11.8.10

Tour Program – JKS FM in Seoul



เนื่องจากมีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ หลายท่านมีความประสงค์จะเดินทางไปร่วมเชียร์เจ้าซ็อกในงานแฟนมีตปิดเอเชียทัวร์ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 5 ก.ย. นี้ ซึ่งรวบยอดเอางานฉลองวันเกิดเจ้ากระต่ายพ่วงเข้าไปด้วยอีกหนึ่งงาน ดิฉันจึงเห็นว่าไหนๆ ก็เสียเงินเสียทองค่าตั๋วเครื่องบินค่าที่พักกันแล้ว ก็น่าจะได้มีโอกาสเที่ยวเกาหลีสักนิดหน่อยเท่าที่เวลาจะเอื้ออำนวย ดิฉันจึงได้จัดโปรแกรมทัวร์นี้ขึ้นมา ทัวร์ครั้งนี้เป็นทัวร์แบบกรุ๊ปเหมานะคะ คือไม่รวมกับคนอื่น มีแต่พวกเราเท่านั้น เพราะเรามีภารกิจสำคัญคือการร่วมงานแฟนมีตของคุณซ็อก สถานที่ท่องเที่ยวอาจไม่เยอะแยะมากมายเหมือนทัวร์ทั่วไป และอาจปรับเปลี่ยนได้เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ เน้นที่การกินอิ่ม นอนหลับ เที่ยวสบาย ไม่ใช่ไปเข้าค่ายฝึกทหารที่ต้องรีบตื่นรีบกินรีบวิ่งเหมือนบางทัวร์ค่ะ จะออกแนวทัวร์วัฒนธรรม พาคุณไปสัมผัสกับวัฒนธรรมอันงดงามของเกาหลี ชิมอาหารแบบเกาหลีแท้ๆ กันค่ะ

เงินที่เสียไปคือการซื้อความสะดวกสบายเพราะมีคนจัดการทุกอย่างให้ตลอดรายการ มีไกด์คอยเป็นล่ามส่งภาษาเกาหลีให้คุณด้วย (อย่างที่รู้คนเกาหลีไม่ถนัดภาษาอังกฤษ) ตอนนี้เรามีสมาชิกร่วมทัวร์บ้างแล้วจำนวนหนึ่ง แต่ยังสามารถรับเพิ่มได้อีกนิดหน่อยค่ะ หากใครสนใจร่วมทริปนี้กับเรา ส่งอีเมล์เข้ามาสอบถามรายละเอียดกันได้นะคะที่ ladymoon29@yahoo.com เราจะเดินทางกันคืนวันที่ 2 ก.ย. และกลับมาคืนวันที่ 6 ก.ย. ค่ะ...



โปรแกรมทัวร์ “ปลาไหลไทยตะลุยแดนโสม”
ตอน ร่วมวงปิดเอเชียทัวร์กับกระต่ายซ็อก


เราจะออกเดินทางกันในคืนวันพฤหัสฯ ที่ 2 ก.ย. เวลาประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง จากสนามบินสุวรรณภูมิสู่อินชอน ใช้เวลาบินประมาณ 5 ชั่วโมงนะคะ เวลาเกาหลีจะเร็วกว่าเรา 2 ชั่วโมง เราจะไปถึงอินชอนตอนเช้าพอดีค่ะ



เช้าของวันศุกร์ที่ 3 ก.ย. หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว เราจะไปเที่ยวชม คยองกี อิงลิช วิลเลจ (Gyeonggi English Village) ซึ่งใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำละครเรื่อง Boys Over Flowers โรงเรียนมัธยมชินฮวาอันสุดแสนจะไฮโซ ทุกคนจะได้รับพาสปอร์ตของโรงเรียนพร้อมประทับตรา และเข้าไปสัมผัสกับบรรยากาศที่เราคุ้นเคยจากละครเรื่องนี้กันมาแล้วนะคะ




ตอนเที่ยงเราจะไปชิมบาร์บีคิวไก่กระทะร้อนแบบเกาหลีหรือ “ทักคาลบี้” ซึ่งมีกระทะใบโตตั้งตรงกลางแล้วก็มีไก่หมักซอสพร้อมผักชนิดต่างๆ เอามาผัดรวมกัน กินกับข้าวสวยร้อนๆ ค่ะ

