18.8.08

BYJ's note.... on the making of Untold Scandal Part 1


The story behind the scene of BYJ’s first movie “Untold Scandal” have many interesting things as much as the movie itself. And who else would tell those stories better than BYJ himself? But I have to edit this story into 2 parts because it is a little bit long, I hope you don’t mind. To know all stories behind the scene make us realized the hardship of making one movie. Let’s go back to those scenes together now.

เรื่องราวที่อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์เรื่องแรกของเบยองจุน “Untold Scandal” มีความน่าสนใจไม่น้อยไปกว่าตัวภาพยนตร์เอง จะมีใครถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้ได้ดีกว่าเขาอีกเล่าค่ะ แต่ดิฉันขอตัดแบ่งบทความนี้ออกเป็น 2 ตอน เพราะมีความยาวพอสมควร การได้รับรู้เรื่องราวเบื้องหลังเหล่านี้ยิ่งทำให้เราได้รับรู้ที่มาที่ไปว่ากว่าจะออกมาเป็นภาพที่เราเห็นนั้นต้องผ่านความยากลำบากอย่างไรกันบ้าง เรามาย้อนกลับไปดูเหตุการณ์เหล่านั้นด้วยกันนะคะ

เบื้องหลังการถ่ายทำ Untold Scandal บันทึกโดย เบยองจุน [Oct. 10, 2003]
[Cine21](10/14/2003, No. 422)
BYJ's note on the making of Untold Scandal Part 1
Reposted from Quilt. Translated by youngsun.

[Manggeon tightening my head, anxiety irritating Mr. Director] Written by Bae Yong Joon, leading male actor of Untold Scandal

"My God, 4 months' shooting from now on... Luckily, I didn't seal the contract yet"

It's not until both the movie company and I had to pass over several obstacles that I was given the role of Jo Won, the unprecedented playboy. As for my party, all including my managers objected desperately to my choice of a 'period movie' as my debut to the silver screen. And Mr. Director himself never dreamt to cast me as Jo Won. I could understand them. Judged from my drama images, it was sure to be a venture. The stronger the objections from my acquaintances became, however, the more intensely something from my inside kept signaling, "It's my role".
ทั้งบริษัทหนังและตัวผมเองต้องฝ่าฟันอุปสรรคในการที่ผมรับเล่นบท โชวอน หนุ่มเพลย์บอยเจ้าสำราญ ในส่วนของผมเองรวมทั้งผู้จัดการด้วยคัดค้านกันสุดฤทธิ์ที่ผมเลือกเล่น “หนังโบราณ” สำหรับหนังโรงเรื่องแรกของผม และตัวผู้กำกับเองก็ไม่เคยคิดจะเลือกผมมาเล่นบทโชวอน ผมเข้าใจพวกเขาดี จากภาพลักษณ์ในละครของผม แน่นอนที่มันเป็นเรื่องเสี่ยงอย่างยิ่ง ถึงจะมีเสียงคัดค้านอย่างแข็งขันจากคนรอบข้าง แต่ในใจของผมส่งสัญญาณบอกว่า “บทนี้เป็นของผม”

Nevertheless, I couldn't imagine myself wearing a topknot, either. I as well as the movie company agreed to a tentative makeup test: I took off glasses, wore a beard and mustache, then a traditional costume, and then a topknot. When I did all my hair up into a topknot, and tightened the manggeon for the first time in my life, my head started to ache all at once. My only thought at the moment was to throw away everything.
อย่างไรก็ตาม ผมไม่เคยนึกถึงการที่ตัวเองต้องมาใส่วิกผม เมื่อทางบริษัทหนังตกลงให้มีการทดลองแต่งตัวดูก่อน ผมต้องถอดแว่นออก ติดหนวดเครา สวมชุดแบบโบราณ แล้วก็สวมวิกผมมวยด้วย ตอนที่ผมต้องเกล้าผมขึ้นเพื่อใส่วิก เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ต้องถูกเกล้าผมขึ้น หัวของผมเจ็บจี๊ดขึ้นมาทันที ตอนนั้นผมคิดแค่ว่าอยากจะถอดทุกอย่างโยนทิ้งไปให้หมด


Director Lee Jaeyong was so meticulous that he would not permit girding a manggeon around short hair when wearing a topknot. Umm, then, I would always have to do my hair up tight like this... Their unanimous inspiring responses that it suited me surprisingly well made me forget the ache, but only for an instant... Four months' shooting period... I felt dizzy in the head... Umm...didn't I seal the contract yet, did I?

