ประเทศเกาหลีใต้...ที่ใคร ๆ ก็อยากรู้...
ผมเอาข้อมูลเกี่ยวกับเกาหลีมาฝากท่านสมาชิกต่อจากคุณ ...Ladymoon ...นะครับ เพราะเห็นว่าพี่เขาเขียนเรื่อง ดอกมูกุงฮวา...เอาไว้...ข้อมูลต่อจากนี้เป็นข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับประเทศเกาหลีที่ควรรู้นะครับ
ผมเอาข้อมูลเกี่ยวกับเกาหลีมาฝากท่านสมาชิกต่อจากคุณ ...Ladymoon ...นะครับ เพราะเห็นว่าพี่เขาเขียนเรื่อง ดอกมูกุงฮวา...เอาไว้...ข้อมูลต่อจากนี้เป็นข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับประเทศเกาหลีที่ควรรู้นะครับ
สงกรานต์ปีนี้ร้อนจริง ๆ ...สุขสันต์วันสงกรานต์นะครับ...อ๋อ ! บทความนี้ลอกเขามาตามเคยครับ ...แต่จำไม่ได้ว่ามาจากที่ไหน ขอบคุณท่านเจ้าของบทความนะครับ หากท่านผ่านมาเจอกรุณาเขียน comment บอกหน่อยแล้วกันนะครับ แล้วผมจะกลับมาขึ้นเครดิตให้ท่าน...
แน่นอนว่าเดี๋ยวนี้อะไรๆ ก็เกาหลี ทุกคนล้วนให้ความสนใจกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเกาหลี ไม่ว่าจะเป็นดาราเกาหลี ศิลปินนักร้องเกาหลี ซีรีย์เกาหลีเรื่องดัง หรือแม้แต่การท่องเที่ยวที่ประเทศเกาหลี แต่จะมีสักกี่คนกันนะ ที่รู้ลึกรู้จริงยิ่งกว่าแค่เปลือกนอกว่ายังมีเรื่องน่ารู้ที่เชื่อว่าอีกหลายๆ คนยังไม่รู้ วันนี้ได้รวบรวมมาให้ทุกคนได้อ่านกันแล้ว เปิดสมองให้กว้างๆ แล้วไปลุยกันเลย
-ชุดประจำชาติของเกาหลีเรียกว่าชุด ฮันบก คนเกาหลีมักจะใส่ชุดฮันบกในโอกาสพิเศษต่างๆ เช่น งานแต่งงาน, วันซอลนัล (ขึ้นปีใหม่) , วันชูซก (วันขอบคุณพระเจ้า) เป็นต้น
- ต้นไม้ประจำชาติของประเทศเกาหลีคือ ต้นทงแบก (ต้นแป๊ะก๊วย)
- ภาษาเกาหลี มีตัวอักษรเกาหลีที่เรียกว่า ฮันกึล ประกอบด้วยสระ 10 ตัว และพยัญชนะ 14 ตัว
- การทักทายและการกล่าวคำขอบคุณเป็นเรื่องที่คนเกาหลีให้ความสำคัญมาก เวลากล่าวคำทักทายและขอบคุณคนเกาหลีมักก้มหัวคำนับเสมอ การโค้งหัวต่ำระดับไหนก็ขึ้นอยู่กับความอาวุโสของอีกฝ่าย
- ที่ประเทศเกาหลีจะไม่ค่อยเห็นว่ามีสุนัขเดินเพ่นพ่านตามถนนเลย เพราะค่าเลี้ยงดูสุนัขที่เกาหลีแพงมากๆ และถ้าจูงสุนัขไปเดินเล่นตามถนนที่เกาหลี ถ้าสุนัขอึออกมา เราต้องเก็บทำความสะอาดเอง ไม่งั้นต้องเสียค่าปรับ
- ตามร้านมินิมาร์ทที่เกาหลี เวลาไปซื้อของเขาจะไม่ใส่ถุงให้ ทั้งนี้เพื่อช่วยรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติก หากต้องการถุง เขาจะคิดเงินเพิ่ม 100 วอน หรือประมาณ 4 บาทไทย