ช่วงบ่ายเราจะเดินทางสู่ดินแดนสุดแสนโรแมนติก เกาะนามิ สถานที่ถ่ายทำละครชื่อดัง “Winter Sonata” คุณจะได้เจอกับจุงซางและยูจิน (เบยงจุนกับชอยจีวู) เป็นระยะๆ อยู่ทั่วทั้งเกาะค่ะ ถ้าไม่มีรูป 2 คนนี้แปลว่าเรามาผิดเกาะอย่างแน่นอน และ ชื่นชมกับบรรยากาศสวยๆ ยามเย็นบนเกาะนี้กันนะคะ




มื้อค่ำเราจะไปกินชาบู ชาบู แบบเกาหลีกันค่ะ คนที่เคยชิมบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าน้ำซุปอร่อยมากกกก หลังจากนั้นก็พาท่านเข้าสู่ที่พัก ที่มิรันด้าสปาค่ะ โรงแรมนี้เป็นแหล่งน้ำแร่ที่มีชื่อเสียง ภายในโรงแรมมีบ่อน้ำแร่รวม (แยกหญิง-ชาย) ให้คุณได้แช่ตัวผ่อนคลาย และมีซาวน่าแบบเกาหลี (อย่างที่เห็นในละครบ่อยๆ) หรือคุณจะแช่น้ำแร่ในห้องพักของคุณก็ได้ค่ะ เพราะน้ำที่ไหลออกมาก็เป็นน้ำแร่เช่นกันค่ะ



เช้าวันเสาร์ที่ 4 ก.ย. หลังกินอาหารเช้ากันแล้ว เราจะไปแปลงร่างเป็นแม่บ้านเกาหลี หัดทำกิมจิกันค่ะ ที่สถาบันสอนทำกิมจิ เราจะได้เรียนรู้วิธีทำกิมจิแล้วก็ลองทำด้วยตัวเอง และนำกลับบ้านด้วยค่ะ และเพื่อให้เป็นแม่บ้านเกาหลีที่สมบูรณ์ ต้องลองสวมชุดฮันบกกันด้วยค่ะ แล้วถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานนะคะ จากนั้นก็เดินทางสู่ไร่ผลไม้กันค่ะ เราจะได้ลองชิมผลไม้สดๆ ในไร่ได้ตามใจชอบ แต่ไม่สามารถเอาออกมาทานภายนอกไร่ได้นะคะ

มื้อเที่ยงเราจะได้ชิมอาหารชุดพื้นเมืองของเกาหลี “ฮันฉิก” ซึ่งว่ากันว่ามีคุณค่าทางอาหารสูงและดีต่อสุขภาพ

ช่วงบ่ายเราจะเดินทางต่อไปที่ป้อมฮวาซอง หนึ่งในมรดกโลกค่ะ ป้อมนี้เป็นป้อมปราการโบราณที่สร้างในสมัยกษัตริย์จองโจ เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับพระบิดาของพระองค์ รัชทายาทซาโด หากใครเคยดูเรื่อง “ลีซาน” คงคุ้นเคยกับประวัติศาสตร์ช่วงนี้ดีนะคะ




จากนั้นเราจะไปเดินเที่ยวตลาดทงแดมุนกันค่ะ ตลาดใหญ่ที่สุดของกรุงโซล เป็นตลาดที่คุณสามารถซื้อของแบบต่อรองราคาได้ค่ะ (ถ้าเจรจากันรู้เรื่องนะ)




ช่วงเย็นๆ เราจะไปเดินเล่นแถวคลองชองเกจอนกันค่ะ คลองที่ถูกพัฒนาขึ้นมาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจ หนุ่มสาวชอบมาเดินเล่นกันที่นี่ค่ะ (ถ้ายังจำกันได้ซ็อกชอบให้สัมภาษณ์ว่าถ้ามีแฟนจะพามาเดินแถวชองเกจอนนี่แหละค่ะ มันมีอะไรดี ต้องไปดูให้เห็นกับตาค่ะ)



มื้อค่ำ เราจะไปชิม “คาลบี” กันค่ะ เนื้อซี่โครงหมูย่างบาร์บีคิวแบบเกาหลี ที่เราเห็นในละครกันบ่อยๆ ที่มีการเอาใบผักมาห่อๆ แล้วกินเป็นคำๆ แบบเมี่ยงคำบ้านเราน่ะค่ะ หลังจากนั้นเราจะเข้าสู่ที่พัก โรงแรม Vision Hotel




เช้าวันอาทิตย์ที่ 5 ก.ย. หลังกินอาหารเช้ากันแล้ว เราจะไปเที่ยวชมพระราชวังเคียงบ๊กกันค่ะ พระราชวังโบราณเก่าแก่ที่เรามักคุ้นตาจากหนัง ละคร หรือภาพโฆษณานะคะ จุดเด่นสำคัญก็คือการเปลี่ยนเวรยามที่หน้าพระราชวังค่ะ