ผู้กำกับลีแจยองเป็นคนพิถีพิถันอย่างมาก ขนาดที่ไม่ยอมให้มีเส้นผมหลุดออกมาจากวิกแม้สักเส้น ผมจึงต้องเกล้าผมจนแน่นแบบนี้ทุกครั้ง มีเสียงตอบรับเป็นเอกฉันท์ว่าผมใส่ชุดโบราณขึ้นจริงๆ จนทำให้ผมลืมความเจ็บไปเลย แต่ก็แค่ชั่วครู่เดียวเท่านั้น ตลอดระยะเวลาถ่ายทำ 4 เดือน ผมรู้สึกเวียนหัวไปหมด นี่ผมตกลงเซ็นสัญญาไปแล้วใช่มั้ยเนี่ย

"Press hard! I've done enough for myself..."

All the actors make it a rule to prepare much before starting their new works, but, this time, I had to learn even 'how to walk' newly. Before shooting, I learned the poise of the nobility, manners of wearing a traditional costume, and the tea ceremony. Trying this or that gesture in an unaccustomed traditional costume, I felt even walking was difficult. I also had to learn how to ride a horse and to use a sword.
นักแสดงทุกคนมีกฎที่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเริ่มงานใหม่ทุกครั้ง แต่คราวนี้ผมต้องเรียนรู้แม้กระทั่ง “วิธีเดิน” ก่อนการถ่ายทำ ผมต้องเรียนรู้ท่วงท่าของชนชั้นขุนนาง กิริยาอาการเวลาสวมชุดโบราณ และพิธีชงชา การพยายามทำสิ่งเหล่านี้หรือหัดท่วงท่าที่ไม่คุ้นเคยในชุดแบบโบราณ ผมรู้สึกว่าแม้แต่การเดินก็ยังแสนจะยาก ผมยังต้องเรียนรู้วิธีขี่ม้าและการใช้กระบี่ด้วย


Moreover, as Jo Won kept porno graphs of his love affairs with women, I had to learn drawing Korean paintings as well. Our ancestors were said to be good at everything; they were not only good at poetry, calligraphy and painting, but could plan their own houses. How lucky I am to be born in the 20th century!
ยิ่งกว่านั้น โชวอนชอบวาดภาพยามมีสัมพันธ์กับหญิงสาวเก็บไว้ ผมจึงต้องหัดวาดภาพแบบเกาหลีอีกด้วย บรรพบุรุษของเราช่างเก่งไปหมดซะทุกอย่าง ไม่เพียงแค่ต้องเก่งบทกวี การขีดเขียน การวาดภาพ แต่ยังต้องปกครองบ้านให้ดีอีกด้วย ผมช่างโชคดีที่เกิดมาในศตวรรษที่ 20

There still remained an important task of weight loss; muscular physique didn't become a scholar in the Joseon Dynasty. For 2 months until the movie crank-in I increased the amount of exercise greatly and began a spare diet. At last everybody, on seeing me, began to mention I had lost weight.
ยังมีภาระสำคัญอีกอย่าง นั่นคือการลดน้ำหนัก กล้ามเป็นมัดๆ ไม่ใช่ลักษณะของหนุ่มเจ้าสำราญแห่งราชวงศ์โชซอน ตลอด 2 เดือนจนกว่าหนังจะเริ่มถ่ายทำ ผมต้องเพิ่มการออกกำลังกาย และเริ่มควบคุมอาหาร ในที่สุดทุกคนที่เจอผมก็เริ่มทักว่าผมผอมลง


However, the staff whom I met almost everyday didn't show any response. One day when shooting was taken in Andong, I told Producer Yujin and still photographer Taehwan triumphantly to press me down on the abdomen, only to receive no response from them. Saying "Well, how can we tell that you have lost weight or not, because we don't know how you were before?", they hurried to the snack table...

แต่สต๊าฟที่เจอะเจอกับผมทุกวันกลับไม่แสดงอาการตอบสนองแต่อย่างใด วันหนึ่งเมื่อไปถ่ายทำที่ Andong ผมบอกอย่างภาคภูมิใจให้ Producer Yujin กับช่างภาพแตฮวานกดที่ท้องของผม แต่กลับไม่มีอาการตอบสนองใดๆ จากพวกเขา นอกจากคำพูดว่า “เราจะบอกได้ยังไงว่าคุณผอมลงหรือเปล่า เพราะเราไม่รู้ว่าเมื่อก่อนคุณเป็นยังไงนี่นา” แล้วพวกเขาก็รี่เข้าใส่โต๊ะของว่าง



