9.3.10

[Interview 2005] I, Myself Am in Forbidden Love - Q & A with Bae Yong Joon



Source - http://aprilsnow.blogsome.com

Thai Translation by Ladymoon @http://twssg.blogspot.com



The much-talked about movie “April Snow” (Director Heo Jin-ho) was made public for the first time to local and foreign media members on August 23. After the preview, in a press conference in KOEX in Samseong-dong, Bae Yong-joon confessed, “In-soo in the movie is myself.” The movie tells the story about a forbidden love. Married man and woman fall in love after knowing that their own spouses are having affairs. The following is a question and answer with Bae Yong-joon, the “Star in Asia.”

ภาพยนตร์ที่กำลังถูกกล่าวขวัญถึง “April Snow” (กำกับโดย เฮอจินโฮ) ได้ออกสู่สายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรกต่อหน้าสื่อทั้งในและต่างประเทศเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม หลังจากรอบพรีวิว ในงานแถลงข่าวที่ COEX เบยงจุนยอมรับว่า “อินซูในหนังคือตัวผมเอง” หนังบอกเล่าเรื่องราวของความรักต้องห้าม ชายหญิงที่แต่งงานแล้วตกหลุมรักกันและกัน หลังจากที่รับรู้ว่าคู่ชีวิตของตัวเองแอบไปมีสัมพันธ์ลับ ต่อจากนี้ไปคือการซักถามเบยงจุน “ดาราแห่งเอเชีย”

Q: You chose to star in this movie even before reading the scenario. What is the reason? And what did you learn through this movie?
Q : คุณเลือกแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ก่อนที่จะได้อ่านบทด้วยซ้ำ อะไรคือเหตุผล? และคุณได้เรียนรู้อะไรบ้างจากภาพยนตร์เรื่องนี้?
A: I normally choose a film in which I can portray a character well, but this time I decided to select a film that could be a real challenge. The challenge was to cope with the director’s unique working style, who really likes impromptu acting. It was a totally new experience, and of course there were many difficult things but I learned a lot from the director, and I think it will help me with my next movies.
A : ตามปกติผมจะเลือกแสดงบทที่ผมสวมบทบาทตัวละครนั้นได้ แต่คราวนี้ผมตัดสินใจเลือกเล่นหนังที่ท้าทายมากๆ ความท้าทายก็คือการต้องเจอกับสไตล์การทำงานที่ไม่เหมือนใครของผู้กำกับ ซึ่งชอบการแสดงแบบคิดกันสดๆ ตรงนั้น มันเป็นประสบการณ์ใหม่โดยสิ้นเชิง และแน่นอนย่อมมีความยากลำบาก แต่ผมได้เรียนรู้มากมายจากผู้กำกับ และคิดว่ามันจะช่วยผมได้ในการแสดงเรื่องต่อๆ ไป

Q: What was it like working with director Heo Jin-ho?
Q : การทำงานร่วมกับผู้กำกับเฮอเป็นอย่างไรบ้าง?
A: “This movie was a challenge to the working style of director Heo. I wanted to experience the working style that I wanted, but I couldn’t. It is true that there were some parts that didn’t go well with me, but I learned a lot during making the movie. I am sure I can show a variety of changes of myself in other movies in the future.
A : หนังเรื่องนี้คือความท้าทาย กับการได้ทำงานในสไตล์ของผู้กำกับเฮอ ผมอยากมีประสบการณ์การทำงานในสไตล์แบบที่ผมอยากมี แต่ผมคงทำไม่ได้ เป็นความจริงที่มีหลายตอนที่ไม่ถูกใจนักสำหรับผม แต่ผมได้เรียนรู้มากมายระหว่างถ่ายทำหนังเรื่องนี้ ผมมั่นใจว่าจะสามารถแสดงความหลากหลายในตัวของผมในหนังเรื่องอื่นๆ ต่อไปในอนาคต



Q: In this movie, In-su’s sadness was deeply expressed. How did you feel and how much did you understand his feelings?
Q : ในหนังเรื่องนี้ ความเศร้าของอินซูเก็บกดอยู่ลึกๆ คุณรู้สึกอย่างไรและเข้าใจความรู้สึกนี้แค่ไหน?