- ถ้าไปพักโรงแรมที่ประเทศเกาหลีในช่วงฤดูหนาว เขาจะไม่เปิดแอร์เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน อีกอย่างอากาศมันเย็นสบายอยู่แล้ว-ที่ประเทศเกาหลีจะไม่ค่อยเห็นตำรวจยืนอยู่ตามสี่แยกไฟแดงเหมือนบ้านเรา เพราะเขามีระบบตรวจจับคนที่ขับรถผิดกฎจราจร และทางตำรวจจะส่งหลักฐานมาถึงบ้านแจ้งเรื่อง ความเร็ว, เวลา, ทะเบียนรถ และต้องไปเสียค่าปรับที่โรงพักเอง
- คนเกาหลีจะไม่ทิ้งขยะบนท้องถนนเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะถูกปรับแพงมากๆ ประมาณ 1,200 บาทไทย คนเกาหลีจึงนิยมเก็บขยะกลับไปทิ้งที่บ้านของตัวเอง
- สาเหตุที่ชาวต่างชาติเรียกประเทศเกาหลีว่า "โคเรีย" นั้นก็มาจากชื่ออาจักโคเรียว จากนั้นเสียงก็เพี้ยนมาเป็น โคเรีย
- คนเกาหลีจะเรียกคนทั่วๆ ไปตามเพศ (เขาจะไม่เรียก พี่คนนั้น ป้าคนนี้เหมือนบ้านเรา) แต่จะเรียกตามเพศ ผู้ชาย เรียกว่า "อาจอชี" ผู้หญิงแต่งงานแล้วเรียกว่า "อาจุมม่า" ผู้หญิงยังไม่แต่งงานเรียกว่า "อาคะชี"
- บ้านของชาวเกาหลีส่วนใหญ่จะวางผังบ้านเป็นรูปตัว L หรือตัว U และมีการฝังท่อน้ำไว้ใต้บ้าน สำหรับหน้าหนาวตามพื้นบ้านก็จะอุ่น เหมือนเปิดฮีตเตอร์แบบนั้นเลย
- เมื่อผู้หญิงกับผู้ชายเกาหลีแต่งงานกันแล้ว หลังแต่งงานฝ่ายชายต้องไปอาศัยอยู่ที่บ้านฝ่ายหญิง 2-3 วัน หลังจากนั้นค่อยย้ายไปบ้านฝ่ายชาย
- Hunkuj University of Foreign Studies เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เปิดสอนวิชาภาษาไทยในเกาหลี
- ที่ประเทศเกาหลีไม่มีสะพานลอยให้ข้ามถนน (ถ้ามีก็น้อยมาก) แต่เขาจะสร้างอุโมงค์ลอดใต้ถนน และในอุโมงค์ก็จะเป็นเหมือนตลาดย่อมๆ มีของขายมากมาย อาทิ กระเป๋า เสื้อผ้า ของกระจุกกระจิกต่างๆ ฯลฯ
- รถยนต์ในประเทศเกาหลีร้อยละ 99 เป็นรถที่ผลิตในประเทศเขาเอง เช่น ฮุนได, แดวู, เกีย เป็นต้น
- ประเทศเกาหลีผลิตรถยนต์ได้มากเป็นอันดับที่ 6 ของโลกเลยนะ!
- กีฬาประจำชาติของคนเกาหลีคือ "ซีรึม" หรือมวยปล้ำแบบเกาหลีนั่นเอง
- เมืองหลวงของประเทศเกาหลี คือกรุงโซล และเมืองที่ใหญ่อันดับสองรองจากโซลคือเมืองพูซาน
- ที่ประเทศเกาหลีเขาไม่นิยมให้ทิปตามร้านค้า ร้านอาหาร เพราะสินค้าและบริการต่างๆ จะบวกภาษีรวมไว้แล้ว 10 % นั่นเอง
- ประเทศเกาหลีเปิดใช้รถไฟฟ้าใต้ดินครั้งแรกในปี 1974 รวมเวลาถึงตอนนี้ก็เปิดมาแล้ว 33 ปี
- คู่บ่าวสาวของเกาหลี เมื่อแต่งงานกันแล้ว นิยมไปฮันนีมูนกันที่เกาะเชจู ซึ่งเป็นเกาะที่มีชื่อเสียงมากในเกาหลี
- KBS เป็นสถานีโทรทัศน์ครบวงจรแห่งแรกของเกาหลี
- หนังสือพิมพ์ที่คนเกาหลีนิยมอ่านมากที่สุดคือ "ดองนิบ ซินมุม" หรือหนังสือพิมพ์อิสระ
