for riding on a horse, getting off a horse, and for walking to opposite actors, to standing in for Mr. BYJ. The moment when (I thought) if we can finish this after all, and the fact that we have done it remain in my memory.
ตอนที่คุณ BYJ ขยับตัวไม่ได้เลยแม้สักก้าว โดยเรายังเหลือการถ่ายทำอีก 1 สัปดาห์ หรือประมาณ 10 วัน เราต้องจัดให้มีคนสำหรับฉากขี่ม้า ตอนลงจากหลังม้า และตอนเดินเข้าไปหานักแสดงอีกคน เพื่อใช้แทนตัวคุณ BYJ ช่วงเวลาที่เราถ่ายทำจนสำเร็จ ความจริงที่เราทำมันได้แล้ว นั่นยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำของผม
▲Bae=Director told what I want to say. Although it is a difficult thing to be close with actors and staff while working on drama, through this drama, I got really good real younger brother, got real elder brother, and also (looking at Kim PD) there is father next to me so that I was really very very much (feeling) good. I felt good because we were able to work together. I think that I really want to do a work with director (Kim) again, should I have a chance one more time. Chief in make-up team, camera director, It was a great pleasure to be able to do a work together with very lovely and good people.
BYJ = ผู้กำกับพูดแทนผมหมดแล้ว ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องยากในการสร้างความสนิทสนมกับนักแสดงและทีมงานระหว่างถ่ายทำ แต่สำหรับละครเรื่องนี้ ผมได้ทั้งน้องชาย พี่ชาย แล้วก็ (มองไปที่ผู้กำกับคิม) ได้คุณพ่อที่อยู่ข้างผมนี่ด้วย ผมรู้สึกดีมากๆ เลย ผมรู้สึกดีเพราะเราได้ทำงานร่วมกัน ผมคิดว่าอยากร่วมงานกับผู้กำกับคิมอีกครั้ง ผมจะมีโอกาสแบบนั้นอีกสักครั้งมั้ย ทั้งทีมแต่งหน้า ทีมกล้อง เป็นความน่ายินดีที่ได้ทำงานร่วมกับผู้คนดีๆ ที่แสนน่ารัก
▲Moon=While filming, I got tatoo on body. Every day, after drawing a picture with red color for 2 hours, I get out to film. one day, in Danyang, when I was to go out after drawing tatoo for 2 hours, I could not go because it rained. It takes 40-minutes to erase it. When I was about to go home after erasing all (tatoo), they told me to draw tatoo again as rain stopped so that they drew tatoo with difficulty. When I was about to go out for filming, they said it was raining again. On that day, they drew 3 times and erased it three times. Thus, there were time that staff called my name Bi (rain) Sori, not Moon Sori. I remember that staff had suffered.
มูนโซริ = ระหว่างการถ่ายทำ ฉันต้องมีรอยสักบนร่างกาย ทุกวันหลังจากใช้สีแดงวาดรอยสักร่วม 2 ชั่วโมง ฉันถึงจะไปเข้าฉากได้ มีอยู่วันหนึ่ง ที่ Danyang หลังจากวาดรอยสักอยู่ 2 ชั่วโมง แต่ฉันไปเข้าฉากไม่ได้เพราะฝนตก ต้องใช้เวลาถึง 40 นาทีในการลบมันทิ้ง ฉันกำลังจะกลับบ้านแล้วหลังจากลบรอยสักเสร็จ ทางทีมงานบอกให้วาดรอยสักอีกครั้งเพราะฝนหยุดตกแล้ว ก็เลยวาดรอยสักกันอีกครั้งด้วยความยากลำบาก พอจะออกไปเข้าฉาก ฝนก็ตกลงมาอีก ในวันนั้น เราวาดรอยสักกัน 3 หน และลบทิ้งทั้ง 3 หน ทางทีมงานเลยพากันเรียกฉันว่า ไบ (ฝน) โซริ ไม่ใช่มูนโซริ ฉันยังจำได้ว่าทางทีมงานหงุดหงิดกันน่าดู
▲Lee= There was a scene where, whild riding in a horse cart with Damdeok, I greeted him 'Uhee' tapping shoulder. There was wasp resting on shoulder of senior (BYJ), I tapped it without knowing it so that I feld very much unfair. The wasp, about to sting senior, had stung me. Even when I was stung instead (of BYJ), director and staff made fun of me. "Are you dizzy now' etc. I filmed for about 40 minutes when I became gradually dizzy. Director even joked to me 'are you getting paralyzed up to there' I remember the most that I collapsed after 40 minutes, and regained consciousness after receiving 2 antidone shots in the hospital.