A: I felt so deeply sad all the way while shooting the film. And I am glad that you felt the same way. Actually, I feel as if I had revealed my own experience in this film, so it is a little bit shameful. It was so difficult for me to express the character. I normally try hard to create the character right in films but this time I tried to become the character, so I can say In-su and myself are almost the same.
A : ผมรู้สึกเศร้าอยู่ตลอดเวลาที่ถ่ายทำเรื่องนี้ และผมดีใจที่คุณก็รู้สึกแบบเดียวกัน ที่จริงผมรู้สึกเหมือนได้เผยให้เห็นประสบการณ์ของผมในหนังเรื่องนี้ มันออกจะน่าขายหน้าอยู่บ้าง มันยากมากที่ต้องแสดงบทบาทนี้ ตามปกติผมจะพยายามอย่างหนักเพื่อสร้างตัวละครขึ้นมา แต่สำหรับครั้งนี้ผมต้องกลายเป็นตัวละครตัวนั้น พูดได้ว่าอินซูกับผมแทบจะเป็นคนๆ เดียวกัน

Q: Even before the official release of the movie, many people from many Asian countries have shown their interest in it. Did such high expectation have an influence on your acting?
Q : ก่อนที่หนังจะออกฉายอย่างเป็นทางการ มีผู้คนมากมายจากประเทศต่างๆ ในเอเชียให้ความสนใจในหนังเรื่องนี้ ความคาดหวังสูงเช่นนี้มีผลต่อการแสดงของคุณหรือไม่?
A: Thanks to the high expectation and a lot of interest, we were able to finish the movie well. I really appreciate that, but it is true that I felt stressed a lot. I know that the movie will open simultaneously in many Asian countries and it has drawn great expectations. I hope that the film will help many Asian countries culturally interact more.
A : ขอบคุณที่คาดหวังและให้ความสนใจนะครับ เราถ่ายทำสำเร็จด้วยดี ผมขอบคุณจริงๆ แต่มันก็เป็นความจริงที่ผมรู้สึกกดดันมาก ผมรู้ว่าหนังจะออกฉายพร้อมกันในหลายประเทศทั่วเอเชีย และทำให้เกิดความคาดหวังอย่างมาก ผมหวังว่าหนังเรื่องนี้จะช่วยให้ประเทศในเอเชียเชื่อมโยงถึงกันทางด้านวัฒนธรรมมากขึ้น



Q: In the film, you seem to have expressed many complicated emotions without speaking, using only gestures and your eyes. How difficult was it?
Q : ในหนังเรื่องนี้ ดูเหมือนคุณต้องแสดงอารมณ์หลากหลายโดยปราศจากคำพูด ใช้เพียงท่าทางและดวงตาเท่านั้น มันยากแค่ไหน?
A: We had to act with limited speech. Sometimes, we were not given any guidelines or even lines. I think director Hur wanted to capture the spontaneous reactions and responses from us. So this was a challenge, and while shooting, I felt like I was trapped in a dark tunnel.
A : เราต้องแสดงโดยใช้คำพูดค่อนข้างจำกัด บางครั้งไม่มีแม้แต่คำชี้แนะหรือบทพูด ผมคิดว่าผู้กำกับเฮอคงอยากได้ทั้งอากัปกริยาและการตอบโต้จากเรา นี่เป็นความท้าทาย และระหว่างถ่ายทำ ผมรู้สึกเหมือนติดอยู่ในอุโมงค์อันมืดมิด


Q: There are some scenes where In-su and Seo-young drank. And I heard you actually drank alcohol in such drinking scenes. How did drinking help you act?
Q : มีบางฉากที่อินซูกับโซยองดื่มเหล้า ได้ยินว่าคุณดื่มเหล้าจริงๆ ในฉากนั้น การดื่มช่วยในการแสดงของคุณแค่ไหน?

A: That was the first time to actually drink and act. Personally, I like such scenes because I think they look so natural. It added reality to the film.
A : นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมดื่มเหล้าระหว่างแสดง ผมชอบฉากนั้นนะครับ เพราะผมคิดว่ามันดูเป็นธรรมชาติดี ช่วยเพิ่มความสมจริงให้กับหนัง



Q: Japanese fans are eagerly waiting for the movie. I was excited a lot and, at the same time I was a little bit worried about the bedroom scene. I found the scene beautiful, to my relief. Please tell Japanese fans that “you don’t have to worry about the bedroom scene.”
Q : แฟนๆ ชาวญี่ปุ่นต่างรอคอยหนังเรื่องนี้ เราเองก็ตื่นเต้นมาก แต่ก็เป็นห่วงอยู่บ้างกับฉากบนเตียง เราโล่งใจที่พบว่าฉากนั้นสวยงามมาก ช่วยบอกแฟนๆ ชาวญี่ปุ่นหน่อยว่า “ไม่ต้องห่วงเรื่องฉากบนเตียง”
A: Thank you for enjoying the movie and finding it beautiful. The director cared a lot about its beauty. I hope that the audience can experience special love through this movie. And feel relieved and enjoy the movie.
A : ขอบคุณที่ชอบหนังเรื่องนี้ครับ และเห็นว่ามันสวยงาม ผู้กำกับใส่ใจมากเรื่องความสวยงาม ผมหวังว่าผู้ชมจะได้สัมผัสกับความรักที่พิเศษผ่านหนังเรื่องนี้ และรู้สึกสนุกไปกับหนังเรื่องนี้