จากนั้นไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน ชมชีวิตความเป็นอยู่ในสมัยโบราณของคนเกาหลี ต่อจากนั้นก็ไปเยี่ยมชมทำเนียบประธานาธิบดี หรือชองวาแด สถานที่ที่ว่ากันว่าตั้งอยู่บนฮวงจุ้ยที่ดีที่สุด



และไปเยี่ยมชมศูนย์โสมของรัฐบาลเกาหลี ไปรับฟังข้อมูลความรู้เกี่ยวกับโสมจากต้นตำรับแท้ๆ และซื้อหาโสมกลับไปเป็นของฝากคนที่คุณรักนะคะ

มื้อเที่ยงหลังจากไปชมศูนย์โสมแล้ว ก็ควรลิ้มลองโสมด้วยตัวเองค่ะ กับไก่ตุ๋นโสมเกาหลี อาหารพื้นบ้านตำรับชาววังที่เป็นที่นิยมมากๆ

หลังจากเพิ่มพลังโสมกันเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาเตรียมตัวไปพบกับกระต่ายคลั่งแล้วค่ะ ไปสนุกสนานกับงานแฟนมีตของจางกึนซ็อก ณ ฮวาจุงยิมเนเซี่ยม (เชิญรั่วให้เต็มที่เลยเจ้าซ็อก ฉันเพิ่มพลังมาเรียบร้อยแล้ว)




มื้อค่ำ หลังจากหมดพลังไปกับเจ้ากระต่ายน้อย ก็ถึงเวลาเติมพลังกันค่ะ กับอาหารบุฟเฟ่ต์เซ็ตขาปูยักษ์ เชิญสังหารเจ้าปูยักษ์ได้ตามใจชอบเลยค่ะ หลังจากนั้นก็เข้าที่พักค่ะ (หากยังไม่หมดแรงจะไปเที่ยวไหนต่อก็ค่อยว่ากัน น้องไกด์บอกว่ามีผับนำเสนอให้เพียบเลยค่ะ)



เช้าวันจันทร์ที่ 6 ก.ย. หลังกินอาหารเช้ากันแล้ว เราจะไปขึ้นลิฟท์สู่โซลทาวเวอร์กันค่ะ เป็นอีกหนึ่งสถานที่โรแมนติกสำหรับคนเกาหลีค่ะ คู่รักมักต้องชวนกันมาที่นี่ อย่างที่เราเห็นในละครกันบ่อยๆ นะคะ



จากนั้นไปเยี่ยมชมน้องหมีน่ารักที่ พิพิธภัณฑ์เท็ดดี้แบร์กันค่ะ คนเกาหลีจะรักหมีเป็นพิเศษ เพราะเชื่อว่าบรรพบุรุษของชนชาติเกาหลีนั้นเกิดมาจากหมีค่ะ

มื้อเที่ยงเราจะไปชิมข้าวยำเกาหลี หรือบิบิมพัพ กันค่ะ แบบที่เราเห็นในละครนะคะ มีข้าว มีผัก มีไข่ แล้วก็คลุกๆๆๆ ให้เข้ากัน
ช่วงบ่ายเราจะปิดท้ายด้วยการช้อปแหลกค่ะ ที่ตลาดเมียงดง ซึ่งมีข้าวของสารพัดชนิด ทั้งเสื้อผ้า เครื่องสำอาง ของที่ระลึกต่างๆ (นึกไม่ออกให้นึกถึงตอนที่โกมินัมมาเดินเล่นโดยที่มีชินวูเดินตามค่ะ นั่นแหละค่ะเมียงดง)



จากนั้นไปช้อปกันต่อที่ดิวตี้ฟรี กับสินค้าปลอดภาษีนะคะ แล้วก็ไปเลือกซื้ออะมีธิสท์ หรือพลอยสีม่วง ที่ว่ากันว่าสวมใส่แล้วจะทำให้รอดพ้นจากภยันตรายทั้งปวงค่ะ หลังจากนั้นเราจะเดินทางสู่สนามบินอินชอน แวะซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อกำจัดเศษเงินที่เหลือนะคะ จะได้ไม่ต้องหาแลกคืน มันจะขาดทุนค่ะ ซื้อเป็นพวกขนม บะหมี่ ของที่ระลึกต่างๆ กลับไปฝากคนทางบ้านจะดีกว่าค่ะ

เราจะเดินทางออกจากอินชอนตอนประมาณ 5 โมงเย็น ถึงสุวรรณภูมิราวๆ 3 ทุ่มเวลาประเทศไทยนะคะ


No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.