"May we finish it safe and sound"
On Feb. 6, 2003. At last came the first day of shooting. Cold winter wind pierced into me through the thin traditional costume. There held a sacrifice to gods for the safe progress of filming. I, together with Sister Misook, and Ms. Doyon, made ceremonial deep bows toward the smiling head of a pig with bills of money in its mouth.
วันที่ 6 ก.พ. 2003 แล้ววันแรกของการถ่ายทำก็มาถึง ลมหนาวเสียดแทงผ่านชุดโบราณผ้าบางๆ มีการบวงสรวงเพื่อให้การถ่ายทำเป็นไปอย่างราบรื่น ตัวผม พร้อมด้วยพี่มิซุก และคุณโดยอน ต้องก้มต่ำตามพิธีกรรมต่อหน้าเจ้าหัวหมูที่ยิ้มแฉ่งอยู่ตรงหน้า พร้อมกับเงินเป็นฟ่อนที่ยัดอยู่ในปากของมัน

That posture of propping hair with her hands, to support the weight of her 4kg-heavy wig, would harass Sister Misook throughout the shooting period more than my topknot did me. What did I think of, while bowing that deeply? Jo Won in blindingly white robe made wishes softly...
ท่าประคองทรงผมไว้ด้วยมือเพื่อรับน้ำหนักวิกอันแสนหนักอึ้งถึง 4 ก.ก. นั้น คงทำร้ายพี่มิซุกตลอดการถ่ายทำมากกว่าวิกของผมเป็นแน่แท้ ผมคิดอะไรอยู่ตอนที่ก้มลงคำนับ โชวอนในชุดสีขาวสะอาดกำลังอธิษฐานเบาๆ

Mr. Director, staff members, Sister Misook, Ms. Doyon...all of them are competent and trustworthy...may we finish this long trail safe and sound! Then, the new movie actor Bae Yongjoon murmured his wishes... May my first movie not disappoint those nice persons who believe me with their best...may it be kept as a page of good memory in my life album!
ผู้กำกับ, ทีมงาน, พี่มิซุก, คุณโดยอน ทุกคนล้วนเก่งกาจและมีฝีมือ เราคงผ่านงานนี้ไปได้ด้วยดีเป็นแน่ ดาราหน้าใหม่อย่าง เบยองจุน จึงพึมพำอธิษฐานเบาๆ ขอให้หนังเรื่องแรกของผมอย่าทำให้คนเหล่านี้ต้องผิดหวัง คนที่เชื่อมั่นในตัวผม ขอให้มันเป็นความทรงจำที่ดีอีกหน้าในอัลบั้มชีวิตของผมด้วยเถอะ



"Cigarettes increase in number, whereas my body decreases in weight!"
It is quite true that nothing on the earth is easy to deal with. Dialogues such as 'hath done', 'dost thou know...' were like no less than foreign jargons to me, and their quantity were substantial. Moreover, the insidiousness of the character Jo Won was beyond imagination. Though I had spoken countless sweet dialogues and dropped much tear, I could not tackle easily such a character as was confessing sincere love with his own mouth, but, on turning around, was wearing a mean smile instantly.
มันเป็นความจริงทีเดียวที่ไม่มีอะไรบนโลกนี้ได้มาง่ายๆ บทสนทนาต่างๆ เป็นเหมือนภาษาต่างด้าวสำหรับผม แถมแต่ละบทก็ยาวไม่ใช่เล่น แถมความเจ้าเล่ห์ร้อยมารยาของโชวอนก็เหลือจะจินตนาการ ถึงผมจะเคยพูดคำหวานๆ มานับไม่ถ้วน เคยหลั่งน้ำตามามากมาย แต่มันไม่ง่ายเลยจริงๆ กับบทบาทที่ต้องสารภาพความรักอันจริงใจผ่านริมฝีปาก แต่พอหันหลังปุ๊บเขากลับยิ้มเจ้าเล่ห์ในทันทีทันใด

The taciturn Director Lee Jaeyong seemed much worried inwardly. Ah~~ my hand turned automatically to a cigarette that I had stopped for a while. I could hear my weight reducing. I should not have lost weight intentionally before. His serious expression seen in the picture was captured at Seoul Cinema Complex on one day among the two months when the Buyongjeong scenes had been being shot. Might he want to fly away the sense of obligation and stress in cigarette smoke...?

ผู้กำกับลีคนเก่งดูจะมีความกังวลอยู่ลึกๆ ในใจ มือของผมหยิบบุหรี่ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ทั้งๆ ที่ผมหยุดสูบไปพักหนึ่งแล้ว น้ำหนักของผมลดฮวบไปเลย ผมไม่ควรตั้งใจลดน้ำหนักมากเกินไป สีหน้าเคร่งเครียดของเขาปรากฏในภาพที่ถ่ายเอาไว้ เขาคงอยากปลดปล่อยภาระและความเครียดไปกับควันบุหรี่ใช่มั้ย


Special thanks to Joon's Family

Thai Translation by ...Ladymoon...

No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.