- เพลง อารีรัง เป็นเพลงเก่าแก่ของเกาหลีที่ดังมากๆ ว่ากันว่าเป็นเพลงที่แสดงถึงความรักระหว่างทหารเกาหลีกับสาวไทย
- แท็กซี่ที่เกาหลีจะมี 2 แบบ แบบแรกจะเป็นราคาปกติและตอนดึก จะเปิดรับผู้โดยสารที่ไปทางเดียวกันร่วมไปด้วย แต่ถ้าเป้นแท็กซี่แบบสีดำ จะแพงกว่าแต่ไม่รับผู้โดยสารอื่น และที่นั่นมีกฎหมายให้นั่งได้แค่ 4 คนเท่านั้น
- คนเกาหลีนิยมฝังศพคนตาย โดยหันหัวศพไปทางทิศเหนือ ไม่เหมือนประเทศไทยที่หันหัวศพไปทางทิศตะวันตก
- ผู้ชายเกาหลีทุกคนต้องไปเป็นทหารเป็นเวลา 2 ปีเต็ม โดยไม่มีข้อยกเว้น เมื่อมีอายุครบ 20 ปี
- ชาวเกาหลีจะมีชื่อสกุลจำกัดอยู่ไม่กี่กลุ่มชื่อ เช่น คิม 21% , ยี - ลี - รี 14% และ 8% มีชื่อสกุลว่า ปาร์ค นอกนั้นก็จะแตกออกไปเป็น ชอย, แช, เจิง, ชุง, ชาง, ฮัน, ลิม เป็นต้น ชื่อเต็มของคนเกาหลีประกอบด้วยชื่อสกุล 1 พยางค์ และชื่อหน้า 2 พยางค์
- เมื่อต้องการกวักมือเรียกคนอื่นนั้น ให้คว่ำมือลงแล้วค่อยกวักเรียกโดยให้นิ้วชิดกัน การกวักมือเรียกโดยหงายฝ่ามือขึ้นคนเกาหลีถือว่าไม่สุภาพ ถ้าใช้นิ้วกวักเรียก จะเหมือนเป็นการเรียกสุนัข ห้ามทำแบบนี้เด็ดขาดที่เกาหลี
- ดอกไม้ประจำชาติเกาหลีคือ ดอกมูกุงฮวา หรือ โรส ออฟ ชารอน ซึ่งจะบานสะพรั่งทั่วประเทศระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม
- ธงประจำชาติเกาหลีเรียกว่า แทกึกกี้ สัญลักษณ์สี่อย่างที่อยู่แต่ละมุม คือ สวรรค์, โลก, ไฟ และน้ำ
- มีอยู่ 3 อย่างที่เรามักจะไม่เห็นตามท้องถนนของประเทศเกาหลีคือ 1.ตำรวจ 2. ถังขยะ 3. สุนัข
- เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ของภูมิประเทศเกาหลีเป็นภูเขาล้อมรอบ
-เวลาดื่มเหล้าโชจู ผู้ที่มีอายุน้อยที่สุดต้องเป็นคนรินเหล้าให้คนที่มีอายุมากกว่าเสมอ
- กิจกรรมหลังเลิกงานที่ฮิตที่สุดในกลุ่มของผู้ชายเกาหลีคือ ดื่มเหล้าและไปต่อกันที่คาราโอเกะ
- ที่นั่นจะมีโรงอาบน้ำเรียกว่าจิมจิบัง ซึ่งสามารถไปนอนค้างได้ด้วย
- ประเทศเกาหลีมีขนาดเล็กกว่าประเทศไทย 5 เท่า
-ชุดประจำชาติของเกาหลีเรียกว่าชุด ฮันบก คนเกาหลีมักจะใส่ชุดฮันบกในโอกาสพิเศษต่างๆ เช่น งานแต่งงาน, วันซอลนัล (ขึ้นปีใหม่) , วันชูซก (วันขอบคุณพระเจ้า) เป็นต้น
- ต้นไม้ประจำชาติของประเทศเกาหลีคือ ต้นทงแบก (ต้นแป๊ะก๊วย)
- ภาษาเกาหลี มีตัวอักษรเกาหลีที่เรียกว่า ฮันกึล ประกอบด้วยสระ 10 ตัว และพยัญชนะ 14 ตัว