ลีจีอา = มีอยู่ฉากหนึ่งตอนที่ฉันขึ้นไปนั่งบนเกวียนกับทัมด๊อก ฉันต้องทักทายเขาพร้อมตบบ่าเขาด้วย มีตัวต่อเกาะอยู่บนบ่าของรุ่นพี่ ฉันตบลงไปโดยไม่รู้ เจ้าตัวต่อที่กำลังจะต่อยรุ่นพี่เลยหันมาต่อยฉันแทน ขนาดฉันโดนตัวต่อต่อยแทนรุ่นพี่ไปแล้ว แต่ผู้กำกับกับทีมงานกลับมาล้อฉัน “ตอนนี้รู้สึกเวียนหัวหรือยัง” ฉันถ่ายต่อไปอีก 40 นาทีถึงได้เกิดอาการเวียนหัว ผู้กำกับยังล้อฉันอีกว่า “รู้สึกขยับตัวไม่ได้แล้วใช่มั้ย” ฉันยังจำได้ว่าหลังจาก 40 นาทีฉันก็สลบไป และฟื้นขึ้นมาอีกทีหลังจากฉีดยา 2 เข็มที่โรงพยาบาล
Reported from Tokyo, Choi Eerak,choinal@yna.co.kr
Copyright © Yonhap News Agency
Special thanks to Joon’s Family
ประโยคประทับใจจาก “จอมกษัตริย์เทพสวรรค์” [NHK Poll]
translated into english: a sweet sister / bb's blog
Thai Translation by ladymoon
Best of TWSSG lines
NHK did a online polling to pick the most memorable lines from the drama.
ทาง NHK ได้จัดทำโพลออนไลน์สำหรับประโยคประทับใจจากละครเรื่อง TWSSG ผลโหวตที่ได้มีดังนี้
3rd place, epi 20
When Damdeok's army was going to negotiate with Kihtan, he was not confident whether his own orders were right or wrong. General Koh, who was like a father to him, said this to Damdeok, "This is the first time I've such thoughts after I started serving you, that I won't mind even if I die... For Pae-ha, I'm willing to lose my life, so please stand on our side."
อันดับที่ 3 จากตอนที่ 20
เมื่อกองทัพของทัมด๊อกต้องไปเจรจากับพวกคีตัน เขาเองก็ไม่มั่นใจว่าตัวเองทำถูกหรือผิด แม่ทัพโก ผู้ที่เป็นเหมือนพ่ออีกคนของเขา ได้กล่าวประโยคนี้กับทัมด๊อก “นี่เป็นครั้งแรกที่กระหม่อมมีความคิดเช่นนี้ หลังจากที่ได้รับใช้ฝ่าบาท กระหม่อมไม่เคยสนแม้ความตาย เพื่อฝ่าบาท กระหม่อมพร้อมสละชีวิต ดังนั้นได้โปรดอยู่เคียงข้างเราด้วยเถอะ”
2nd place, epi 24
Damdeok said this to Sujini when they reunited, "Wherever you are, that's my palace."
อันดับที่ 2 จากตอนที่ 24
ทัมด๊อกกล่าวประโยคนี้กับซูจินีเมื่อได้กลับมาพบกันอีกครั้ง “ที่ๆ เจ้าอยู่ นั่นคือวังของข้า”
1st place, epi 13
These lines are the same ones that wuri yong joon himself felt left him with the deepest impression. "Do not die, there’s no need to abandon your lives for war. No matter what, you have to live on, and return to my side. This is my, your King’s order."
อันดับที่ 1 จากตอนที่ 13
แน่นอนย่อมเป็นประโยคที่แม้แต่ตัวยองจุนเองก็ยังประทับใจ “ห้ามตาย ไม่มีความจำเป็นที่พวกเจ้าต้องสละชีวิตในสงคราม ไม่ว่ายังไง พวกเจ้าต้องอยู่ต่อไป กลับมาอยู่ข้างกายข้า นี่คือบัญชาจากกษัตริย์ของเจ้า”
No comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.