Asked about “the intense bedroom scene,” Son Ye-jin said, “Since the movie is about the love of married couples, physical love cannot be excluded. But it was difficult for me to bear the emotions while shooting the movie. Seo-young and In-soo must have had a lot of thoughts on their minds to become immersed in the moment. It took nine hours to make the scene. Fortunately, I feel satisfied with the scene, because the feeling of In-soo and Seo-young is good.”

เมื่อถูกถามเรื่องฉากบนเตียง ซอนเยจินตอบว่า “เพราะหนังเรื่องนี้เกี่ยวกับความรักของคนที่แต่งงานแล้ว การแสดงความรักทางร่างกายจึงไม่อาจขาดได้ แต่มันยากสำหรับฉันที่ต้องแบกรับอารมณ์นั้นไว้ระหว่างถ่ายทำ ในช่วงเวลานั้นโซยองกับอินซูคงมีอะไรมากมายอยู่ในใจจนถึงกับอัดอั้น ต้องใช้เวลาถึง 9 ช.ม. ในการถ่ายทำฉากนี้ โชคดีที่ฉันรู้สึกพอใจกับฉากนี้ เพราะความรู้สึกของอินซูกับโซยองออกมาดีมาก”


Q: Static acting stood out. Isn’t it difficult to act like that?
Q : พลังในการแสดงโดดเด่นมากในหนังเรื่องนี้ มันยากมั้ยที่จะแสดงได้ขนาดนั้น?
A: Lines were moderated, because there were not many words in my lines. I wanted to say a lot of things but I was not allowed concrete lines and situations (laughter). However, I think that is the strong point and the distinctive feature of the director. I felt sometime as if I was trapped in a dark tunnel. I can say with confidence that there was no false acting. I tried to accept moments sincerely.
A : บทพูดมีน้อยมากครับ เพราะมีอยู่แค่ไม่กี่คำในบทของผม ผมอยากพูดอะไรมากมาย แต่สถานการณ์และบทไม่เอื้อให้ทำแบบนั้นได้ แต่ผมคิดว่านี่คือจุดแข็งและเอกลักษณ์ของผู้กำกับ บางครั้งผมรู้สึกเหมือนติดอยู่ในอุโมงค์มืดๆ ผมบอกได้เลยอย่างมั่นใจว่านั่นไม่ใช่การแสร้งทำ ผมแสดงออกไปจากใจจริงๆ

Q: Tell me about the atmosphere of shooting site. The movie is serious but, I wonder, if there were funny episodes.
Q : ช่วยเล่าถึงบรรยากาศในการถ่ายทำหน่อย หนังเรื่องนี้เครียดมาก จะมีตอนไหนบ้างมั้ยที่ตลกเฮฮา
A: The subject is so serious that the shooting atmosphere was also serious. The overall situation of the movie is dark, and I also felt that way. The director likes the vivid feeling of the shooting site. So he did not tell actors what to do. He tried to capture the unalloyed response of the other actor by directing only one actor. In the process, interesting responses came.
A : เนื้อหาของเรื่องเครียดซะจนทำให้บรรยากาศในการถ่ายทำพลอยเครียดไปด้วย ภาพรวมของหนังคือความมืดมน และผมก็รู้สึกเช่นนั้น ผู้กำกับชอบความรู้สึกที่เกิดระหว่างถ่ายทำ เขาจะไม่บอกนักแสดงว่าต้องทำอะไร เขาพยายามจับภาพอาการตอบสนองที่เกิดขึ้นจริงของนักแสดงคนอื่นๆ ที่เกิดจากการกำกับนักแสดงเพียงแค่คนเดียว ด้วยวิธีการเช่นนี้ การตอบสนองที่น่าสนใจจึงเกิดขึ้น

Q: Please make some closing remarks.
Q : ช่วยกล่าวอะไรปิดท้ายหน่อย
A: Frankly, I worried a lot about your questions. But I am glad I had a comfortable conversation. I hope you will have a special experience about special emotions of love.
A : ที่จริงผมกังวลมากเลยเกี่ยวกับคำถามของคุณ แต่ผมดีใจที่เราได้คุยกันแบบสบายๆ ผมหวังว่าคุณจะได้รับประสบการณ์ที่พิเศษจากความรู้สึกที่พิเศษของความรัก

No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.