- การทักทายและการกล่าวคำขอบคุณเป็นเรื่องที่คนเกาหลีให้ความสำคัญมาก เวลากล่าวคำทักทายและขอบคุณคนเกาหลีมักก้มหัวคำนับเสมอ การโค้งหัวต่ำระดับไหนก็ขึ้นอยู่กับความอาวุโสของอีกฝ่าย
- ที่ประเทศเกาหลีจะไม่ค่อยเห็นว่ามีสุนัขเดินเพ่นพ่านตามถนนเลย เพราะค่าเลี้ยงดูสุนัขที่เกาหลีแพงมากๆ และถ้าจูงสุนัขไปเดินเล่นตามถนนที่เกาหลี ถ้าสุนัขอึออกมา เราต้องเก็บทำความสะอาดเอง ไม่งั้นต้องเสียค่าปรับ
- ตามร้านมินิมาร์ทที่เกาหลี เวลาไปซื้อของเขาจะไม่ใส่ถุงให้ ทั้งนี้เพื่อช่วยรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติก หากต้องการถุง เขาจะคิดเงินเพิ่ม 100 วอน หรือประมาณ 4 บาทไทย
- ถ้าไปพักโรงแรมที่ประเทศเกาหลีในช่วงฤดูหนาว เขาจะไม่เปิดแอร์เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน อีกอย่างอากาศมันเย็นสบายอยู่แล้ว-ที่ประเทศเกาหลีจะไม่ค่อยเห็นตำรวจยืนอยู่ตามสี่แยกไฟแดงเหมือนบ้านเรา เพราะเขามีระบบตรวจจับคนที่ขับรถผิดกฎจราจร และทางตำรวจจะส่งหลักฐานมาถึงบ้านแจ้งเรื่อง ความเร็ว, เวลา, ทะเบียนรถ และต้องไปเสียค่าปรับที่โรงพักเอง
- คนเกาหลีจะไม่ทิ้งขยะบนท้องถนนเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะถูกปรับแพงมากๆ ประมาณ 1,200 บาทไทย คนเกาหลีจึงนิยมเก็บขยะกลับไปทิ้งที่บ้านของตัวเอง
- สาเหตุที่ชาวต่างชาติเรียกประเทศเกาหลีว่า "โคเรีย" นั้นก็มาจากชื่ออาจักโคเรียว จากนั้นเสียงก็เพี้ยนมาเป็น โคเรีย
- คนเกาหลีจะเรียกคนทั่วๆ ไปตามเพศ (เขาจะไม่เรียก พี่คนนั้น ป้าคนนี้เหมือนบ้านเรา) แต่จะเรียกตามเพศ ผู้ชาย เรียกว่า "อาจอชี" ผู้หญิงแต่งงานแล้วเรียกว่า "อาจุมม่า" ผู้หญิงยังไม่แต่งงานเรียกว่า "อาคะชี"
- บ้านของชาวเกาหลีส่วนใหญ่จะวางผังบ้านเป็นรูปตัว L หรือตัว U และมีการฝังท่อน้ำไว้ใต้บ้าน สำหรับหน้าหนาวตามพื้นบ้านก็จะอุ่น เหมือนเปิดฮีตเตอร์แบบนั้นเลย
- เมื่อผู้หญิงกับผู้ชายเกาหลีแต่งงานกันแล้ว หลังแต่งงานฝ่ายชายต้องไปอาศัยอยู่ที่บ้านฝ่ายหญิง 2-3 วัน หลังจากนั้นค่อยย้ายไปบ้านฝ่ายชาย
- Hunkuj University of Foreign Studies เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เปิดสอนวิชาภาษาไทยในเกาหลี
- ที่ประเทศเกาหลีไม่มีสะพานลอยให้ข้ามถนน (ถ้ามีก็น้อยมาก) แต่เขาจะสร้างอุโมงค์ลอดใต้ถนน และในอุโมงค์ก็จะเป็นเหมือนตลาดย่อมๆ มีของขายมากมาย อาทิ กระเป๋า เสื้อผ้า ของกระจุกกระจิกต่างๆ ฯลฯ
- รถยนต์ในประเทศเกาหลีร้อยละ 99 เป็นรถที่ผลิตในประเทศเขาเอง เช่น ฮุนได, แดวู, เกีย เป็นต้น
- ประเทศเกาหลีผลิตรถยนต์ได้มากเป็นอันดับที่ 6 ของโลกเลยนะ!
- กีฬาประจำชาติของคนเกาหลีคือ "ซีรึม" หรือมวยปล้ำแบบเกาหลีนั่นเอง
- เมืองหลวงของประเทศเกาหลี คือกรุงโซล และเมืองที่ใหญ่อันดับสองรองจากโซลคือเมืองพูซาน
- ที่ประเทศเกาหลีเขาไม่นิยมให้ทิปตามร้านค้า ร้านอาหาร เพราะสินค้าและบริการต่างๆ จะบวกภาษีรวมไว้แล้ว 10 % นั่นเอง
- ประเทศเกาหลีเปิดใช้รถไฟฟ้าใต้ดินครั้งแรกในปี 1974 รวมเวลาถึงตอนนี้ก็เปิดมาแล้ว 33 ปี
- คู่บ่าวสาวของเกาหลี เมื่อแต่งงานกันแล้ว นิยมไปฮันนีมูนกันที่เกาะเชจู ซึ่งเป็นเกาะที่มีชื่อเสียงมากในเกาหลี
- KBS เป็นสถานีโทรทัศน์ครบวงจรแห่งแรกของเกาหลี
- หนังสือพิมพ์ที่คนเกาหลีนิยมอ่านมากที่สุดคือ "ดองนิบ ซินมุม" หรือหนังสือพิมพ์อิสระ
- เพลง อารีรัง เป็นเพลงเก่าแก่ของเกาหลีที่ดังมากๆ ว่ากันว่าเป็นเพลงที่แสดงถึงความรักระหว่างทหารเกาหลีกับสาวไทย
- แท็กซี่ที่เกาหลีจะมี 2 แบบ แบบแรกจะเป็นราคาปกติและตอนดึก จะเปิดรับผู้โดยสารที่ไปทางเดียวกันร่วมไปด้วย แต่ถ้าเป้นแท็กซี่แบบสีดำ จะแพงกว่าแต่ไม่รับผู้โดยสารอื่น และที่นั่นมีกฎหมายให้นั่งได้แค่ 4 คนเท่านั้น
- คนเกาหลีนิยมฝังศพคนตาย โดยหันหัวศพไปทางทิศเหนือ ไม่เหมือนประเทศไทยที่หันหัวศพไปทางทิศตะวันตก
- ผู้ชายเกาหลีทุกคนต้องไปเป็นทหารเป็นเวลา 2 ปีเต็ม โดยไม่มีข้อยกเว้น เมื่อมีอายุครบ 20 ปี
- ชาวเกาหลีจะมีชื่อสกุลจำกัดอยู่ไม่กี่กลุ่มชื่อ เช่น คิม 21% , ยี - ลี - รี 14% และ 8% มีชื่อสกุลว่า ปาร์ค นอกนั้นก็จะแตกออกไปเป็น ชอย, แช, เจิง, ชุง, ชาง, ฮัน, ลิม เป็นต้น ชื่อเต็มของคนเกาหลีประกอบด้วยชื่อสกุล 1 พยางค์ และชื่อหน้า 2 พยางค์
- เมื่อต้องการกวักมือเรียกคนอื่นนั้น ให้คว่ำมือลงแล้วค่อยกวักเรียกโดยให้นิ้วชิดกัน การกวักมือเรียกโดยหงายฝ่ามือขึ้นคนเกาหลีถือว่าไม่สุภาพ ถ้าใช้นิ้วกวักเรียก จะเหมือนเป็นการเรียกสุนัข ห้ามทำแบบนี้เด็ดขาดที่เกาหลี
- ดอกไม้ประจำชาติเกาหลีคือ ดอกมูกุงฮวา หรือ โรส ออฟ ชารอน ซึ่งจะบานสะพรั่งทั่วประเทศระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม
- ธงประจำชาติเกาหลีเรียกว่า แทกึกกี้ สัญลักษณ์สี่อย่างที่อยู่แต่ละมุม คือ สวรรค์, โลก, ไฟ และน้ำ
- มีอยู่ 3 อย่างที่เรามักจะไม่เห็นตามท้องถนนของประเทศเกาหลีคือ 1.ตำรวจ 2. ถังขยะ 3. สุนัข
- เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ของภูมิประเทศเกาหลีเป็นภูเขาล้อมรอบ
-เวลาดื่มเหล้าโชจู ผู้ที่มีอายุน้อยที่สุดต้องเป็นคนรินเหล้าให้คนที่มีอายุมากกว่าเสมอ
- กิจกรรมหลังเลิกงานที่ฮิตที่สุดในกลุ่มของผู้ชายเกาหลีคือ ดื่มเหล้าและไปต่อกันที่คาราโอเกะ
- ที่นั่นจะมีโรงอาบน้ำเรียกว่าจิมจิบัง ซึ่งสามารถไปนอนค้างได้ด้วย
- ประเทศเกาหลีมีขนาดเล็กกว่าประเทศไทย 5 เท่า
นี่แหละคือประเทศเกาหลีที่ใคร ๆ ก็สนใจใฝ่หากันหนักหนาที่อยากจะไปเห็นกันสักครั้งหากมีโอกาส.....
No comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.